webnovel

ตอนที่ 39 ติดกับ

แนวหน้าสลัม ฝั่งทหาร ปัจจุบันเดินเข้าไปในเขตน้ำขังจนเกือบถึงหัวเข่าที่มอนสเตอร์ทำไว้ได้เกินครึ่งทัพ

แนวหน้าสลัม ฝั่งนักผจญภัย ด้วยประสบการณ์ของหัวหน้ากิลด์ใหญ่หลายคน หลังเห็นสภาพพื้นที่ข้างหน้ามีน้ำขัง

พวกเขารีบเปิดประชุมหารือและได้ข้อสรุปว่า จะหยุดรอดูสถานการณ์ก่อน โดยเว้นระยะห่างจากพื้นที่น้ำขังประมาณสามสิบก้าว

แต่ก็มีพวกฉายเดี่ยว ไร้สังกัด อีโก้สูงหรือโลภมาก ไม่ยอมฟังคำสั่ง และเดินเข้าเขตน้ำขังไปแอบขโมยซากมอนสเตอร์หรือของมีค่าตามบ้าน บางคนยังค้นศพเพื่อหวังเศษเงิน

*****

คาเวิด หัวหน้าหน่วยกล้าตายที่ 5 สังกัดกิลด์ [หมีคลั่ง]

กิลด์ [หมีคลั่ง] เป็นกิลด์อริของ กิลด์ [เขี้ยวประกายแสง]

โซนที่กิลด์ [หมีคลั่ง] รับผิดชอบ อยู่ตรงกลางสลัม ติดกับทัพทหาร

พอมีคำสั่งให้หยุดเดินหน้าเพราะสงสัยในพื้นที่น้ำขัง กลุ่มของเขาจึงไปขออนุญาตหัวหน้ากิลด์ แล้วจึงไปเข้าเขตพื้นที่น้ำขังเดินค้นบ้านหาของมีค่า

ระหว่างค้นหา เขาก็เจอเด็กผมดำซ่อนตัวในบ้านที่มีแต่ขยะ ที่หาเจอเพราะน้ำมีเลือดลอยออกมา

"เป็นทาสหรือคนสลัมวะ! ออกมา!"

หลังโดนหัวหน้าหน่วยกล้าตายที่ 5 ตะคอกสั่ง

เด็กผมสีดำหน้าตาน่าเกลียดเพราะเนื้อส่วนปากแหว่งหายจนเห็นข้างในช่องปาก ข้างในก็ดูเละเทะไม่แพ้ข้างนอกเพราะเหงือกถูกเลาะออกมา ฟันก็หายไปหลายซี่

เอลด้าเดินกุมท้องออกมาช้าๆ

"หน้าตาอุบาทว์จังวะ เกือบนึกว่ามอนสเตอร์แล้วเนี่ย"

""""""ฮ่าๆๆๆๆ""""""

คำพูดของเขาเรียกเสียงหัวเราะจากลูกน้องได้เป็นอย่างดี

"ขยะอย่างแกแอบอู้งานเหรอวะ โดนแค่ธนูดอกเดียวทำมาเป็นสำออย ไปอยู่กับแนวหน้าซะ!"

แต่ตอนนั้นเองที่ลูกน้องพูดขัดขึ้นมาเสียก่อน

"เดี๋ยวก่อนครับหัวหน้า"

"มีอะไร"

"กิลด์เราเข้าใจผิดว่าพวกมันมากวาดล้าง แต่ความจริงคือพวกมันมาตามหาเด็กครับ ผมก็พึ่งรู้จากทีมหลักของหัวหน้ากิลด์ และเด็กผมดำคนนี้ อาจเป็นเด็กที่กิลด์เขี้ยวกระจอกนั่นตามหาอยู่ก็ได้นะครับ"

"ห้ะ แล้วไอเขี้ยวกระจอกจะหาเด็กน่าเกลียดแบบนี้ไปทำไมวะ"

หลังจากฟังลูกน้องอธิบายจบ ข้าก็ยิ้มกว้างอย่างดีใจ

"งั้นเอามันไปเรียกเงินแพงๆ กับอีนังเสือบ้านั่นดีกว่า ฮ่าๆๆๆ"

"ผมว่าอย่าเลยครับ หัวหน้าจำความแค้นที่โดนพวกมันแย่งฆ่าเป้าหมายของพวกเราในป่าไม่ได้เหรอครับ แถมตอนที่เราไปทวงส่วนแบ่งกลับโดนอีนังเสือบ้ามันไล่กระทืบซะเละเลย"

*****

ในความเป็นจริง หน่วยกล้าตายที่ 1 – 5 แอบไปรับเควสล่าอสูรมา แต่พอไปสู้จริงกลับเป็นฝ่ายถูกล่าเสียเอง

มีหลายทีมตายกันเกินครึ่ง บางทีมก็ไม่มีใครรอดสักราย

ตอนที่พวกเขาหนีหางจุกตูด ก็บังเอิญไปเห็นทีมหลักของไจเกียที่พึ่งล่าอสูรอีกตัวเสร็จเข้าพอดี

พวกเขาจึงตัดสินใจล่อใส่ทีมไจเกียแล้ววิ่งหนีกลับเมือง

ด้วยความเหนื่อยล้าและเสียหายจากการล่าอสูรของทีมเธอ ไจเกียจึงลงมือจัดการฆ่าด้วยตัวคนเดียวแล้วให้ทีมแบกซากร่างไปขึ้นเงินรางวัลทั้งสองตัว

พอสำนักงานส่งคนมาแจ้งเรื่องค่าปรับที่ทำภารกิจไม่สำเร็จที่กิลด์ หัวหน้ากิลด์จึงรู้เข้า

หลังโดนสอบถามราวเรื่องเสร็จ ด้วยความที่เป็นอริกัน จึงเลือกเข้าข้างลูกน้องแล้วส่งพวกเขาไปทวงส่วนแบ่งกลับมาเป็นการไถ่โทษที่ไปรับภารกิจเอง

ผลคือโดนกระทืบยับสาหัสปางตาย โชคดีที่ยังอยู่ในเมืองและเป็นนักผจญภัยสังกัดกิลด์ใหญ่อีกกิลด์ ไจเกียจึงไม่ลงมือฆ่าทิ้ง

ตอนกลับมาจึงโดนหัวหน้าตัดเงินเดือนไปเกือบ 1 ปีเต็ม โทษฐานที่จัดการและเอาส่วนแบ่งพวกมันไม่ได้

*****

"งั้นก็ไม่ต้องเอาไปขายให้มัน! เอาโซ่ล่ามหมามา!"

"ใช่แล้วหัวหน้า ให้อีนังเสือบ้าได้รู้จักการสูญเสียซะบ้าง"

"ฮ่าๆๆๆ ข้าล่ะอยากเห็นสีหน้าเจ็บใจของมันซะแล้วสิ เฮ้ย หลังจากนี้เจอเด็กผมดำคนไหนก็จับมาให้หมด"

พวกลูกน้องขานรับด้วยความกระตือรือร้น

พวกมันไม่แม้แต่ปลดลูกธนูให้เธอ แถมยังบังคับใส่ปลอกคอแล้วจูงโซ่บังคับให้เธอเดินเข้าไปลึกยิ่งขึ้น

ด้วยร่างกายที่อ่อนแออยู่แต่เดิม แถมเสียเลือดไปมาก ที่ยังยืนไหวอยู่เพราะยารักษาชนิดต่างๆ ของวานิวยังไม่หมดฤทธิ์

"ในเมื่อมอนสเตอร์ไม่มาสักที งั้นเราก็ใช้นังนี่ล่อพวกมันละกัน ฮ่าๆๆๆ ข้านี่ฉลาดจริงๆ"

หลังหาเสาไม้ในที่โล่งแจ้งเอจ มันก็ใช้มีดถูกๆ ปักโซ่ยึดเอาไว้ ก่อนจะเข้าไปกระชากลูกธนูออกมา โดยไม่หักหัวลูกศรก่อน

"กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด!"

แผลของเอลด้าเหวอะจนน่ากลัว เลือดไหลทะลักออกมาทั้งสองปากแผล

แม้เอลด้าจะกรีดร้องแทบขาดใจ มันก็ไม่สนใจ

ซ้ำร้ายมันยังถีบเอลด้าแล้วเหยียบกดเธอลงไปในน้ำเพื่อให้เลือดผสมกับน้ำ

เอลด้าสำลักกลืนน้ำสกปรกลงไป ทำให้ยายิ่งอ่อนฤทธิ์ลง

"เอ้ามากินเร็ว! ของโปรดพวกแกไม่ใช่เหรอวะ! แต่เลือดอาจจะโสโครกหน่อยนะ ฮ่าๆๆๆๆ"

ตอนนั้นเองที่เกิดเสียงความวุ่นวายขึ้นที่ฝั่งทหาร

"ฮ่าๆๆๆ เห็นมั้ยล่ะว่ามันได้ผล!"

มันยังไม่ทันได้อวดใคร หัวหน้ากิลด์ระดับสูงทุกกิลด์ต่างพร้อมใจกันตะโกนเป็นคำสั่งเหมือนกันว่า

"พวกมันมาแล้ว! เตรียมต่อสู้!"

มันถึงถอนเท้าออกมาจากเธอแล้วถอยหลังใช้เธอเป็นเหยื่อ ก่อนชักดาบออกมาเตรียมต่อสู้

*****

แนวหลังสลัม ฝั่งทหาร

เต็นท์ฐานบัญชาการรบชั่วคราว ภารกิจหลัก : ปราบปรามมอนสเตอร์และยึดดันเจี้ยน

ในความเป็นจริง ทหารถนัดจัดการกับคนมากกว่า ถึงพวกเขาจะเรียนรู้เรื่องการสู้กับมอนสเตอร์มาบ้าง แต่ก็ไม่อาจเทียบได้กับนักผจญภัยที่ต้องสู้รบกับพวกมันอยู่ทุกวัน

จึงนำมาสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาดครั้งใหญ่

ถึงอัศวินจะได้รับรายงานว่านักผจญภัยไม่กล้าเข้าไปในพื้นที่น้ำขัง จึงรีบส่งคำสั่งหยุดทัพและให้หน่วยค้นหาตรวจสอบอย่างละเอียด

จากนั้นหลังได้รับรายงานเรื่องได้ยินเสียงแปลกๆ บนกำแพงแถมตรวจสอบไม่เจอ เขาก็รีบสั่งให้ถอยทัพทันที

แต่มันก็ไม่ทันการณ์ เสียงกัมปนาทและเสียงกรีดร้องดังขึ้นต่อเนื่องไม่หยุด

*****

แนวหน้าสลัม ฝั่งทหาร

หลังได้รับคำสั่งให้เร่งเดินทัพและไม่ต้องเคลียร์เส้นทาง

ทหารทั้งกองทัพก็วิ่งเต็มฝีเท้า แต่ยิ่งเข้าใกล้ดันเจี้ยนเท่าไหร่ ความเร็วในการเดินทัพก็เริ่มตก เพราะระดับน้ำที่สูงขึ้น

ตอนแรกพวกเขาระวังตัวว่าอาจมีมอนสเตอร์แปลกๆ ซ่อนอยู่ในน้ำ แต่ไม่ว่าจะเดินนานแค่ไหน ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

หัวหน้ากองจึงสั่งลดความระวังลงแล้วเร่งความเร็วขึ้นเพื่อไปให้ถึงปากทางเข้าดันเจี้ยนก่อนมอนสเตอร์ระลอกต่อไปหลุดออกมา

หลังกองทัพเข้ามาได้เกินครึ่งทัพ คำสั่งหยุดทัพและให้ตรวจสอบโดยรอบอย่างละเอียดพึ่งมาถึง

และตอนนั้นเองที่พวกเขาก็เริ่มได้ยิงเสียงแปลกๆ จากบนกำแพง เหมือนเสียงอะไรสักอย่างกะเทาะหินตลอดเวลา

แต่พอใช้เวทตรวจสอบกลับไม่พบความผิดปกติ เพราะพวกมอนสเตอร์ปลาดาวมันขึ้นไปสูงมากจนสกิลตรวจจับไปไม่ถึง

แม้แต่บนกำแพงก็สงสัยและทำการใช้สกิลตรวจสอบ แต่เพราะพวกมันเกาะอยู่ระหว่างกลาง ไม่ลงมากไปและไม่ขึ้นมากไป พวกเขาจึงได้แค่ส่งรายงานไปที่ฐานบัญชาการชั่วคราว

ตอนนี้พวกปลาดาวต่างกระจายตัวครอบคลุมกำแพงเมืองตั้งแต่โซนทางเข้าออกดันเจี้ยนไปจนเกือบถึงประตูเมือง

หลังส่งข้อมูลไปแนวหลังเรื่องได้ยินเสียงแปลกๆ บนกำแพงได้ไม่นาน พวกปลาดาวก็เริ่มทำการโจมตี

มันใช้ฟันบดผนังกำแพงจนเป็นชิ้นเล็กแล้วกลืนลงท้อง ภายในท้องมันใช้เมือกพิเศษที่มีความเหนียวและแข็งตัวเร็วผสมหินให้เป็นก้อนใหญ่เท่าลูกบาส

แล้วพ่นหินก้อนนั้นลงไป

เมื่อหัวหน้ากองเงยหน้ามองขึ้นบนกำแพงอีกครั้ง เขาก็เห็นก้อนหินจำนวนนับไม่ถ้วนตกลงมา

"ยกโล่! ป้องกันหัว! หาที่กำบัง!"

ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม!

ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม!

ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม!

เสียงน้ำสาดกระจาย เสียงกรีดร้องดังระงม เสียงกระดูกหักกับเสียงเนื้อถูกทุบแรงๆ จนเละดังขึ้นไม่หยุด

หลายรายโดนเข้าที่หัวจนเละเหมือนแตงโมถูกทุบ พวกที่โดนเข้ากลางลำตัว ถ้าไม่อวัยวะภายในเละก็สาหัสปางตาย

พวกที่อาการสาหัสพอทรุดลงไปในน้ำก็จมน้ำตายเพราะลุกขึ้นไม่ขึ้น

แม้แต่พลโล่ที่ยกขึ้นมากันได้ทัน หากไม่แข็งแรงพอหรือมีสกิลสายป้องกัน โล่กับแขนก็พังหักไปพร้อมกัน

พวกที่ไม่มีโล่ได้แต่ตะเกียกตะกายหนีเอาตัวรอด มีการเหยียบกันตายเกิดขึ้น

ความเสียหายเริ่มกระจายเป็นวงกว้าง กองทัพทหารถูกกวาดไปเกือบครึ่ง

รายงานถูกส่งไปแนวหลัง กำลังเสริมถูกส่งเข้าไปช่วยทันที แต่กลับโดนเล่นงานด้วยก้อนหินเหมือนกับแนวหน้า

กำลังเสริมที่ส่งไปจึงเดินทางไปไม่ถึง ซ้ำร้ายยังต้องขอกำลังเสริมจากนอกกำแพงเมืองมาช่วยกำลังเสริมแรกที่บาดเจ็บล้มตายกันระนาว

ที่แนวหน้า มอนสเตอร์ชั้น 8 ที่ซุ่มรออยู่ในดินใต้น้ำ แถวทางเข้าออกดันเจี้ยนก็เริ่มทำการโจมตี

พวกมันคือ กุ้งเสียบ เป็นกุ้งที่มีขนาดยาวและใหญ่เท่าท่อนแขน ส่วนหัวมี กรี ยาวแหลมและแข็งมาก

ขาหน้าไม่มีก้ามหนีบแต่กลายเป็นของแหลมคมคล้ายหอกแทน

พวกมันพุ่งตัวในน้ำได้เร็วมาก ใช้เวลาไม่นานก็เข้าถึงกองทัพที่แตกกระเจิงและพยายามหนีไปฝั่งนักผจญภัย

พอถึงระยะโจมตีมันก็ดีดตัวพุ่งขึ้นจากน้ำแล้วเสียบทะลวงใส่ทุกอย่างตรงหน้า

ชุดเกราะกลายเป็นสิ่งไร้ค่า ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนสลัมกับทาส พวกเขาตายเรียบ

คนที่โดนมันพุ่งใส่ ร่างกายจะถูกเสียบทะลุจนเป็นรูเท่าขนาดตัวมัน แขนขาขาดกระจุย สมองหรืออวัยวะไหลออกมาตามจุดที่โดนเสียบ

น้ำขังสีน้ำตาลขุ่นเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม

แม้จะมีการสู้กลับ ใช้อาวุธฟันใส่ในจังหวะที่มันพุ่งเข้ามาจนตัวขาดหรือรีบทุบก่อนมันจะกระโดดใส่อีกครั้ง แต่ก็ไม่ได้ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นเพราะก้อนหินยังตกลงมาไม่หยุด