webnovel

เส้นขนาน สามรัก

Auteur: FireSilk
Fantaisie
Terminé · 10.9K Affichage
  • 40 Shc
    Contenu
  • audimat
  • NO.200+
    SOUTIEN
Synopsis

ความอ่อนเยาว์นิรันกาล แลกด้วยความดายเดียวชั่วชีวิต ผู้ครองมณีไม่อาจมีรัก หากมอบหัวใจให้ใคร ชีวิตคือสิ่งที่ต้องสังเวย รักครั้งแรก จากลาเมื่อไร้ความกล้าเป็นตัวตน สามสิบปีผ่านไป รักครั้งใหม่ หล่อเลี้ยงหัวใจให้กลับคืนชีวิต แต่เขากับผู้เคยเป็นทีรัก กลับร่วมสายเลือด ทัณฑ์แห่งคำสาปคงตามติด

Chapter 1ตอนที่ 1

"นามะ รูปัง สังขาระฆัง ตทาเยวะ ตรุณะตัง อมตัง ภะวะติ เม มะมะ..."

เสียงสาธยายมนต์ยาวดังก้องในถ้ำ เสียงสะท้อนย้อนไปมาทำให้บรรยากาศภายในขรึมขลังยิ่งขึ้น ชายชราคนหนึ่งนั่งอยู่หน้าแท่นหินที่ด้านบนกร่อนคล้ายมีพานว่างเปล่าตั้งไว้ เพดานถ้ำเหนือแท่นหินเป็นปล่องโล่ง คืนนี้แสงจันทร์ส่องผ่านลงมากระทบแท่นทำให้พานเปล่งรัศมีสีทองเรืองรอง ผนังถ้ำด้านหลังแท่นหินราบเรียบ รัศมีสีทองนั้นฉายต้องผนังทำให้ผนังโปร่งจนมองทะลุผ่านเข้าไปเห็นหีบเหล็กมากมายภายใน บางหีบที่เปิดไว้มีทองคำสะท้อนประกายสีทองแวววาม หากรัศมีนั้นไม่สม่ำเสมอ ยามสว่างจะเห็นภาพหลังผนังชัด หากยามริบหรี่ผนังจะกลายเป็นหินทึบดังเดิม

ชายชราคงสาธยายมนต์ เขายื่นมือไปเหนือพานหิน มีดคมกริบกรีดกลางฝ่ามือปล่อยให้เลือดหยดลงบนพาน ยิ่งเลือดหยดลงมากเท่าไหร่รัศมีสีทองก็ยิ่งส่องสว่างมากขึ้น รัศมีค่อย ๆ ขยายจนถึงตัวชายชรา เมื่อร่างกายต้องรัศมี หลังที่คู้ค้อมค่อย ๆ หยัดเหยียดตรงขึ้น เขาค่อย ๆ ลุกขึ้นเดินไปยังผนังด้านหลังใน

เมื่ออยู่หน้าผนัง เขายื่นมือที่มีเลือดอาบไปแตะผนังโปร่งแสงนั้น แค่สัมผัสรัศมีนั้นก็ริบหรี่ดับวูบลง ผนังหินกลับคืนเป็นหินทึบ แรงกระแทกผลักชายชราถอยหลังล้ม เขากระอักเลือดออกมา ใบหน้าปรากฏรอยยับย่นเพิ่มขึ้นและร่างที่พึ่งตั้งตรงก็ค้อมตัวลงอย่างสิ้นเรี่ยวแรง

"นามะ รูปัง สังขาระฆัง ตทาเยวะ ตรุณะตัง อมตัง ภะวะติ เม มะมะ..."

เสียงสาธยายมนต์บทเดียวกันหากต่างสถานที่ ห้องเล็กนั้นว่างเปล่า บนเพดานมีช่องที่กรุด้วยกระจกใสซึ่งตอนนี้เปิดออก คืนนี้คืนเพ็ญ ท้องฟ้าโปร่งจนเห็นจันทร์เต็มดวงกระจ่างจ้า รอบบริเวณบ้านที่มีไม้ใหญ่ครึ้มล้อมภายในรั้วเงียบสงัด ไม่มีแม้ลมพัดราวอยู่ในภาวะหยุดนิ่งชะงักงัน

แสงจันทร์ส่องผ่านช่องที่เปิดไว้ลงมากระทบมุกขาวกลมขนาดราว ๆ ไข่ไก่ที่ลอยหมุนวนอยู่หน้าคนนั่งขัดสมาธิอยู่ มุกขาวมีลวดลายเป็นเส้นสีทองคล้ายกิ่งไม้พันล้อมทั้งลูก คนนั่งขัดสมาธิกรีดกลางฝ่ามือให้เลือดหยดลงบนมุกขาว ยิ่งซับเลือดเข้าไปลายเส้นสีทองยิ่งส่งประกาย เมื่อรัศมีหุ้มห่อคนที่นั่งอยู่ มุกขาวก็ลอยสูงขึ้นเกือบถึงช่องเพดาน ยิ่งแสงจันทร์ตกกระทบผิวมุก รัศมีสีทองที่ห่อหุ้มผู้ที่อยู่ด้านล่างก็ยิ่งสว่าง

คนนั่งขัดสมาธิเปลือยเปล่า สองมือประสานเป็นท่ามุทรากลางอก เขาสาธยายมนต์ทวนซ้ำไปมา ขณะที่รัศมีสีทองค่อย ๆ จางลงเหมือนถูกร่างนั้นดูดซับไป ยิ่งรัศมีสีทองสลัวลงเท่าไหร่ ร่างนั้นก็ยิ่งกระจ่างขึ้นเท่านั้น สิ้นเสียงสาธยายมนต์ รัศมีสีทองจางหายไป มุกขาวลอยกลับลงมาสู่มือคนด้านล่าง

คนที่นั่งขัดสมาธิลืมตา ใบหน้าที่แก้มเริ่มหย่อนคล้อยค่อย ๆ เต่งตึงขึ้น ผิวหน้าเนียนละเอียดแทบไม่เห็นรูขุมขน รอยย่นที่หางตาจางลงจนไม่เหลือริ้วรอย หน้าเรียวที่เครื่องหน้าได้รูปจนอาจเรียกได้ว่าสวย ตาโตคมเข้มที่ลูกตาดำชัดเปล่งประกายวาวใสคล้ายตาเด็ก ผมที่เริ่มบางงอกเพิ่มดกหนาดำเข้ม จุดกระด่างดำตามตัวค่อย ๆ เลือนจางเหลือเพียงผิวขาวใสกระจ่าง กลางฝ่ามือที่เป็นแผลกรีดสมานเป็นเนื้อเดียวไม่เห็นรอย เมื่อการเปลี่ยนแปลงสิ้นสุด คนที่นั่งราวรูปปั้นค่อยขยับตัว

เขาหยิบผ้าที่วางอยู่ข้างกายขึ้นมาพันปิดร่างเปลือย แล้วหยิบกระจกที่วางไว้ข้างตัวขึ้นมาส่องดู ใบหน้าที่สะท้อนออกมา เป็นชายหนุ่มในวัยสิบเก้ายี่สิบ หากในดวงตาวาวใสกลับมีแววล้าโรยไม่สมอายุซ่อนอยู่ในส่วนลึก เขายกมือขึ้นแตะใบหน้าตัวเอง

"กลับมาอายุยี่สิบอีกแล้วสินะ"

เขาถอนใจยาว เก็บมุกขาวใส่ลงไปในกล่องไม้สลักลายที่ภายในบุกำมะหยี่สีแดงเข้ม มุกขาวยังคงมีประกายวาวจาง ๆ เมื่อเขาปิดฝากล่อง เสียงสายลมพัดกระทบยอดไม้เบา ๆ ก็ดังเข้ามาในห้อง ทำให้ความเงียบสงัดไร้ชีวิตเมื่อครู่หายไป

"ครั้งนี้ก็ไม่สำเร็จหรือครับ คุณปู่"

วีระถามเมื่อชายชราเดินออกมาจากถ้ำ แม้ร่างนั้นจะทรุดโทรมสูงวัย แต่ชายชรากลับเดินเร็วคล่องแคล่วไม่สมอายุ ใบหน้ายับย่นล้าโรย หากดวงตาคงมีแววกร้าวดุดัน

"ถ้าไม่ได้ติรมันตรามณีมา ยังไม่ก็ไม่สำเร็จ"

"แล้วอย่างนี้ ร่างกายของคุณปู่"

"ไม่เป็นไร ปู่ยังไหว"

"เราทำอะไรไม่ได้เลยหรือครับ"

"ถ้าได้ ปู่คงไม่ต้องพยายามให้มันถ่ายปราณเลือดให้หรอก แล้วแกหาพัฒน์เจอหรือยัง"

"ยังเลยครับ"

"สามสิบปีแล้วนะ ไม่มีร่อยรอยเลยเหรอ"

"ผมใช้ทุกทางแล้วครับ ทั้งนักสืบทั้งติดสินบนเจ้าหน้าที่หา แต่นอกจากรู้ว่า พัฒน์ตายและมีการออกใบมรณบัตรแล้ว ก็ไม่เจออะไรอีกเลยครับ"

"ยังไงแกก็ต้องหาพัฒน์ให้เจอ เจอเมื่อไหร่ เราถึงจะถ่ายปราณเลือดของมันมาได้ ได้ปราณเลือดเราถึงจะครอบครองอำนาจแห่งติรมันตรามณี อำนาจในการควบคุมอาถรรพ์ย้อนอายุคืนวัย แล้วเมื่อนั้นแกเองจะได้ความหนุ่มกลับคืนมา "

วีระมองตัวเอง สภาพของชายวัยกลางคนที่ร่างกายเริ่มทรุดโทรม ผมบางลงจนเห็นหนังศีรษะ ใบหน้ามีรอยยับย่น จุดด่างดำที่กระจายบนผิวแสดงริ้วรอยแห่งวัย

"ครับ คุณปู่"

ชายชรามองหลาน แม้จะหลายสิบปีแล้วที่ให้พยายามตามหาผู้ที่สาบสูญ หากก็ไม่เคยได้รับแม้ข่าวคราวเพิ่มเติมเลย ดูเหมือนอีกฝ่ายจะยังไม่รู้ว่าเหตุผลที่แท้จริงที่เขาตามหาคืออะไร เพียงแค่ความอ่อนเยาว์ตลอดกาลคงไม่ใช่สิ่งที่จูงใจคนเป็นหลานมากนัก

"แกเคยอยากรู้ว่า ทำไมปู่ถึงต้องการติรมันตรามณีนักใช่ไหม เอาเถอะตอนนี้ แกควรรู้ได้แล้วว่าเพราะอะไร ถ้าปู่ทำไม่ได้ แกจะได้ทำต่อไป"

"นอกจากช่วยให้กลับเป็นหนุ่มแล้ว ติรมันตรามณียังใช้ทำอะไรได้หรือครับ"

"ตามปู่มา"

ชายชราพาหลานเข้าไปในถ้ำที่ไม่เคยอนุญาตให้เข้าไป ชายชราสูดลมหายใจลึกท่องมนต์เบา ๆ ทำให้ผนังหินโปร่งจนมองผ่านทะลุเห็นสิ่งที่อยู่ภายใน แสงแวววามของทองคำทำให้วีระที่เดินตามมาถึงกับตะลึงงัน

"ทอง"

"ใช่ ทอง ปู่เทียดนำสมบัติของตระกูลมาซ่อนไว้หลังผนังถ้ำนี้"

"แล้วเราขุดออกมาไม่ได้หรือครับ"

"ถ้าทำได้ ปู่ทำไปนานแล้ว ถ้าฝืนขุดถ้ำนี้จะถล่ม สมบัติทั้งหมดจะสูญหาย"

"แล้วอย่างนั้นเราจะเอาออกมาได้ยังไงครับ"

"มีเพียงผู้สืบปราณเลือดถึงจะใช้ติรมันตรามณีไขเปิดเข้าไปในขุมทรัพย์ได้"

คนเป็นหลานยมองอย่างสงสัย ผู้สูงวัยจึงอธิบายเรื่องที่ยังไม่เคยบอก

"ปู่เคยบอกแกแล้วว่า ปู่เทียดของปู่เป็นโหราจารย์ ท่านเป็นผู้หยั่งรู้สามารถใช้กฤตยามนต์อาถรรพ์ อาศรมของท่านได้รับความเคารพจากชาวเมืองมากมายจนที่เป็นที่หวั่นเกรงของเจ้าผู้ครองนคร เพราะกลัวว่าปู่เทียดจะแย่งบัลลังก์ เจ้าเมืองจึงใช้แผนหญิงงามทำลายตระกูลเรา

เจ้าเมืองส่งเจ้าหญิงองค์หนึ่งมารับใช้ปู่เทียด ความสวยของนางทำให้หลานสองคนในตระกูลหลงรักแย่งชิง เจ้าผู้หญิงแสร้งเป็นรักกับคนน้อง แต่ถูกบังคับให้แต่งงานกับคนพี่ แล้วหลอกให้น้องหาคนมาช่วย พอคนน้องเชื่อติดต่อคนนอก ทำให้ตระกูลเราโดนใส่ความว่าเป็นกบฏ แล้วโดนประหารทั้งตระกูล"

"แต่ปู่เทียดหนีมาได้"

"ใช่ ปู่เทียดหนีมาได้ แต่อย่างที่ปู่เคยบอก ตอนนั้นท่านแก่มากแล้ว ท่านรู้ว่าท่านจะมีชีวิตอีกไม่นาน เพื่อไม่ให้สิ้นตระกูล ท่านจึงสร้างมุกอาถรรพ์ขึ้นมา มุกที่มีอำนาจทำให้เจ้าของกลับเป็นหนุ่มได้อีกครั้งทุกสิบปี จึงได้ชื่อว่า ติรมันตรามณี มณีแห่งมนต์ดรุณหรือวัยเยาว์ แล้วท่านก็ใช้การสังเวยเลือดย้อนอายุตัวเองกลับมาเป็นหนุ่ม ย้ายเมืองแต่งงานมีลูกหลาน และติรมันตรามณีก็สืบทอดในตระกูลเราต่อมา และเพราะความรักทำให้พี่น้องทำร้ายกันจนเกือบสิ้นตระกูล ท่านจึงวางคำสาปกำหนดให้ผู้ครองติรมันตรามณีไม่อาจมีความรัก ถ้ามีความรักจะต้องสังเวยเลือดด้วยชีวิตของตัวเองหรือคนรัก จึงจะปลุกอำนาจของติรมันตรามณีได้"

"แล้วพัฒน์เป็นคนสืบทอดปราณเลือด"

"ใช่ การย้อนอายุคืนวัยมันฝืนกฎธรรมชาติ ในหนึ่งชั่วอายุของตระกูลเราจึงมีผู้สืบทอดปราณเลือดได้เพียงคนเดียวเท่านั้น ปู่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมปราณเลือดถึงสืบทอดแต่ในสายนั้น ขนาดตอนเจ้าพัฒน์สิบขวบ ก็สามารถปลุกปราณเลือดรับถ่ายทอดไปได้"

น้ำเสียงนั้นแค้นเคียดเกลียดชัง

"แล้วทองพวกนี้"

"ปู่เทียดรู้ว่าตระกูลเรามีเคราะห์ จึงลอบนำสมบัติมาซ่อนไว้ในถ้ำนี้ แล้วใช้มนตราซ่อนถ้ำไว้ มีเพียงผู้สืบทอดปราณเลือด นำติรมันตรามณีมา จึงจะเปิดเข้าไปนำสมบัติออกมาได้"

"ไม่มีทางอื่นเลยหรือครับ"

"ไม่มี"

"แล้วถ้าเราหาพัฒน์ไม่เจอ"

"เราก็จะไม่สามารถนำทองออกมาได้ตลอดกาล"

"ไม่ยุติธรรมเลย เราก็เป็นลูกหลานปู่เทียดเหมือนกัน"

"เพราะอย่างนี้แหละ ปู่ถึงให้แกต้องตามหาเจ้าพัฒน์ให้เจอ ถ้าได้ตัวมันมา ปู่ถึงใช้เลือดของมันปลุกปราณเลือดของปู่ได้ เมื่อไหร่ปู่ปลุกปราณเลือดได้ เราก็ได้ทั้งความหนุ่ม ทรัพย์สมบัติ ซึ่งปู่ก็คงอยู่ได้อีกไม่นาน แกก็จะได้รับสืบทอดต่อไป มันอยู่ที่แกแล้วว่า แกจะตามมันเจอไหม"

ตาวาวที่เจือรอยละโมบทำให้คนเป็นปู่มั่นใจหลานต้องพยายามทำในสิ่งที่มอบหมายมากขึ้น

"ไม่ต้องห่วงครับ คุณปู่ ผมต้องตามหาพัฒน์ให้เจอให้ได้"

"แล้วยังติดต่อเพื่อนคนนั้นอยู่ใช่ไหม"

"ยังติดต่อไม่ขาดครับ"

"ดี ปู่สังหรณ์ใจว่า เพื่อนคนนี้อาจจะเป็นกุญแจให้เราเจอพัฒน์ก็ได้"

"ครับ พี่โต้ง"

ชายหนุ่มที่พึ่งแต่งตัวเสร็จมองชื่อคนโทรเข้ามา เขาวางกล่องน้ำยาย้อมผมก่อนกดรับ

"วัต พี่จะถามว่า ห้องที่พี่คืนไป มีคนมาเช่าต่อหรือยัง"

"ยังครับ ยังว่างอยู่"

"ดีจริง งั้นช่วยวัตเก็บห้องไว้ก่อนนะ อย่าพึ่งให้ใครเช่า"

"พี่โต้งจะเช่าต่อหรือครับ"

"เปล่าหรอก พอดีพี่แวะไปมหาลัยดูเขารับน้อง เจอน้องใหม่คนหนึ่งกำลังหาห้องเช่าอยู่ พวกคอนโดหรือกอพักที่ติดมหาลัยเขาก็ไม่ชอบ บอกว่าคนเยอะ พี่เลยถามว่า สนใจมาเช่าบ้านวัติไหม ไกลออกมานิด แต่สงบกว่าเยอะ เขาสนใจ พี่เลยโทรมาถามว่า ห้องยังว่างอยู่ไหม"

"ขอบคุณครับที่ช่วยแนะนำ"

"งั้นเดี๋ยวให้พี่เบอร์วัตกับน้องเขานะ ให้เขาโทรนัดวัตเองว่า จะเข้าไปดูวันไหน เห็นว่า ตอนนี้เช่าโรงแรมอยู่ เลยอยากรีบหาหอพัก"

"ได้ครับ ให้เขาโทรหาผมได้เลย ว่าแต่วันนี้รับน้องแล้วหรือครับ"

"ต้องบอกว่าเป็นวันแรกพบถึงจะถูก วันนี้น้องใหม่มามหาลัยวันแรก พี่เลยแวะมาดูหน่อย ตอนนี้จบแล้ว ปีหน้าคงไม่ได้มาอีก ถือโอกาสนัดเพื่อน ๆ มาเจอกันด้วย พอทำงานคงนัดทั้งกลุ่มแบบนี้ยาก เดี๋ยวพี่เอาเบอร์วัตไปให้เขาเลยนะ"

"ได้ครับ สวัสดีครับ"

วสวัตวางสาย หากคำที่ติดใจคือ

"วันแรกพบ เหรอ"

"น้องแถวซ้าย ให้จับคู่กับเพื่อนที่ยืนอยู่ตรงกันแถวขวา แล้วถามรายละเอียดให้มากที่สุดนะครับว่า เพื่อนชื่ออะไร เป็นใคร จบมาจากไหน ชอบอะไรไม่ชอบอะไร แล้วเดี๋ยวต้องเล่าให้เพื่อน ๆ ในกลุ่มฟังว่า เพื่อนที่เราจับคู่ด้วยเป็นใครนะครับ"

รุ่นพี่ที่เป็นแกนนำบอกน้องที่พึ่งมามหาวิทยาลัยเป็นครั้งแรกเพื่อลงทะเบียนเป็นนักศึกษา หลังจากลงทะเบียนเสร็จ รุ่นพี่ก็แบ่งน้อง ๆ เป็นกลุ่มเพื่อให้รู้จักทั้งกับเพื่อนใหม่และรุ่นพี่ น้องใหม่ทุกคนดูตื่นเต้น วันนี้ หลายคนยังใส่ชุดนักเรียนมาเลย บรรยากาศรอบข้างเต็มไปด้วยความร่าเริงสดใส การสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ในปี พ.ศ. 2531 ถือเป็นความสำเร็จยิ่งใหญ่อย่างหนึ่งทีเดียว

กิจกรรมนี้รุ่นพี่แบ่งรุ่นน้องออกเป็นสองแถว อธิพัฒน์ยืนอยู่ในแถวด้านซ้าย พอมองไปแถวขวา คนยืนตรงกันเป็น เด็กหนุ่มตัวสูง แม้จะใส่เสื้อยืดค่อนข้างหลวม แต่ก็ยังเห็นรูปร่างแบบนักกีฬา หน้าตาอีกฝ่ายดูซื่อ ๆ ท่าทางนั้นพอดูออกว่า น่าจะไม่ใช่นักเรียนของโรงเรียนในกรุงเทพฯ เมื่อรุ่นพี่บอกให้จับคู่ได้ เขาก็เดินเข้าไปหาแล้วแนะนำตัวเอง

"หวัดดี เราชื่อ อธิพัฒน์ เรียก ธิ หรือ พัฒน์ ก็ได้"

คนตัวสูงมองคนที่เดินเข้ามาหา หน้าใส ๆ กับส่วนสูงสันทัดทำให้ดูเหมือนเด็กพึ่งขึ้น ม.ปลาย มากกว่าจะเป็นนักศึกษา เครื่องหน้ามีตาโตคมดำขลับวาวกระจ่างใสเป็นจุดเด่น เสียงพูดค่อนข้างแหลมเหมือนเสียงเด็กที่ยังไม่โต ทำให้เขานึกถึงเสียงลูกแมวเวลาร้องแง้ว ๆ

"เราชื่อ โก้ โกมล"

"เราเป็นคนกรุงเทพฯ แล้วนายเป็นคนที่ไหน"

"เราเป็นคนโคราช"

Vous aimerez aussi

ดวงจิตนิตนิรันทร์

' อัล ' ชายหนุ่มผู้มีดวงจิตเก่าเป็นเทพเมื่อครั้นหนึ่งเคยเป็นถึงหนึ่งในเทพที่แข็งแกร่งที่สุดของเมืองชั้นบนเหล่าชาวสรรค์ บัดนี้ตัวเขามาเกิดใหม่ในร่างมนุษย์แต่ยังคงความทรงจำเก่าที่บางส่วนได้สูญหายไป(?) แต่นั่นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของเขาในฐานะมนุษย์ออกจะใช้ชีวิตสุขสบายด้วยซ้ำไป แต่แล้วจนรอดก็มีเรื่องให้เขาต้องกลับไปพัวพันกับเหล่าบุคคลในอดีตที่ไม่ใช่มนุษย์อีกครั้ง ก่อให้เกิดเรื่องราววุ่นวายมากมาย รวมถึงราชาแห่งเหล่าภูต ว่ากันว่าแสนจะอำมหิต และน่ากลัวเป็นที่สุด แต่ดันมารู้ความจริงเข้าว่า ' อัล ' ไม่ใช่มนุษย์ที่ไร้พลังธรรมดาทั่วไป

DaoistcVOlxi · Fantaisie
Pas assez d’évaluations
1 Chs

OVERCLOCK : ปลดลิมิตพิชิตกาลเวลา

‘ภรรยาคู่ชีวิต’ ‘ลูกสาวที่น่ารัก’ ครอบครัวแสนอบอุ่นเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งอย่าง ‘ธีร์’ จะสร้างขึ้นมาได้ แต่แผนการใช้เวลาที่เหลือในชีวิตร่วมกันกลับพังทลายลงเมื่อถูก ‘กวาง’ ผู้เป็นภรรยาฟ้องหย่า แต่การสูญเสียครอบครัวนั้นไม่ใช่ทั้งจุดเริ่มต้นและจุดจบ…หากอุบัติเหตุเมื่อครั้งนั้นไม่เคยเกิดขึ้น…หากเขาไม่ได้ฟื้นขึ้นมาพร้อมกับ ‘นาฬิกาข้อมือ’ ที่เป็นดั่งตรวนจองจำ…หากเขาไม่ต้องตามล่าหา ‘เวลา’ ที่เหลือน้อยลงทุกที…หากเรื่องราวทั้งหมดหลังถูกฟ้องหย่าไม่ถูกเปิดเผย…เขาจะยังมีครอบครัวที่อบอุ่นอยู่หรือเปล่านะ

Encima · Fantaisie
Pas assez d’évaluations
8 Chs