webnovel

ณ ทรงวาด

Penulis: samuthra
Sejarah
Sedang berlangsung · 24K Dilihat
  • 34 Bab
    Konten
  • peringkat
  • NO.200+
    DUKUNG
Silver Prize for WSA 2022 ContestSilver Prize for WSA 2022 Contest
Ringkasan

คนอื่นเขาได้ย้อนเวลาไปเป็นฮองเฮา เป็นเจ้าหญิงเป็นลูกเป็นหลานคุณนาง แต่เหมยกุ้ยคนนี้ดันซาลาเปาติดคอจนได้ย้อนเวลา แต่ก็ย้อนไปเป็นคนหมดตัว โชคดีที่อะไรบางอย่างดนบันดาลให้เธอเจอกับ เฟยเจิน เจ้าของร้านของของชำ ที่ไม่เล็กบนถนนทรงวาด ถึงกระนั้น พบเจอโลกใหม่ได้แค่วันเดียวก็ต้องจับพลัดจับผลูไปช่วยสืบคดี (เกือบ) ฆาตกรรมที่เกิดขึ้น ตรวจลายนิ้วมือก็ไม่มี ตรวจดีเอ็นเอก็ทำไม่ได้ งานนี้เธอจะทำอย่างไรกับเรื่องราวความรัก ความเศร้า ความแค้น ที่เกิดขึ้น ณ ทรงวาด

Chapter 1อารัมภบท

เหมยกุ้ย แปลว่าดอกกุหลาบ

แต่ดอกกุหลาบดอกนี้ไม่ใช่ดอกกุหลาบที่มีหนามไว้แทงคนอื่น แต่กลับเป็นดอกกุหลาบที่ถูกหนามของตัวเองแทงตัวเองจนเจ็บซะมากกว่า ถ้าเป็นภาษาที่จะเข้าใจง่ายๆก็คง สู้ชีวิต แต่ชีวิตสู้กลับจนน่วม

เหมยกุ้ยชอบงิ้วมาตั้งแต่ยังเล็ก และพ่อแม่ของเธอก็สนับสนุน พาไปดูงิ้วอยู่ตลอด จนกระทั่งช่วงมัธยมปลายเพียงไม่นานก่อนเธอจะก้าวออกจากชีวิตการเป็นนักเรียน และไปเรียนต่อด้านงิ้วที่เมืองจีน โชคชะตาก็ใจร้ายกับเธอเกินไป

เพราะมันพรากพ่อและแม่ของเหมยกุ้ยไปอย่างไม่มีวันกลับ

ทิ้งเหมยกุ้ยไว้เพียงลำพัง กับทรัพย์สินที่เพียงพอแค่ตั้งตัว ให้เปิดร้านขายอุปกรณ์ตัดเย็บที่สำเพ็ง แต่ไม่เพียงพอที่จะส่งเธอไปตามหาความฝัน

อย่างน้อยโชคชะตาก็ยังเข้าข้างเธอให้กิจการไปได้ดี

เหมยกุ้ยตัดสินใจพาความฝันอันสวยงาม มาพบกับความจริงที่โหดร้ายของชีวิต เธอตัดสินใจเพิ่มบริการรับซ่อมเสื้อผ้า ด้วยของที่เธอขายในร้านนั่นแหละ

แต่เศรษฐกิจแบบนี้ เหมือนว่าขายของอย่างเดียวจะไม่พอ ก็รับซ่อมเสื้อผ้า สอนตัดเย็บพื้นฐานไปเลยสิคะ

แต่มันก็ทำให้ไฟของความฝันอันริบหรี่ของเธอ ยังไม่ดับลงไปในทุกๆครั้งที่โรงงิ้วใกล้ๆ เอาเสื้อผ้ามาให้เธอช่วยซ่อมแซม ขอเพียงได้จับชุดงิ้ว เหมยกุ้ยก็สุขใจ

เพราะถ้าจะไปดูงิ้วที่โรงงิ้วก็ต้องเสียเงิน หรือไม่ก็รอตรุษจีน เหมยกุ้ยไม่กล้าใช้เงินกับเรื่องที่ไม่จำเป็นตั้งแต่พ่อกับแม่ของเหมยกุ้ยจากไป

แต่นั่นไม่ใช่กับเรื่องกิน

เหมยกุ้ยมีร้านซาลาเปาที่ชอบอยู่ร้านหนึ่ง ที่เธอยอมเสียเงินที่ได้มาอย่างยากลำบากให้ร้านนั้นทุกครั้ง ตัวเธอเองก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมถึงชอบร้านนี้ขนาดนี้ เหมือนผูกพันกันอย่างประหลาด

แต่เหมยกุ้ยก็คิดว่าเธอน่าจะแค่ชอบกิน

คือชอบถึงขนาดที่แม่ค้าที่ร้านซาลาเปาพูดกับเธอเลยว่า

"เหมยกุ้ย ที่บ้านมีซึ้งมั้ยลูก"

"มีค่ะคุณน้า ทำไมหรือคะ"

"ไปซื้อแบบส่งที่แถวทรงวาดมั้ย แล้วนึ่งเองที่บ้าน เดี๋ยวน้าบอกวิธีนึ่งให้"

"มีร้านขายส่งด้วยหรอคะ"

"ใช่ลูก ลองไปดูตรงทรงวาดนะ ร้านตรงนั้นจะชื่อเตียท่งเซ้งนะ ร้านตรงนั้นทำซาลาเปามาเกือบร้อยปีละ"

"เกือบร้อยปี นี่มันก็ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ห้ามั้ยคะ"

เหมยกุ้ยถามด้วยความที่มีงานอดิเรกเป็นการอ่านหนังสือประวัติศาสตร์ที่คุณพ่อชอบเก็บสะสมไว้ในห้องหนังสือเล็กๆในบ้าน

"เอ้อ น้าก็ไม่รู้แฮะ อาจจะประมาณนั้น ลองไปดูละกันลูก เพราะน้าก็ไม่แน่ใจนะว่าเขาจะขายน้อยสุดเท่าไหร่ อ่ะ อันนี้ที่หนูสั่งของวันนี้"

คุณน้ายื่นถุงใส่ซาลาเปาสามสี่ลูกมาให้กับเหมยกุ้ย ก่อนที่จะหันไปหยิบเงินทอนให้

"ขอบคุณค่ะ ไว้เดี๋ยวหนูลองไปดูนะคะ"

หลังจากวันนั้น เหมยกุ้ยก็ไม่เคยแวะไปที่ร้านบนถนนเจริญกรุงอีกเลย เพราะเธอตัดสินใจที่จะซื้อทีละเยอะๆ มานึ่งที่บ้านเอง ถูกกว่าเป็นไหนๆ

คนแสนงกอย่างเหมยกุ้ยล่ะชอบจริงๆ

เหมยกุ้ยสนิทกับลูกจ้างร้านทำซาลาเปาในเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังไปซื้อครั้งแรก เพราะได้รู้ตอนวันที่ไปซื้อครั้งแรกนั่นล่ะ ว่าเฮียเป็นแฟนกับเจ๊ลูกค้าประจำร้านขายอุปกรณ์ตัดเย็บของเธอ วันนี้เหมยกุ้ยจึงตัดสินใจที่จะถามคำถามที่สงสัยมานานกับพี่เขา

"เฮีย"

"เอ้า เหมยกุ้ย ลื้อมีอะไร ได้ซาลาเปาไม่ครบรึไง"

พูดจบอีกคนก็ขำออกมาเบาๆ

"ไม่ใช่ หนูอยากรู้ว่ามันกินแบบนี้ได้มั้ย"

พูดพลางเหมยกุ้ยชูถุงใส่กล่องซาลาเปา

"กินแบบไหน"

"แบบที่ยังไม่นึ่งอ่ะ"

"เห้ย ลื้ออย่าเล่นแผลงๆ"

"อ้าว ก็เฮียเคยบอกว่ามันสุกแล้ว"

"แต่มันยังกินไม่ได้"

"สุกแล้วก็ต้องกินได้สิ"

"ไม่ได้ ไอ้หยา เดี๋ยวลื้อก็ได้ท้องเสียหรอก"

"หนูลองเลยละกัน"

"เห้ย!! อาเหมยกุ้ย"

พี่ลูกจ้างคนนั้นตะโกนร้องขึ้นเมื่อเหมยกุ้ยกัดซาลาเปาที่ยังไม่นึ่งเข้าไปจนเต็มปาก ก่อนที่จะหลุดขำออกมาเมื่อเห็นเด็กสาวตรงหนาทำหน้าตาเหมือนจะร้องไห้

"เฮีย อันไอ้อะอ่อยเอยอ่ะ"

"อะไรนะ"

เหมยกุ้ยฝืนกลืนเข้าไปนิดนึงเพื่อให้พูดง่ายขึ้น

"มันไม่อร่อยเลยอ่ะ"

"ก็ถ้ากินแบบนี้มันอร่อยเค้าจะเอาไปนึ่งมั้ยล่ะเหมยกุ้ยเอ้ย เอ้า นั่งรอตรงนี้ เดี๋ยวไปหาน้ำมาให้"

"ขอบคุณนะเฮีย"

เหมยกุ้ยมองอีกคนเดินเข้าไปทางหลังร้าน ระหว่างนั้นเธอก็พยายามเคี้ยวซาลาเปาที่กัดเข้าไปเต็มคำ แล้วก็กล้ำกลืนฝืนทน จนซักพักเธอรู้สึกว่ามันมีอะไรแปลกๆ

และสามวินาทีหลังจากนั้น เหมยกุ้ยก็ได้รู้ว่า

ซาลาเปาติดคอ

เหมยกุ้ยไอเท่าไหร่มันก็ไม่ยอมออกมา ทำได้เพียงคิดในใจว่าไม่น่าหาทำกินซาลาเปาที่ยังไม่นึ่งเลย เธอไอจนเจ็บคอ ทรมานเพราะเริ่มหายใจไม่ออก

เสียงไอของเหมยกุ้ยดังจนพี่ที่วิ่งไปเอาน้ำให้ถึงกับต้องรีบวิ่งออกมา

แต่ดูท่าเขาคงจะวิ่งช้าเกินไป เพราะเหมยกุ้ยล้มลงไปกับพื้นแล้ว ตอนนี้สติสัมปชัญญะส่วนสุดท้ายได้ยินเพียงเสียงคนตะโกนบอกให้เรียกปอเต๊กตึ๊งกันจ้าล่ะหวั่น

แต่ทำไมซักพักเสียงเรียกปอเต๊กตึ๊ง มันถึงกลายเป็นเรียกชื่อไต้ฮงกงไปได้กันนะ

ไต้ฮงกง คือใคร คืออะไร คนจะตายอยู่แล้วทำไมต้องเรียก

ยังไม่ทันไร เหมยกุ้ยกู้สึกเหมือนมีคนยกตัวเหมยกุ้ยอุ้มขึ้นมา แล้วกระแทกกำปั้นเข้าไปที่หน้าอกอย่างแรง ถึงได้รู้สึกว่าไอก้อนซาลาเปานั่นออกจากปากไปแล้ว

สิ่งแรกที่ได้ยินหลังซาลาเปาหลุดจากปากคือ

"ขอบคุณมากนะพ่อฝาหรั่ง ถ้าไม่ได้วิธีแบบที่ลื้อบอกว่าพวกฝาหรั่งใช้เวลาเศษอาหารติดคอ เหมยกุ้ยอีคงตายไปแล้ว เอ้า ใครก็ได้วิ่งไปบอกคนที่วิ่งไปไต้ฮงกงทีไป ว่าไม่ต้องมาละ อีหายละ"

สิ่งที่เหมยกุ้ยเห็นตอนนี้คือ ฝรั่งตาน้ำข้าวหนึ่งอัตรา คุณลุงที่หน้าคล้าย แต่ไม่เหมือนเจ้าของร้านซาลาเปาหนึ่งอัตรา และคนมากมายล้อมรอบตัวเธอ

ก็คงไม่น่าตกใจเท่าไหร่หรอก ถ้าคนรอบข้าเธอไม่ใส่ผ้ารัดอกกับโจงกระเบนบ้าง เสื้อแขนหมูแฮมบ้าง เสื้อราชปะแตนบ้าง สไบบ้าง

นี่ฉันอยู่ไหน งานอุ่นไอรักกลางลมหนาวรึเปล่า

"เหมยกุ้ยเอ้ย อั๊วบอกแล้วว่าอย่ากินซาลาเปาที่ยังไม่นึ่ง"

คุณลุงที่ยืนอยู่หน้าซึ้งนึ่งซาลาเปาพูดขึ้น

เหมยกุ้ยยังคงสับสน แต่ก็ตอบเจ้าของร้านไป เพราะคิดว่าคงมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นตอนเธอมีซาลาเปาติดคอ

ก็เห็นเรียกว่าเหมยกุ้ยแถมยังซาลาเปาติดคอ มันก็ต้องคนเดียวกันสิ ประชากรบนโลกนี้ที่ชื่อเหมยกุ้ยและซาลาเปาติดคอนี่มันจะมีกี่คนกันเชียว

"ก็เห็นร้านเจ็กเปิดมาเป็นร้อยปี หนูก็คิดว่าจะอร่อยถึงขั้นกินได้ตั้งแต่ยังไม่นึ่ง"

"เหมยกุ้ย ลื้อพูดอะไร"

"อะไรนะคะ"

"อั๊วเพิ่งเปิดร้านได้ปีกว่า ลื้อมาร้อยปงร้อยปีอะไร"

"อะไรนะคะ"

เหมยกุ้ยเริ่มคิดแล้วว่ารอบข้างเธอมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากล จึงลองถามออกไปเล่นๆ เผื่อจะได้ย้อนเวลาแบบในละครทีวีบ้าง

"นี่พ.ศ.อะไรคะเนี่ย"

"ไอ้หยา แค่ซาลาเปาติดคอ ลื้อถึงกับความจำเสื่อมเลยหรอ นี่ปี2455 ไง"

"อะไรนะคะ"

การที่ซาลาเปาติดคอนี่ก็นับเป็นวิธีการย้อนเวลาหรอวะ

Anda Mungkin Juga Menyukai

มังกรสีทอง ตำนาน 7 ภพ

นวนิยาย เรื่อง มังกรทอง ตำนาน 7 ภพ นี้ เป็นเพียงนวนิยายที่สมมุตขึ้น อาจมีชื่อนามบุคคล หรือ สถานที่ ที่คล้องจองและเหมือนกับผู้ใค ผู้แต่งต้องกราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย มังกรทอง ตำนาน 7 ภพ มีทั้งหมด 7 ภาค แต่ละภาพมี จำนวน 20 ตอน ซึ่งท่านผู้อ่านสามารถติดตามอ่านได้ในแต่ละตอนจนถึงตอนสุดท้าย มาอ่านลุ้นกันว่าแต่ละภพชาติตัวเอกของเรื่องจะเกิดมาเป็นอะไร และสู้กับชีวิตอย่างไร บางภพชาติอาจจะร่ำรวย บางภพชาติอาจจะยากจน บางภพชาติอาจมีฐานะปานกลาง เพราะทุกภพชาติล้วนมีสาเหตุที่มา จะเป็นเพราะฟ้าลิขิตหรือจะเป็นเพราะลิขิตกรรมหรือกรรมลิขิตแต่ละคนให้เป็นไป ก็ล้วนแล้วแต่มีสาเหตุที่มาโดยที่มนุษย์อย่างเราไม่อาจรู้ชะตาได้ มาติดตามอ่านกันว่า นวนิยายอิงประสบการณ์ชีวิตจริงเรื่องนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป ผู้เขียนขอขอบพระคุณท่านผู้อ่านที่สนใจและติดตามผลงานการเขียนนวนิยายเรื่องนี้ หลังจากที่เขียนแต่งานเชิงวิชาการมาเป็นเวลานาน จนลืมความรักความชอบในการอ่านและการเขียนนวนิยายไปเสียนาน หวังว่าท่านผู้อ่านที่น่ารักจะชอบและสนับสนุน นวนิยายเรื่องนี้ ขอคารวะด้วยใจ Madam Bamboo

Jirinda_Phit · Sejarah
Peringkat tidak cukup
1 Chs

ทะลุมิติมาเป็นอนุนอกเรือน

นิยายโรแมนติก-คอเมดี้ จากผู้เขียนเรื่อง ยอดหญิงสกุลเสิ่น เรื่องราวระหว่างอนุ (ในนาม) ตัวเล็กๆ และเสี่ยเลี้ยงสุดหล่อเหลา! นางทะลุมิติอีกแล้ว...และครั้งนี้ในฐานะอนุนอกเรือน! อวี๋จือ ผู้มากประสบการณ์ได้แต่กุมหัว แต่ไม่เป็นไรนั่นหาได้สั่นคลอนปณิธานของนางไม่ อนุก็อนุสิ ข้อเรียกร้องการทำงานไม่สูงแต่เงินเดือนสูงลิ่ว หัวหน้างานยังหล่อเหลา หุ่นดี ใจกว้าง ถึงแม้จะขึ้นชื่อว่าอนุแต่ เหวินจิ่วเซียว ก็แค่สงสารเจ้าของร่างเดิมเลยรับนางมาเลี้ยงดูเปล่าๆ ไว้ที่นอกจวนเฉยๆ คล้ายจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่ามีนางอยู่ งานสบายแบบนี้ยังหาได้ที่ไหนอีก?! อวี๋จือคิดว่าในชาตินี้นางจะได้สานต่อปณิธานการเป็นปลาเค็มแสนสุขแน่แล้ว แต่อยู่ไปอยู่มาสายตาที่หัวหน้ามองนางกลับร้อนรุ่มขึ้นเรื่อยๆ? อยู่ไปอยู่มา หัวหน้ากลับฝืนกฏตระกูลเพื่อแต่งนางเป็นภรรยา! ไม่ได้นะ! จะมีความรักในที่ทำงานไม่ได้สิ นางเพียงอยากเป็นพนักงานตัวเล็กๆ ที่ใช้ชีวิตไปวันๆ ไม่ได้อยากก้าวหน้าในหน้าที่การงานเสียหน่อย! *** ลิขสิทธิ์ถูกต้องภายใต้บริษัท Ink Stone Entertainment *** ได้รับลิขสิทธิ์ออนไลน์ (Digital license) สำหรับแปลขายลงบนเว็บไซต์ได้อย่างถูกลิขสิทธิ์ 100% เจ้าของลิขสิทธิ์ต้นฉบับ : China Literature เรื่อง : ทะลุมิติมาเป็นอนุนอกเรือน ผู้เขียน : 两边之和 (เหลี่ยงเปียนจือเหอ) --- [穿成外室后我不想奋斗了] / [两边之和] © 2024 Ink Stone Entertainment Co., Ltd. All rights reserved. Thai translation rights arranged with China Literature by Ink Stone Entertainment Co., Ltd.

两边之和 (เหลี่ยงเปียนจือเหอ) · Sejarah
Peringkat tidak cukup
200 Chs

ประตูชาวนาฉางอาน

อันจิ้งข้ามเวลามาอยู่ในร่างของหญิงชาวนาที่ถูกรังแกในสมัยโบราณ ในวันที่ข้ามเวลามาก็ถูกขายทันที ดี นางแย่งชิงสัญญาขายตัว เหยียบย่ำพ่อแม่ที่ชั่วช้า อิสรภาพของนางอยู่ในมือนาง การแต่งงานของนางนางเป็นผู้ตัดสินใจ อนาคตของนางนางเป็นผู้กำหนด ไม่มีใครมาชี้นิ้วสั่งนางได้! อันจิ้งเอาสัญญาขายตัวของตัวเองตบลงบนตัวชายหนุ่มข้างๆ อย่างเด็ดเดี่ยว: "เก็บให้ดี ต่อไปนี้ข้าเป็นของท่านแล้ว" ชายหนุ่ม: "......" ชายหนุ่มตามใจนางมาก นางอยากทำอะไรก็ได้ทำ ยังร่วมมือกับนางลงโทษคนชั่วช้าต่างๆ ทั้งสองใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมาก แต่ฐานะของชายหนุ่ม... (นิยายสบายใจ ชายเก่งหญิงเก่ง รัก1ต่อ1 ชายตามใจ)

ต้นไม้เขียวชอุ่มเขียวชอุ่ม · Sejarah
Peringkat tidak cukup
378 Chs

เกิดใหม่เป็นตู้โหวแห่งตระกูลแม่ทัพ

  ธิดาแท้ของตระกูลแม่ทัพ นางเป็นคนสงบเสงี่ยมและอ่อนโยน หลงรักอ๋องติ้ง และยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อเป็นภรรยาเขา   หกปีที่คอยช่วยเหลือ ในที่สุดก็ได้เป็นจักรพรรดินี   นางอยู่เคียงข้างเขาในการสร้างอาณาจักร พัฒนาประเทศ เสี่ยงอันตรายเป็นตัวประกันของประเทศอื่น ห้าปีหลังจากกลับมา วังหลังไม่มีที่ให้นางอยู่อีกต่อไป   หญิงงามในอ้อมกอดของเขายิ้มอย่างสดใส: "พี่สาว อาณาจักรมั่นคงแล้ว ถึงเวลาที่เจ้าต้องถอยแล้ว"   ลูกสาวตายอย่างทรมาน ไท่จื่อถูกปลด ตระกูลเซินที่จงรักภักดีทั้งตระกูล ไม่มีใครรอดชีวิต! ล่มสลายในชั่วข้ามคืน ลูกตาย ตระกูลสูญ!   เซินเมี่ยวไม่เคยคิดเลยว่า สามีภรรยาที่ผ่านความยากลำบากด้วยกัน คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จะเป็นเพียงละครตลกที่เล่นตามบทเท่านั้น!   เขากล่าว: "เพราะเจ้าอยู่กับเราตลอดยี่สิบปี ข้าจะให้ศพเจ้าสมบูรณ์ ขอบใจเถอะ"   ภายใต้ผ้าไหมขาวสามฟุต เซินเมี่ยวสาบาน: วันที่ข้าตาย เจ้าก็ต้องตายด้วย!   เกิดใหม่ย้อนกลับไปเมื่ออายุสิบสี่ปี โศกนาฏกรรมยังไม่เกิด คนที่รักยังอยู่ นางยังคงเป็นธิดาแท้ของตระกูลแม่ทัพที่อ่อนโยนและสงบเสงี่ยม   ญาติที่เลวร้ายซ่อนความชั่วร้าย พี่สาวและน้องสาวร่วมบิดาใจร้ายไร้ความปรานี นางบำเรอคนใหม่จ้องจะชิงตำแหน่ง และชายเลวคนนั้นต้องการใช้กลอุบายเดิมอีกครั้ง?   ต้องปกป้องตระกูล ต้องแก้แค้น และต้องมีส่วนในบัลลังก์และอาณาจักร ชาตินี้ มาดูกันว่าใครจะเอาชนะใครได้!   แต่ท่านโหวเล็กตระกูลเซี่ยคนนั้น ชายหนุ่มผู้ห้าวหาญที่ควบม้าถือดาบ กลับยืนอย่างเย่อหยิ่งที่กำแพงบ้านนาง: "แค่พลิกแผ่นดินเท่านั้น จำไว้ แผ่นดินเป็นของเจ้า แต่เจ้า—เป็นของข้า!"   ----------------------------------------------------------   — เมืองสิบสามแห่งอิ๋วจู   — เป็นของเจ้า   — เมืองติ้งหยวนทางเหนือทะเลทราย   — เป็นของเจ้า   — เจียงหนานยู่โจว ติงซีตงไห่ หลินอันทะเลสาบชิง เมืองโบราณลั่วหยาง   — ทั้งหมดเป็นของเจ้า   — ทั้งหมดเป็นของข้า เซี่ยจิ่งซิง เจ้าต้องการอะไร?   — อืม เจ้า   -------------------------------------------------------------   แรกเริ่มเขาพูดอย่างเย็นชา: "สองตระกูลเฉินและเซี่ยแยกกันชัดเจน หญิงสาวตระกูลเซินอยู่ดีๆ มาแสดงไมตรี ต้องไม่มีเจตนาดีแน่!"   ต่อมาเขาพูดอย่างใจเย็น: "พวกเราเหมือนตั๊กแตนอยู่บนเชือกเส้นเดียวกัน เซินเมี่ยว เจ้าอยู่นิ่งๆ เถอะ มีข้ารับรอง ใครกล้าบังคับให้เจ้าแต่งงาน?"   หลังจากนั้นเขาพูดอย่างหยิ่งทะนง: "พลิกฟ้าก็แค่นี้ เซินเจียวเจียว แผ่นดินหมื่นลี้ เจ้ากับข้าแบ่งกันอย่างไร?"   สุดท้าย เขาโบกมืออย่างเด็ดขาด: "ภรรยา แบ่งไปแบ่งมายุ่งยากนัก ไม่ต้องแบ่งแล้ว! ทั้งหมดเป็นของเจ้า เจ้าเป็นของข้า!"   เซินเมี่ยว: "ออกไปให้พ้น!" จักรพรรดินีผู้เกิดใหม่อย่างเย็นชาและชายหนุ่มเซี่ยเสี่ยวโหวเหย่ผู้ไม่เอาไหน ตัวละครหลักชายหญิงที่บริสุทธิ์ทั้งกายใจ จับมือร่วมกันอย่างแข็งแกร่ง นิยายรักหนึ่งต่อหนึ่ง ขอให้เหล่านางฟ้าน้อยช่วยสนับสนุนด้วยนะคะ~

Mountain Wanderer · Sejarah
Peringkat tidak cukup
346 Chs

บุตรสาวคนโตกลับมา องค์ชายผู้อาช่วยข้าชิงบัลลังก์

【สาวสวยนักรบผู้เก่งกาจ VS องค์ชายผู้สำเร็จราชการจอมเจ้าเล่ห์ 1V1 นิยายแนวคู่แกร่งสุดมันส์ การเมืองการปกครอง แอ็คชั่นสุดเดือด ไหวพริบปฏิภาณเหนือชั้น】 ในชาติก่อน จ้านหลานเป็นบุตรบุญธรรมของจวนแม่ทัพ อาศัยชื่อเสียงจากการรบ ได้แต่งงานกับซื่อจวิน โอรสนอกสมรสของจักรพรรดิเสวียนอู่ จ้านหลานช่วยให้เขาขึ้นครองราชย์ และปกป้องบัลลังก์ให้เขา ฮองเฮาเจิ้นกลับจากสนามรบ พบว่าในวังคุนหนิง สามีที่ไม่เคยแตะต้องนางกำลังร่วมรักกับจ้านเสวียโหรว บุตรสาวคนโตของจวนแม่ทัพบนเตียงของนาง หลังจากนั้น ญาติสนิทในจวนแม่ทัพก็ถูกฆ่าทีละคน รองแม่ทัพของกองทัพตระกูลจ้านก็ถูกสังหารทีละคน! ก่อนตาย จ้านหลานยังถูกจ้านเสวียโหรวบอกว่า ที่แท้นางต่างหากที่เป็นบุตรสาวคนโตของจวนแม่ทัพ! เมื่อได้เกิดใหม่อีกครั้ง จ้านหลานวางแผนอย่างรอบคอบ ใช้ทั้งกลอุบายและการวางแผนเปิดเผยเพื่อโค่นล้มบัลลังก์ของกษัตริย์เลวทราม ชาวโลกต่างรู้ว่าขุนนางทรยศมู่เยียนเป็นคนหยาบช้าโหดเหี้ยม แต่จ้านหลานรู้ดีถึงตัวตนที่แท้จริงและพลังของเขาที่สามารถพลิกแผ่นดินได้! ทั้งสองแกล้งแต่งงานกันเพื่อร่วมมือแก้แค้น นางทรมานคนชั่ว เขาซ้ำเติม นางฆ่าคน เขาทำลายจิตใจ แต่ทำไมองค์ชายผู้สำเร็จราชการผู้เสเพลกลับมองนางด้วยสายตาที่ดุดันราวกับหมาป่าจ้องเหยื่อ! จนกระทั่งมู่เยียนกดนางลงบนเตียง เอ่ยเสียงแหบพร่าว่า: "หลานเอ๋อร์ ฮ่องเต้สุนัขนั่นข้าช่วยเจ้ากำจัดแล้ว เจ้าช่วยสามีดับไฟบ้างได้หรือไม่......" พวกเขาพบกันที่จุดสูงสุด สามีภรรยาใจดำร่วมครองแผ่นดิน

กระต่ายสีม่วง · Sejarah
Peringkat tidak cukup
204 Chs

DUKUNG