ในโลกที่ล่มสลาย ทุกแห่งหนเต็มไปด้วยอันตรายจากซอมบีและมนุษย์ด้วยกันเอง เขาไม่เพียงแค่คิดจะเอาตัวรอดด้วย “ระบบ” ในมือ แต่ยังหวังกินหรูอยู่สบาย ไม่แคร์คนแบบเป็น No. 1
ที่นี่… คือโลกที่ผมไม่รู้จัก หากใครสักคนพลัดหลงมาจากที่เดียวกันกับผม ย่อมสามารถรับรู้ได้ทันทีว่าโลกที่ผมกำลังใช้ชีวิตอยู่ในตอนนี้ ไม่ใช่โลกเดิม
ไม่มีทางเป็นที่เดียวกัน นั่นคือข้อสรุป ไม่ต้องทำการตรวจสอบด้วยซ้ำ
ตึกรามบ้านช่องทุกแห่งหนถูกปล่อยทิ้งร้างจนทรุดโทรม ถนนหนทางที่ควรมีรถยนต์คับคั่งกลายเป็นถนนโล่ง ๆ หรือหากพบเจอรถยนต์ ก็ล้วนแต่เป็นรถพัง ๆ ที่ถูกทิ้งไว้ให้เกะกะขวางบนถนน
ผู้คนที่ควรจะเดินสัญจรไปมาถูกแทนที่ด้วยซากศพ
คุณสามารถพบเจอซากศพปกติที่นอนนิ่งไม่ไหวติงได้ทั่วไป นอกจากนี้คุณยังสามารถพบซากศพในแบบที่คงไม่อยากจินตนาการถึงด้วย
พวกมันคือซอมบี…
ไอ้ซากศพขยับได้และกระหายเลือดพวกนี้ เห็นชัด ๆ ว่าพวกมันคือสาเหตุที่ทำให้อารยธรรมมนุษย์จบสิ้น
โลกที่ผมยืนอยู่ตอนนี้ ไม่มีรัฐบาลดูแล ไม่มีเส้นแบ่งเขตประเทศ ไม่มีกฎหมายหรือการควบคุมใด ๆ ดังนั้นแม้ผู้คนพบความเดือดร้อนและรอคอยนานแค่ไหนก็จะไม่มีความช่วยเหลือมาถึง
โลกนี้กลายเป็นสถานที่ที่แม้แต่ขนมปังจืด ๆ สักก้อนยังเป็นสิ่งมีค่า
ในโลกนี้ คุณพร้อมจะแลกชีวิตเพื่อปืนเก่า ๆ สักกระบอกหรือกระสุนที่ไม่รู้ว่าด้านไปแล้วหรือยัง
ใช่แล้วครับ โลกนี้เงินทองไม่มีค่า และทุกวันกลายเป็นเรื่องของการเอาชีวิตรอด โลกกลายเป็นดั่งขุมนรกสำหรับคนทั่วไป…
แต่สำหรับผม ผมไม่ใช่คนทั่วไปครับ
ผมหัวเราะร่าในหลาย ๆ ครั้งเวลาที่หวนคิดว่าตัวเองช่างโชคดีที่มาอยู่ในโลกแห่งนี้ โลกนี้คือดินแดนที่เหมือนกับสรวงสวรรค์สำหรับผม
ผม… ผู้ที่ครอบครองพลังอันแสนวิเศษนี้
วันนี้ เป็นอีกวันของผม
ผมมักใช้เวลาส่วนใหญ่ในแต่ละวันไปกับ 'การล่า' ไม่ว่าจะเป็นการล่าหาข้าวของจำเป็นในการดำรงชีพ หรือการล่าซอมบีซึ่งมีผลทำให้การใช้ชีวิตของผมง่ายขึ้นด้วยผลที่ตามมานานัปการ
แต่วันนี้พิเศษกว่าวันอื่นเล็กน้อย เพราะผมถูกเหตุผลบางอย่างบังคับให้ต้องติดต่อกับผู้คน
ซอมบีอันตราย เรื่องนี้ไม่ต้องสงสัย พวกมันจู่โจมสิ่งมีชีวิตทุกชนิดโดยไม่จำเป็นต้องมีสิ่งเร้า และการถูกมันกัดก็อาจทำให้ติดเชื้อกลายเป็นแบบเดียวกับพวกมันได้ แต่สำหรับผมแล้ว มนุษย์อันตรายยิ่งกว่าเป็นสิบเท่า
ทั้งที่ควรจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่ขับเคลื่อนด้วยเหตุผล แต่มนุษย์บางคนก็ไม่ได้เคลื่อนไหวด้วยสิ่งนั้น คุณสามารถถูกจู่โจมได้แม้ว่าการฆ่าคุณไม่ได้ทำให้ผู้กระทำได้ผลประโยชน์อันใด
ด้วยเหตุนี้ ผมจึงหลีกเลี่ยงการพบปะกับคนด้วยกันเองมาตลอด
กลุ่มที่ผมกำลังเผชิญหน้าอยู่มีสี่คน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมพบพวกเขา และในเมื่อพวกเขาอาจเป็นหนึ่งในผู้ไม่มีเหตุผล หรือสูญเสียเหตุผลได้ทุกเมื่อ ผมจึงไม่ได้ใส่ใจไต่ถามชื่อแต่ละคนเอาไว้
… ชายกล้ามใหญ่ผู้ชอบอวดกล้าม เบ่งอวดสาว
… หญิงสาวหน้าสวย หุ่นดี ที่ดูคล้ายนักร้องชื่อดังในโลกที่ผมจากมา
… ชายสวมแว่นร่างผอมผมยาว และ
… หญิงวัยกลางคนนิสัยขี้โวยวาย
นี่คือลักษณะเด่นที่ผมใช้จำแนกคู่ค้าสี่คนนี้
"ไม่พอหรอก" ชายกล้ามใหญ่พูดเสียงแข็งใส่ "อาหารแห้งสิบถุงแลกกับปืนสองกระบอกเนี่ยนะ ที่พวกเราตกลงกันไว้มันไม่ใช่แบบนี้นี่"
ผมถอนหายใจเบา ๆ "นั่นมันเงื่อนไขของชั่วโมงที่แล้ว พวกคุณมาถึงช้า เงื่อนไขมันก็ต้องเปลี่ยนไปแล้วสิ"
"พวกเราเสี่ยงแค่ไหนรู้ไหม เราต้องทิ้งคนเจ็บไว้ระหว่างทางด้วยซ้ำ" หญิงวัยกลางคนฮึดฮัดใส่
[ช่างประปาร่างใหญ่กลุ้มใจกับความงกของคุณ]
มีสิ่งกวนใจโผล่ขึ้นมาขวางสายตา มันคือหน้าต่างสีน้ำเงินโปร่งใสพร้อมข้อความไม่ยาวนัก ผมแกล้งไม่สนใจมัน ผมกำลังมีสมาธิกับสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้
ผมกลับไปสนใจคู่สนทนา มันไม่น่าประหลาดใจที่คนกลุ่มนี้จะโมโห เพราะผมดันเพิ่มเงื่อนไขจากปืนหนึ่งกระบอกเป็นสองกระบอกโดยไม่ได้บอกล่วงหน้า แต่ผมมีเหตุผลที่ไม่สามารถอธิบายอีกฝ่ายได้
"ทุกคนต้องเสี่ยงกันทั้งนั้นแหละ" ผมเตือนสติพวกเขาว่าอย่ามาเรียกร้องความเห็นใจ "พวกคุณมาช้าทำให้ผมเสียเวลา ที่ผมขอไปถือเป็นค่าปรับ"
บางคนอาจคิดว่าเวลาเป็นสิ่งที่ได้มาฟรี ๆ แต่หลายคนก็รู้ว่าเวลาในชีวิตของพวกเรามีอยู่อย่างจำกัด และนั่นทำให้ในแต่ละวันเราเลือกทำกิจกรรมได้จำกัด และยิ่งในยุคนี้ที่ซอมบีเต็มบ้านเต็มเมือง จำนวนชั่วโมงที่เหลืออยู่ของแต่ละคนในแต่ละวันก็ยิ่งสั้นลง พอมาคิดว่าหนึ่งชั่วโมงอันมีค่าที่ผมสามารถล่าได้อย่างเต็มที่ถูกขโมยไปเพราะคนไม่รักษาเวลา ผมก็อดคิดไม่ได้ว่าการแลกเปลี่ยนครั้งนี้ไม่ยุติธรรมแล้ว
แม้ผมจะเข้าใจแหละว่าอีกฝ่ายไม่ได้มัวแต่ไปเอ้อระเหยลอยชาย สาเหตุที่มาช้าคงเพราะพวกเขาถูกซอมบีโจมตีระหว่างเดินทางมายังที่นัดหมาย
"อย่าเสียเวลาต่อรองอีกเลยค่ะ คุณก็บอกเองนี่คะว่าแถวนี้ไม่ปลอดภัย" หญิงสาวที่ดูเด็กที่สุดในกลุ่มพูดขึ้น
ผมเพิ่งรู้ว่าไม่ใช่แค่หน้าตาของเธอที่เหมือนนักร้องวัยรุ่นชื่อดังในโลกของผม แม้แต่น้ำเสียงของเธอก็ยังเหมือนด้วย พอมานึกดูดี ๆ ก่อนหน้านี้เพื่อนของเธอก็เรียกเธอว่า แอน… อืมม ชื่อก็เหมือนอีก แต่อาจจะแค่บังเอิญก็ได้
"ปืนกระบอกเดียวก็ได้ แต่ผมอยากได้กระสุนเพิ่ม อย่างน้อยก็…"
[แฝดสาม #1: สาวซามูไรขำกับการต่อรองของคุณ]
"ปืนกระบอกเดียว ไม่เพิ่มอะไรให้อีก" ชายร่างใหญ่ไม่ยอมอ่อนข้อให้
พอเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ยอมเพิ่มจำนวนปืนให้เป็นสองกระบอก หรือแม้แต่เพิ่มเติมกระสุนให้ ผมก็ใช้วิธีการเจรจาว่าจะลดจำนวนอาหารแห้งที่จะส่งมอบให้บ้าง
…ถ้าไม่ใช่เพราะถูกมิชชันบังคับมา อย่างผมคงไม่ต้องมาเสียเวลากับอะไรไร้สาระแบบนี้หรอก…
[มิชชัน: แลกเปลี่ยนของ (0/1)]
[รายละเอียด: ทำการแลกเปลี่ยนสิ่งของกับผู้อื่น สิ่งของนั้นจะเป็นของที่ได้มาจากระบบหรือเป็นทรัพย์สินอื่นก็ได้ แต่คอลเลคเตอร์ต้องมั่นใจว่าเป็นการแลกเปลี่ยนที่ฝ่ายตนได้กำไร]
[รางวัล: +1 ไหวพริบ, มิสเซลเลเนียสแพ็ค วัน x 5]
…ค่าสถานะไหวพริบฟรี แถมยังได้แพ็คฟรีห้าแพ็คด้วย ยังไงงานนี้ก็ถอยไม่ได้…
ครั้งนี้ผมเหลือบมองหน้าต่างสีน้ำเงินโปร่งแสงที่ผมตั้งใจเปิดมันเอง หน้าต่างมิชชันยังคงขึ้นมาแบบเดิม ตัวอักษรสีแดงย้ำตรงที่บอกว่า 'ต้องมั่นใจว่าเป็นการแลกเปลี่ยนที่ฝ่ายตนได้กำไร'
…ประโยคนี้แหละทำให้ผมอ่อนข้อไม่ได้…
หลังจากยื้ออยู่พักหนึ่ง ความดื้อดึงของผมก็ชนะ ในที่สุดคนทั้งสี่ก็ประชุมกัน พวกเขาจำเป็นต้องได้อาหารติดมือกลับไปในจำนวนที่วางแผนไว้ ดังนั้นการแลกเปลี่ยนจึงจบลงที่ผมได้ปืนหนึ่งกระบอกกับกระสุนเพิ่มอีกเล็กน้อย
…อันที่จริง ผมไม่ได้อยากได้กระสุนแค่จำนวนที่พวกเขายอมให้มาหรอก แต่ที่ได้มาก็พอให้ความรู้สึกที่ว่าได้กำไร แค่นี้แหละจะทำให้เจ้าหน้าต่างสีน้ำเงินหายไปได้ พร้อมกับผมได้รับรางวัลที่ควรจะเป็นของผม…
[มิชชัน: แลกเปลี่ยนของ (1/1)]
[คุณทำมิชชันสำเร็จ]
[คุณได้รับสถานะไหวพริบเพิ่ม 1 หน่วย]
[คุณได้รับมิสเซลเลเนียสแพ็ค วัน 5 แพ็ค]
[ลุงยามวัยดึกภูมิใจกับความสำเร็จของคุณ]
ผมคิดว่ามันจะจบลงด้วยดี จนกระทั่งวินาทีที่รู้ตัวว่าอาคารร้างที่พวกเราใช้เป็นสถานที่นัดแลกเปลี่ยนของได้ถูกล้อมไว้หมดแล้วทุกทาง