หลังจากเสร็จงานแต่งที่วุ่นวาย ผู้เดินกันพลุกผล่านในงานทำให้เหนื่อยกันมาทั้งวัน ตอนนี้ก็ถึงเวลาเข้าหอแล้ว
ญาติผู้ใหญ่จัดแจงทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ปล่อยให้เขาอยู่ด้วยกันสองคน ทำให้บรรยากาศในบ้านตอนนี้เงียบสงัด
เหรินกำลังถอดเนคไทออกจากคอ เตรียมตัวถอดชุดแล้วจะไปอาบน้ำก็สังเกตุเห็นอลิสในชุดเจ้าสาวที่สวยหยาดเยิ้มนั่งอยู่ปลายเตียงด้วยสีหน้าอมทุกข์
" เป็นอะไรหรือปล่าว บอกเราได้นะ "
เขาเดินเข้ามาใกล้ จับไหล่ทั้งสองข้างของเธอออกแรงบีบเบาๆพร้อมกับถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง
" เธอ...คือ เธอนอนห้องเธอได้มั้ย เราชอบนอนคนเดียวอะ "
อลิสบอกกับเขาแบบนั้นเพราะรู้สึกเขินอาย ถึงแม้วันนี้จะเป็นวันแต่งงานของทั้งสองคนแต่เธอด้วยความที่เป็นเพื่อนมาตลอด พอต้องเปลี่ยนสถานะมาเป็นภรรยาก็รู้สึกทำตัวไม่ถูก
ช่วงชีวิตที่ผ่านมาเธอไม่เคยให้ใครแชร์เตียงนอนกับเธอเลยตั้งแต่จำความได้ ตั้งใจว่าอยู่กันไปซักพัก ปรับตัวได้แล้วจะนอนด้วยกันกับเขาเหมือนสามีภรรยาคู่อื่นๆ คืนนี้คงต้องขอเว้นไว้ก่อน
" อ่อ อืม...แบบนี้นี่เอง ได้สิ "
เขาตอบเสียงเรียบแล้วเดินกลับไปที่ห้องนอนของตัวเอง พยายามคิดว่าเธอคงอยากได้เวลาส่วนตัว เหมือนๆกับสมัยเรียนที่พวกเขาพักอยู่ด้วยกัน
ขนาดหมอกเอง ช่วงที่เป็นแฟนกันรักกันขนาดนั้นก็ยังไม่ได้นอนห้องเดียวกับเธอเลย เขาจึงไม่ได้คิดอะไรมากแล้วเดินออกจากห้องมาอย่างว่าง่าย
อันที่จริงเขาก็ไม่มีทางคิดแค่นั้นได้หรอก ออกแนวไปทางคิดว่าอลิสกำลังเสียใจที่ตกลงแต่งงานกับเขาอยู่ใช่ไหมนั่นต่างหาก
คฤหาสน์หลังใหญ่โตของตระกูลดังคงไม่มีห้องนอนแค่ห้องเดียวอยู่แล้ว ขนเพื่อนมานอนที่บ้านสักหนึ่งคันรถทัวร์ยังไม่มีปัญหา แต่ถ้าหากว่านอนด้วยกันคงจะดีไม่น้อย
" เป็นไง หลับสบายดีมั้ย "
เหรินกล่าวทักทายยามเช้า เช้าที่สดใส เช้าวันแรกของการแต่งงาน
เขาเป็นคนลงมาชั้นล่างก่อน นั่งรออลิสอยู่สักพักแล้ว ในที่สุดเธอก็เดินลงมา หิวอยู่ไม่น้อย แต่อยากจะรอกินข้าวพร้อมกันกับคนเป็นภรรยา
" ก็ดีนะ หัวถึงหมอนเราหลับเลยอะ "
" วันนี้เราเข้าออฟฟิศใหญ่พร้อมกันเลยเนอะ "
" อื้ม "
ทั้งสองคนเข้ามาถึงบริษัทก็ต่างคนต่างนั่งทำงานตามหน้าที่ของตัวเอง แต่ผ่านไปไม่ถึงชั่วโมงงานก็เข้า
" ไอ้เชี่ยเหริน หยาบละ "
" ไรวะ "
" ไก่ฟาร์มในเครือเราที่จังหวัดสระบุรีตายยกเล้าหลายเล้าเลย "
หมอกเข้ามาแจ้งข่าวความเป็นไปของฟาร์มไก่ ตอนนี้กำลังเป็นกระแสอย่างมากถึงความปลอดภัยและโรคที่อาจจะได้รับจากการกินไก่ทอดร้านไก่กร๊อบกรอบ
" แม่งเป็นไปได้ไงวะ "
" ... " เขายืนนิ่งไม่ได้ตอบโต้อะไร
" มึงให้คนเช็คอาหารที่ให้กิน ยา แล้วก็วัคซีนหน่อย "
" เออๆ ได้ๆ "
" วันนี้เธอกลับบ้านเองนะ เราจะไปดูต่างจังหวัดหน่อย เดี๋ยวติดต่อนักข่าวไปที่สระบุรีให้เราด้วย ต้องแก้ภาพบริษัทเราคืนมา "
เขาแจกแจงงานให้เพื่อนสนิทเสร็จแล้วจึงหันมาพูดกับคนเป็นภรรยา ก่อนก้าวยาวๆเพื่อจะออกจากห้องทำงานแล้วเดินทางไปต่างจังหวัด
" โอเคค่ะ เดี๋ยวเราจัดการทางนี้เอง "
" เธอจะกลับมานอนบ้านหรือปล่าวคะ "
เธอถามเขาด้วยแอบหวังว่าเขาจะกลับมานอนที่บ้าน หลังจากทำใจมาแล้วก็ตั้งใจว่าจะลองแชร์เตียงกันนอนดู แต่วันนี้คงต้องยกเลิกไปก่อน ดูเหมือนว่าจะเป็นแบบนั้น
" ไม่น่าจะกลับมาทันว่ะ เธอไม่ต้องรอกินข้าวนะ "
" โอเคค่ะ เดินทางปลอดภัยนะคะ "
" กูตามแล้วนะ ฟาร์มเราทำวัคซีนไปแล้วแต่เช็คล็อตดูวัคซีนมันหมดอายุ "
" แล้วมันจะหมดได้ไงวะ "
" เดี๋ยวกูให้คนเช็คต่อ "
" เออๆให้ไวเลยมึง "
' นักข่าวท้องถิ่นน่าจะเข้าไปแล้วนะคะ '
" โอเค ขอบคุณนะ "
' อ่าห้ะๆ '
ทันทีที่ประสานงานเรียบร้อยอลิสก็โทรมาบอกเขาทันที อันที่จริงถ้าปัญหาตอนนี้มันไม่ได้กระทบกับภาพลักษณ์ของบริษัทมากนักเขาก็คงไม่ต้องถ่อสังขารมาไกลขนาดนี้ แค่ให้ลูกน้องทำก็พอแล้ว นี่มันดันเป็นข่าวใหญ่เลยน่ะสิ
" สวัสดีครับพี่ๆสื่อ ผมเหรินเองนะ อย่างที่ทราบๆกันว่าไก่ฟาร์มเราตอนนี้มีปัญหา ผมอยากจะแจ้งว่าเกิดจากวัคซีนที่ใช้หมดอายุน่ะครับ ทางเราได้แก้ปัญหาโดยกันคนที่จะเข้าออกฟาร์มรวมถึงให้สวมชุดป้องกันเหมือนที่พี่ๆใส่กันอยู่ตอนนี้เนี่ยแหละครับ "
" เรากำลังติดต่อไปทางบริษัทวัคซีนที่เราซื้อมาใช้อยู่ครับว่ามันเกิดผิดพลาดขึ้นได้ยังไง "
' แล้วแบบนี้จะเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคหรือปล่าวคะ '
" ไม่อย่างแน่นอนครับ ไก่ที่ป่วยตายเราฝังกลบแล้วพ่นยาฆ่าเชื้อ จะทำการล้างและพักเล้าไปก่อน ฟาร์มในเครือที่อื่นๆยังปกติดี มีไก่สดที่ปลอดภัยและยังมีไก่ทอดอร่อยๆให้ทุกคนได้ทานกันเหมือนเดิมเลยครับ ไม่กระทบถึงผู้บริโภคแน่นอน "
' แหมคุณเหริน แต่งงานไปหยกๆก็งานเข้าเลย เหนื่อยแย่ '
" ไหวครับพี่ๆ " เขายิ้มหวานๆใส่กล้อง
' วางแผนจะมีทายาทหรือยังครับเนี่ย เห็นคุณแม่ให้สัมภาษณ์ว่าท่านอยากอุ้มหลาน '
" ฮ่าๆ ก็คงปล่อยไปตามธรรมชาติเลยครับ เดี๋ยวน้องอยากมาก็มากันเองแหละเนอะ "
" ยังไงวันนี้ขอบคุณพี่ๆมากนะครับที่ให้ความสนใจทางเรา "
" เดี๋ยวขอตัวเลยนะครับ ถ้ามีโอกาสไว้เจอกันที่กรุงเทพนะครับ เรียนเชิญทุกคนเลยวันแถลงข่าวเรื่องการควบรวมบริษัทเรา ขอบคุณอีกครั้งครับ สวัสดีครับ "
" เห้ออ เหนื่อยว้อยย วันนรกอะไรของกูวะเนี่ย "
ขึ้นรถมาเขาก็ยืดเหยียดร่างกายอย่างเต็มที่ รีบบึ่งรถมาตั้งแต่ทราบเรื่อง ตอนนี้มืดค่ำแล้วพึ่งจะได้เลิกงาน เหนื่อยจนสายตัวแทบขาด
ภารกิจที่ต้องทำเร็วๆนี้ก็คือการควบรวมกิจการทั้งสองบ้าน เขาต้องเตรียมตัวสำหรับเรื่องนี้ ไม่ทันได้ทำอะไรก็มีเรื่องมาแทรกซะตั้งแต่วันแรกหลังแต่งงานเลย
" กลับเลยไหม "
" หานอนแถวนี้เถอะ นั่งรถเหนื่อยว่ะ "
ถึงแม้อลิสจะถามคนเป็นสามีไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่าจะกลับมานอนที่บ้านไหมแต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะรอ เผื่อว่าเขาจะกลับมา
เธอรออยู่จนดึกดื่น ในที่สุดก็ตั้งคำถามกับตัวเองว่านี่เธอรอทำไม พอคิดได้ดังนั้นแล้วจึงเข้านอน
" พรุ่งนี้เช้ากลับแต่เช้านะมึง กูอยากรีบกลับ จะแวะเข้าบ้านก่อนด้วย ไม่อยากเจอรถติด "
" ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ก็แล้วกัน "
เหรินนอนกลิ้งไปกลิ้งมาเพราะนอนไม่หลับ ในหัวเขากังวลว่าคนเป็นภรรยาจะรู้สึกแย่ที่เขาไม่ได้อยู่ด้วย ถึงจะเธอจะไม่ได้รักเขาแต่การที่ทิ้งให้เธออยู่บ้านที่ใหญ่โตขนาดนั้นโดยไม่มีเขาอยู่ก็คงจะเหงาแย่
เขาทนนอนอยู่แบบนั้นทั้งที่ไม่ได้หลับสักนิดจนกระทั่งเสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นก็รีบลุกขึ้นเก็บข้าวของแล้วกลับบ้าน
" หน้าโทรมจังไอ้เหริน มึงได้นอนจริงป้ะเนี่ย "
ทันทีที่ขึ้นมาบนรถหมอกก็สังเกตเห็นอาการอิดโรยของเพื่อนจึงถามไถ่ตามประสา
" นอนไม่หลับว่ะ "
" เป็นอะไรล่ะ "
เหรินนิ่งไปครู่ใหญ่ๆก่อนที่จะตัดสินใจบอกความในใจของตนออกมา เขาเก็บมันมานานเกินไป ใจจะระเบิดแล้ว
" กู...มีอะไรจะบอก "
" อะ บอกมาสิ "
" กูรู้สึกดีกับอลิส "
" แปลกตรงไหน ก็เมียมึง "
" กูรู้สึกดีกับเขามาตั้งแต่ตอนที่มึงมีปัญหากันแล้วกูอยู่กับเขาสองคนแล้ว กูกลัวทำให้มึงรู้สึกแย่ถ้าบอกมึงเลยพยายามตัดใจ แต่แม่งกูก็หนีตัวเองไม่ได้อยู่ดีว่ะ "
" ... " หมอกนิ่งเงียบและขับรถต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
" อึดอัดใจมากๆเลยมึง เหมือนกูเองก็แย่ที่แต่งงานกับเขาอะ กูรักเขา แต่งงานกับเขากูไม่เสียอะไรเลย แต่เขาสิไม่ได้คิดอะไรกับกูแล้วต้องมาทนอยู่ด้วยกัน "
" ไม่รู้พวกมึงอะ กูจะให้ความเห็นเรื่องความรักของคนอื่นได้ยังไง ความรักกูเองกูยังทำพัง " เขาตอบเนือยๆ
" ที่วันนั้นกูถามมึงว่าโอเคมั้ยมันก็เป็นเพราะแบบนี้แหละ ถ้ามึงบอกว่ายังรักอลิสอยู่กูไม่แต่งงานกับเขาแน่ "
" ไม่ได้อะไรกันแล้วจริงๆ เขาไม่น่าจะรักกูได้แบบเดิมแล้ว มึงไม่ต้องคิดมาก เขาไม่ได้รักก็ทำให้รักดิ "
" เขาไม่ได้สนใจกู สักนิดเดียวก็ไม่ "
เหรินพูดไปตามความรู้สึก อลิสไม่เคยทำอะไรที่เขาจะพอคิดเข้าข้างตัวเองได้เลยว่ามีความรู้สึกดีๆให้ มีแต่ความเป็นเพื่อนตลอดมา
" โง่ อยู่บ้านเดียวกัน นอนด้วยกันขนาดนั้น "
" ใครบอกล่ะ "
" อย่าบอกนะว่าพวกมึงแยกกันนอน "
หมอกขมวดคิ้วอ้าปากหวอ ไม่คาดคิดว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นในความสัมพันธ์ของทั้งสองคนได้ คนแต่งงานกันแต่แยกกันนอนเนี่ยนะ เป็นไปได้จริงหรือ
" ก็เออน่ะสิ "
" ไม่รู้พวกมึงแล้ววว จัดการกันเองครับ "