สาวรับใช้ตัวน้อยทั้งรู้สึกตกใจและซาบซึ้ง ในจวนแห่งนี้มีแต่การแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน มีแต่การเสนอตัวเองเพื่อจะได้ไปยังจุดที่สูงกว่าผู้อื่น นางไม่เคยเห็นผู้ใดยอมลดตัวให้ผู้อื่นเหยียบย่ำอย่างจริงใจเช่นนี้มาก่อน
โดยเฉพาะนายที่ยอมให้บ่าวได้ขึ้นไปยังจุดที่สูงกว่าตน...
"คิดอะไรอยู่รีบขึ้นมาเร็ว ๆ ซี่" เสียงเรียกทำให้สาวรับใช้ตัวน้อยสะดุ้งเบา ๆ
เฮ่อซินหมิงไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะดื้อดึงถึงเพียงนี้ อาหมิงทรุดกายลงทำท่าเดียวกับเธอ "คุณหนูขึ้นไปเถิดเจ้าค่ะ"
ปัดโธ่!…เธออยากจะบ้าตาย "ไม่เอาหรอก เธอนั่นแหละรีบ ๆ เหยียบหลังฉันขึ้นไปเร็ว ๆ ตัวเธอคงไม่หนักมากหรอก ฉันน่าจะพอรับน้ำหนักเธอได้อยู่"
เอ…ถ้าในร่างนี้ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันแฮะ
"ไม่เจ้าค่ะ คุณหนูเหยียบหลังข้าขึ้นไปดีกว่า" อาหมิงยืนยันอย่างหนักแน่นราวกับต้นสนที่ไม่มีใครสั่นคลอนได้
เฮ้อ!…วันนี้เธอจะได้ออกไปไหมนะ
เฮ่อซินหมิงเองถึงแม้จะคิดว่าคนตรงหน้าดื้อด้านเพียงใด แต่ตนเองก็ไม่ยอมเช่นกัน "นี่…เหยียบหลังฉันแล้วจะตายหรือไง เร็วเข้าเถอะน่า ขืนเป็นอย่างนี้ต่อไปก็มืดค่ำกันพอดี"
"ถ้าเช่นนั้นคุณหนูก็เหยียบหลังข้าขึ้นไปเถิดเจ้าค่ะ"
เฮ่อซินหมิงสองขมับเต้นตุบ ๆ ลุกพรวดขึ้นอย่างขัดใจ "โอ๊ย!…อะไรกัน ทำไมเธอต้องดื้อขนาดนี้ด้วย ไม่เอาแล้ว ๆ หาวิธีอื่นดีกว่า…เฮ้อ..."
อาหมิงเงยหน้าขึ้นมองร่างนายสาวที่หันหลังไปพิงกำแพงด้วยแววตาฉงนใจ แต่ก็ค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนอย่างนอบน้อมพร้อมกับคิดหาวิธีที่จะออกไปโดยที่คุณหนูไม่ต้องลำบากและเจ็บตัว
เฮ่อซินหมิงในร่างคุณหนูสิบเอ็ดกอดอกพิงกำแพง กำลังจะคิดหาวิธีอื่นแต่ก็รู้สึกว่ากำแพงข้างหลังช่างนุ่มและเย็นสบายยิ่งนัก
ว้าว!…กำแพงนี่ถูกปกคลุมไปด้วยมอสสีเขียวเต็มไปหมดและเถาวัลล์หนาเตอะจนไม่เห็นพื้นผิวกำแพง ถ้าที่บ้านมีเตียงนอนนุ่ม ๆ แบบนี้ให้ท่านตากับท่านยายนอนก็คงจะดี
สาวน้อยกระแทกแผ่นหลังเข้ากับกำแพงเบา ๆ พืชที่รองรับอยู่ราวกับเด้งเธอออกจากกำแพงได้อย่างง่ายดาย เฮ่อซินหมิงรู้สึกสนุกยิ่งนักจึงหัวเราะดังเอิ๊กอ๊ากใหญ่
"อาหมิงดูสิ! กำแพงนี่มันนุ่มชะมัดเลย เธอลองพิงดูสิ!" เสียงหัวเราะสุขใจของคุณหนูทำให้จิตใจของอาหมิงชื่นบานขึ้นมาจึงยิ้มกว้างตามไปด้วย
ยิ่งกระแทกแรงขึ้นมอสและเถาวัลล์ข้างหลังก็เหมือนจะกระเด้งเธอมากขึ้น เฮ่อซินหมิงหัวเราะชอบใจพร้อมกับกระแทกแผ่นหลังลงไปเต็มแรง
ทว่าครานี้กลับไม่มีแรงเด้งกลับ กำแพงที่ผ่านร้อนฝนหนาวมาหลายปีทลายเป็นช่องโหว่พร้อมกับร่างสาวน้อยที่หงายหลังไปพร้อมกัน
โครม!
"คุณหนู!!" อาหมิงตกใจหน้าซีดรีบก้าวเท้าเข้าไปหาร่างบอบบางที่อยู่บนซากกำแพง "คุณหนูเจ็บตรงไหนหรือไม่เจ้าคะ! คุณหนู…ข้าผิดไปแล้ว ข้า…"
อาหมิงพยุงร่างนายสาวขึ้นมาถามอย่างกระวนกระวายมือทั้งสองปัดเศษดินเศษใบไม้ให้อย่างร้อนใจ
"โอ๊ย! ฮะ ๆ มันจั๊กจี้นะ ฉันไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย ดีนะที่นอนลงมากับกำแพงก็เลยมีมอสกับเถาวัลล์รองรับพอดี"
"ไม่เห็นจะดีตรงไหนเลยเจ้าค่ะ ถ้าคุณหนูบาดเจ็บขึ้นมาจะแย่เอานะเจ้าคะ" อาหมิงดุเบา ๆ
"ก็ไม่ได้เจ็บตัวสักหน่อยนี่ เอ๊ะ!…กำแพง! กำแพง! กำแพงมันถล่มแล้วล่ะ!! เย่!!!" คุณหนูอันหนิงชูสองมือขึ้นสุดแขนหน้าตาดีใจอย่างยิ่ง
อาหมิงหันกลับไปดูช่องโหว่ของกำแพงที่ทะลุมาแทบจะเป็นรอยรูปคน ใบหน้าที่ชะงักงันของอาหมิงทำให้เธอหัวเราะขำยกใหญ่
"ฮ่า ๆ ๆ ดูสิ เป็นรูปตัวฉันเลย ขนาดเท่ากันเปี๊ยบ ฮ่า ๆ ๆ" เฮ่อซินหมิงผุดลุกขึ้นไปยืนแนบตัวเองเข้าระหว่างกำแพงจนแทบจะแทนที่กำแพงที่หลุดออกมาได้เลย
อาหมิงสะดุดลมหายใจแล้วหัวเราะออกมาอย่างขบขัน "คุณหนูเจ้าขา…คุณหนูยืนอุดกำแพงไปนะเจ้าคะ เดี๋ยวข้าจะพาคุณหนูกำแพงไปเดินเล่นเองเจ้าค่ะ…เอ่อ….ขออภัยเจ้าค่ะ ข้า…"
"ฮ่า ๆ ๆ ไม่ ๆ เธอมายืนอุดกำแพงซะ เดี๋ยวฉันจะไปเที่ยวกับคุณหนูกำแพงเอง ฮ่า ๆ ๆ " เห็นอาหมิงก้มหน้าเงียบไปเธอก็เดินเข้ามาหาถามอย่างสงสัย
"นี่…เป็นอะไรน่ะ"
สาวใช้ตัวน้อยก้มหน้าต่ำกว่าเดิมทำท่าทางนอบน้อมยิ่ง "ข้าน้อยเสียมารยาทต่อคุณหนู โปรดอภัยด้วยเจ้าค่ะ"
"ห๊ะ?…เสียมารยาทอะไรกัน เธอหัวเราะนั่นแหละดีแล้ว ต่อไปก็ไม่ต้องนอบน้อมกับฉันมากหรอก เราเป็นเพื่อนกันดีกว่า เธอเป็นเพื่อนคนแรกของฉันเลยนะเนี่ย…"
จริงสิ…ตั้งแต่เด็กคุณหนูก็ไม่เคยเจอสหายวัยเดียวกันมาก่อนนอกจากนางที่เป็นเพียงแค่บ่าวรับใช้ คุณหนูจะรู้สึกโดดเดี่ยวหรือไม่ที่ไร้สหายมากมายดังเช่นคุณหนูคนอื่น ๆ
"เป็นเพื่อนกับฉันมันน่าเศร้าขนาดนั้นเลยเหรอ? ทำไมต้องทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ด้วยล่ะ" เฮ่อซินหมิงยื่นหน้าเข้าไปใกล้กับอีกฝ่ายจนเห็นแววตาอีกฝ่ายได้ชัดเจน
อาหมิงอ่อนใจนักยิ้มบาง ๆ ให้พร้อมกับกล่าวอย่างอ่อนโยน "มิใช่เจ้าค่ะ คุณหนูเป็นคนดีมาก ยิ่งกว่าทุกคนที่ข้าเคยพบมา เพียงแต่ข้าน้อยเป็นเพียงข้ารับใช้ระดับล่างเท่านั้นเกรงว่า…"
"ข้ารับชงข้ารับใช้อะไร ไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย เอาเป็นว่าเจ้าเป็นเพื่อนข้านับตั้งแต่ตอนนี้เลยก็แล้วกัน"
รอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความจริงใจไร้การเสแสร้งนั้นทำให้จิตใจของอาหมิงสว่างไสวขึ้นอย่างบอกไม่ถูก ถ้าเช่นนั้นก็ถือว่าดียิ่งนัก นางจะได้คอยรับใช้คุณหนูไปนาน ๆ
"ไปกันเถิดเจ้าค่ะ เราต้องรีบกลับมาก่อนค่ำนะเจ้าคะ"
"แหม ๆ …ทีอย่างนี้จะไปคนแรกเลยนะ เอาละ!…ถ้างั้นเรารีบไปกันเถอะ!" ก้าวแรกแห่งประวัติศาสตร์กำลังจะเริ่มทว่าอาหมิงกลับพูดขัดอารมณ์ของเธอขึ้นมาก่อน
"คุณหนู! กำแพงเจ้าค่ะ!!"