อูลที่กำลังนั่งจิบกาแฟอยู่ในล็อบบี้นั่น กำลังรอให้โลแกนเข้ามาเพื่อที่จะสรุปผลการรายงานในครั้งนี้อย่างใจเย็น แล้วสักพักหนึ่งโลแกนก็เดินมาหา
"ขอโทษที! ใช้เวลานานกว่าที่คิด" โลแกนพูดขอโทษที่ตนมาช้า
"ไม่เป็นไรแล้วข้อสรุปในครั้งนี้หละ?"
โลแกนยื่นกระดาษฉบับหนึ่งให้อูล ในนั้นมีผลการทดลองในครั้งนี้อยู่ทุกอย่าง "ร่างกายของเหล่า นัมเบอร์ พิเศษมากเลย ไม่ว่าจะบาดเจ็บหนักอย่างไร ก็สามารถฟื้นฟูได้ แต่ในการฟื้นฟูนั้นเองก็มีลำดับอยู่" พูดไปพร้อมกับหยิบกระดาแผ่นหนึ่งออกมาจากที่มือของอูลแล้วยื่นให้ดู "อวัยวะที่สำคัญที่สุดไปยังอวัยวะที่สำคัญน้อยที่สุด ในกล้องวงจรปิดอีกทีจึงได้เห็นมันแทบทั้งหมด หัวใจ สมอง มีเพียงแค่สองอย่างนี้เท่านั้นที่มีการฟื้นฟูก่อน ต่อไปจะเรียงตามลำดับความจำเป็นของร่างกายนั้นๆ"
"แสดงว่านี่อาจจะเป็นเหตุผลที่เวลาที่เหล่า "นัมเบอร์" สู้กันทุกรอบต้องมีการเสียบให้ทะลุหัวใจไม่ก็สมองสินะ?"
"เอาจริงจะทำอะไรก็ได้แค่ให้อีกฝ่ายตายทันทีก็พอ"
"ช่างเป็นพวกที่ป่าเถื่อนกันเหลือเกิน...แล้วเรื่องที่ฉันให้นายไปสืบล่ะ?"
"เรื่องของ นัมเบอร์ ทั้งหมดสินะ? ราบรื่นดี แต่มีอย่างเดียวที่คาใจฉันตลอด ช่วงนี้มีหนึ่งตระกูลที่มีท่าทีแปลกๆ"
"ท่าทีแปลกๆ?"
"ในการเลือกผู้สนับสนุนมันมีหนึ่งตระกูลที่ต้องไปช่วย นัมเบอร์คนสุดท้ายอยู่ใช่ไหมละ?"
"ใช่! ตระกูลเจมินี่สินะ? แล้วว่าท่าทีแปลกไปมันคืออะไร?"
"ช่วงนี้มักจะเห็นคนของตระกูลเจมินี่ เข้า-ออก ไปๆมาๆกับตระกูลพรีสบ่อยๆ ไม่ใช่ว่ามันลับลมคมในอะไรกันหรือ?"
"น่าแปลกแฮะ! ตระกูลหนึ่งได้รับให้การสนับสนุน นัมเบอร์ หนึ่งคนเท่านั้น"
"พวกเขามีโอกาสที่จะทรยศพวกเราป่าว?"
"เรื่องนี้ฉันเองก็ไม่รู้ แต่อย่างน้อยก็น่าจะบอกคุณจินไว้ก่อนแล้วกัน"
"ก็ดี! ถือว่าปลอดภัยไว้ก่อนจะได้ไม่กระทบแผนการในอนาคต แต่ว่าวันนี้เขาไปไหนแล้วล่ะ?"
"เห็นว่าวันนี้ออกไปข้างนอกกับเซร่า"
สีหน้าของโลแกนเริ่มเปลี่ยนไป เขาเริ่มร้อนรน "ไปที่ไหน!? ตั้งแต่เมื่อไหร่!?"
เมื่อเห็นเขาร้อนรนแบบนั้นอูลเลยบอกให้ใจเย็นก่อน "ใจเย็นก่อน! มีเรื่องอะไร? ปกตินายไม่เป็นแบบนี้นิ?"
โลแกนเริ่มค่อยสงบสติอารมณ์ลง"โทษที เฮ้อ~ แล้วทำไมต้องตอนนี้ด้วย ฉันได้รับรายงานมาว่ามี นัมเบอร์ หลายคนเลยที่มาเที่ยวเล่นภายในเมืองวันนี้ หวังว่าจะไม่เกิดเรื่องอะไรที่มันร้ายแรงก็ดี"
"นายจะไปกังวลทำไม? ในเมื่อกฎก็มีห้ามไว้ไม่ใช่หรอ? ห้ามต่อสู้กันก่อนที่การคัดเลือกจะเริ่ม"
"ที่ฉันเป็นห่วงไม่ใช่เขาแต่เป็นเธอต่างหาก ถ้าไปเที่ยวเล่นคนเดียวมันก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอก"
ในตอนนี้จินกับเซร่าก็มานั่งพักที่ม้านั่ง บริเวณแถวสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ช่วงบ่ายๆสายลมโชยธรรมชาติที่ค่อยพัดอย่างช้าๆนั้นช่างเย็นและเหมาะต่อการพักผ่อนเสียจริง ในระหว่างนั้นเองก็มีคนเดินเข้ามาหาทั้งสอง นั่นคือเฮนรี่เป็นคนเข้ามาทักจินที่นั่งพักกับเซร่า ดูเหมือนว่าเขาจะแตกต่างจากเดิมนิดหน่อย จากผมที่เคยยาวนั้นกลับถูกตัดให้สั้นลง แล้วดูเหมือนว่าร่างกายจะดูโตขึ้นนิดหน่อย
"โอ้~! ไม่เจอกันนานเลยนะ มาพักผ่อนอย่างนั้นหรอ?" จินเป็นคนแรกที่ถาม
"จะว่ายังนั้นก็ได้ พอดีโดนบอกมาแบบนั้นเหมือนกันว่าให้มาพักผ่อน แล้วนายมากับใคร?"เฮนรี่จ้องเขม็งมาที่เซร่าถึงขนดที่ทำให้เธอต้องนั่งก้มหน้าเพื่อหลบสายตาคู่นั้น
"เธอคือคนที่มาคอยแนะนำสถานที่ต่างภายใน "เซนเตอร์" ชื่อเซร่า"
"อย่างนั้นหรอ? จะว่าอะไรไหม? ถ้าผมขอเดินเที่ยวด้วยคน"
"ก็ไม่ว่าอะไรหรอก"
ในขณะนั้นเองก็มีเสียงดังมาจากโทรศัพท์ของเฮนรี่ กริ๊ง~~! เฮนรี่เขาพยายามทำเป็นไม่สนใจและกำลังที่จะวางสาย แต่จินก็พูดขึ้นมา "ไม่รับ...จะดีหรอ? อาจมีเรื่องที่สำคัญก็ได้"
เมื่อได้ยินที่จินพูดเลยจำใจรับสายนั้น "ว่าไง?...แต่ว่า....เข้าใจแล้ว! ขอโทษนะคงไปเดินเที่ยวด้วยกันไม่ได้แล้ว พอดีมีสายมาจาก เฟริส ให้ไปเข้าพบด่วน"
"เฟริสหรอ?"
"เธอเป็นหัวหน้าตระกูลพรีสนะ สนับสนุนฉันอยู่"
"ถ้างั้นโชคดี" จินโบกมือในขณะที่นั่งอยู่ที่ม้านั่ง
เฮนรี่ก็โบกมือกลับ"ผมจะตั้งตารอในวันแข่งนะ" แล้วเดินจากไปจนลับสายตาทั้งสอง
แล้วเซร่าก็พูดขึ้นมาอย่างกล้าๆกลัวๆว่า "นั่นเพื่อนของนายหรอ? ดูอันตรายยังไงไม่รู้?" ทั้งตัวของเธอสั่นราวกับตนเองถูกจ้องเอาชีวิต
"ก็นะ อาจจะกำลังเครียดเรื่องอะไรอยู่ก็ได้ ตอนใกล้สอบหมอนั่นก็เป็นแบบนี้" จินพยายามทำให้เซร่าสบายใจ
"ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดี"
เมื่อเห็นบรรยากาศมันตึงเครียดจินเลยพยายามเปลี่ยนเรื่องคุย "จะว่าไปเดือนมิถุนาแล้วปีนี้ไม่เห็นเกิดขึ้นแฮะ ละอองเกสรดอกไม้จากสวนแถบชานเมือง นอร์ "
ในช่วงเดือนมิถุนาของทุกๆปีมักจะมีละอองเกสรดอกไม้ถูกพัดมาจากทางแถบชานเมืองของนอร์ ทำให้เกิดวิกฤติครั้งใหญ่ผู้คนหลายคนมีอาการแพ้ละอองเกสรอย่างหนักนับล้านคน แต่ก็โชคยังดีที่ไม่มีใครเสียชีวิต....
"จะว่าไปเหมือนว่าปีนี้ไม่มีนะ"
"ปกติมันจะเกิดขึ้นแทบทุกปีเลย เล่นเอาฉันนอนโทรมไปหลายวันเลย"
"ขนาดนั้นเลยหรอ สำหรับฉันนี่แทบไม่รู้สึกว่าเป็นอะไรเลย"
"ดีจังน้า~" จินเอนตัวพิงที่ม้านั่ง แล้วหัวแหงนมองไปข้างหลังแบบกลับหัว สังเกตเห็นกระดาษแผ่นหนึ่งแปะบนต้นไม้ เลยลุกขึ้นไปหยิบมาดู แผ่นกระดาษนั้นดูเก่าแถมตัวอักษรก็เริ่มที่จะจาง อีกทั้งสีก็ซีดเหมือนตากแดดมานาน...
"นายหยิบอะไรมานะ?"
"ไม่รู้เหมือนกัน!"และจินก็เริ่มอ่านข้อความในกระดาษ "เรียกร้องความยุติธรรม การหายตัวไปของคน...อย่างปริศนา โปรดช่วยกันลงชื่อเพื่อให้มีการ....สอบ พวกเราต้องการคำตอบที่ชัดเจน" การอ่านเป็นไปค่อนข้างยากเพราะว่าข้อความมันเลือนราง
"จะว่าไปก็เคยเป็นข่าวเหมือนกัน เรื่องการหายตัวไปอย่างปริศนาของคนไข้ในโรงพยาบาลเมื่อหลายปีก่อน แต่เมื่อลองตรวจสอบตามกล้องวงจรปิดกลับไม่พบอะไรที่ผิดปกติเลยแม้แต่อย่างเดียว ทางผู้เสียหายที่เป็นญาตินั้นพยายามที่จะเรียกร้องความจริงแต่ก็ไม่มีการตอบรับใดๆ ท้ายที่สุดก็ได้รับชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินมหาศาลแทน"
"ค่าปิดปากสินะ!?"
"ใช่! ท้ายที่สุดเรื่องทั้งหมดก็เงียบไปในกลีบเมฆ บ้างก็ว่าพวกคนที่หายไปนั้นถูกจับไปตัดอวัยวะแบ่งขายสู่ตลาดมืด ไม่ก็จับไปทำการทดลองยาแทนสัตว์ในห้องทดลอง แย่ชะมัดเลย สมัยนี้แค่มีเงินกับอำนาจก็ทำได้แทบทุกอย่างแล้ว"
"แล้วเธออยากจะทำยังไรกับคนอย่างนี้ล่ะ?"
"ถ้าจะให้ใช้ด้วยชีวิตมันก็ได้อยู่ แต่เมื่อเทียบกับสิ่งที่พวกมันได้ทำลงไป ก็อยากจะให้พวกมันได้ตายอย่างทรมานมากที่สุดแบบเจ็บจนเจียนตายทั้งๆที่ยังมีลมหายใจอยู่ เพราะว่าคนแบบนี้ความตายมันง่ายไป!"
"เธอนี่โหดเอาเรื่องเหมือนกันนะ แสดงว่าเธอจะฆ่าฉันแบบทรมานสินะ?"
เซร่าหันกลับไปยังจินที่พูดมาแบบนั้น จ้องไปที่ตาของเขา "ไม่เลย ฉันเลิกแล้วละ เพราะว่านายได้เปลี่ยนไปแล้วยังไงล่ะ แล้วฉันเองก็ได้เวลาเปลี่ยนแล้วเช่นกัน" เธอพูดอย่างจริงใจ
"แน่ใจแล้วหรอ? สำหรับเธอแล้วฉันคือคนที่พรากชีวิตอันแสนสุขของพี่ชายเธอไปนะ"
"เปล่าเลย! นายไม่ได้พรากสิ่งใดจากเขาไปเลย แต่ปกป้องสิ่งที่เขารักมากต่างหาก ตั้งแต่ที่พี่ชายเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับนักสู้ใต้ดิน เขาก็ค่อยๆเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ในตอนที่แพ้นายฉันแอบดีใจเล็กน้อยและได้หวังเพียงเล็กน้อยว่าพี่เขาจะกลับมาเป็นแบบเดิม แต่ไม่เลยมันกลับทำให้เขายึดติดหนักกว่าเดิม ทำร้ายร่างกายของพี่แมรี่ในตอนที่เธอตั้งท้องอยู่ ท้ายที่สุดเขาก็มาตายด้วยน้ำมือของนาย ที่จริงแล้วฉันมีเรื่องที่ต้องพูดกับนายให้ได้"
จินมองแล้วตั้งใจฟังที่เซร่าพูดอย่างตั้งใจ
"ฉันไม่ได้เกลียดนายหรอก ที่จริงแล้วเรื่องในคืนนั้นฉันเห็นมันหมดทุกอย่าง แต่ว่ามันผิดที่ฉันไม่กล้าเข้าไปห้ามพี่ชายเอง ฉันต้องขอโทษนายจริงๆที่เรื่องทั้งหมดมันเป็นแบบนี้ก็เพราะฉันเอง...." เธอรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีนั้นพูดออกไปด้วยตัวที่สั่นระริก เนื่องจากตื่นเต้นขนาดที่เสียงหัวใจนั้นดังจนจินได้ยิน ตอนนี้เซร่าหวังแค่เพียงอย่างเดียวคือให้เขายกโทษที่เธอนั้นได้ทำสิ่งไม่ดีกับเขาลงไป ด้วยการสำนึกผิดในครั้งนี้ทำให้เธอไม่กล้าแม้แต่จะสบตามอง
"เซร่า! เธอไม่ได้ผิดสักหน่อย เพราะฉะนั้นแล้วอย่าได้โทษตัวเองอีกเลย"
คำตอบนั้นที่เซร่าได้ยินถึงกับตกใจ "แสดงว่านายจะรับผิดบาปทั้งหมดไว้ที่ตัวเองอย่างนั้นหรอ!? ทั้งที่นายไม่ได้ทำอะไรผิดเลยแม้แต่น้อย ทำไม! ทำไมล่ะ!" เธอแสดงความไม่พอใจขึ้นเสียงใส่ และเขย่าที่ตัวจิน
เมื่อเห็นว่าเซร่าเป็นแบบนั้น จินเลยจับไปที่หัวของเธอแล้วดึงเข้ามาซบที่อกอย่างอ่อนโยนแล้วค่อยๆพูดปลอมเธอ "จากที่ได้ยินมาว่าถ้าทำแบบนี้แล้วเธอจะใจเย็นลง"
"นายรู้เรื่องแบบนี้ได้อย่างไง? คนที่รู้เรื่องนี้มีแต่พี่ชายของฉันเท่านั้น" เซร่าใจเย็นลงกระทั่งเสียงเธอก็เบาลงด้วย เหมือนว่ามันจะได้ผล
"ก็ได้ยินมานะสิ!"
"...."
"ดูท่าแล้วพี่ชายจะเป็นห่วงเธอมากเลยนะ ขนาดก่อนที่เขาจะตายไปยังบอกวิธีทำให้เธอใจเย็นลงกับคุณแมรี่ไว้" จินค่อยลูบหัวจนเซร่าค่อยๆเคลิ้มและเอนหัวลงมานอนที่ตักของเขา
คุณแมรี่ได้เคยเข้ามาคุยกับฉันแล้วครั้งหนึ่ง หลังจากเกิดเรื่องนั้น ได้เกือบ 5 เดือนเธอมาที่ห้องพักของฉันในปัจจุบันที่แถบชานเมือง พร้อมกับตำรวจนายหนึ่งที่มาคอยกำกับเธอไม่ให้เกิดอาละวาดทำร้ายฉัน เหมือนว่าเธอนั้นจะพึ่งพักฟื้นหลังจากคลอดลูกสาวได้ไม่นานนัก เธอเข้ามาชวนฉันให้ออกไปที่แห่งหนึ่งเพื่อที่จะพูดคุยเรื่องบางอย่าง และฉันเองก็ยินดี จนมาถึงที่สวนสาธารณะใกล้แถวนั้น ที่นั่นไม่ได้ใหญ่มาก และมีเสียงเด็กวิ่งเล่นกันหลายคน เพื่อความเป็นส่วนตัวเธอให้ตำรวจที่มาด้วยนั้นเฝ้ามองเธอจากที่ไกลๆจนแทบจะไม่ได้ยินเสียงที่คุยกัน เมื่อแน่ใจแล้วจึงเริ่มเปิดประเด็นขึ้นมา "ที่ฉันมาในครั้งไม่ได้มาเพื่อแก้แค้นแต่อย่างใด แต่มาเพื่อขอโทษที่สามีของฉันทำให้ตัวคุณนั้นเองเดือดร้อน"
"ไม่ได้เดือดร้อนอะไรมากหรอกครับ! แค่ตอนนี้ลำบากเรื่องเงินนิดหน่อย กับปัญหาสุขภาพจิตที่รุมเร้าอย่างหนักจนแทบเป็นบ้า กินอาหารไม่อร่อยแววตาหมองคล้ำราวกับคนดวงตก ถูกสังคมกีดกันและรังเกียจ ปัญหาเล็กน้อยแค่นี้เองครับ"
แมรี่ได้ยินแบบนั้นก็อึ้งไปพักใหญ่แล้วก็ขำออกมา "คิก คิก คิก...ไอ้วิธีการพูดแบบนั้นเหมือนสามีของฉันไม่มีผิดเลย ถ้าไม่ว่าอะไรสนใจมาแม่ม่ายลูกติดไหมคะ?"
"เข้าใจล้อเล่นดีนะครับ...แต่ว่าขอปฏิเสธดีกว่า! ผมไม่มีสิทธิ์ที่จะเป็นพ่อคนหรอก แถมนี่ยังเป็นคนที่ฆ่าพ่อแท้ๆของคุณหนูนั่นอีก" จินพูดด้วยนำเสียงที่เบื่อหน่าย
"น่าเสียดาย!!"
"แต่ก็แสดงความยินดีด้วยนะครับ ที่คลอดลูกได้อย่างปลอดภัย"
"ขอบคุณนะ"
"ว่าแต่เรื่องที่จะพูดมีอยู่แค่นี้หรอครับ? อุส่าเสียเวลามาหาถึงแถบชานเมืองแบบนี้"
"เปล่าหรอก! ที่จริงยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่อยากจะขอร้องเธอ"
"จะทำเท่าที่ทำได้ครับ...ถือซะว่าเป็นการไถ่โทษที่ได้พรากคนสำคัญของคุณไป"
"หยุดเลยนะ!...อย่ามองว่าตัวเองผิดอยู่คนเดียวสิ" แล้วแมรี่ก็ค่อยก้มหัวลงขอร้องบางอย่างกับจิน "นี่เป็นสิ่งเดียวที่ฉันขอร้อง ได้โปรดอย่าได้โกรธเกลียดเซร่าได้ไหม?"
"ทำไมล่ะ?"
"เซร่าเองก็ไม่ได้เป็นคนเลวร้ายตั้งแต่กำเนิด เพราะมีเพียงแค่เธอกับเขาเท่านั้น แล้วก็เรื่องนี้อย่าไปบอกเธอเด็ดขาดเลยนะ สัญญาได้ไหม?" แมรี่ พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ตอนนั้นฉันเองก็ไม่อยากจะสัญญาเท่าไหร่ เพราะว่าตนได้เคยผิดคำสัญญาไปแล้วรอบหนึ่ง แต่เมื่อเห็นสีหน้าที่จริงจังของเธอแล้วก็เลยเลือกที่จะตอบกลับไป "ครับ!... ผมสัญญา"
"ค่อยยังชั่ว ตอนแรกก็นึกว่าเธอจะเป็นคนโหดร้ายกว่านี้ซะอีก"
"นี่ข่าวลือเกี่ยวกับตัวของผมมันออกทะเลไปถึงไหนแล้วนิ?"
"บ้างก็ว่าเป็นพวกอารมณ์ร้อน ใช้แต่กำลังตัดสินปัญหา และก็เป็นพวกหื่นกามบ้าผู้หญิง"
"โหดร้าย! นี่ผมกลายเป็นอาชญากรไปแล้วหรือนี่!?"
"แต่ตอนนี้เข้าใจแล้ว! เธอก็เป็นเหมือนอย่างทั่วไป" แมรี่พูดอย่างยิ้มแย้ม
"แล้วต่อจากนี้คุณจะทำยังไงต่อ? มันลำบากมากนะครับที่จะเลี้ยงลูกด้วยตัวเพียงคนเดียว"
"นั่นสินะ ในเมื่อเธอไม่ยอมมาเป็นพ่อแทน สุดท้ายแล้วคงต้องไปเป็น ซิสเตอร์ ปกระจำโบสถ์เท่านั้นแหละ เหมือนว่าจะมีคนรวยใจดีท่านหนึ่งเขาอยากทำบุญโดยการเปิดสถานที่รับเลี้ยงกำพร้า และนี่ก็เป็นโอกาสที่ดีด้วยที่ฉันจะได้ทั้งทำงานกับดูแลลูกของฉันไปด้วย อ๋อ! จะว่าไปลืมบอกไปเลยว่าเธอชื่อ "ริเอล" เป็นเด็กผู้หญิงที่ค่อนข้างน่ารักเลยล่ะ"
แล้วเสียงนาฬิกาก็ดังขึ้นมา "ตายแล้ว!นี่มันก็ถึงเวลาแล้วนี่ พูดเพลินไปหน่อย ก่อนที่ฉันจะไปขอบอกวิธีที่ทำให้เซร่าใจเย็นลงแล้วกัน เพื่อในอนาคตพวกเธอสองคนจะคืนดีกัน" แล้วแมรี่ก็เข้ามากระซิบที่ข้างหูของจินเบาๆถึงวิธีการทำให้เซร่าสงบสติลง
ดีจริงๆที่ได้ผล...หลับไปแล้วงั้นหรอ? ช่วยได้ละนะ! นั่งรอสักประเดี๋ยวให้เธอตื่นแล้วกัน เธอนั้นไม่ได้ทำอะไรผิดไปหรอก เพราะฉันไม่ได้โกรธเธอเลยแม้แต่น้อย ตั้งแต่ที่ได้สัญญากับ คุณ- แมรี่ ไว้แล้ว เพียงแต่สิงที่ชายคนนั้นทำให้เธอต้องมาสูญเสียพี่ชายของเธอไป คือ "ราอูล"ถึงแม้จะทำตัวเป็นแมวมองที่คอยจัดหานักสู้เข้าไปในลานประลอง แต่เบื้องหลังหมอนั่นเองที่เป็นคนขายยาเสพติดให้กับคนในบริเวณนั้น ไม่เพียงแต่นักสู้เท่านั้น แต่รวมไปถึงเด็กเล็กน้อยที่มันก็ได้ขายให้ ที่รู้มาเพราะว่าตำรวจคนที่มาด้วยกันในตอนนั้นบอกกับฉัน ผลจากการตรวจร่างกายดูแล้วมีสารเสพติดอยู่ในกระแสเลือด เซร่าน่าจะไม่รู้ว่าพี่เธอใช้ยา และคุณแมรี่เองก็เช่นกัน...แต่ถ้าไม่ได้ใช้ยาที่บ้านแสดงว่าได้รับจากอีกที่หนึ่ง นั่นก็คือ ที่สนามประลอง...
พอรู้เรื่องทั้งหมดฉันได้ลองติดต่อเบอร์ของ "ราอูล" ไปแต่ไม่มีสายตอบรับแต่อย่างใด ถึงแม้จะมีสนามประลองใต้ดินอยู่แต่ว่าก็แทบไม่มีใครพบเขาเลย มีเพียงแค่คนใหญ่คนโตเท่านั้นที่จะรู้ว่าเขานั้นอยู่ที่ไหน? วิธีสุดท้ายจำเป็นต้องชนะ หอคอยบาเบล นับหลายสมัยจนได้รับความไว้วางใจ แต่ว่าฉันได้สูญเสียสิทธิ์นั้นไปแล้ว ทว่ามันยังไม่จบหรอก ถ้าเกิดว่าฉันได้ให้เฮนรี่ชนะแล้วขึ้นเป็นราชาได้ละก็ เวลานั้นแหละมันจะต้องชดใช้อย่างสาสม "ราอูล"
ไฟแค้นของจินตอนนี้เขาได้ตั้งมั่นปฏิญาณอย่างแรงกล้าว่าจะล้างแค้นแทนพี่ชายของเธอเอง สักพักหนึ่งเหมือนว่าเซร่าเธอจะนอนละเมอ "อย่า...ไปไหนอีกนะ...พี่ชาย"
ขณะนั้นความแค้นของเขาก็ได้หายไป แล้วเอามือลูบหัวของเซร่าอย่างอ่อนโยนไปเรื่อยๆ จนกว่าเธอจะตื่น....
"ฉันจะปล่อยให้เธอรู้เรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาด!! ไม่อย่างนั้นชีวิตที่สงบสุขของเธอนั้นจะไม่วันมาถึงขอให้ฉันเป็นคนเดียวที่ทำให้มันจบทีเถอะ"