webnovel

คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตาย

Autor: เจิ้งเยวี่ยชูซื่อ
Geschichte
Abgeschlossen · 49.8K Ansichten
  • 725 Kaps
    Inhalt
  • Bewertungen
  • NO.200+
    UNTERSTÜTZEN
Zusammenfassung

จินเฟยเหยาคิดว่าตนเองเป็นคนที่เอาใจใส่ที่สุด ใจกว้างที่สุด และจิตใจบริสุทธิ์ที่สุดในโลกนี้ นางไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเพราะเหตุใดคนในโลกนี้จึงชอบรังแกนาง... คิดไม่ถึงว่าน้องชายที่นางดูแลมาจนโตจะทรยศนางเพื่ออนาคตของตัวเอง คิดจะส่งนางไปเป็นเตาหลอมมนุษย์ บังคับให้นางต้องทรยศและเป็นศัตรูกับทั้งตระกูลเพื่อปกป้องชีวิตน้อยๆ ของตน นางเข้าสู่สำนักเซียนอย่างยากลำบาก ทว่าเพราะมีพลังบำเพ็ญต่ำต้อย จึงมักจะถูกคนเอาเปรียบ ถึงแม้โชคร้ายจะกลายเป็นดี ได้ตำราลับบำเพ็ญเซียนพิเศษเฉพาะมาก็ตาม เส้นทางแห่งการบำเพ็ญเซียนยังอีกยาวไกล ก่อนที่จะเดินสู่จุดสูงสุดต้องป้องกันตนเองให้ได้ก่อน! เซียนไม่ล่วงเกินนาง นางไม่ล่วงเกินเซียน หากเซียนล่วงเกินนาง นางก็จำเป็นต้องร้าย... อ้อไม่ใช่สิ พยายามสู้กลับเพื่อปกป้องตนเอง ดังนั้นนางจึงไร้ยางอายมากขึ้นทุกที...นางสาบานได้ ทั้งหมดเป็นเพราะนางถูกบีบบังคับจริงๆ นะ...

Chapter 10001 สาวน้อยผู้ฝึกบำเพ็ญร่างกาย

บทที่ 1 สาวน้อยผู้ฝึกบำเพ็ญร่างกาย

เวลาเช้าตรู่ บนเส้นทางอันยาวไกลของยอดเขาลั่วซี มีเด็กสาวผู้หนึ่งกำลังแบกถังไม้ขนาดใหญ่สูงเจ็ดฉื่อ[footnoteRef:1]เดินไปยังวังอวิ๋นเย่ที่สร้างอยู่กลางยอดเขาด้วยฝีเท้าเบาและรวดเร็ว [1: ฉื่อ คือ หน่วยวัดความยาวของจีน มีระยะประมาณ 10 นิ้ว]

นางอายุประมาณสิบสองสิบสามปี เกล้าผมเป็นมวยสาวน้อยคู่หนึ่ง บนมวยแต่ละอันมีแถบผ้าสีเขียวพันประดับ บนร่างสวมชุดศิษย์สายนอกสีเทาทั้งตัว บนเข่ามีรอยปะชุนแห่งหนึ่ง หน้าตางดงามน่ารัก รูปร่างพอเหมาะพอดี ทว่ากลับแบกถังไม้ที่สูงกว่านางสองเท่า ก้าวเดินบนบันไดศิลาดุจเหินบิน

“ศิษย์พี่โจว เด็กหญิงคนนั้นมีเรี่ยวแรงมหาศาลนัก” คนสองคนซึ่งสวมเสื้อสีเขียวของศิษย์สายในเดินลงมาจากบนภูเขา พอดีเดินผ่านข้างกายของนางไป ศิษย์คนหนึ่งในนั้นซึ่งมีอายุเพียงยี่สิบกว่าปีจ้องมองถังไม้บนหลังของเด็กสาวอย่างตกตะลึง เอ่ยถามศิษย์พี่ที่อยู่ข้างกายอย่างประหลาดใจ

ทว่าในสายตาของศิษย์พี่โจวซึ่งอยู่ในวัยกลางคนกลับมีแววเหยียดหยาม เอ่ยอย่างไม่ใส่ใจว่า “เจ้าเพิ่งเข้าสำนักยังไม่รู้อะไร นางชื่อจินเฟยเหยา เพิ่งเข้าสู่สำนักนอกได้หนึ่งปี เป็นศิษย์สตรีที่ฝึกบำเพ็ญร่างกายเพียงคนเดียวในหมู่ศิษย์ในและศิษย์สายนอกทั้งหมด ดังนั้นการแบกสิ่งของเล็กน้อยแค่นี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”

ศิษย์น้องเล็กเอ่ยอย่างตกตะลึง “ข้าเพิ่งเคยเห็นผู้บำเพ็ญที่มีพลังวิญญาณบริสุทธิ์ ทว่ากลับฝึกบำเพ็ญร่างกายเป็นครั้งแรก ช่างเสียเปล่าจริงๆ บุรุษที่ไม่มีพลังวิญญาณบริสุทธิ์ซึ่งฝึกบำเพ็ญร่างกายกลับมีอยู่มากมาย องครักษ์แต่ละคนที่บ้านข้าเชิญมาล้วนฝึกถึงขั้นที่หนึ่งหรือสอง”

ก็โทษไม่ได้ที่ศิษย์น้องเล็กผู้นี้จะตกตะลึง ถึงแม้ว่าผู้มีพลังวิญญาณที่นี่จะมีมากมาย ทุกคนเห็นเซียนจนเป็นเรื่องธรรมดา แม้แต่ชาวบ้านในเขตภูเขาต่างก็รู้ดี ทว่าต้องเป็นผู้ที่มีพลังวิญญาณบริสุทธิ์ จึงสามารถฝึกฝนบำเพ็ญวิถีแห่งเซียนและสำเร็จมรรคได้อย่างแท้จริง ทว่าคนที่มีพลังวิญญาณบริสุทธิ์กลับมีไม่มาก

และที่คนส่วนใหญ่มีเป็นเพียงพลังวิญญาณเทียม ร่างกายได้แต่ดูดซับพลังที่อ่อนจาง ทว่ากลับไม่สามารถรั้งพลังวิญญาณไว้ในจุดตันเถียน[footnoteRef:2]ได้ ไม่เหมาะกับการบำเพ็ญเซียน ถ้าหากฝืนบำเพ็ญเซียน สุดท้ายก็ได้แต่หยุดอยู่ที่ขั้นฝึกปราณช่วงต้นชั่วชีวิตเท่านั้น ประสบความสำเร็จน้อยมาก แม้แต่จะใช้เวทจุดไฟก็ยากเย็น [2: จุดตันเถียน คือ ชื่อเรียกตำแหน่งชีพจร อยู่ใต้สะดือลงไปประมาณ 3 นิ้ว]

ดังนั้นคนปกติ ล้วนให้บุรุษที่มีพลังวิญญาณเทียมไปฝึกบำเพ็ญร่างกาย ใช้พลังวิญญาณเปลี่ยนแปลงร่างกาย ถึงจะมิอาจใช้พลังเวทและอายุยืนเหมือนผู้บำเพ็ญเซียน ทว่าก็มีพละกำลังมหาศาลให้ใช้ไม่หมดสิ้น ร่างกายบึกบึนแข็งแกร่ง เก่งกาจเหนือคนธรรมดามากนัก ฝึกบำเพ็ญร่างกายถึงขั้นที่สามก็สามารถทุบทำลายศิลาขนาดยักษ์หนักพันชั่งได้อย่างง่ายดาย ถ้าโชคดีฝึกสำเร็จขั้นที่สิบสอง ยังสามารถสร้างกายเนื้อขึ้นใหม่ ดาบและหอกแทบฟันแทงไม่เข้า

ดังนั้น ราชวงศ์ของแต่ละแคว้นต่างมีองครักษ์ลับที่สร้างขึ้นจากทหารซึ่งฝึกบำเพ็ญร่างกายโดยเฉพาะ โดยพื้นฐานแล้วยอดฝีมือในโลกล้วนเป็นผู้มีพลังวิญญาณเทียมซึ่งฝึกบำเพ็ญร่างกาย แม้แต่องครักษ์ที่ใช้ในตระกูลผู้บำเพ็ญเซียน ก็ต้องการแต่ผู้ฝึกบำเพ็ญร่างกาย ต่อให้บำเพ็ญถึงแค่ขั้นแรก ก็สามารถมีชีวิตอยู่ในโลกได้อย่างมีรสชาติ ดังนั้นขอเพียงบ้านใดมีเด็กที่มีพลังวิญญาณเทียม ก็ถือว่ามีโอกาสโดดเด่นกว่าคนทั่วไปแล้ว

เพียงแต่การฝึกบำเพ็ญร่างกาย คนฝึกจะมีกล้ามเนื้อทั่วร่างและสูงใหญ่ ดังนั้น ถ้าหากมีสตรีซึ่งมีพลังวิญญาณเทียมภายในบ้าน ที่บ้านก็จะไม่ให้นางไปฝึกบำเพ็ญร่างกาย อย่างไรเสียฝึกตนเองจนแข็งแกร่งเฉกเช่นบุรุษ เกรงว่าพอถึงเวลาจะแต่งไม่ออก มีเพียงจำนวนน้อยที่เป็นทายาทตระกูลแม่ทัพหรือยากจนจนเลอะเลือน จึงให้บุตรสาวในตระกูลฝึกบำเพ็ญร่างกาย มิเช่นนั้น ไม่มีสตรีคนใดอยากให้ตนเองมีลักษณะเหมือนบุรุษหรอก

ดังนั้น คนประเภทจินเฟยเหยาจึงหาได้ยากจริงๆ ช่วยไม่ได้ที่ศิษย์น้องเล็กจะมองนางอย่างพินิจพิเคราะห์ อยากจะดูว่านางมีหนวดเครางอกออกมาหรือไม่ แน่นอนว่านี่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ฝึกบำเพ็ญร่างกายแค่ทำให้ร่างกายแข็งแกร่ง ทว่ามิอาจเปลี่ยนสตรีให้เป็นบุรุษได้

หลังจากเดินไปหลายก้าว เขาหันหน้ามามองศิษย์น้องที่ยังมองจินเฟยเหยาอย่างอึ้งๆ ศิษย์พี่โจวได้แต่ตะโกน “ไม่ต้องดูแล้ว ถ้ายังชักช้าต่อไปต้องถูกอาจารย์อาหลี่ด่าว่าแน่”

“อ้อ...” ศิษย์น้องเล็กได้สติคืนมา ปากส่งเสียงตอบรับ แล้วเร่งฝีเท้าไล่ตามไป

“ตาแก่บ้า แก่แล้วยังจะใช้นมแพะฉางหลิงแช่ร่างอีก บอกว่าสามารถเพิ่มพลังได้ ไปหลอกผีเถอะ คิดจะอาบให้ผิวขาวเนียนเรียบลื่นชัดๆ ปิศาจเฒ่าที่บ้าความงามนั่น ทางที่ดีให้เจ้าอาบจนกลิ่นแม่แพะออกมาเลย ต่อไปจะจับแพะฉางหลิงแค่ส่งเจ้าไปยืนอยู่บนภูเขาก็พอ” จินเฟยเหยาบ่นว่าและสาปแช่งอวิ๋นเฟิงเจินเหรินแห่งวังอวิ๋นเย่ไม่หยุดตลอดทาง

นางเงยหน้ามองวังอวิ๋นเย่ที่อยู่ไกลๆ แล้วส่งเสียงถุยอย่างขุ่นเคือง ศิษย์สายนอกอย่างนาง มีสถานะเหมือนชาวนาที่เช่าที่นาของเจ้าของที่นาทำกิน ถึงแม้จะได้ชื่อว่าเป็นศิษย์ ทว่าสิ่งที่ทำกลับเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับการฝึกบำเพ็ญ ทุกปีขอเพียงมอบศิลาวิญญาณจำนวนหนึ่งเป็นประจำก็จะสามารถได้งานทำและมีป้ายห้อยเอว กลายเป็นศิษย์สายนอกในสำนัก หากพวกเขาอยากกลายเป็นศิษย์สายในที่แท้จริง ก็ต้องฝึกให้ได้ถึงขั้นสร้างฐาน

มีเพียงผู้บำเพ็ญเพียรที่ฝึกบำเพ็ญถึงขั้นหลอมรวมขึ้นไป จึงสามารถงดรับประทานอาหารได้โดยสิ้นเชิง ดังนั้นสำนักยังต้องมีอาหารให้ศิษย์สายในรับประทานอยู่ พื้นที่ภูเขานอกสำนักล้วนให้ศิษย์สายนอกเช่าทำนาวิญญาณ และปลูกพืชวิญญาณหลายชนิด

พืชเหล่านี้ไม่ใช่พืชธรรมดา ล้วนเป็นสิ่งที่มีพลังวิญญาณบรรจุอยู่ รับประทานลงไปจะทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์ไม่น้อย

ส่วนจินเฟยเหยา เมื่อหนึ่งปีก่อน มาถึงสำนักเหิงเจิน ซึ่งเป็นสำนักชั้นสามที่มีศิษย์สายในเพียงห้าร้อยกว่าคน และเลือกไปเลี้ยงแพะฉางหลิง แพะที่สูงกว่าคนและทั่วร่างเต็มไปด้วยขนสีขาวชนิดนี้เลี้ยงง่ายอย่างยิ่ง เพียงแค่ต้อนไปกินหญ้าบนภูเขาก็พอ ดังนั้น ศิษย์สตรีนอกสำนักจำนวนมากต่างก็เลือกงานสบายเช่นนี้ มีเพียงศิษย์บุรุษที่มีพลังล้นเหลือ จึงโง่งมไปเลือกเช่าที่ปลูกพืชวิญญาณ

เดิมทีงานนี้ทั้งเบาสบายและผลผลิตก็มากมาย ทุกวันนมแพะฉางหลิงที่รีดออกมาสามารถขายให้กับศิษย์ในห้องครัวของสำนักเหิงเจินได้โดยตรง นี่เป็นของดีที่มีพลังวิญญาณ ดื่มหนึ่งแก้วทุกวันสามารถเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแกร่ง เพิ่มพลังวิญญาณภายในร่างกาย ตั้งแต่ในหมู่ชาวบ้านจนถึงสำนักเซียน แม้แต่ตระกูลขุนนาง เศรษฐีมีทรัพย์ และผู้มีพลังวิญญาณเทียม ซึ่งฝึกบำเพ็ญร่างกาย แต่ละคนล้วนต้องดื่มนมแพะฉางหลิงหนึ่งแก้วทุกวัน

ผู้ใดจะรู้เล่า เผื่อว่าดื่มมากๆ จะทำให้มีโอกาสให้กำเนิดบุตรที่มีพลังวิญญาณบริสุทธิ์มากหน่อยก็เป็นได้

ดังนั้น ทั่วทั้งแผ่นดินจึงมีประโยคหนึ่งแพร่หลาย ดื่มนมวันละหนึ่งแก้ว รุ่นต่อไปจะแข็งแกร่ง ไม่ต้องเอ่ยถึงว่าของสิ่งนี้ขายดีมากเพียงใด

อีกทั้งแต่ละปียังตัดขนแพะฉางหลิงได้สองครั้ง นอกจากเป็นวัสดุพื้นฐานในการหลอมอาวุธ ยังเป็นวัสดุรักษาความอบอุ่นชั้นดี บรรดาสตรีถ้าหากไม่มีชุดที่ทำจากขนแพะฉางหลิงสักชุดสองชุดในฤดูหนาวก็ไม่มีหน้าจะออกจากบ้าน เช่นนี้ไม่ต้องเอ่ยถึงว่าวันเวลาของจินเฟยเหยาสุขสบายเพียงใด กลางวันปล่อยแพะ กลางคืนฝึกบำเพ็ญ ใช้ชีวิตอย่างมีรสชาติยิ่ง

ทว่าพอถึงฤดูใบไม้ผลิปีนี้ ความซวยก็มาเยือนจินเฟยเหยา อวิ๋นเฟิงเจินเหรินแห่งวังอวิ๋นเย่ ไม่รู้ว่าเป็นบ้าอะไร จู่ๆ ก็บอกให้จินเฟยเหยามาส่งนมแพะฉางหลิงหนึ่งถังทุกวัน คิดไม่ถึงว่าจะไม่ใช่เพื่อดื่ม ทว่าเพื่ออาบ

ถ้าเป็นเซียนเยวี่ยเซี่ยผู้งดงามในวังสุ่ยรุ่นท่านนั้นต้องการใช้น้ำนมอาบ จินเฟยเหยาจะส่งให้อย่างยินยอมพร้อมใจ ทว่าอวิ๋นเฟิงเจินเหรินผู้นั้นดันเป็นตาแก่สกปรกคนหนึ่ง อย่างน้อยมีรอยเหี่ยวย่นหลายร้อยชั้นทั่วร่าง ดึงออกมาแล้วสามารถกางได้เต็มถนนสายหนึ่งเลย ยังคิดจะแช่น้ำนมอย่างหน้าไม่อาย

พอคิดถึงชั้นเหี่ยวย่นที่แช่ในน้ำนมสีขาวบริสุทธิ์ที่ลอยแวบขึ้นมา...จินเฟยเหยาก็รู้สึกขนลุกขนชันทั่วร่าง อดส่งเสียงอาเจียนออกมาไม่ได้

แต่ว่า ในใจจินเฟยเหยาหัวเราะหึ ก่อนนางใส่นมได้เทฉี่แพะฉางหลิงลงไปในนั้นไม่น้อย พอนึกว่าตาแก่แช่อยู่ในฉี่ยังไม่รู้ตัว และอาจจะดื่มนมแพะลงไปโดยไม่ได้ตั้งใจ พอนึกถึงตรงนี้นางก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้

มองเห็นศิษย์สายในเดินลงมาจากบนภูเขาอีก นางก็รีบหุบรอยยิ้มชั่วร้าย ก้มหน้าวางท่าใสซื่อบริสุทธิ์ และรีบเดินไปอย่างเงียบๆ

“ศิษย์พี่เสวี่ยม่าน งานทำความสะอาดเช่นนี้มอบให้ผู้อื่นทำเถอะ จะให้ท่านลงมือด้วยตนเองได้อย่างไร” จินเฟยเหยามาถึงหน้าวังอวิ๋นเย่ เอ่ยอย่างอ่อนหวานกับสตรีสวมชุดกระโปรงสีขาวนวลทั้งตัวที่กำลังถือไม้กวาดกวาดพื้นอยู่ตรงประตูด้วยสายตาเย็นชา

สตรีที่ถูกจินเฟยเหยาเรียกว่าศิษย์พี่คนนี้ เพียงแต่เหลือบตามองดูนางอย่างชืดชาแวบหนึ่ง จากนั้นก็แค่นเสียงฮึ ไม่คิดจะสนใจนางเลยสักนิด

เห็นนางไม่สนใจตนเอง จินเฟยเหยาก็ไม่รู้สึกเก้อเขิน ยังเดินตรงเข้าไปข้างในด้วยสีหน้าเป็นธรรมชาติ ในใจนางรู้ดี หลิวเสวี่ยม่านที่มีฐานะรับใช้ใกล้ชิดอวิ๋นเฟิงเจินเหรินปรากฏตัวขึ้นกวาดพื้นตรงประตู ย่อมต้องเป็นเพราะนางแอบโยนขี้นกเฟิงปีกขาวที่พกติดตัวไว้ตลอดเวลาใส่ในถ้วยชาเล็กๆ ของอวิ๋นเฟิงเจินเหรินเมื่อวานแน่นอน

ส่วนงานประจำวันของหลิวเสวี่ยม่าน หลักๆ คือดูแลนกเฟิงปีกขาวตัวนั้น อวิ๋นเฟิงเจินเหรินย่อมต้องนึกว่านางไม่ได้ดูแลนกให้ดี ให้นกบินออกมาอุจจาระไปทั่ว ดังนั้นจึงถูกลงโทษ ขี้นกนี้จินเฟยเหยาใช้เวลาหนึ่งเดือนจึงหามาจากที่อื่นได้ นางแอบหย่อนไปรวมสี่ห้าครั้ง ครั้งนี้ในที่สุดก็ได้ผลแล้ว

ระหว่างศิษย์สายในและศิษย์สายนอก ยังมีผู้รับใช้อีกประเภท ที่มีสาวน้อยหรือหนุ่มน้อยผู้มีพลังวิญญาณบริสุทธิ์รับหน้าที่ วรยุทธ์ของพวกเขาไม่สูงนัก ทั้งหมดอยู่ในขั้นฝึกปราณ มารับใช้ผู้อาวุโสหรืออาจารย์อาขั้นสร้างฐานขึ้นไปโดยเฉพาะ

ปกติพวกเขาช่วยทำงานจิปาถะ ถ้าหากอาจารย์อาอารมณ์ดีก็จะให้รางวัลเป็นยาวิญญาณหรืออาวุธเวท บางครั้งยังชี้แนะเล็กน้อย มีความแข็งแกร่งมากกว่าฝึกบำเพ็ญเพียรด้วยตนเองมากนัก รอจนฝึกบำเพ็ญถึงขั้นสร้างฐาน ก็จะกลายเป็นศิษย์สายในได้ ถ้าโชคดี ได้รับความโปรดปรานจากการรับใช้ผู้อาวุโสหรืออาจารย์อา กลายเป็นศิษย์ผู้สืบทอดอย่างแท้จริง ก็ยอดเยี่ยมยิ่งแล้ว

ทว่าโอกาสเช่นนั้นมีน้อยมาก ผู้ที่สามารถกลายเป็นศิษย์สายนอกหรือผู้รับใช้ล้วนเป็นผู้ที่มีพลังวิญญาณผสมผสาน มีเพียงผู้ที่มีพลังวิญญาณปฐพีขึ้นไปถึงจะกลายเป็นศิษย์สายในโดยตรง ส่วนผู้ที่กลายเป็นผู้สืบทอดที่แท้จริงได้ โดยปกติจะต้องเป็นผู้ที่มีพลังวิญญาณสวรรค์หรือพลังวิญญาณผันแปร

หลิวเสวี่ยม่านผู้นี้คือหนึ่งในผู้รับใช้เหล่านั้น ถึงแม้จะมาเป็นบ่าวรับใช้ผู้อื่น ทว่าก็ต้องเค้นสมองครุ่นคิด และยัดศิลาวิญญาณไม่น้อยจึงแย่งตำแหน่งนี้มาได้ นางติดตามอยู่ข้างกายอวิ๋นเฟิงเจินเหรินมานานแล้ว วิสัยทัศน์สูงขึ้นไม่น้อย ศิษย์สายนอกคนนี้ย่อมไม่อยู่ในสายตานาง

ถ้าหากไม่ใช่เพราะนางมีท่าทางเกลียดชังจินเฟยเหยา จินเฟยเหยาก็ไม่คิดจะจัดการนาง เพียงแค่การลงโทษกวาดประตูใหญ่ครั้งนี้เบาเกินไปหน่อย

จินเฟยเหยาเดินเข้าไปในวังอวิ๋นเย่อย่างหมดหวัง ถ้าตนเองแข็งแกร่งอีกหน่อย ก็จะสามารถหาโอกาสตอนที่นางอยู่คนเดียว ลงมือลอบทำร้ายนางสักยก น่าเสียดาย โดยพื้นฐานแล้ววรยุทธ์ของตนเองเป็นศูนย์ ขนาดขั้นฝึกปราณก็ยังไม่บรรลุ มีเพียงวรยุทธ์จากการฝึกบำเพ็ญร่างกายระดับสาม และในมือก็ยังไม่มีเคล็ดวิชาบำเพ็ญเซียนใดๆ สักเล่ม เดิมทีจินเฟยเหยาใกล้จะเก็บศิลาวิญญาณได้พอซื้อตำราพื้นฐานการบำเพ็ญเซียน ‘เคล็ดพลังวิเศษ’ แล้ว

คิดไม่ถึงว่ากลับถูกอวิ๋นเฟิงเจินเหรินยึดครองปริมาณนมสองในสามส่วนของแต่ละวันไป จนรายได้จากการขายลดลง ตอนนี้เก็บศิลาวิญญาณได้แค่ที่ต้องส่งมอบต่อสำนักทุกวัน ไม่มีศิลาวิญญาณไปซื้อ ‘เคล็ดพลังวิเศษ’ เลยสักนิด ส่วน ‘เคล็ดรวมพลัง’ ที่นางมีเป็นเพียงแค่เคล็ดวิชาพื้นฐานในการฝึกบำเพ็ญร่างกายเท่านั้น แม้แต่เด็กน้อยน้ำมูกไหลยืดสวมกางเกงเปิดก้นบนถนนใหญ่ยังมีกันคนละเล่มเลยด้วยซ้ำ

................................................................

Das könnte Ihnen auch gefallen

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

นิยายโรแมนติก-แฟนตาซีของคุณหนูใหญ่ผู้เป็นเลิศด้านการแพทย์และการทำนายชะตาแต่แสนเกียจคร้านไม่อยากก้าวหน้าผู้หนึ่ง ฉินหลิวซี คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลฉิน นางเติบโตที่ชนบท ได้รับการเลี้ยงดูจากเจ้าอารามของลัทธิเต๋าเพื่อปลูกฝังให้นางขึ้นเป็นเจ้าอารามต่อไป เบื้องหน้านางอาจเป็นเพียงคุณหนูที่ถูกผลักไสแต่เบื้องหลังนางคือปรมาจารย์ปู้ฉิว ผู้ที่สามารถรักษาคนเป็นช่วยเหลือคนตายได้เพียงใช้ยันต์กระดาษและเข็มเงิน ปรมาจารย์จะรักษาโรคและช่วยชีวิตใครนั้นล้วนขึ้นอยู่กับอารมณ์ โชคชะตา และเวรกรรม หากอีกฝ่ายเป็นคนชั่วร้าย ต่อให้มอบทองสักหมื่นตำลึงนางก็ไม่เหลือบแลแม้เพียงนิด เมื่อโชคชะตาที่ตนเคยทำนายให้ตระกูลกลายเป็นจริง ท่านปู่ถูกปลดจากตำแหน่ง บ้านโดนยึดทรัพย์ ผู้หญิงและเด็กในตระกูลต้องระเหเร่ร่อนมาอาศัยที่บ้านบรรพบุรุษแห่งนี้ เมื่อมีปากที่ต้องกินข้าวเพิ่มขึ้น เงินออมเริ่มร่อยหรอ ตัวขี้เกียจเช่นนางก็จำต้องคลานลงจากเตียงเพื่อรับงานหาเงินมาเลี้ยงคนในครอบครัว เฮ้อ แม้ไม่หวังการก้าวหน้าใดๆ แต่สวรรค์กลับไม่ยอมให้ทำเช่นนั้นเพราะเมื่อความโด่งดังของนางไปเข้าหูของ ฉีเชียน จวิ้นอ๋องจากเมืองหลวงเข้า เขาก็ดั้นด้นเดินทางมาเชิญนางไปรักษาคน เอาเถอะ ช่วยเหลือคนนั้นย่อมเพิ่มบุญกุศลที่สำคัญคือเพิ่มเงินในกระเป๋า! “เอ๊ะ คุณชายฉีมีเรื่องให้ครุ่นคิดเมื่อคืนจึงนอนหลับไม่สบายหรือ” “ฝันร้ายตลอดทั้งคืนน่ะ” “ไม่เป็นไร คุณชายฉีแค่มีเรื่องให้คิดมากในยามกลางวัน ท่องคาถาชำระจิตสักสองรอบก็จะดีขึ้นเอง” “ข้าคิดว่า ถ้าท่านหมอฉินให้ยันต์คุ้มครองแก่ข้าสักสองชิ้นน่าจะได้ผลดีกว่า” ฉีเชียนเอ่ย “ยันต์คุ้มครองมีเงื่อนไข ผู้มีวาสนาจึงจะได้ไป...” ฉีเชียนยื่นตั๋วเงินจำนวนหนึ่งร้อยตำลึงไปให้อย่างรู้ความ “เดิมทีท่านกับข้าไม่มีวาสนาต่อกัน ทั้งหมดเป็นเพราะท่านทุ่มเงิน ผู้ใจบุญมีเมตตา เทียนจวินคุ้มครองให้พรนับไม่ถ้วน” “....” *** ลิขสิทธิ์ถูกต้องภายใต้บริษัท Ink Stone Entertainment *** ได้รับลิขสิทธิ์ออนไลน์ (Digital license) สำหรับแปลขายลงบนเว็บไซต์ได้อย่างถูกลิขสิทธิ์ 100% เจ้าของลิขสิทธิ์ต้นฉบับ : China Literature เรื่อง : คุณหนููใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า ผู้เขียน : เยี่ยนเสี่ยวม่อ (燕小陌) [大小姐她总是不求上进] / [燕小陌] ©2023 Ink Stone Entertainment Co., Ltd. All rights reserved. Thai translation rights arranged with China Literature by Ink Stone Entertainment Co., Ltd. คุณหนููใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า จำนวนตอนต้นฉบับจีน 642 ตอน

เยี่ยนเสี่ยวม่อ (燕小陌) · Geschichte
Zu wenig Bewertungen
36 Chs

ปฏิญญาค่าแค้น

หลินหลัน ทะลุมิติมาเกิดใหม่ในคราบของหญิงสาวชาวบ้านที่แสนลำบากยากจน แต่โชคยังดีที่ความสามารถด้านการแพทย์และประสบการณ์รักษาผู้คนที่สั่งสมมาจากศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดนั้นติดตัวมาด้วย อีกทั้งครอบครัวในชาติภพนี้ก็ดีกับนางมิใช่น้อย กระนั้นเคราะห์ร้ายก็ยังคืบคลานเข้ามา เมื่อพี่ชายผู้เป็นที่พึ่งพาเดียวของนางนั้นใสซื่อจนไม่อาจตามทันเล่ห์กลของพี่สะใภ้ที่แสนโลภมาก สุดท้ายแล้วหลินหลันก็ถูกนางบีบบังคับให้ต้องออกเรือนแต่งงานไปเป็นนางบำเรอจนได้ ด้วยเหตุนี้นางจึงต้องดึงตัว หลี่ซิ่วฉาย ชายหนุ่มรูปงามผู้มีเบื้องหลังเป็นปริศนาในหมู่บ้านเข้ามาช่วยแก้สถานการณ์ ทั้งสองได้ตกลงทำสัญญาขึ้นมาหนึ่งฉบับ เขาช่วยนางให้หลุดพ้นจากการคลุมถุงชน ส่วนนางจะช่วยเขาแก้แค้นและทวงทุกสิ่งอย่างที่ถูกพรากไปกับคืนมาภายในระยะเวลาสามปี ทว่าแผนการช่วยเหลือเขาให้บรรลุเป้าหมายนั้นกลับไม่ง่ายดายอย่างที่คิดนี่สิ…

จื่ออี281 · Geschichte
Zu wenig Bewertungen
339 Chs

ร้อยรักปักดวงใจ

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่ ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ... คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน! สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา! *** ลิขสิทธิ์ถูกต้องภายใต้บริษัท Ink Stone Entertainment *** ได้รับลิขสิทธิ์ออนไลน์ (Digital license) สำหรับแปลขายลงบนเว็บไซต์ได้อย่างถูกลิขสิทธิ์ 100% เจ้าของลิขสิทธิ์ต้นฉบับ : China Literature ผู้เขียน : จือจือ (吱吱) [庶女攻略] / 吱吱] © 2022 Ink Stone Entertainment Co., Ltd. All rights reserved. Thai translation rights arranged with China Literature by Ink Stone Entertainment Co., Ltd. ร้อยรักปักดวงใจ อัปเดตตอนใหม่ทุกวัน วันละ 4 ตอน เวลา 18:00 น. จำนวนตอนทั้งหมด 753 ตอน

จือจือ (吱吱) · Geschichte
Zu wenig Bewertungen
36 Chs

ระบบห้ามฆ่าตัวตายบังคับให้เป็นอาจารย์ของตัวร้าย

บทนำ "อยากตาย" เป็นคำพูดของคนที่ไม่ต้องการจะมีชีวิตอยู่บนโลกนี้อีกต่อไปแล้ว หญิงสาวนามฟางเซียนพบกับความลำบากและความเหนื่อยยากของการมีชีวิตอยู่บนโลกนี้มาแล้ว น้องสาวคือสิ่งเดียวที่ทำให้เธอพยายามดิ้นรนที่จะมีชีวิต แต่เมื่อไม่นานมานี้น้องสาวของเธอก็เพิ่งจะตายไปเพราะโรคร้าย เธอจึงคิดว่าตัวเองไม่มีเหตุผลที่จะมีชีวิตอยู่บนโลกนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะงั้นเธอจึงพยายามฆ่าตัวตาย... เธอพยายามฆ่าตัวตายมากกว่าสิบครั้งด้วยกัน ผลน่ะหรือ? ล้มเหลวน่ะสิ!! ถ้าสำเร็จเธอคงไม่ต้องมานั่งคิดว่าวิธีตายใหม่แบบนี้หรอก!! "ดื่มยาพิษ กรีดข้อมือ โดดน้ำ โดดตึก ขนาดนี้แล้วทำไมฉันยังไม่ตายอีก!! สวรรค์ ไม่สิ นรกไม่อยากรับคนเพิ่มรึไง!! " ฟางเซียนกรีดร้องอย่างหนักราวกับคนบ้า ในตอนนั้นเองบางสิ่งก็ได้ปรากฏต่อหน้าเธอ [สวัสดีคุณฟางเซียน ผมคือระบบห้ามฆ่าตัวตาย ต่อจากนี้ไปคุณต้องถูกผูกมัดกับระบบห้ามฆ่าตัวตาย กฎของระบบห้ามฆ่าตัวตายที่หนึ่งคือ ห้ามฆ่าตัวตาย กฎที่สองคือ ห้ามฆ่าตัวตาย กฎที่สามคือ ห้ามฆ่าตัวตาย] "...." มองหน้าต่างระบบตรงหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า ฟางเซียนหันไปหยิบมีดขึ้นมาเตรียมฆ่าตัวตายต่อ แต่จู่ๆ ร่างกายของเธอก็ไม่สามารถที่จะขยับได้อีกราวกับว่ามีบางอย่างเข้ามาควบคุมร่างกายของเธอ [คุณจะไม่สามารถฆ่าตัวตายได้จนกว่าจะมีอายุครบหนึ่งหมื่นปี โปรดเข้าใจด้วย] "เข้าใจมารดาแกสิ!! หมื่นปีเรอะ! ใครจะอยากอยู่นานขนาดนั้นกัน! " [มนุษย์] "เออ! แต่พอดีฉันเป็นมนุษย์ต่างดาวจากดาวเนปจูน ฉันจะฆ่าตัวตาย!! " [กฎคือห้ามฆ่าตัวตายเด็ดขาด เนื่องจากสถานที่รอเกิดเต็มแล้ว หากคุณต้องการฆ่าตัวตายคุณต้องทำภารกิจให้สำเร็จ ภารกิจแรก เป็นอาจารย์ของตัวร้ายสูงสุด ภารกิจที่สองจะตามมาในอีกร้อยปีต่อมา และอีกหนึ่งร้อยปีต่อไปภารกิจที่สามจะตามมา และอีกร้อยๆ ปีต่อมาภารกิจที่สี่ก็จะตามมา] "....ไปตายซะไอ้ระบบเฮงซวย!! " ....................................................................... ฟางเซียนต้องการที่จะฆ่าตัวตายเพราะมันคือทางที่เธอได้เลือกแล้ว ตายไปทุกอย่างที่ผ่านมาก็จะเป็นเพียงภาพลวงตา เธอจะได้เกิดใหม่โดยที่ใหม่ต้องจำอะไรได้อีก เพียงแค่ตายเธอก็จะได้เห็นโลกใบใหม่แล้ว! แต่ทำไมระบบห้ามฆ่าตัวตายถึงไม่ยอมให้เธอตายสักที!! ขัดขวางการฆ่าตัวตายของเธอไม่พอมันยังลากเธอไปโลกจีนโบราณและบังคับให้เธอรับตัวร้ายในอนาคตเป็นลูกศิษย์!! ใครก็ได้ช่วยฆ่าเธอทีเถอะ!! ในภายหลังฟางเซียนพยายามคิดหาวิธีฆ่าตัวตายมากมาย ...................................................................... ระบบ: กฏที่หนึ่งคือห้ามฆ่าตัวตาย กฏที่สองคือห้ามฆ่าตัวตาย กฏที่สามคือห้ามฆ่าตัวตาย คนอยากตาย: ......ระบบเวร!! ระบบ: เพื่อความอมตะคุณต้องฝึกตนเป็นมาร ไม่ต้องห่วงระบบจะเติมทรูให้เอง! คนอยากตาย: ไม่อยากเป็นอมตะโว้ย!! ระบบ: ไม่ต้องห่วงเรื่องเงิน! ระบบมีเงินพร้อมที่จะเปย์คุณ *โปรยเงิน คนอยากตาย: .....

PATPIMON · Geschichte
Zu wenig Bewertungen
2 Chs
Inhaltsverzeichnis
Volumen 1 :1