webnovel

ณ ทรงวาด

Penulis: samuthra
Sejarah
Sedang berlangsung · 21.1K Dilihat
  • 34 Bab
    Konten
  • peringkat
  • NO.200+
    DUKUNG
Silver Prize for WSA 2022 ContestSilver Prize for WSA 2022 Contest
Ringkasan

คนอื่นเขาได้ย้อนเวลาไปเป็นฮองเฮา เป็นเจ้าหญิงเป็นลูกเป็นหลานคุณนาง แต่เหมยกุ้ยคนนี้ดันซาลาเปาติดคอจนได้ย้อนเวลา แต่ก็ย้อนไปเป็นคนหมดตัว โชคดีที่อะไรบางอย่างดนบันดาลให้เธอเจอกับ เฟยเจิน เจ้าของร้านของของชำ ที่ไม่เล็กบนถนนทรงวาด ถึงกระนั้น พบเจอโลกใหม่ได้แค่วันเดียวก็ต้องจับพลัดจับผลูไปช่วยสืบคดี (เกือบ) ฆาตกรรมที่เกิดขึ้น ตรวจลายนิ้วมือก็ไม่มี ตรวจดีเอ็นเอก็ทำไม่ได้ งานนี้เธอจะทำอย่างไรกับเรื่องราวความรัก ความเศร้า ความแค้น ที่เกิดขึ้น ณ ทรงวาด

Chapter 1อารัมภบท

เหมยกุ้ย แปลว่าดอกกุหลาบ

แต่ดอกกุหลาบดอกนี้ไม่ใช่ดอกกุหลาบที่มีหนามไว้แทงคนอื่น แต่กลับเป็นดอกกุหลาบที่ถูกหนามของตัวเองแทงตัวเองจนเจ็บซะมากกว่า ถ้าเป็นภาษาที่จะเข้าใจง่ายๆก็คง สู้ชีวิต แต่ชีวิตสู้กลับจนน่วม

เหมยกุ้ยชอบงิ้วมาตั้งแต่ยังเล็ก และพ่อแม่ของเธอก็สนับสนุน พาไปดูงิ้วอยู่ตลอด จนกระทั่งช่วงมัธยมปลายเพียงไม่นานก่อนเธอจะก้าวออกจากชีวิตการเป็นนักเรียน และไปเรียนต่อด้านงิ้วที่เมืองจีน โชคชะตาก็ใจร้ายกับเธอเกินไป

เพราะมันพรากพ่อและแม่ของเหมยกุ้ยไปอย่างไม่มีวันกลับ

ทิ้งเหมยกุ้ยไว้เพียงลำพัง กับทรัพย์สินที่เพียงพอแค่ตั้งตัว ให้เปิดร้านขายอุปกรณ์ตัดเย็บที่สำเพ็ง แต่ไม่เพียงพอที่จะส่งเธอไปตามหาความฝัน

อย่างน้อยโชคชะตาก็ยังเข้าข้างเธอให้กิจการไปได้ดี

เหมยกุ้ยตัดสินใจพาความฝันอันสวยงาม มาพบกับความจริงที่โหดร้ายของชีวิต เธอตัดสินใจเพิ่มบริการรับซ่อมเสื้อผ้า ด้วยของที่เธอขายในร้านนั่นแหละ

แต่เศรษฐกิจแบบนี้ เหมือนว่าขายของอย่างเดียวจะไม่พอ ก็รับซ่อมเสื้อผ้า สอนตัดเย็บพื้นฐานไปเลยสิคะ

แต่มันก็ทำให้ไฟของความฝันอันริบหรี่ของเธอ ยังไม่ดับลงไปในทุกๆครั้งที่โรงงิ้วใกล้ๆ เอาเสื้อผ้ามาให้เธอช่วยซ่อมแซม ขอเพียงได้จับชุดงิ้ว เหมยกุ้ยก็สุขใจ

เพราะถ้าจะไปดูงิ้วที่โรงงิ้วก็ต้องเสียเงิน หรือไม่ก็รอตรุษจีน เหมยกุ้ยไม่กล้าใช้เงินกับเรื่องที่ไม่จำเป็นตั้งแต่พ่อกับแม่ของเหมยกุ้ยจากไป

แต่นั่นไม่ใช่กับเรื่องกิน

เหมยกุ้ยมีร้านซาลาเปาที่ชอบอยู่ร้านหนึ่ง ที่เธอยอมเสียเงินที่ได้มาอย่างยากลำบากให้ร้านนั้นทุกครั้ง ตัวเธอเองก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมถึงชอบร้านนี้ขนาดนี้ เหมือนผูกพันกันอย่างประหลาด

แต่เหมยกุ้ยก็คิดว่าเธอน่าจะแค่ชอบกิน

คือชอบถึงขนาดที่แม่ค้าที่ร้านซาลาเปาพูดกับเธอเลยว่า

"เหมยกุ้ย ที่บ้านมีซึ้งมั้ยลูก"

"มีค่ะคุณน้า ทำไมหรือคะ"

"ไปซื้อแบบส่งที่แถวทรงวาดมั้ย แล้วนึ่งเองที่บ้าน เดี๋ยวน้าบอกวิธีนึ่งให้"

"มีร้านขายส่งด้วยหรอคะ"

"ใช่ลูก ลองไปดูตรงทรงวาดนะ ร้านตรงนั้นจะชื่อเตียท่งเซ้งนะ ร้านตรงนั้นทำซาลาเปามาเกือบร้อยปีละ"

"เกือบร้อยปี นี่มันก็ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ห้ามั้ยคะ"

เหมยกุ้ยถามด้วยความที่มีงานอดิเรกเป็นการอ่านหนังสือประวัติศาสตร์ที่คุณพ่อชอบเก็บสะสมไว้ในห้องหนังสือเล็กๆในบ้าน

"เอ้อ น้าก็ไม่รู้แฮะ อาจจะประมาณนั้น ลองไปดูละกันลูก เพราะน้าก็ไม่แน่ใจนะว่าเขาจะขายน้อยสุดเท่าไหร่ อ่ะ อันนี้ที่หนูสั่งของวันนี้"

คุณน้ายื่นถุงใส่ซาลาเปาสามสี่ลูกมาให้กับเหมยกุ้ย ก่อนที่จะหันไปหยิบเงินทอนให้

"ขอบคุณค่ะ ไว้เดี๋ยวหนูลองไปดูนะคะ"

หลังจากวันนั้น เหมยกุ้ยก็ไม่เคยแวะไปที่ร้านบนถนนเจริญกรุงอีกเลย เพราะเธอตัดสินใจที่จะซื้อทีละเยอะๆ มานึ่งที่บ้านเอง ถูกกว่าเป็นไหนๆ

คนแสนงกอย่างเหมยกุ้ยล่ะชอบจริงๆ

เหมยกุ้ยสนิทกับลูกจ้างร้านทำซาลาเปาในเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังไปซื้อครั้งแรก เพราะได้รู้ตอนวันที่ไปซื้อครั้งแรกนั่นล่ะ ว่าเฮียเป็นแฟนกับเจ๊ลูกค้าประจำร้านขายอุปกรณ์ตัดเย็บของเธอ วันนี้เหมยกุ้ยจึงตัดสินใจที่จะถามคำถามที่สงสัยมานานกับพี่เขา

"เฮีย"

"เอ้า เหมยกุ้ย ลื้อมีอะไร ได้ซาลาเปาไม่ครบรึไง"

พูดจบอีกคนก็ขำออกมาเบาๆ

"ไม่ใช่ หนูอยากรู้ว่ามันกินแบบนี้ได้มั้ย"

พูดพลางเหมยกุ้ยชูถุงใส่กล่องซาลาเปา

"กินแบบไหน"

"แบบที่ยังไม่นึ่งอ่ะ"

"เห้ย ลื้ออย่าเล่นแผลงๆ"

"อ้าว ก็เฮียเคยบอกว่ามันสุกแล้ว"

"แต่มันยังกินไม่ได้"

"สุกแล้วก็ต้องกินได้สิ"

"ไม่ได้ ไอ้หยา เดี๋ยวลื้อก็ได้ท้องเสียหรอก"

"หนูลองเลยละกัน"

"เห้ย!! อาเหมยกุ้ย"

พี่ลูกจ้างคนนั้นตะโกนร้องขึ้นเมื่อเหมยกุ้ยกัดซาลาเปาที่ยังไม่นึ่งเข้าไปจนเต็มปาก ก่อนที่จะหลุดขำออกมาเมื่อเห็นเด็กสาวตรงหนาทำหน้าตาเหมือนจะร้องไห้

"เฮีย อันไอ้อะอ่อยเอยอ่ะ"

"อะไรนะ"

เหมยกุ้ยฝืนกลืนเข้าไปนิดนึงเพื่อให้พูดง่ายขึ้น

"มันไม่อร่อยเลยอ่ะ"

"ก็ถ้ากินแบบนี้มันอร่อยเค้าจะเอาไปนึ่งมั้ยล่ะเหมยกุ้ยเอ้ย เอ้า นั่งรอตรงนี้ เดี๋ยวไปหาน้ำมาให้"

"ขอบคุณนะเฮีย"

เหมยกุ้ยมองอีกคนเดินเข้าไปทางหลังร้าน ระหว่างนั้นเธอก็พยายามเคี้ยวซาลาเปาที่กัดเข้าไปเต็มคำ แล้วก็กล้ำกลืนฝืนทน จนซักพักเธอรู้สึกว่ามันมีอะไรแปลกๆ

และสามวินาทีหลังจากนั้น เหมยกุ้ยก็ได้รู้ว่า

ซาลาเปาติดคอ

เหมยกุ้ยไอเท่าไหร่มันก็ไม่ยอมออกมา ทำได้เพียงคิดในใจว่าไม่น่าหาทำกินซาลาเปาที่ยังไม่นึ่งเลย เธอไอจนเจ็บคอ ทรมานเพราะเริ่มหายใจไม่ออก

เสียงไอของเหมยกุ้ยดังจนพี่ที่วิ่งไปเอาน้ำให้ถึงกับต้องรีบวิ่งออกมา

แต่ดูท่าเขาคงจะวิ่งช้าเกินไป เพราะเหมยกุ้ยล้มลงไปกับพื้นแล้ว ตอนนี้สติสัมปชัญญะส่วนสุดท้ายได้ยินเพียงเสียงคนตะโกนบอกให้เรียกปอเต๊กตึ๊งกันจ้าล่ะหวั่น

แต่ทำไมซักพักเสียงเรียกปอเต๊กตึ๊ง มันถึงกลายเป็นเรียกชื่อไต้ฮงกงไปได้กันนะ

ไต้ฮงกง คือใคร คืออะไร คนจะตายอยู่แล้วทำไมต้องเรียก

ยังไม่ทันไร เหมยกุ้ยกู้สึกเหมือนมีคนยกตัวเหมยกุ้ยอุ้มขึ้นมา แล้วกระแทกกำปั้นเข้าไปที่หน้าอกอย่างแรง ถึงได้รู้สึกว่าไอก้อนซาลาเปานั่นออกจากปากไปแล้ว

สิ่งแรกที่ได้ยินหลังซาลาเปาหลุดจากปากคือ

"ขอบคุณมากนะพ่อฝาหรั่ง ถ้าไม่ได้วิธีแบบที่ลื้อบอกว่าพวกฝาหรั่งใช้เวลาเศษอาหารติดคอ เหมยกุ้ยอีคงตายไปแล้ว เอ้า ใครก็ได้วิ่งไปบอกคนที่วิ่งไปไต้ฮงกงทีไป ว่าไม่ต้องมาละ อีหายละ"

สิ่งที่เหมยกุ้ยเห็นตอนนี้คือ ฝรั่งตาน้ำข้าวหนึ่งอัตรา คุณลุงที่หน้าคล้าย แต่ไม่เหมือนเจ้าของร้านซาลาเปาหนึ่งอัตรา และคนมากมายล้อมรอบตัวเธอ

ก็คงไม่น่าตกใจเท่าไหร่หรอก ถ้าคนรอบข้าเธอไม่ใส่ผ้ารัดอกกับโจงกระเบนบ้าง เสื้อแขนหมูแฮมบ้าง เสื้อราชปะแตนบ้าง สไบบ้าง

นี่ฉันอยู่ไหน งานอุ่นไอรักกลางลมหนาวรึเปล่า

"เหมยกุ้ยเอ้ย อั๊วบอกแล้วว่าอย่ากินซาลาเปาที่ยังไม่นึ่ง"

คุณลุงที่ยืนอยู่หน้าซึ้งนึ่งซาลาเปาพูดขึ้น

เหมยกุ้ยยังคงสับสน แต่ก็ตอบเจ้าของร้านไป เพราะคิดว่าคงมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นตอนเธอมีซาลาเปาติดคอ

ก็เห็นเรียกว่าเหมยกุ้ยแถมยังซาลาเปาติดคอ มันก็ต้องคนเดียวกันสิ ประชากรบนโลกนี้ที่ชื่อเหมยกุ้ยและซาลาเปาติดคอนี่มันจะมีกี่คนกันเชียว

"ก็เห็นร้านเจ็กเปิดมาเป็นร้อยปี หนูก็คิดว่าจะอร่อยถึงขั้นกินได้ตั้งแต่ยังไม่นึ่ง"

"เหมยกุ้ย ลื้อพูดอะไร"

"อะไรนะคะ"

"อั๊วเพิ่งเปิดร้านได้ปีกว่า ลื้อมาร้อยปงร้อยปีอะไร"

"อะไรนะคะ"

เหมยกุ้ยเริ่มคิดแล้วว่ารอบข้างเธอมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากล จึงลองถามออกไปเล่นๆ เผื่อจะได้ย้อนเวลาแบบในละครทีวีบ้าง

"นี่พ.ศ.อะไรคะเนี่ย"

"ไอ้หยา แค่ซาลาเปาติดคอ ลื้อถึงกับความจำเสื่อมเลยหรอ นี่ปี2455 ไง"

"อะไรนะคะ"

การที่ซาลาเปาติดคอนี่ก็นับเป็นวิธีการย้อนเวลาหรอวะ

Anda Mungkin Juga Menyukai

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

เพราะสามีดันเป็น 'ตัวร้าย' สุดโหด ภารกิจแก้เดธแฟลคจึงเริ่มต้นขึ้น! แพทย์ทหารจิตใจงดงามจากศตวรรษที่ 21 ผู้หนึ่งได้รับบาดเจ็บจนต้องนอนโรงพยาบาลเลยซื้อนิยายมาอ่าน ในเนื้อหานิยายมีตัวร้ายอยู่สี่คน ไม่มีเรื่องชั่วใดไม่ทำ สังหารคนโดยไม่กะพริบตา ทว่าภายหลังตัวร้ายสี่คนนี้ถูกพระเอกนางเอกร่วมมือกันสังหาร แต่ชายสี่คนนี้ดันมีบิดาเป็นถึงโส่วฝู่ เพื่อที่จะแก้แค้นแทนบุตรชาย เขาจึงกลายเป็นจอมปีศาจชั่วร้าย สุดท้ายพระเอกนางเอกล้วนถูกฆ่าตาย...และนางก็ดันทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาที่จะตายแต่ยังสาวของตัวร้ายผู้นั้น! เพื่อเปลี่ยนชะตาความตายที่จะเกิดขึ้นนางจำต้องหลีกหนีให้ไกลจากตัวร้ายผู้นี้ ทั้งสองจึงทำสัญญากันหากนางสามารถรักษาขาที่บาดเจ็บของ เซี่ยอวิ๋นจิ่น ตัวร้ายจอมโหดจนหายดีได้ เขาจะหย่าให้นาง และนางจะได้ไปใช้ชีวิตอิสระหลีกหนีเดธแฟลคที่จะเกิดขึ้น! ปฏิบัติการการเอาอกเอาใจสามีตัวร้ายและขุนลูกชายแฝดสี่ให้จ้ำม่ำจึงเริ่มต้นขึ้น *** ลิขสิทธิ์ถูกต้องภายใต้บริษัท Ink Stone Entertainment *** ได้รับลิขสิทธิ์ออนไลน์ (Digital license) สำหรับแปลขายลงบนเว็บไซต์ได้อย่างถูกลิขสิทธิ์ 100% เจ้าของลิขสิทธิ์ต้นฉบับ : China Literature เรื่อง : ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย ผู้เขียน : อวี๋เสี่ยวถง (鱼小桐) [首辅娇妻有空间] / [鱼小桐] ©2022 Ink Stone Entertainment Co., Ltd. All rights reserved. Thai translation rights arranged with China Literature by Ink Stone Entertainment Co., Ltd. ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย จำนวนตอนทั้งหมด : 1070 ตอน

อวี๋เสี่ยวถง (鱼小桐) · Sejarah
Peringkat tidak cukup
45 Chs

จารใจรัก

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ เซี่ยฟางหวา บุตรสาวของจวนจงหย่งโหว ยอมสละตนเองไปเข้าร่วมการฝึกฝนกับองครักษ์เงาที่ภูเขาไร้นามตั้งแต่อายุเจ็ดขวบเพื่อค้ำจุนวงศ์ตระกูลในภายภาคหน้า ผ่านไปแปดปี นางทำลายภูเขาไร้นามจนสิ้น ปลอมตัวกลับเข้ามาที่เมืองหลวงอีกครั้ง แต่โชคชะตาเหมือนเล่นตลกให้นางต้องพบกับเขา อ๋องน้อยแห่งจวนอิงชินอ๋อง พบกันเพียงครั้งนางกลับสลัดเขาไม่หลุด ไม่สามารถกลับคืนสู่ฐานะดั้งเดิมของตนได้ ทั้งยังต้องไปเป็นหญิงใบ้คอยรับใช้ข้างกายเขาอีก กลยุทธ์ วิชาแพทย์ นางล้วนฝึกฝนจนแตกฉาน แต่กับ ฉินเจิง ผู้นี้ นางกลับจนปัญญาที่จะต่อกรด้วยจริงๆ

ซีจื่อฉิง · Sejarah
Peringkat tidak cukup
1231 Chs

ปฏิญญาค่าแค้น

หลินหลัน ทะลุมิติมาเกิดใหม่ในคราบของหญิงสาวชาวบ้านที่แสนลำบากยากจน แต่โชคยังดีที่ความสามารถด้านการแพทย์และประสบการณ์รักษาผู้คนที่สั่งสมมาจากศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดนั้นติดตัวมาด้วย อีกทั้งครอบครัวในชาติภพนี้ก็ดีกับนางมิใช่น้อย กระนั้นเคราะห์ร้ายก็ยังคืบคลานเข้ามา เมื่อพี่ชายผู้เป็นที่พึ่งพาเดียวของนางนั้นใสซื่อจนไม่อาจตามทันเล่ห์กลของพี่สะใภ้ที่แสนโลภมาก สุดท้ายแล้วหลินหลันก็ถูกนางบีบบังคับให้ต้องออกเรือนแต่งงานไปเป็นนางบำเรอจนได้ ด้วยเหตุนี้นางจึงต้องดึงตัว หลี่ซิ่วฉาย ชายหนุ่มรูปงามผู้มีเบื้องหลังเป็นปริศนาในหมู่บ้านเข้ามาช่วยแก้สถานการณ์ ทั้งสองได้ตกลงทำสัญญาขึ้นมาหนึ่งฉบับ เขาช่วยนางให้หลุดพ้นจากการคลุมถุงชน ส่วนนางจะช่วยเขาแก้แค้นและทวงทุกสิ่งอย่างที่ถูกพรากไปกับคืนมาภายในระยะเวลาสามปี ทว่าแผนการช่วยเหลือเขาให้บรรลุเป้าหมายนั้นกลับไม่ง่ายดายอย่างที่คิดนี่สิ…

จื่ออี281 · Sejarah
Peringkat tidak cukup
339 Chs

แม่สื่อกำมะลอ

ในฐานะที่ได้ทะลุมิติเข้ามาอยู่ในโลกนิยายที่ตัวเองชื่นชอบ เฉินเจียหลิงคิดว่าเธอคงนับได้ว่าเป็นนางเอกคนหนึ่งเหมือนกัน นางเอกทะลุมิติหลายคนไม่มีพลังวิเศษก็เกิดมาในตระกูลสูงส่ง ไม่เป็นหมอหญิงที่เก่งกาจเกิดปลูกผักค้าขายจนร่ำรวย แต่เฉินเจียหลิงเป็นผู้หญิงธรรมดา ๆ มีความสามารถธรรมดา ๆ เธอจึงต้องลงเอยด้วยอาชีพที่อาศัยฝีปากและคารมคมคายที่พอจะมีอยู่บ้าง...แม่สื่อ! เฉินเจียหลิงไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเธอจะมีพรสวรรค์ด้านนี้อยู่เหมือนกัน ว่าแต่ว่า...จับคู่ให้คนอื่นไปก็มาก แล้วเธอจะมีโอกาสเจอพระเอกของตัวเองกับเขาบ้างไหมนะ? โอวหยางฮ่าวหรานเคยคิดว่าชีวิตของตนปราศจากสิ้นแล้วซึ่งความสดใสและสีสันอันงดงาม เสมือนละครฉากหนึ่งที่เริ่มต้นด้วยความเจ็บปวด ดำเนินเรื่องด้วยความรวดร้าว และจบลงด้วยความชืดชา เขาตั้งใจจะใช้ชีวิตเช่นนี้ไปจวบจนวันสุดท้าย เพียงเฝ้ามองโลกอันสวยงามของผู้อื่นจากที่ห่างไกล ดุจเมฆาที่เคลื่อนคล้อยผ่านไปตามกาลเวลา วันที่โอวหยางฮ่านหรานได้พบเฉินเจียหลิงเป็นวันท้องฟ้าสดใส ปราศจากหมู่เมฆ และเป็นวันที่เปลี่ยนแปลงตอนจบของละครฉากนี้ไปตลอดกาล

ChenNa · Sejarah
Peringkat tidak cukup
4 Chs

DUKUNG