webnovel

ณ ทรงวาด

Author: samuthra
History
Ongoing · 21.1K Views
  • 34 Chs
    Content
  • ratings
  • NO.200+
    SUPPORT
Silver Prize for WSA 2022 ContestSilver Prize for WSA 2022 Contest
Synopsis

คนอื่นเขาได้ย้อนเวลาไปเป็นฮองเฮา เป็นเจ้าหญิงเป็นลูกเป็นหลานคุณนาง แต่เหมยกุ้ยคนนี้ดันซาลาเปาติดคอจนได้ย้อนเวลา แต่ก็ย้อนไปเป็นคนหมดตัว โชคดีที่อะไรบางอย่างดนบันดาลให้เธอเจอกับ เฟยเจิน เจ้าของร้านของของชำ ที่ไม่เล็กบนถนนทรงวาด ถึงกระนั้น พบเจอโลกใหม่ได้แค่วันเดียวก็ต้องจับพลัดจับผลูไปช่วยสืบคดี (เกือบ) ฆาตกรรมที่เกิดขึ้น ตรวจลายนิ้วมือก็ไม่มี ตรวจดีเอ็นเอก็ทำไม่ได้ งานนี้เธอจะทำอย่างไรกับเรื่องราวความรัก ความเศร้า ความแค้น ที่เกิดขึ้น ณ ทรงวาด

Chapter 1อารัมภบท

เหมยกุ้ย แปลว่าดอกกุหลาบ

แต่ดอกกุหลาบดอกนี้ไม่ใช่ดอกกุหลาบที่มีหนามไว้แทงคนอื่น แต่กลับเป็นดอกกุหลาบที่ถูกหนามของตัวเองแทงตัวเองจนเจ็บซะมากกว่า ถ้าเป็นภาษาที่จะเข้าใจง่ายๆก็คง สู้ชีวิต แต่ชีวิตสู้กลับจนน่วม

เหมยกุ้ยชอบงิ้วมาตั้งแต่ยังเล็ก และพ่อแม่ของเธอก็สนับสนุน พาไปดูงิ้วอยู่ตลอด จนกระทั่งช่วงมัธยมปลายเพียงไม่นานก่อนเธอจะก้าวออกจากชีวิตการเป็นนักเรียน และไปเรียนต่อด้านงิ้วที่เมืองจีน โชคชะตาก็ใจร้ายกับเธอเกินไป

เพราะมันพรากพ่อและแม่ของเหมยกุ้ยไปอย่างไม่มีวันกลับ

ทิ้งเหมยกุ้ยไว้เพียงลำพัง กับทรัพย์สินที่เพียงพอแค่ตั้งตัว ให้เปิดร้านขายอุปกรณ์ตัดเย็บที่สำเพ็ง แต่ไม่เพียงพอที่จะส่งเธอไปตามหาความฝัน

อย่างน้อยโชคชะตาก็ยังเข้าข้างเธอให้กิจการไปได้ดี

เหมยกุ้ยตัดสินใจพาความฝันอันสวยงาม มาพบกับความจริงที่โหดร้ายของชีวิต เธอตัดสินใจเพิ่มบริการรับซ่อมเสื้อผ้า ด้วยของที่เธอขายในร้านนั่นแหละ

แต่เศรษฐกิจแบบนี้ เหมือนว่าขายของอย่างเดียวจะไม่พอ ก็รับซ่อมเสื้อผ้า สอนตัดเย็บพื้นฐานไปเลยสิคะ

แต่มันก็ทำให้ไฟของความฝันอันริบหรี่ของเธอ ยังไม่ดับลงไปในทุกๆครั้งที่โรงงิ้วใกล้ๆ เอาเสื้อผ้ามาให้เธอช่วยซ่อมแซม ขอเพียงได้จับชุดงิ้ว เหมยกุ้ยก็สุขใจ

เพราะถ้าจะไปดูงิ้วที่โรงงิ้วก็ต้องเสียเงิน หรือไม่ก็รอตรุษจีน เหมยกุ้ยไม่กล้าใช้เงินกับเรื่องที่ไม่จำเป็นตั้งแต่พ่อกับแม่ของเหมยกุ้ยจากไป

แต่นั่นไม่ใช่กับเรื่องกิน

เหมยกุ้ยมีร้านซาลาเปาที่ชอบอยู่ร้านหนึ่ง ที่เธอยอมเสียเงินที่ได้มาอย่างยากลำบากให้ร้านนั้นทุกครั้ง ตัวเธอเองก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมถึงชอบร้านนี้ขนาดนี้ เหมือนผูกพันกันอย่างประหลาด

แต่เหมยกุ้ยก็คิดว่าเธอน่าจะแค่ชอบกิน

คือชอบถึงขนาดที่แม่ค้าที่ร้านซาลาเปาพูดกับเธอเลยว่า

"เหมยกุ้ย ที่บ้านมีซึ้งมั้ยลูก"

"มีค่ะคุณน้า ทำไมหรือคะ"

"ไปซื้อแบบส่งที่แถวทรงวาดมั้ย แล้วนึ่งเองที่บ้าน เดี๋ยวน้าบอกวิธีนึ่งให้"

"มีร้านขายส่งด้วยหรอคะ"

"ใช่ลูก ลองไปดูตรงทรงวาดนะ ร้านตรงนั้นจะชื่อเตียท่งเซ้งนะ ร้านตรงนั้นทำซาลาเปามาเกือบร้อยปีละ"

"เกือบร้อยปี นี่มันก็ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ห้ามั้ยคะ"

เหมยกุ้ยถามด้วยความที่มีงานอดิเรกเป็นการอ่านหนังสือประวัติศาสตร์ที่คุณพ่อชอบเก็บสะสมไว้ในห้องหนังสือเล็กๆในบ้าน

"เอ้อ น้าก็ไม่รู้แฮะ อาจจะประมาณนั้น ลองไปดูละกันลูก เพราะน้าก็ไม่แน่ใจนะว่าเขาจะขายน้อยสุดเท่าไหร่ อ่ะ อันนี้ที่หนูสั่งของวันนี้"

คุณน้ายื่นถุงใส่ซาลาเปาสามสี่ลูกมาให้กับเหมยกุ้ย ก่อนที่จะหันไปหยิบเงินทอนให้

"ขอบคุณค่ะ ไว้เดี๋ยวหนูลองไปดูนะคะ"

หลังจากวันนั้น เหมยกุ้ยก็ไม่เคยแวะไปที่ร้านบนถนนเจริญกรุงอีกเลย เพราะเธอตัดสินใจที่จะซื้อทีละเยอะๆ มานึ่งที่บ้านเอง ถูกกว่าเป็นไหนๆ

คนแสนงกอย่างเหมยกุ้ยล่ะชอบจริงๆ

เหมยกุ้ยสนิทกับลูกจ้างร้านทำซาลาเปาในเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังไปซื้อครั้งแรก เพราะได้รู้ตอนวันที่ไปซื้อครั้งแรกนั่นล่ะ ว่าเฮียเป็นแฟนกับเจ๊ลูกค้าประจำร้านขายอุปกรณ์ตัดเย็บของเธอ วันนี้เหมยกุ้ยจึงตัดสินใจที่จะถามคำถามที่สงสัยมานานกับพี่เขา

"เฮีย"

"เอ้า เหมยกุ้ย ลื้อมีอะไร ได้ซาลาเปาไม่ครบรึไง"

พูดจบอีกคนก็ขำออกมาเบาๆ

"ไม่ใช่ หนูอยากรู้ว่ามันกินแบบนี้ได้มั้ย"

พูดพลางเหมยกุ้ยชูถุงใส่กล่องซาลาเปา

"กินแบบไหน"

"แบบที่ยังไม่นึ่งอ่ะ"

"เห้ย ลื้ออย่าเล่นแผลงๆ"

"อ้าว ก็เฮียเคยบอกว่ามันสุกแล้ว"

"แต่มันยังกินไม่ได้"

"สุกแล้วก็ต้องกินได้สิ"

"ไม่ได้ ไอ้หยา เดี๋ยวลื้อก็ได้ท้องเสียหรอก"

"หนูลองเลยละกัน"

"เห้ย!! อาเหมยกุ้ย"

พี่ลูกจ้างคนนั้นตะโกนร้องขึ้นเมื่อเหมยกุ้ยกัดซาลาเปาที่ยังไม่นึ่งเข้าไปจนเต็มปาก ก่อนที่จะหลุดขำออกมาเมื่อเห็นเด็กสาวตรงหนาทำหน้าตาเหมือนจะร้องไห้

"เฮีย อันไอ้อะอ่อยเอยอ่ะ"

"อะไรนะ"

เหมยกุ้ยฝืนกลืนเข้าไปนิดนึงเพื่อให้พูดง่ายขึ้น

"มันไม่อร่อยเลยอ่ะ"

"ก็ถ้ากินแบบนี้มันอร่อยเค้าจะเอาไปนึ่งมั้ยล่ะเหมยกุ้ยเอ้ย เอ้า นั่งรอตรงนี้ เดี๋ยวไปหาน้ำมาให้"

"ขอบคุณนะเฮีย"

เหมยกุ้ยมองอีกคนเดินเข้าไปทางหลังร้าน ระหว่างนั้นเธอก็พยายามเคี้ยวซาลาเปาที่กัดเข้าไปเต็มคำ แล้วก็กล้ำกลืนฝืนทน จนซักพักเธอรู้สึกว่ามันมีอะไรแปลกๆ

และสามวินาทีหลังจากนั้น เหมยกุ้ยก็ได้รู้ว่า

ซาลาเปาติดคอ

เหมยกุ้ยไอเท่าไหร่มันก็ไม่ยอมออกมา ทำได้เพียงคิดในใจว่าไม่น่าหาทำกินซาลาเปาที่ยังไม่นึ่งเลย เธอไอจนเจ็บคอ ทรมานเพราะเริ่มหายใจไม่ออก

เสียงไอของเหมยกุ้ยดังจนพี่ที่วิ่งไปเอาน้ำให้ถึงกับต้องรีบวิ่งออกมา

แต่ดูท่าเขาคงจะวิ่งช้าเกินไป เพราะเหมยกุ้ยล้มลงไปกับพื้นแล้ว ตอนนี้สติสัมปชัญญะส่วนสุดท้ายได้ยินเพียงเสียงคนตะโกนบอกให้เรียกปอเต๊กตึ๊งกันจ้าล่ะหวั่น

แต่ทำไมซักพักเสียงเรียกปอเต๊กตึ๊ง มันถึงกลายเป็นเรียกชื่อไต้ฮงกงไปได้กันนะ

ไต้ฮงกง คือใคร คืออะไร คนจะตายอยู่แล้วทำไมต้องเรียก

ยังไม่ทันไร เหมยกุ้ยกู้สึกเหมือนมีคนยกตัวเหมยกุ้ยอุ้มขึ้นมา แล้วกระแทกกำปั้นเข้าไปที่หน้าอกอย่างแรง ถึงได้รู้สึกว่าไอก้อนซาลาเปานั่นออกจากปากไปแล้ว

สิ่งแรกที่ได้ยินหลังซาลาเปาหลุดจากปากคือ

"ขอบคุณมากนะพ่อฝาหรั่ง ถ้าไม่ได้วิธีแบบที่ลื้อบอกว่าพวกฝาหรั่งใช้เวลาเศษอาหารติดคอ เหมยกุ้ยอีคงตายไปแล้ว เอ้า ใครก็ได้วิ่งไปบอกคนที่วิ่งไปไต้ฮงกงทีไป ว่าไม่ต้องมาละ อีหายละ"

สิ่งที่เหมยกุ้ยเห็นตอนนี้คือ ฝรั่งตาน้ำข้าวหนึ่งอัตรา คุณลุงที่หน้าคล้าย แต่ไม่เหมือนเจ้าของร้านซาลาเปาหนึ่งอัตรา และคนมากมายล้อมรอบตัวเธอ

ก็คงไม่น่าตกใจเท่าไหร่หรอก ถ้าคนรอบข้าเธอไม่ใส่ผ้ารัดอกกับโจงกระเบนบ้าง เสื้อแขนหมูแฮมบ้าง เสื้อราชปะแตนบ้าง สไบบ้าง

นี่ฉันอยู่ไหน งานอุ่นไอรักกลางลมหนาวรึเปล่า

"เหมยกุ้ยเอ้ย อั๊วบอกแล้วว่าอย่ากินซาลาเปาที่ยังไม่นึ่ง"

คุณลุงที่ยืนอยู่หน้าซึ้งนึ่งซาลาเปาพูดขึ้น

เหมยกุ้ยยังคงสับสน แต่ก็ตอบเจ้าของร้านไป เพราะคิดว่าคงมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นตอนเธอมีซาลาเปาติดคอ

ก็เห็นเรียกว่าเหมยกุ้ยแถมยังซาลาเปาติดคอ มันก็ต้องคนเดียวกันสิ ประชากรบนโลกนี้ที่ชื่อเหมยกุ้ยและซาลาเปาติดคอนี่มันจะมีกี่คนกันเชียว

"ก็เห็นร้านเจ็กเปิดมาเป็นร้อยปี หนูก็คิดว่าจะอร่อยถึงขั้นกินได้ตั้งแต่ยังไม่นึ่ง"

"เหมยกุ้ย ลื้อพูดอะไร"

"อะไรนะคะ"

"อั๊วเพิ่งเปิดร้านได้ปีกว่า ลื้อมาร้อยปงร้อยปีอะไร"

"อะไรนะคะ"

เหมยกุ้ยเริ่มคิดแล้วว่ารอบข้างเธอมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากล จึงลองถามออกไปเล่นๆ เผื่อจะได้ย้อนเวลาแบบในละครทีวีบ้าง

"นี่พ.ศ.อะไรคะเนี่ย"

"ไอ้หยา แค่ซาลาเปาติดคอ ลื้อถึงกับความจำเสื่อมเลยหรอ นี่ปี2455 ไง"

"อะไรนะคะ"

การที่ซาลาเปาติดคอนี่ก็นับเป็นวิธีการย้อนเวลาหรอวะ

You May Also Like

แม่สื่อกำมะลอ

ในฐานะที่ได้ทะลุมิติเข้ามาอยู่ในโลกนิยายที่ตัวเองชื่นชอบ เฉินเจียหลิงคิดว่าเธอคงนับได้ว่าเป็นนางเอกคนหนึ่งเหมือนกัน นางเอกทะลุมิติหลายคนไม่มีพลังวิเศษก็เกิดมาในตระกูลสูงส่ง ไม่เป็นหมอหญิงที่เก่งกาจเกิดปลูกผักค้าขายจนร่ำรวย แต่เฉินเจียหลิงเป็นผู้หญิงธรรมดา ๆ มีความสามารถธรรมดา ๆ เธอจึงต้องลงเอยด้วยอาชีพที่อาศัยฝีปากและคารมคมคายที่พอจะมีอยู่บ้าง...แม่สื่อ! เฉินเจียหลิงไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเธอจะมีพรสวรรค์ด้านนี้อยู่เหมือนกัน ว่าแต่ว่า...จับคู่ให้คนอื่นไปก็มาก แล้วเธอจะมีโอกาสเจอพระเอกของตัวเองกับเขาบ้างไหมนะ? โอวหยางฮ่าวหรานเคยคิดว่าชีวิตของตนปราศจากสิ้นแล้วซึ่งความสดใสและสีสันอันงดงาม เสมือนละครฉากหนึ่งที่เริ่มต้นด้วยความเจ็บปวด ดำเนินเรื่องด้วยความรวดร้าว และจบลงด้วยความชืดชา เขาตั้งใจจะใช้ชีวิตเช่นนี้ไปจวบจนวันสุดท้าย เพียงเฝ้ามองโลกอันสวยงามของผู้อื่นจากที่ห่างไกล ดุจเมฆาที่เคลื่อนคล้อยผ่านไปตามกาลเวลา วันที่โอวหยางฮ่านหรานได้พบเฉินเจียหลิงเป็นวันท้องฟ้าสดใส ปราศจากหมู่เมฆ และเป็นวันที่เปลี่ยนแปลงตอนจบของละครฉากนี้ไปตลอดกาล

ChenNa · History
Not enough ratings
4 Chs

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

นิยายโรแมนติก-แฟนตาซีของคุณหนูใหญ่ผู้เป็นเลิศด้านการแพทย์และการทำนายชะตาแต่แสนเกียจคร้านไม่อยากก้าวหน้าผู้หนึ่ง ฉินหลิวซี คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลฉิน นางเติบโตที่ชนบท ได้รับการเลี้ยงดูจากเจ้าอารามของลัทธิเต๋าเพื่อปลูกฝังให้นางขึ้นเป็นเจ้าอารามต่อไป เบื้องหน้านางอาจเป็นเพียงคุณหนูที่ถูกผลักไสแต่เบื้องหลังนางคือปรมาจารย์ปู้ฉิว ผู้ที่สามารถรักษาคนเป็นช่วยเหลือคนตายได้เพียงใช้ยันต์กระดาษและเข็มเงิน ปรมาจารย์จะรักษาโรคและช่วยชีวิตใครนั้นล้วนขึ้นอยู่กับอารมณ์ โชคชะตา และเวรกรรม หากอีกฝ่ายเป็นคนชั่วร้าย ต่อให้มอบทองสักหมื่นตำลึงนางก็ไม่เหลือบแลแม้เพียงนิด เมื่อโชคชะตาที่ตนเคยทำนายให้ตระกูลกลายเป็นจริง ท่านปู่ถูกปลดจากตำแหน่ง บ้านโดนยึดทรัพย์ ผู้หญิงและเด็กในตระกูลต้องระเหเร่ร่อนมาอาศัยที่บ้านบรรพบุรุษแห่งนี้ เมื่อมีปากที่ต้องกินข้าวเพิ่มขึ้น เงินออมเริ่มร่อยหรอ ตัวขี้เกียจเช่นนางก็จำต้องคลานลงจากเตียงเพื่อรับงานหาเงินมาเลี้ยงคนในครอบครัว เฮ้อ แม้ไม่หวังการก้าวหน้าใดๆ แต่สวรรค์กลับไม่ยอมให้ทำเช่นนั้นเพราะเมื่อความโด่งดังของนางไปเข้าหูของ ฉีเชียน จวิ้นอ๋องจากเมืองหลวงเข้า เขาก็ดั้นด้นเดินทางมาเชิญนางไปรักษาคน เอาเถอะ ช่วยเหลือคนนั้นย่อมเพิ่มบุญกุศลที่สำคัญคือเพิ่มเงินในกระเป๋า! “เอ๊ะ คุณชายฉีมีเรื่องให้ครุ่นคิดเมื่อคืนจึงนอนหลับไม่สบายหรือ” “ฝันร้ายตลอดทั้งคืนน่ะ” “ไม่เป็นไร คุณชายฉีแค่มีเรื่องให้คิดมากในยามกลางวัน ท่องคาถาชำระจิตสักสองรอบก็จะดีขึ้นเอง” “ข้าคิดว่า ถ้าท่านหมอฉินให้ยันต์คุ้มครองแก่ข้าสักสองชิ้นน่าจะได้ผลดีกว่า” ฉีเชียนเอ่ย “ยันต์คุ้มครองมีเงื่อนไข ผู้มีวาสนาจึงจะได้ไป...” ฉีเชียนยื่นตั๋วเงินจำนวนหนึ่งร้อยตำลึงไปให้อย่างรู้ความ “เดิมทีท่านกับข้าไม่มีวาสนาต่อกัน ทั้งหมดเป็นเพราะท่านทุ่มเงิน ผู้ใจบุญมีเมตตา เทียนจวินคุ้มครองให้พรนับไม่ถ้วน” “....” *** ลิขสิทธิ์ถูกต้องภายใต้บริษัท Ink Stone Entertainment *** ได้รับลิขสิทธิ์ออนไลน์ (Digital license) สำหรับแปลขายลงบนเว็บไซต์ได้อย่างถูกลิขสิทธิ์ 100% เจ้าของลิขสิทธิ์ต้นฉบับ : China Literature เรื่อง : คุณหนููใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า ผู้เขียน : เยี่ยนเสี่ยวม่อ (燕小陌) [大小姐她总是不求上进] / [燕小陌] ©2023 Ink Stone Entertainment Co., Ltd. All rights reserved. Thai translation rights arranged with China Literature by Ink Stone Entertainment Co., Ltd. คุณหนููใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า จำนวนตอนต้นฉบับจีน 642 ตอน

เยี่ยนเสี่ยวม่อ (燕小陌) · History
Not enough ratings
39 Chs

ปฏิญญาค่าแค้น

หลินหลัน ทะลุมิติมาเกิดใหม่ในคราบของหญิงสาวชาวบ้านที่แสนลำบากยากจน แต่โชคยังดีที่ความสามารถด้านการแพทย์และประสบการณ์รักษาผู้คนที่สั่งสมมาจากศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดนั้นติดตัวมาด้วย อีกทั้งครอบครัวในชาติภพนี้ก็ดีกับนางมิใช่น้อย กระนั้นเคราะห์ร้ายก็ยังคืบคลานเข้ามา เมื่อพี่ชายผู้เป็นที่พึ่งพาเดียวของนางนั้นใสซื่อจนไม่อาจตามทันเล่ห์กลของพี่สะใภ้ที่แสนโลภมาก สุดท้ายแล้วหลินหลันก็ถูกนางบีบบังคับให้ต้องออกเรือนแต่งงานไปเป็นนางบำเรอจนได้ ด้วยเหตุนี้นางจึงต้องดึงตัว หลี่ซิ่วฉาย ชายหนุ่มรูปงามผู้มีเบื้องหลังเป็นปริศนาในหมู่บ้านเข้ามาช่วยแก้สถานการณ์ ทั้งสองได้ตกลงทำสัญญาขึ้นมาหนึ่งฉบับ เขาช่วยนางให้หลุดพ้นจากการคลุมถุงชน ส่วนนางจะช่วยเขาแก้แค้นและทวงทุกสิ่งอย่างที่ถูกพรากไปกับคืนมาภายในระยะเวลาสามปี ทว่าแผนการช่วยเหลือเขาให้บรรลุเป้าหมายนั้นกลับไม่ง่ายดายอย่างที่คิดนี่สิ…

จื่ออี281 · History
Not enough ratings
339 Chs

ระบบห้ามฆ่าตัวตายบังคับให้เป็นอาจารย์ของตัวร้าย

บทนำ "อยากตาย" เป็นคำพูดของคนที่ไม่ต้องการจะมีชีวิตอยู่บนโลกนี้อีกต่อไปแล้ว หญิงสาวนามฟางเซียนพบกับความลำบากและความเหนื่อยยากของการมีชีวิตอยู่บนโลกนี้มาแล้ว น้องสาวคือสิ่งเดียวที่ทำให้เธอพยายามดิ้นรนที่จะมีชีวิต แต่เมื่อไม่นานมานี้น้องสาวของเธอก็เพิ่งจะตายไปเพราะโรคร้าย เธอจึงคิดว่าตัวเองไม่มีเหตุผลที่จะมีชีวิตอยู่บนโลกนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะงั้นเธอจึงพยายามฆ่าตัวตาย... เธอพยายามฆ่าตัวตายมากกว่าสิบครั้งด้วยกัน ผลน่ะหรือ? ล้มเหลวน่ะสิ!! ถ้าสำเร็จเธอคงไม่ต้องมานั่งคิดว่าวิธีตายใหม่แบบนี้หรอก!! "ดื่มยาพิษ กรีดข้อมือ โดดน้ำ โดดตึก ขนาดนี้แล้วทำไมฉันยังไม่ตายอีก!! สวรรค์ ไม่สิ นรกไม่อยากรับคนเพิ่มรึไง!! " ฟางเซียนกรีดร้องอย่างหนักราวกับคนบ้า ในตอนนั้นเองบางสิ่งก็ได้ปรากฏต่อหน้าเธอ [สวัสดีคุณฟางเซียน ผมคือระบบห้ามฆ่าตัวตาย ต่อจากนี้ไปคุณต้องถูกผูกมัดกับระบบห้ามฆ่าตัวตาย กฎของระบบห้ามฆ่าตัวตายที่หนึ่งคือ ห้ามฆ่าตัวตาย กฎที่สองคือ ห้ามฆ่าตัวตาย กฎที่สามคือ ห้ามฆ่าตัวตาย] "...." มองหน้าต่างระบบตรงหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า ฟางเซียนหันไปหยิบมีดขึ้นมาเตรียมฆ่าตัวตายต่อ แต่จู่ๆ ร่างกายของเธอก็ไม่สามารถที่จะขยับได้อีกราวกับว่ามีบางอย่างเข้ามาควบคุมร่างกายของเธอ [คุณจะไม่สามารถฆ่าตัวตายได้จนกว่าจะมีอายุครบหนึ่งหมื่นปี โปรดเข้าใจด้วย] "เข้าใจมารดาแกสิ!! หมื่นปีเรอะ! ใครจะอยากอยู่นานขนาดนั้นกัน! " [มนุษย์] "เออ! แต่พอดีฉันเป็นมนุษย์ต่างดาวจากดาวเนปจูน ฉันจะฆ่าตัวตาย!! " [กฎคือห้ามฆ่าตัวตายเด็ดขาด เนื่องจากสถานที่รอเกิดเต็มแล้ว หากคุณต้องการฆ่าตัวตายคุณต้องทำภารกิจให้สำเร็จ ภารกิจแรก เป็นอาจารย์ของตัวร้ายสูงสุด ภารกิจที่สองจะตามมาในอีกร้อยปีต่อมา และอีกหนึ่งร้อยปีต่อไปภารกิจที่สามจะตามมา และอีกร้อยๆ ปีต่อมาภารกิจที่สี่ก็จะตามมา] "....ไปตายซะไอ้ระบบเฮงซวย!! " ....................................................................... ฟางเซียนต้องการที่จะฆ่าตัวตายเพราะมันคือทางที่เธอได้เลือกแล้ว ตายไปทุกอย่างที่ผ่านมาก็จะเป็นเพียงภาพลวงตา เธอจะได้เกิดใหม่โดยที่ใหม่ต้องจำอะไรได้อีก เพียงแค่ตายเธอก็จะได้เห็นโลกใบใหม่แล้ว! แต่ทำไมระบบห้ามฆ่าตัวตายถึงไม่ยอมให้เธอตายสักที!! ขัดขวางการฆ่าตัวตายของเธอไม่พอมันยังลากเธอไปโลกจีนโบราณและบังคับให้เธอรับตัวร้ายในอนาคตเป็นลูกศิษย์!! ใครก็ได้ช่วยฆ่าเธอทีเถอะ!! ในภายหลังฟางเซียนพยายามคิดหาวิธีฆ่าตัวตายมากมาย ...................................................................... ระบบ: กฏที่หนึ่งคือห้ามฆ่าตัวตาย กฏที่สองคือห้ามฆ่าตัวตาย กฏที่สามคือห้ามฆ่าตัวตาย คนอยากตาย: ......ระบบเวร!! ระบบ: เพื่อความอมตะคุณต้องฝึกตนเป็นมาร ไม่ต้องห่วงระบบจะเติมทรูให้เอง! คนอยากตาย: ไม่อยากเป็นอมตะโว้ย!! ระบบ: ไม่ต้องห่วงเรื่องเงิน! ระบบมีเงินพร้อมที่จะเปย์คุณ *โปรยเงิน คนอยากตาย: .....

PATPIMON · History
Not enough ratings
2 Chs

ข้ากลายเป็นสาวใช้ของแม่ทัพหนุ่ม

องค์หญิงอวี้หลัน องค์หญิงน้อยผู้แสนอาภัพ แห่งแคว้นโหย่ว ในวัยเพียงแปดชันษา พระองค์ต้องเผชิญชะตากรรมที่แสนเศร้าและเจ็บปวด ทั้งการกลั่นแกล้ง ใส่ความให้ร้ายของเหล่าคนรอบกาย เพื่อหวังจะยึดครองตำแหน่งองค์หญิงสุดที่รักจากท่านอ๋องใหญ่บิดาของนาง ซึ่งเป็นถึงองค์ รัชทายาทของแคว้นโหยว ความโชคร้ายไม่จบสิ้น มีคนร้ายได้ลอบวางยาพิษลงในสระน้ำส่วนตัวขององค์หญิงน้อย ทำให้นางต้องจบชีวิตลงในชั่วพริบตาที่สูดดมกลิ่นหอมพิษ ซึ่งโชยขึ้นมากับไอน้ำ ก่อนที่จะสิ้นใจตายพระนางได้อธิษฐานว่า ถ้าหากได้เกิดใหม่ ตนก็ปรารถนาเกิดเป็นคนธรรมดา แม้จะไม่ได้ยศถาบรรดาศักดิ์ใด ๆ ไม่มีชีวิตที่สบาย ไม่ร่ำรวยเงินทองอย่างที่เคยเป็น ก็ยินดีเช่นนั้น และแล้ว องค์หญิงน้อยก็ได้สิ้นพระทัยลงต่อหน้าธารกำนัลทุกคน ตลอดช่วงชีวิตที่มีมา องค์หญิงน้อยพบว่าไม่เคยมีใครสักคนที่รักนางจริงแม้แต่คนเดียว แต่พระนางคิดผิด... สิบปีผ่านไป องค์หญิงผู้แสนอาภัพ ได้มีชีวิตใหม่ในนาม ฟ่งหลันหลั่น หญิงสาวชาวยุทธ์ทั่วไป แม้ฝีมือด้านวิทยายุทธ์จะไม่เก่งกาจมากนัก แต่นางนั้นเปี่ยมไปด้วยน้ำใจและคุณธรรมหาผู้ใดเสมอเหมือนได้ ด้วยนิสัยรักความยุติธรรมมากเกินไป นางจึงมักเข้าไปยุ่งเรื่องของคนอื่นอยู่หลายครั้ง จนมีครั้งหนึ่ง ฟ่งหลันหลั่นได้เกิดพลาดพลั้งเสียทีให้กับศัตรูที่ตามมาแก้แค้น หนึ่งในคนพวกนั้นได้ใช้อาวุธลับ ซัดใส่นางเองจนนางถูกพิษชนิดหนึ่งเข้า และทำให้สูญเสียวรยุทธ์ไปชั่วคราว พอรู้สึกตัวอีกที ฟ่งหลันหลั่นก็ได้กลายมาเป็นสาวใช้คนใหม่ของจวนแม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นโหย่ว แม่ทัพใหญ่ของจวนนี้คือ หลงอี้หลิง ผู้มากความสามารถและมีชื่อเสียงเลื่องลือเกรียงไกรด้านการรบ นามของเขานั้นเป็นที่โจษจันและเกรงกลัวของฝ่ายศัตรูเป็นอย่างมาก หลงอี้หลิง ได้ใช้พลังหยินในตัวของเขา ช่วยขับพิษในกายให้ฟ่ง-หลันหลั่น และได้เผลอเปิดจุดลมปราณที่เคยถูกสกัดไว้ให้นางด้วย ทำให้ความทรงจำที่เคยหายไปกลับคืนมา องค์หญิงอวี้หลันทรงจดจำเรื่องราวในอดีตของตนได้ทั้งหมด ว่าตนไม่ได้ตายอย่างที่คิดไว้ แต่เป็นเพราะพระองค์พยายามลบความทรงจำที่เจ็บปวดเลวร้ายนั้นให้หายไป เมื่อองค์หญิงน้อยอวี้หลันจดจำเรื่องราวทุกอย่างได้ จึงอยากที่จะเอาคืนทุกคนที่เคยทำร้ายนาง แต่ด้วยต้องแลกความทรงจำให้กลับมา ด้วยการที่ต้องสูญเสียพลังยุทธ์ไปโดยถาวร ทำให้ต้องตกเป็นหน้าที่ของหลงอี้หลิง แม่ทัพใหญ่ผู้คลั่งรักต้องออกโรง ช่วยแก้แค้นแทนและทวงคืนความยุติธรรมให้กับสาวใช้ของตน เรื่องราวจะดำเนินต่อไปยังไง หลงอี้หลิง แม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นโหยว จะช่วยฟ่งหลันหลั่นหรือองค์อวี้หลัน แก้แค้นและทวงความยุติธรรมได้หรือไม่ ต้องมาติดตามไปพร้อม ๆ กัน

Anastazia23_Boss · History
Not enough ratings
91 Chs

SUPPORT