webnovel

บทที่ 14 เลี้ยงลูก

" เหรินน มาเปลี่ยนแพมเพิสลูก " เสียงคุณแม่มือใหม่ป้ายแดงตะโกนเรียกคนเป็นสามีให้มาจัดการเปลี่ยนแพมเพิสให้ลูก ได้ยินเสียงดังแพร่ดเมื่อสักครู่ส่งผลให้พอจะเดาได้เลยว่าลูกต้องถ่ายหนักแน่ๆ

" ครับผมๆๆ " ทางด้านคุณพ่อมือใหม่ขานรับแต่ก็ยังไม่วางมือจากงานที่ทำอยู่เสียที

" เร็วๆค่ะเดี๋ยวลูกเป็นผื่นนะ "

" ทราบแล้วคร้าบบบบ "

เป็นธรรมดาของเด็กที่จะแพ้นั่นแพ้นี่ได้ง่าย ถ้าไม่รักษาความสะอาดอย่างดีเพียงพอเด็กก็มักจะเกิดผื่นแพ้และอาการคันได้ง่าย

ซึ่งถ้าเหตุการณ์แบบที่ว่ามาเกิดขึ้นก็ต้องเป็นเขาทั้งคู่ที่ต้องคอยโอ๋คอยกล่อมลูกนอนทุกครั้งที่ลูกร้องไห้กระจองอแงตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะความไม่สบายตัว

" หืมมม หอมจัง "

หลังจากเปลี่ยนแพมเพิสให้ลูกเรียบร้อยแล้วเขากล่อมนอนอยู่พักใหญ่จึงเดินตรงดิ่งมาที่ครัว ภรรยาคนสวยกำลังทำการประกอบอาหารสำหรับมื้อเช้า กลิ่นหอมฉุยตีเข้าจมูกทันทีที่เดินเข้ามาด้านใน

เหรินสวมกอดคนเป็นภรรยาจากทางด้านหลังวางคางลงบนไหล่ ยืนนิ่งอยู่แบบนั้น ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมาจากปากของเขา

ตอนนี้เหรินกำลังซึมซับความรู้สึกของครอบครัวที่เป็นของเขาเองจริงๆ ที่ผ่านมาสองคนสามีภรรยาอยู่ด้วยกันก็ทำงานเยอะเสียมาก เวลาให้กันแทบไม่มี ตั้งแต่มีเจ้าตัวน้อยก็ลดงานลงเรื่อยๆ ยิ่งตอนนี้พี่เลี้ยงของน้องลาพักยิ่งเหมือนเป็นโอกาสดีมากที่จะได้อยู่กันเองสามคนพ่อแม่ลูก

" รักเธอว่ะอลิส "

" อารมณ์ไหนของเธอคะเนี่ย "

อลิสถามอย่างรู้สึกประหลาดใจที่จู่ๆคนเป็นสามีก็เข้ามากอดตั้งแต่เช้าแบบนี้ แต่ที่เขาทำอยู่แบบนี้เธอก็มีความสุขไม่น้อย

" อารมณ์ดีเพราะ... กับข้าวหอมมากกกก "

คนตัวสูงกว่าละกอดแล้วทำทีชะโงกหน้าไปสูดกลิ่นอาหารในหม้อที่กำลังเดือดปุดๆ กลิ่นหอมฟุ้งเมื่อครู่พอได้ดมใกล้ยิ่งทวีความหอมจนท้องไส้โครกครากด้วยกระเพาะอาหารเริ่มจะทำงาน

" ฮ่าๆ ระดับเชฟอลิสมันก็ต้องเป็นธรรมดาไหมล่ะ "

" ราคาคุยหรือปล่าวครับ หอมอย่างเดียวไม่ได้นาาา " เขาลากเสียงยาวๆยวนคนเป็นภรรยา

" ไม่ต้องห่วงจ้ะ อร่อยแบบแสงออกปากแน่นอน "

ฟอดดด

" แบบคนทำแน่เลยเนอะ " อาศัยจังหวะที่เชฟให้ความสนใจอยู่กับหม้อ เขาหอมฟอดใหญ่ๆที่แก้มของเธอเพื่อเป็นเติมพลัง(ให้ตัวเอง)

" นี่! ไปอาบน้ำได้แล้วจะได้มากินข้าวกัน "

หน้าสวยขึ้นสีแดงก่ำ แม้ทั้งคู่จะแต่งงานกันมาสองปีแล้วทว่าเธอก็ไม่คุ้นชินกับการแสดงความรักซึ่งกันและกันเสียที

โดนกอดโดนหอมมากี่ครั้งต่อกี่ครั้งเธอก็ยังเขินอายอยู่เสมอ เหมือนโดนกดปุ่มปิดให้หยุดการทำงาน ยืนตัวแข็งทื่อเป็นท่อนไม้

" เหนื่อยไหมครับ " เขาถามอย่างเป็นห่วงเป็นใยเพราะเห็นว่าเธอเองก็เหนื่อยอย่างที่ไม่เคยมาก่อนในชีวิต ตอนไปเรียนที่ต่างประเทศด้วยก็ยังไม่เคยเห็นเธอทำอะไรแบบนี้เลยด้วยซ้ำ

" อีกไม่กี่วันพี่เลี้ยงน้องก็กลับมาแล้วค่ะ เราไหว สบายมาก " เธอยิ้มขณะที่มือก็สาละวนอยู่กับอาหาร

" ตื่นเช้าขนาดนั้นทุกวันมาเกือบอาทิตย์แล้ว เดี๋ยวโทรมอีกค่าคอร์สมันแพงนะครับ ฮ่าๆ " เขาแซวคนเป็นภรรยาด้วยว่าช่วงหลังๆมานี้ชอบบ่นให้เขาฟังเป็นประจำเรื่องคอร์สดูแลผิวหน้าแพง

" มัวแต่พูด นู่นแหนะ ลูกคลานมาเล่นแล้ว "

" อะอ้าว จ๊ะเอ๋ ไม่นอนแล้วเหรอครับ "

เขารีบเดินไปกระเตงลูกเข้าเอวแล้วกลับเข้ามาวอแวคนเป็นภรรยาต่อ

" อรุณสวัสครับหม่าม๊า " เขาทำเสียงเล็กเสียงน้อยเลียนแบบลูก

" มีพ่อแบบนี้ก็ทนๆหน่อยนะลูก "

" นี่แหนะ หม่าม๊าว่าป๊าทำไมครับ " มือน้อยๆของเจ้าตัวน้อยถูกจับมาฟาดเบาๆที่ไหล่ของคนเป็นแม่ เธอหันมายิ้มให้ก่อนกลับไปสนใจที่อาหารตรงหน้าต่อ นี่ถ้าลูกโตกว่านี้อีกหน่อยคงมีหวังพากันซนทั้งพ่อทั้งลูกแน่ๆ

" เธอพาลูกไปอาบน้ำพร้อมกันเลยไป กว่าจะอาบเสร็จกับข้าวก็เสร็จพอดี ไปเร็ว " อลิสสั่งด้วยน้ำเสียงที่เริ่มดูจริงจังขึ้นมา เหรินจึงเริ่มรู้สึกได้ว่าถ้ายังก่อกวนต่อไปมีหวังโดนด่าเข้าจนได้จึงต้องยอมหยุด

" ครับ ปฏิบัติ!!! "

เขาขานเสียงดังฟังชัด ทำท่าแสดงความเคารพเหมือนที่ทหารทำกันแล้วรีบพาลูกไปเดินออกจากห้องครัวเพื่อไปอาบน้ำทันที

" ตาคนนี้ ดูหนังมากไปแล้วไหมเนี่ย "

หลังจากเหนื่อยกันมาทั้งวัน บรรยากาศภายในห้องก็สงบเงียบเพราะเจ้าตัวเล็กหลับไปแล้ว คราวนี้ถึงช่วงเวลาของทั้งสองคนในสถานะคู่รักบ้าง เหรินสะกิดไหล่ภรรยาเบาๆทันทีเป็นการส่งสัญญาณ

" ลูกหลับแล้วนะ "

" อื้อ เธอก็มานอนได้แล้วค่ะ พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้านะ " แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่เข้าใจสารที่เขาต้องการจะสื่อ

" อะไรของเธอเนี่ยยย ไม่เข้าใจหรือไง ลูกหลับแล้วครับ " เขาย้ำอย่างงอแง เขย่าแขนเธอจนตัวสั่นคลอน

" หลับก็ดีแล้วไงคะ เธอเป็นอะไรหรือปล่าวเนี่ย "

อลิสซุกตัวลงใต้ผ้าห่ม กำลังนอนครุ่นคิดว่าตอนเช้าตื่นมาจะทำอะไรบ้างดี เมนูอาหารลอยในห้วงความคิดเต็มไปหมด ไหนจะผ้าที่ต้องซัก ขวดนมลูกและอื่นๆอีกหลายอย่างที่ต้องช่วยกันรับผิดชอบ

" อลิสสสส "

เห็นว่าคนเป็นภรรยาท่าทางจะไม่เข้าใจที่เขาจะสื่อจริงๆ เขาจึงเริ่มประมวลผลได้ว่าอาจจะต้องบอกมากกว่านี้เธอจึงจะเข้าใจ

ว่าแล้วก็ระดมจูบตั้งแต่หัวไหล่ลามมาต้นคอขาว จูบย้ำๆที่ต้นคอจนเธอเริ่มรู้สึกได้

" อ๋อออ เราเข้าใจแล้ว "

" โถแม่คุณกว่าจะเข้าใจได้ " เขาทำกระฟัดกระเฟียด

" ก็เหนื่อยมาทั้งวันแล้วเธอ ใครจะมาคิดเรื่องนี้อยู่ได้ "

" เรานี่ไง แหะ " เขาขำแห้งๆ

ขอผมพูดบ้างครับ ถึงจะมีลูกแล้วก็ยังต้องหมั่นเติมความหวานให้กันเสมอสิ ไม่เห็นจะแปลกตรงไหนเลย

" งั้นเธอก็มานวดให้หน่อยสิคะ "

ได้ยินเธอพูดดังนั้นเหรินก็ดีใจ รีบกระตือรือร้นมาบีบนวดให้เธอทันทีด้วยกลัวว่าเธอจะเปลี่ยนใจ

" เธอนอนคว่ำหน่อยครับ "

เขาจัดการเปลี่ยนท่าทางของเธอให้เหมาะกับการนวดของเขา(ที่ไม่มีความรู้และคิดไปเองว่าดีนั่นแหละ)

" เบามือหน่อยก็ได้เธอ ไหล่จะหักแล้วค่ะ "

" ได้ครับ " ด้วยแรงดีใจที่อาจมากเกินไปสักหน่อยทำให้เขาลงน้ำหนักมือค่อนข้างเยอะจนคนเป็นภรรยารู้สึกเจ็บ

" อ่าาา ดี สบายมากเลยเธอ "

แต่ถึงแม้จะไม่มีความรู้อะไร การนวดของเขาก็ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายอย่างมากทีเดียว นับว่าประสบความสำเร็จ

เขาออกแรงบีบนวดคนเป็นภรรยาอยู่พักใหญ่ๆเสียงของเธอก็เงียบลง คงจะสบายตัวมากเสียจนหลับ ใช่ เธอหลับไปแล้ว ถึงจะประสบความสำเร็จในการนวดแต่ก็ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ในการนวดของคนที่กำลังนวดสักเท่าไร

" อลิส "

เขาเรียกชื่อเธอทันทีที่เริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติ แต่ไม่มีเสียงตอบรับ เธอนอนนิ่งไม่ไหวติง มีเพียงการกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะการหายใจเท่านั้น

" เธออออ อย่าบอกนะว่าหลับน่ะ "

" กรรม เรานวดดีเกินไปหรือไง "

" ฮ่าๆๆๆ จะบ้าตาย ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้ไว้คิดบัญชีรวบยอดแล้วกันนะครับ "

เหรินได้แต่ขำให้การกระทำกับตัวเอง ตั้งใจจะชวนอลิสทำกิจกรรมสร้างเด็กน้อยมาวิ่งเล่นเป็นเพื่อนกับน้องอีกสักคน เป็นอันว่าแผนการล่ม

เขาดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้เธออย่างเอ็นดูหลับคู่ทั้งแม่ทั้งลูกก็ถึงคราวเขาที่ต้องล้มตัวลงนอนบ้างแล้ว ทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่

ค้นพบว่าการเลี้ยงเด็กคนนึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ขนาดทั้งสองคนที่มีฐานะร่ำรวยพอถึงคราวพี่เลี้ยงลาหยุดก็สะบักสะบอมกันพอสมควร ได้เลี้ยงลูกด้วยตัวเองแบบร้อยเปอเซ็นต์ก็เป็นเรื่องดีที่ทำให้ได้ใช้เวลาด้วยกันแต่ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าเหนื่อยกันมากทีเดียว