เธอ... 'เฟิ่งจิ่ว' หญิงสาวจากยุคศตวรรษที่ 21 เชี่ยวชาญเรื่องพิษและยา ชำนาญลอบฆ่า ข้ามเวลามาเกิดใหม่ในร่าง 'เฟิ่งชิงเกอ' สาวงามที่ถูกขืนใจจนสิ้นใจทั้งยังถูกทำร้ายจนมีใบหน้าเสียโฉม! เธอจะรักษาใบหน้าและคนเจ็บไข้ด้วยยาและสมุนไพรวิเศษในโลกนี้ในฐานะ 'ภูตหมอ' และเธอก็จะสวมชุดแดงท่องทั่วหล้า ตวัดกระบี่สะเทือนฟ้าในฐานะ 'นักฆ่า' ชำระแค้นตามคำสั่งเสียของเฟิ่งชิงเกอด้วยน้ำมือของเธอเอง "จงใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ให้เป็นสุขเถิด ก่อนที่เจ้าจะได้อยู่อย่างตายทั้งเป็นตลอดชีวิตนี้!"
ตอนที่ 1 แผนร้ายกลางป่า
แคว้นแสงสุริยัน
เมืองอวิ๋นเยวี่ย
ภูเขาเขียวตั้งเรียงรายโอบล้อมไปด้วยเมฆหมอก ต้นไม้เขียวชอุ่มในป่าเขาต่างพลิ้วไหวท่ามกลางสายลมอันแผ่วเบา ป่าไม้ในยามเช้าตรู่ช่างดูงดงามและเงียบสงบ...
ทว่า ตอนนี้ในป่าลึกที่ห่างไกลไร้ผู้คน กลับกลายเป็นฉากหลังของความป่าเถื่อนและการนองเลือด
เด็กสาวนางหนึ่งในชุดผ้าแพรชั้นดี เวลานี้กำลังถูกชายฉกรรจ์ร่างกายกำยำสองคนตรึงแขนไว้ด้านหลังแล้วกดให้คุกเข่าลง นางก้มศีรษะลงในสภาพลมหายใจรวยริน เส้นผมยุ่งเหยิงปรกตรงข้างแก้มเปียกชุ่มด้วยเลือดที่ไหลอาบบนใบหน้าอย่างรวดเร็ว หยดเลือดแต่ละหยดค่อยๆ ร่วงหล่นและแทรกซึมลงสู่ผืนดิน
เมื่อเด็กสาวที่หายใจรวยรินได้ยินเสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้ จึงกัดฟันเงยหน้าขึ้นมอง ใบหน้าที่มีคราบเลือดปรากฏให้เห็น ใบหน้านั้นถูกทำลายจนเสียโฉม ผิวหน้าถูกมีดกรีดเป็นแผลเปิด เหวอะหวะโชกเลือด ช่างน่ากลัวยิ่งนัก
“เจ้าเป็นใคร? ทำไมต้องทำร้ายข้าด้วย?” เด็กสาวเปล่งเสียงแผ่วเบาออกมาอย่างไร้เรี่ยวแรง นางฝืนประคองสติไม่ให้เป็นลมไปเพราะเสียเลือดมาก พลางจับจ้องสตรีซึ่งปิดบังใบหน้าด้วยผ้าผืนบางและมีเรือนร่างงดงามยิ่ง
สตรีที่ปิดบังใบหน้าผู้นั้นสวมกระโปรงสีฟ้าอ่อนราวผืนน้ำกับปุยเมฆ ที่เอวมีพู่สีเดียวกันห้อยอยู่ กำลังสะบัดไหวเบาๆ ตามการย่างก้าวนวยนาดของเด็กสาว ดูแล้วช่างน่ามอง
นางหยุดฝีเท้าลงตรงหน้าเด็กสาวที่ถูกกดให้คุกเข่าอยู่บนพื้น ก้มลงมองสาวน้อยที่ตอนนี้ใบหน้าเสียโฉม ก่อนจะกล่าวด้วยดวงตาคู่งามที่มีรอยยิ้มเยาะ “ข้าคือเฟิ่งชิงเกอ คุณหนูใหญ่แห่งจวนฮู่กั๋วกง (แม่ทัพพิทักษ์ดินแดน) เป็นแก้วตาดวงใจของแม่ทัพใหญ่เฟิ่งเซียวผู้ทรงอำนาจ นายหญิงน้อยแห่งตระกูลเฟิ่ง และผู้สืบทอดในอนาคตของตระกูลเฟิ่ง ขณะเดียวกันก็เป็นคู่หมั้นของท่านอ๋องสามผู้มากพรสวรรค์แห่งแคว้นแสงสุริยัน”
น้ำเสียงที่คุ้นเคยและคำพูดของหญิงตรงหน้า ทำให้นางถึงกับเบิกตามองอย่างตกตะลึง “เจ้า! เจ้าเป็นใคร? เจ้าเป็นใครกันแน่! ข้าต่างหากล่ะคือเฟิ่งชิงเกอ! ข้าคือเฟิ่งชิงเกอ!” ร่างแบบบางสั่นเทาเล็กน้อย ความคิดหนึ่งผุดขึ้นในหัว ดวงตานางเผยแววเหลือเชื่อ
นิ้วมือขาวเรียวค่อยๆ ดึงผ้าที่ปิดหน้าลง รูปโฉมที่สง่าและงดงามสะท้อนเข้าสู่ดวงตาของเด็กสาวบนพื้น เมื่อเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยเสียจนไม่อาจคุ้นเคยได้อีก นางตกใจจนพูดอะไรไม่ออก
ใบหน้าที่งดงามหาใดเปรียบนั้นเชิดขึ้นเล็กน้อย มองใบหน้าที่ดูน่ากลัวของเด็กสาวบนพื้น แล้วพูดด้วยน้ำเสียงซึ่งแฝงด้วยความคาดหวังรอคอยและความตื่นเต้นดีใจที่ไม่อาจหักห้ามได้ “เฟิ่งชิงเกอ ตั้งแต่วันนี้ไปข้าจะมาแทนที่ตัวตนของเจ้า ตำแหน่งของเจ้า และครอบครองทุกสิ่งที่เจ้ามีอย่างชอบธรรม ส่วนเจ้า...” เสียงนางชะงักไป ก่อนจะพูดกลั้วหัวเราะเบาๆ “ด้วยความฉลาดของเจ้า ไม่สู้เจ้าลองคิดดูเองว่าข้าจะทำเช่นไรกับเจ้า?”
พอได้ฟังน้ำเสียงเดิมของคนตรงหน้า เฟิ่งชิงเกอสั่นสะท้านไปทั้งร่าง ดวงตาเบิกกว้างมองคนตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อ “รั่ว รั่วอวิ๋น? จะ เจ้าคือซูรั่วอวิ๋น!”
ซูรั่วอวิ๋นคือเด็กกำพร้าคนหนึ่งที่โตมาด้วยกันกับนางตั้งแต่เล็ก และเฟิ่งชิงเกอก็เป็นคนพานางมาอยู่ที่จวนฮู่กั๋วกงจากข้างถนน ให้เป็นคู่คิดอยู่ข้างกาย เป็นสหายสนิทที่คุยได้ทุกเรื่อง และเป็นคนที่นางเห็นเป็นดั่งญาติพี่น้อง...
แต่อย่างไรนางก็นึกไม่ถึง โฉมหน้าของคนที่ทำร้ายและอยากจะแย่งชิงฐานะตำแหน่งของนางกลับกลายเป็นซูรั่วอวิ๋น...
“ทำไมกัน? ข้าดีกับเจ้าขนาดนี้ ทำไมถึงต้องทำเช่นนี้ด้วย?” หัวใจที่ถูกหักหลังเจ็บปวดราวถูกมีดแทง พอนึกถึงว่าใบหน้าตนเองถูกทำให้เสียโฉม ตัวตนจะถูกแทนที่ และจะไม่มีใครรู้เรื่องนี้ ก็ทำให้ความเกลียดชังผุดขึ้นมาในหัวใจนางอย่างอดไม่ได้
“ทำไมอย่างงั้นรึ? ฮึ...แน่นอนว่าเพื่อทุกอย่างที่เจ้ามีอย่างไรเล่า ทั้งท่านปู่ท่านพ่อที่เห็นเจ้าเป็นดั่งแก้วตาดวงใจ และชายผู้มากพรสวรรค์ที่รักเจ้าปานจะกลืนกิน ทว่า...” ดวงตางดงามของนางโค้งยิ้มพลางมองเฟิ่งชิงเกอบนพื้น “ทั้งหมดนี้ก็จะเป็นของข้าแล้ว ทั้งความรักความเอ็นดูของท่านปู่ท่านพ่อ ความอ่อนโยนและความรู้สึกลึกซึ้งของพี่มู่หรง ทุกอย่างจะกลายเป็นของข้า”
……………………………………………………..