"เราเองก็ไม่ได้อยากให้เธอฝืนใจมาแต่งงานกับเราเหมือนกัน" ความสัมพันธ์ของเพื่อนซี้สามคนที่สองในสามถูกผู้ใหญ่จับคู่ให้ต้องแต่งงานกัน ความรักความโกรธส่งผลให้เกิดความวุ่นวายมากมายตามมาไม่หยุดหย่อน
คฤหาสน์อันใหญ่โตมโหฬารแถบชานเมืองที่แวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า โรงเรียน สนามบิน สนามกีฬาหรือจะเป็นอะไรก็ตาม ที่นี่สามารถเข้าถึงได้ทั้งหมด
คืนหนึ่งในคฤหาสน์หลังโตแห่งนี้ เรื่องราววุ่นวายก็เกิดขึ้นจนได้
อลิสผู้เป็นเจ้าของบ้านเพิ่งจะกลับมาถึง ลากสังขารกลับมาจากบริษัทก็บังเอิญเดินสวนกับหญิงแปลกหน้ากับชุดเดรสที่คุ้นตาเข้า
เธอโมโหจนหัวฟัดหัวเหวี่ยง ขว้างกระเป๋าลงบนโต๊ะแล้วกระชากตัวผู้หญิงคนนั้นให้เดินตามมาทันที
" นี่คุณเป็นใครคะ " เธอคนนั้นพยายามต่อต้าน
" เธอมานอนกับใครล่ะ ก็เมียคนนั้นแหละ "
อลิสขบกรามแน่นแล้วตอบออกไป เธอไม่อยากจะมีเรื่องกับผู้หญิงที่นอนกับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีเพราะเข้าใจว่ามันเป็นงานของผู้หญิงคนนี้และผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ผิดอะไร เผลอๆอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาแต่งงานแล้ว
" ... "
เธอคนนั้นเนื้อตัวสั่นเทา ยอมก้มหน้าก้มตาเดินตามแรงดึงนั้นมาแต่โดยดี
ประตูไม้สลักลายมังกรถูกผู้มาเยือนเคาะอย่างแรงแล้วเปิดเข้ามาภายในห้องทำงานของชายหนุ่มอย่างโกรธเกรี้ยว กระชากผู้หญิงที่สวมชุดของเธออยู่เข้ามาในห้องนี้ด้วย พร้อมกับโวยวายเสียงดังลั่น
" เหรินทำแบบนี้ได้ไงวะ ถามจริงเถอะ "
ตั้งแต่เธอแต่งงานกับเขามาเกือบสามเดือนไม่มีวันไหนเลยที่เธอรู้สึกได้รับความรักจากคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี เขาไม่เคยแสดงความใส่ใจหรือใช้เวลาด้วยกันเลยสักนิด เป็นเพื่อนกันยังได้รับจากเขามากกว่านี้เสียอีก
ตามที่ตกลงกันไว้ตอนแต่งก็คือเราแต่งงานกันเพราะที่บ้านต้องการ เพื่อธุรกิจของครอบครัว แต่ปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่ามาถึงตอนนี้เธอตกหลุมรักเขาเข้าให้แล้ว จะมีความรู้สึกหึงหวงคงจะไม่ได้ผิดแปลกอะไร
" เสียงดังอะไรลิส "
" ชุดที่ผู้หญิงคนนี้ใส่มันของเราไม่ใช่หรือไง "
อลิสพูดอย่างใส่อารมณ์ เธอโกรธจนเนื้อตัวสั่น พาผู้หญิงอื่นเข้ามาในบ้านไม่พอ ยังจะเอาชุดของเธอไปให้เขาใส่อีก นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน
ที่ผ่านมาเธออดทนอดกลั้นไม่พูดอะไรเพราะทั้งคู่ไม่ได้รักกันเป็นทุนเดิม ถ้าเหรินจะอยากหาใครมาช่วยบำบัดความใคร่บ้างก็ไม่ใช่เรื่องแย่ แต่ครั้งนี้มันออกจะข้ามหน้าข้ามตากันเกินไปสักหน่อย
" อ่อ ใช่ ทำไมเหรอ " เขาพูดเสียงเรียบราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
" ทำไมเหรอ พูดออกมาได้ เอาชุดเราไปให้คนอื่นใช้อะนะ "
" ออกไปซะ กลับไป ก่อนจะเจ็บตัว "
เธอหันไปตะคอกใส่ผู้หญิงคนข้างๆ ในเมื่อเคลียร์ชัดเจนแล้วว่าเป็นชุดของตัวเองจริงๆผู้หญิงคนนี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต้องอยู่ตรงนี้อีกต่อไปแล้ว
อลิสมองตามร่างผู้หญิงแปลกหน้าที่เดินออกไปอย่างสั่นกลัว พอเธอคนนั้นพ้นประตูไปก็เปลี่ยนเป้าหมาย หันมาสนใจคนต้นเรื่องแทน
" เธออย่าพึ่งมาโวยวายดิ เราทำงานอยู่ แค่นี้ก็เครียดมากพอแล้ว "
" เหอะ เครียดเหรอ จะบ้าตาย นี่รู้สึกผิดบ้างไหมวะที่ทำอะ เอาจริงๆนะ ตั้งแต่แต่งงานกันมาเธอเคยรู้สึกรักเราบ้างไหม หรือพยายามจะรักเราอะ ฮึกกก...เคยหรือปล่าว " เธอถามพร้อมร้องไห้ออกมา
" ... "
" ถ้าเธอจะเป็นขนาดนี้ อึก...ก็ไม่น่ามาแต่งงานกับเราตั้งแต่แรก เราไม่เคยคิดว่าเธอจะทำแบบนี้เลยอะ " อลิสพยายามหยุดร้องไห้ เก็บเสียงสะอื้นให้เล็ดลอดออกไปน้อยที่สุด
" เธอไม่โอเคมากเลยเหรอ ขอโทษนะเราไม่ทันได้คิดถึงประเด็นนี้ "
" เหรินไม่เคยพยายามจะรักเรา สักนิดเดียวก็ไม่เคยเลย "
" วันนี้เป็นอะไรเนี่ย ปกติเธอไม่เป็นแบบนี้นะ "
เขาเดินเข้ามาหาเธอ กุมมือเธอเอาไว้อย่างใจเย็น ตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมาจนแต่งงานกันก็ไม่เคยเห็นคนคนตัวเล็กร้องไห้กับอะไรแบบนี้ ไม่สิ เคย ครั้งนั้นไง ตอนเลิกกับแฟนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย
" กำลังบอกว่าเรางี่เง่าอยู่ใช่หรือปล่าว "
" อลิส ไม่เอาดิไม่ชวนทะเลาะนะ เราทำงาน "
" เธอทำงานเป็นอยู่คนเดียวหรือไงวะ เราก็ทำงานไหม "
อลิสเริ่มหัวเสียมากขึ้นกับคำพูดของเขา ไม่ว่าเขาจะพูดอะไรออกมามันก็มีอิทธิพลกับความรู้สึกของเธอไปเสียหมด
" แล้วเธอเป็นอะไร เราพาผู้หญิงมาตั้งหลายครั้งก็ไม่เห็นเธอจะเป็นอะไรนี่ "
" เราโกรธ ที่เธอเอาเสื้อผ้าของเราไปให้เค้าใส่นั่นต่างหาก "
" โอเคๆ เราจะไม่ทำมันอีกแล้ว พอแล้วครับ "
" ... "
" มานั่งทำงานด้วยกันในห้องนี้มั้ย ถ้าเธอยังไม่ง่วง " เขาพยายามชวนเพราะเห็นได้ยินประโยคเมื่อครู่ว่าไม่ได้ใช้เวลาด้วยกัน
" เราว่าหย่ากันเถอะ เราอยู่กับเธอไม่ได้แล้วจริงๆว่ะ ความรู้สึกเรามันไม่ได้แล้วจริงๆเหริน "
" ไม่เอาแบบนี้ดิเธอมีเหตุผลหน่อย "
อลิสถอดแหวนแต่งงานออกมาเขวี้ยงใส่หน้าชายหนุ่มอยางแรงจนแหวนร่วงลงพื้นเสียงดังกริ๊ง
เธอปาดน้ำตาแล้ววิ่งออกจากห้องไป ทิ้งให้อีกคนยืนงงหนักกับสิ่งที่พึ่งจะเกิดขึ้น เขาเหมือนจะไม่เข้าใจสถานการณ์อย่างแน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นกับฝ่ายนั้นกันแน่ ได้แต่ยืนตะลึงงันอยู่แบบนั้น
3 เดือนก่อนหน้า
ทั้งสามคนชอบใช้เวลาด้วยกันมาตลอดถึงแม้จะเรียนจบแล้วก็ตาม ก็ใช้ชีวิตด้วยกันแบบนี้มาตั้งแต่ติวเข้ามหาวิทยาลัยแล้วนี่
วันนี้ก็ยังเหมือนเดิม พวกเขาทั้งสามคนนอนเกลือกนอนกลิ้งในห้องสี่เหลี่ยมขนาดไม่ใหญ่มากนัก เปิดเครื่องปรับอากาศจนเย็นฉ่ำจนต้องหาผ้ามาห่ม
หมอกกับเหรินชอบเล่นเกมเป็นชีวิตจิตใจ ก็อดไม่ได้ที่จะต้องมามั่วสุมเล่นเกมกันดังเคย อลิสจำใจจะต้องมาเล่นด้วยเพราะคนไม่ครบทีมทั้งที่ความจริงอยากจะนอนโง่ๆอยู่ในห้อง
แรกๆเกมก็สนุก หัวเราะกันคิกคักๆ แต่พอเริ่มแพ้เข้าเริ่มจะเครียดห้องเลยเงียบสงัดเหมือนห้องสมุดตอนเที่ยงคืนเลย
" อลิสแม่เรียกไปคุยหรือยัง "
เหรินเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจังหลังจากเกมที่เล่นอยู่เริ่มตึงเครียด ก็ไม่รู้จะเพิ่มความเครียดไปทำไมนะ แต่เขาก็ทำมัน
" คุยแล้วๆ "
" เธอโอเคไหม คือถ้าไม่โอเคไม่ต้องตอบตกลงนะ เราไม่อยากจะบังคับเธอ "
" ไม่ได้ไม่โอเคน่ะสิ เราแค่รู้สึกเฉยๆ แบบยังไงก็ได้อะ "
อลิสตอบเสียงเรียบ ก้มหน้าก้มตาเล่นเกมต่อ เรื่องการแต่งงานมีครอบครัวถ้าจะให้พ่อแม่เลือกให้เธอก็ไม่ได้ติดใจอะไรเพราะตอนนี้ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากนัก อาจจะเพราะที่ผ่านมาเจอความรักที่ไม่ดีด้วย
" แน่นะ "
" เธอก็รู้ว่าตอนนี้เราไม่ได้มีแฟน ไม่ได้รักใครชอบใครอยู่ ถ้าแต่งกับเธอเราโอเคแหละ เราก็รู้จักกันมานาน นิสัยเป็นยังไงก็พอรู้กันอยู่ ก็ดีกว่าไปแต่งกับลูกเพื่อนแม่คนอื่นโขเลย " เธอตอบไปตามที่คิด
" เหรินเถอะ โอเคไหม เราเองก็ไม่อยากให้เธอฝืนใจมาแต่งงานกับเรานะ "
" โอเคๆ ไม่ติดอะไรเลย "
เห็นหมอกนั่งเงียบแบบนี้เขาเลยถามออกไปด้วยความเป็นห่วง ก็หมอกกับอลิสเคยเป็นแฟนกันมาก่อนน่ะสิ ถ้าเพื่อนไม่โอเคขึ้นมาความสัมพันธ์ของพวกเราทั้งหมดจะแย่ ซึ่งเขาไม่ได้อยากให้เป็นแบบนั้น หมอกมันเป็นเหมือนครอบครัวของเหรินเลยนะ เขาเสียมันไปไม่ได้เหมือนกัน
" หมอกมึงว่าไงวะ กูสองคนแต่งงานกันมึงคิดว่าไง "
" ตัดสินใจกันเองสิ กูไม่ได้แต่งด้วยไอ่ห่า " เขาตอบส่งๆ ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามอง สองมือสองตายังคงให้ความสำคัญอยู่กับเกมที่เล่น
" อ่าวก็เผื่อมึงติดอะไร ถ้ามึงไม่โอเคบอกได้เลยนะ "
" กูโอเค ต่อให้กูไม่โอเคยังไงแม่มึงก็ต้องบังคับให้แต่ง มึงพูดเหมือนเลือกได้มากนักงั้นอะ "
อยู่ๆบรรยากาศของเกมที่สนุกอยู่เมื่อครู่ก็พังยับ ใช่หมอกพูดถูกเผงเลย เหรินจะขัดแม่ได้มากแค่ไหนกัน ตั้งแต่ที่เรียน คณะที่เรียนยันสาขาวิชาเขายังเลือกเองไม่ได้ เรียนเพื่อมาช่วยที่บ้านทำงานทั้งนั้น
ในวัยเด็กเหรินน่ะชอบเรียนวิทยาศาตร์ เขาเคยอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์โทนๆชีววิทยา วิจัยพืชวิจัยสัตว์อะไรเทือกนั้น อยากเป็นนักวิจัยที่มีงานวิจัยของตัวเองตีมพิมพ์ลงนิตยสารดังให้คนเห็นผลงานเจ๋งๆพร้อมกับใบหน้าหล่อๆของเขา
พยายามคุยกับแม่ไม่รู้กี่หน จนแล้วจนรอดก็โดนแม่ดับฝันอยู่ดี แม่ขีดเส้นไว้แล้วว่าเขาต้องทำอาชีพอะไร ก็จำเป็นต้องยอมเพราะนี่คือแม่
ทางที่เป็นไปได้ตอนนี้ก็คือถ้าเขาไม่แต่งงานกับอลิสก็ต้องแต่งงานกับลูกสาวของเพื่อนแม่ซักคนนึงอยู่ดี เหมือนที่อลิสโดนนั่นแหละ กระนั้นเขาก็แค่ไม่อยากให้อลิสรู้สึกไม่ดีถ้ามันจะเป็นเขาที่แต่งงานกับเธอ ทั้งก็อยากจะมั่นใจว่าหมอกไม่ได้รู้สึกอะไรกับอลิสแล้วจริงๆด้วย
" โอ๊ยยยย พวกเธอจะเครียดไรเนี่ยยย เล่นเกมก็ปล่อยใจกันหน่อยย "
" ก็ไอ้เหรินตึงอะ "
" มาๆๆๆ เล่นแบบผู้เล่นระดับเหรียญทองกันหน่อย "
ทั้งหมดหันไปตั้งใจเล่นเกมดังเดิม ก้มหน้าก้มตาเล่นอย่างขะมักเขม้น
" จิ๊ อลิสอย่าเล่นโง่ได้ไหมวะ เดินไปตายทำไมน่ะ " หมอกจิ๊ปากอย่างไม่สบอารมณ์เมื่อเพื่อนร่วมทีมที่นั่งอยู่ข้างๆเล่นไม่ได้ดั่งใจเขา
" ไม่ดูก่อนพูดรึไง โดนดึงค่า เธอไม่กันให้เราเองนี่ ไม่ได้เดินไปเองเนอะ "
" เออๆๆๆ นี่ เดินตามเรามา "
เล่นเกมกันไปหลายตาก็แพ้แล้วแพ้เล่าจึงนอนคุยกันเล่น สงสัยวันนี้ดวงไม่ดี สุ่มเจอแต่ทีมตรงข้ามเก่งเกินไป ( หรือพวกนี้เล่นอ่อนเอง แหะๆ เหรียญทองของหมู่บ้านหรือของประเทศกันล่ะ )
" ต้นเดือนต้องเข้าไปทำงานที่บริษัทแล้วใช่ไหมวะเหริน "
" ก็เออน่ะสิ กูตื่นเต้นจัดเลย "
" มึงก็ไม่ต้องไม่พยายามหาสมัครงานหรอก ช่วยกันทำที่บ้านเราเนี่ยแหละ "
" อิจฉาพวกเธอจังได้ทำงานด้วยกันอะ "
" เธอก็ชวนสาวๆมาทำงานด้วยกันสิ "
พอพูดถึงเรื่องทำงานเหรินก็พลันนึกถึงเพื่อนของอลิสขึ้นมา เจอกันครั้งล่าสุดก็นู่นเลย เมื่อตอนติวสอบเข้ามหาวิทยาลัย
" จะมาจังแหละ งานบริษัทไอ้ลิสไม่ได้ใกล้กับที่เค้าเรียนกันมาเลย "
" ใช่ เราชวนแล้วแต่เพื่อนไม่อยากมากัน "
" แล้วเตรียมงานแต่งอะไรยังไงกันบ้าง ถึงไหนกันละ มีไรให้ช่วยก็บอกนะ "
หมอกถามทั้งคู่ถึงงานแต่งงานที่จะจัดขึ้นเร็วๆนี้ ตัวเขาเองก็ต้องเตรียมตัวสำหรับการเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวด้วยเหมือนกัน
" ผู้ใหญ่เค้าจัดการแหละ "
" ขอให้ชีวิตแต่งงานสองคนมีความสุขมากๆนะ เราอยากขอโทษลิสด้วยที่เคยทำไม่ดีเอาไว้ " ประโยคหลังเขาหันไปคุยกับอดีตแฟนสาว
" อื้อ เราไม่ได้โกรธอะไรเธอแล้ว "
" ขอบคุณมากนะที่เธอไม่เกลียดเรา "