เหล่านัมเบอร์ทั้ง 13 หากต้องการจะขึ้นเป็นราชา! จงเอาชนะจนเหลือรอดเป็นคนสุดท้าย จะฆ่าให้ตายหรือว่าจะปล่อยให้กลายเป็นทาส ผู้ชนะเท่านั้นที่มีสิทธิ์เลือก...
เงินที่หามาด้วยการแลกกับหยาดเหงื่อแรงกาย หมดไปกับค่าอาหารกับค่าเรียน ถึงแม้ว่าจะพยายามประหยัดอย่างถึงที่สุด อดใจไม่กินอาหารข้างนอกกินแต่อาหารสำเร็จรูปกับอาหารกระป๋อง
กระนั้นก็ยังไม่พอ คงมีแค่ต้องทำงานเพิ่ม แต่ว่าการเรียนในรั้วมหาวิทยาลัยช่างยากเย็นเหลือเกิน การที่หาเงินและเรียนไปด้วยนี่ ช่างลำบากเหลือเกิน ชักเริ่มเคารพในใครหลายๆคนที่ทำแบบนี้จริงๆ
ฉันพยายามค้นหาเศษเหรียญ หวังแต่เพียงว่า จะมีหลงเหลืออยู่สักนิดเพียงพอค่าในการเดินทางไปทำงานก็พอ เหมือนสวรรค์กลั่นแกล้ง ไม่พบแม้แต่เพียงเศษเดียว หรือแม้แต่เงินที่พอจะถอนออกจากบัญชีได้ก็ไม่มี
"ทำอย่างไรดีละ? มืดแปดด้านแล้ว"
จิน ชายหนุ่ม สูง รูปร่างสมส่วน ผมสั้นสีดำ กำลังนั่งกลัดกลุ้มอยู่ตรงหน้าตู้กดเงินอัตโนมัติ
คิดดูแล้วก็สิ้นหวังในความสะเพร่าของตนเอง แต่ว่าจะนั่งกลุ้มต่อไปก็ไม่ได้ ยังมีงานที่ต้องไปทำ จะไปยังไงล่ะโดยไม่มีเงินสักแดง? คิดได้ดังนั้นแล้วคงมีแค่ทางเดียว คือ วิ่งไปเท่านั้น
ถ้าคำนวณเวลาที่ไปถึงแล้ว ระยะทางเกือบๆ ยี่สิบกิโล เข้างานตอนหนึ่งทุ่ม ตอนนี้พึ่งจะสี่โมงเย็น ทันแน่ๆ
"เดี๋ยวนะ! เพื่อไว้ดีกว่า"คิดได้ดังนั้นเลยรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วส่งข้อความไปหาหัวหน้าเพื่อรายงานว่า "วันนี้อาจจะเข้าไปทำงานสาย"
ถึงแม้คิดว่าจะวิ่งไปก็เถอะ! แต่บนฟุตบาทก็ดันมีผู้คนพลุกพ่าน จากที่จะวิ่งกลับกันเลยต้องเดินเร็วไปแทนพอมาได้ถึงครึ่งทางก็รู้สึกเหนื่อยขึ้นมา
(เหนื่อยเอาเรื่องเหมือนกัน) มองไปรอบๆเห็นมีม้านั่งอยู่ตรงตรอกแห่งหนึ่ง เลยคิดว่าจะไปนั่งพักสักหน่อยแล้วค่อยไปต่อ
ในขณะที่กำลังนั่งพักเพลินๆอยู่นั้น ได้ยินเสียงคนกำลังพูดคุยกันในซอยลึกๆนั่น
หันไปดูพบเห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังรีดไถเงินจาก ชายคนหนึ่ง แต่ว่าเห็นหน้าไม่ชัดเพราะว่าโดนบังอยู่
หวา--- สมัยนี้ยังมีเหลืออีกหรอ? คนพวกนี้ ทางนี้ทำงานแทบตาย แต่ว่าพวกแกกลับมารีดไถคนที่ไม่มีทางสู้แบบนี้
"แค่ให้เงินมามันจะไปยากอะไรวะ !!"
เสียงตะคอกของพวกนั้นดังขึ้นมาพร้อมกับร่างชายคนนั้นที่ล้มลงกับพื้น ดูเหมือนว่าโดนต่อยไปที่ท้องอย่างแรง
โดนเหยียบซ้ำแถมด้วยพูดจาเยาะเย้ยใส่
"คนอ่อนแอแบบแกควรจะทำตามที่ฉันสั่งเข้าใจไหม?"
เฮ้ยๆ นี่มันเกินไปหรือป่าว ? แม้ว่าจะอยากได้เงินขนาดไหนก็เถอะแต่ว่าถึงขั้นทำร้ายนี่มันโหดร้ายไป ดูเหมือนพวกคนที่ดินไปมายังไม่เห็นเพราะว่าอยู่ลึกเกินไป แถวๆนี้ก็ไม่มีกล้องด้วย
ทำยังไงดีล่ะ จะเข้าไปช่วยเป็นเหมือนฮีโร่ไหม? หรือจะเรียกให้คนช่วยแต่ว่าข้างนอกก็มีเสียงดังไหนจะการก่อสร้างอีก...ช่วยไม่ได้
"เป็นอะไรไปแล้วล่ะ ลุกขึ้นมาคุยกันก่อนสิเว้ย!!"
คนที่ดูเหมือนเป็นหัวหน้าคนพวกนั้นเตะซ้ำเรื่อยๆจนหยุดลง ก้มลงไปหยิบท่อนไม้แถวนั้น และกำลังจะพาดไปนั้น ก็มีมือปริศนาเข้ามาหยุดไว้ทัน
"รังแกคนที่อ่อนแอกว่านั้นมันน่าสนุกตรงไหน?"
พอสิ้นสุดเสียงนั้น ชายคนที่ถือไม่นั้นก็โดนพลักไปติดกำแพงแล้วชกซ้ำเข้าที่หน้า หมัดที่รุนแรงกระทบเข้าหน้า จนทำให้สลบไป
ในขณะที่อีสองคนนั้นตกตะลึงกับเหตูการณ์ที่เกิดตรงหน้า แล้วพอตั้งสติได้ก็รีบพุ่งเข้ามาเพื่อหวังจะแก้แค้นแทนพวกพ้องที่โดนชกไป
"แกเป็นใครกันวะ?"
ตอนที่ทั้งสองโจมตีเข้ามาพร้อมกันนั้น ฉันเลือกที่จะถีบคนหนึ่งออกไปก่อน และหมดหมัดอีกคน
สวนกลับโดยการต่อยไปที่ซี่โครงตามด้วยคาง พออีกคนที่ล้มกำลังจะลุกขึ้นมานั้น ฉันเลือกที่จะเตะไปที่กกหู แค่เพียงครั้งเดียวทำให้ทุกคนตรงนั้นสลบนอนกองกับพื้น
หลังจากจัดการพวกไถเงินเสร็จแล้วรีบไปดูอาการคนที่โดนทำร้าย
"เป็นอะไรไหมครับ? เอ๊ะ! เดี่ยวนะ เฮนรี่ นายเองหรอ?"
ดูเหมือนว่าคนที่โดนทำร้ายจะเป็นเพื่อนของเขาที่เรียนมหาลัยเดียวกัน รูปร่าทั้งสองต่างกันมาก เฮนรี่นั้นเป็นชายตัวเล็ก ร่างกายบอบบางคล้ายผู้หญิง ผมยาวสีดำแต่มัดรวบไว้
"ขอบใจนะที่มาช่วย จิน"
เฮนรี่ที่พยายามจะลุกขึ้นยืนนั้น ขาอ่อนแรงมาก เนื่องจากถูกทำร้ายจนข้อขาแพลง เหมือนว่าจะล้ม ยังดีที่จินพยุงไว้ทัน
"ไม่ไหวอย่าฝืนสิ ค่อยๆเดินไปนั่งตรงนั้น เดี๋ยวฉันโทรเรียกรถแท็กซี่ให้"
"อือ เข้าใจแล้ว"
หลังจากที่จินโทรเรียกรถแท็กซี่เรียบร้อย ทั้งสองก็มานั่งคุยกันบนม้านั่ง
"เดี๋ยวฉันนั่งรอเป็นเพื่อน กว่ารถจะมาตั้งอีกยี่สิบกว่านาที"
"นี่จิน ฉันขอถามอะไรหน่อยได้ไหม?"
"ถามอะไรดีล่ะ ฉันก็ไม่ค่อยฉลาดด้วยสิ เอาเป็นว่าจะตอบเท่าที่ตอบได้"
"ทำไมนายถึงเข้ามาช่วยฉัน ทั้งที่ไม่ว่าใครต่างก็เดินผ่านไปเฉยๆ"
"แค่บังเอิญผ่านทางมาพอดี ตอนแรกไม่คิดว่าจะเป็นนายด้วยซ้ำ โชคดีจริงๆที่เข้ามาช่วย ไม่อย่างนั้นฉันคงเสียนายไปแน่เลย"
"รู้สึกขนลุกแปลกๆ แต่ว่านะ นายทำได้ยังไงขนาดที่สามรถจัดการทั้งสามคนได้อยู่หมัดเลย"
"โชคดีเฉยๆ ในช่วงเวลาที่โกลาหลคนเรานั้นมักตัดสินใจได้ทื่อลง ฉันเลยอาศัยช่วงเวลานั้น"
"นายนี่ฉลาดเหมือนกันนะ? ตลอดมานายแกล้งโง่สินะ? ที่สอบตกบ่อยเป็นพียงการแสดงเท่านั้น"
"เฮือก!! บางครั้งนายนี่ก็พูดแรงนะ เจ็บไปถึงหัวใจเลย นั้นสินะถ้าจะให้อธิบายละก็ เหมือนเป็นความเคยชิน ที่ฝึกเยอะจนเป็นกิจวัตรได้ละก็มันก็สามารถเอาออกมาใช้ได้เองอัตโนมัติหรือที่เรียกว่า กฎ 10000 ชั่วโมง"
"ดูท่าทางนายเหมือนจะภูมิใจกับมันมาเลยนะ แล้วทำไมไม่มาปรับใช้กับการเรียนละ จะได้สอบผ่านไม่ต้องมาแก้"
"พูดอีกก็ถูกอีก ไม่ใช่ว่าไม่เคยลอง ฉันเองก็ลองมาแล้ว แต่ผลสรุปมันช่างโหดร้าย...ฮ่าฮ่าฮ่า" เขาหัวเราะราวกับเป็นเรื่องตลก
ทำให้เฮนรี่นั้นถึงกับกุมขมับกับสิ่งที่ได้ยิน "คนอย่างนายนี่มัน"
"จะว่าไปแล้วนายมาทำอะไรแถวเมืองอีสล่ะ บ้านนายน่าจะแถวทางนอร์ไม่ใช่หรอ?"
"มาตรวจสุขภาพประจำปี และว่ากำลังจะกลับบ้านพอดี แต่ว่าโดนพวกนี้มาไถเงินซะอย่างนั้น"
"แถวนี้มีหรอ-"
ยังไม่ทันพูดจบเสียงเรียกดังจากโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา ดูเหมือนว่าตอนนี้รถจะมาถึงแล้ว ทันทีจินรีบช่วยพยุงเฮนรี่และพาขึ้นรถ
"ขอบใจสำหรับหลายๆอย่าง ที่มาช่วยวันนี้ด้วย"
"ไม่เป็นไรแค่นี้เอง รักษาตัวดีๆละ พยายามอย่าให้เจ้าพวกนี้เห็นเข้าล่ะ รอบหน้าอาจจะไม่โชคดีเหมือนครั้งนี้"
"จะระวัง...บาย..."
"โชคดี..."
ทั้งสองโบกมือไปมา บอกลากันจนกระทั่งรถที่มารับเฮนรี่นั้นไปจนพ้นสายตา
ฉันที่เปิดดูเวลาที่โทรศัพท์
"เฮ้อ~ ไม่ไหวแฮะ แค่สิบนาทีเอง"
ตอนนี้ต่อให้วิ่งสุดแรงก็ไม่น่าจะทันเวลาแหง หวังว่าหัวหน้าคงไม่ว่าอะไร