"แหม ๆ …ทีอย่างนี้จะไปคนแรกเลยนะ เอาละ!…ถ้างั้นเรารีบไปกันเถอะ!" ก้าวแรกแห่งประวัติศาสตร์กำลังจะเริ่มทว่าอาหมิงกลับพูดขัดอารมณ์ของเธอขึ้นมาก่อน
"คุณหนู! กำแพงเจ้าค่ะ!!"
โธ่!...ยังมีกำแพงเจ้ากรรมอยู่ ถ้าปล่อยทิ้งไว้เดี๋ยวมีตัวอะไรเข้าออกไปเยี่ยมเยียนที่บ้านของผู้หญิงคนนี้แน่
"เธอมาช่วยยกหน่อยซิ" เฮ่อซินหมิงประคองกำแพงส่วนที่เป็นรูปไหล่คนขึ้นมาช้า ๆ อาหมิงรีบเข้ามาช่วยทันที
"คุณหนู ให้บ่าวทำเองเถิดเจ้าค่ะ"
"จะบ้าหรือไง กำแพงมัน…ไม่ค่อยหนักเลยแฮะ?" กำแพงนี่เบาแทบจะพอ ๆ กับหญ้าฟางแถวบ้านเธอเลย
"อาจเป็นเพราะมันอยู่มานานแล้วเจ้าค่ะ อีกทั้งแถวนี้ก็อยู่ห่างไกลจากเรือนหลักของจวนมากจึงไม่มีใครสนใจเจ้าค่ะ แล้วยังห่างไกลจากประตูหลังของจวนด้วยเจ้าค่ะ"
"ยังมีประตูหลังอีกหรอ?"
"มีประตูอยู่ทั้งสี่ทิศของจวนเลยเจ้าค่ะ จวนของท่านมหาเสนาบดีกว้างใหญ่มาก ๆ จนทั้งวันก็เดินได้ไม่ทั่ว จะเดินจากประตูหนึ่งไปอีกประตูหนึ่งก็ใช้เวลาพอสมควร"
น้ำเสียงเรียบ ๆ ที่เอ่ยไม่มีความโอ้อวดราวกับเรื่องที่เอ่ยมานั้นธรรมดาอย่างยิ่ง เฮ่อซินหมิงเบิกตาโตอย่างตะลึง
"กว้างใหญ่ขนาดไหนกันถึงเดินทั้งวันยังไม่ทั่วเนี่ย!"
สองสาวน้อยรูปร่างผอมบางช่วยกันยกกำแพงที่มีรูปร่างคล้ายกับคนขึ้นมาแล้วลากไปยังกำแพงที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตาก่อนจะดันกำแพงนั้นอุดช่องโหว่ขนาดใหญ่ได้อย่างพอดิบพอดี
"แสดงว่ากำแพงนี่ก็มีขนาดเท่ากับฉันเด๊ะเลยน่ะสิ ฮ่า ๆ ๆ " คุณหนูอันหนิงยืนเท้าสะเอวมองภาพตรงหน้าแล้วอ้าปากกว้างหัวเราะอย่างเบิกบานใจยิ่ง
อาหมิงยิ้มก่อนจะดึงเถาวัลล์รอบ ๆ มาปกปิดร่องรอยของกำแพงจนแทบจะดูไม่ออกว่าเคยเกิดเหตุการณ์โศกนาฏกรรมกับกำแพงที่น่าสงสารมาก่อน
"เยี่ยมเลย" เฮ่อซินหมิงยกนิ้วโป้งทั้งสองข้างให้กับอาหมิงที่ทำหน้างุนงง แต่เธอกลับนึกขึ้นมาได้
"แล้วถ้าเรากลับมาจะหาตรงนี้เจอมั้ยเนี่ย ทำซะเนียนเลย" อาหมิงยิ้มก่อนจะหันกลับไปมองผลงานของตนแล้วเอ่ยกับนายสาวของตน "มีข้าอยู่กับคุณหนู อย่าห่วงไปเลยเจ้าค่ะ"
คุณหนูสิบเอ็ดยิ้มร่าก่อนจะพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น "ถ้างั้นเราไปกันได้"
สองนายบ่าวเดินมาตามเส้นทางดินสายเล็ก อีกฝั่งก็เป็นป่าไม่ต่างกันทว่าเป็นป่าที่เต็มไปด้วยต้นไม้นานาพรรณ
เฮ่อซินหมิงเดินด้วยท่าทางไร้ความเป็นคุณหนูที่ถูกอบรมมารยาทมาด้วยความเบิกบานใจยิ่งเมื่อได้มองเห็นโลกกว้างแต่ก็อดสงสัยไม่ได้
"มีแต่ป่าทั้งนั้นเลยหรอเนี่ย"
อาหมิงกวาดสายตาไปรอบ ๆ ด้วยสายตาครุ่นคิด "อีกไม่นานคงจะมีบ้านคนแล้วเจ้าค่ะ แถวนี้ดูต้นไม้น้อยลง ทางเดินก็กว้างขึ้น ไม่ไกลจากที่นี่คงจะมีบ้านคนอยู่เจ้าค่ะ"
"อืม...นั่นสินะ ได้กลิ่นควันลอยมาจาง ๆ แล้วเหมือนจะได้ยินเสียงเฮฮาจากทางนั้นไกล ๆ เรารีบไปกันเถอะ"
ปลายนิ้วเรียวเล็กชี้ไปยังทิศบูรพาที่ห่างออกจากกำแพง คุณหนูในชุดคลุมยาวกรอมเท้าสีเขียวหม่นเร่งฝีเท้าเดินไปตามทางนั้นด้วยความตื่นเต้น อาหมิงกลับคิดบางอย่างขึ้นมาด้วยความหนักใจ
'หากเบื้องหน้าเป็นค่ายโจรจะทำอย่างไร?...แต่จำได้ว่ามีกองทัพทหารอยู่เลียบชายแดนระหว่างแคว้นฮุ่ยเหวินของเรากับหุบเขาหนิงหลงที่อยู่ทางเหนือและแคว้นต้าหย่งที่อยู่ทางทิศบูรพาด้วย เช่นนั้นในระยะใกล้ ๆ นี้ก็คงจะไม่มีหมู่โจรชุกชุม หรือถ้าเป็นคนไม่ดีที่คิดขโมยของ...'
มองไปยังอาภรญ์ของนายสาวเบื้องหน้าที่ซอมซ่อปุปะไม่ต่างจากเสื้อผ้าของตนนางก็โล่งใจไปเปลาะหนึ่ง
ทั้งสองเดินมาตามเส้นทางที่เริ่มกว้างและเป็นถนนมากขึ้นได้หนึ่งเค่อก็พบกับบ้านคนทีละหลัง ๆ ครานี้คุณหนูของนางมีรอยยิ้มที่สดใสขึ้นกว่าเดิมมาก
"อาหมิงดูสิ! มีบ้านคนแล้ว"
สาวรับใช้พยักหน้าตอบรับพลางสังเกตุโดยรอบ ที่นี่คงจะเป็นหมู่บ้านเหอหลิงเป็นแน่ นางรู้มาว่ามีหมู่บ้านเล็ก ๆ ชื่อหมู่บ้านเหอหลิงอยู่ระหว่างแคว้นต้าหย่งและแคว้นฮุ่ยเหวิน หมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ไม่ได้คึกคักอะไรมากมายเพราะอยู่ไกลจากเมืองหลวงทั้งของแคว้นฮุ่ยเหวินและแคว้นต้าหย่ง ดังนั้นก็จะมีแต่ชาวบ้านธรรมดาที่ล่าสัตว์ปลูกผักเลี้ยงชีพตนเอง
บ้านเรือนแต่ละหลังมีความแตกต่างกันไปแต่โดยรวมทุกหลังมิได้มีความหรูหราใด ๆ ทั้งสิ้น ผู้คนที่นี่แต่งกายเนื้อผ้าธรรมดาไร้สีสันฉูดฉาด แต่ละคนกำลังทำงานของตนด้วยใบหน้ายิ้มแย้มไร้ความทุกข์ใจ สตรีบางคนสับอาหารอยู่ข้างเล้าหมู หลายคนกำลังซักผ้าอยู่ข้างบ่อน้ำ ชายบางคนผ่าฟืนอยู่กับกองไม้ หลายคนนั่งพูดคุยกับครอบครัวด้วยความสุขใจ เด็ก ๆ หลายรุ่นกำลังวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน
ร่างบางเบื้องหน้าหยุดนิ่งไปนาน คุณหนูไม่เคยพบเจอกับผู้คนแปลกหน้าทั้งยังไม่เคยเห็นหมู่บ้านเช่นนี้จะรู้สึกอึดอัดหรือไม่? อาหมิงจึงถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงยิ่ง "คุณหนู…ท่านรู้สึกไม่สบายหรือเจ้าคะ จะกลับแล้วหรือไม่เจ้าคะ?"
เฮ่อซินหมิงหลับตาลงสัมผัสความรู้สึกรอบกาย ความรู้สึกเช่นนี้ราวกับเธอกำลังยืนอยู่ที่หมู่บ้านของตนเอง ที่ ๆ มีเสียงหัวเราะของเด็ก ๆ วิ่งเล่นกัน เสียงสายลมระผ่านต้นไม้ ที่ ๆ มีกลิ่นควันฟืน กลิ่นธรรมชาติต้นไม้ใบหญ้า กลิ่นอาหารลอยกรุ่น มีกลิ่นอายความเป็นหมู่บ้านที่แสนสงบสุข ความรู้สึกเช่นนี้ทำให้เธอคิดถึงท่านตากับท่านยายของเธอขึ้นมาทันที
ป่านนี้ท่านตากับท่านยายจะสบายดีมั้ยนะ?
ดวงตาของเธอลืมขึ้นช้า ๆ มองไปรอบด้านด้วยความคะนึงหา ที่หมู่บ้านเธอก็คงจะเป็นแบบนี้เหมือนกันสินะ
สายตาที่แฝงความเศร้าจากเบื้องลึกจิตใจกวาดมองไปทั่วจนไปหยุดอยู่ที่ศาลาหลังหนึ่งที่มีกลุ่มคนมากมายกำลังล้อมวงทำบางอย่างกันอยู่อย่างสรวลเสเฮฮา สาวน้อยบึ่งไปทางนั้นด้วยความสนใจ
"คุณหนู!…" อาหมิงรีบสาวเท้าตามร่างบางที่แทบจะวิ่งโร่ไปแทบไม่ทัน
เฮ่อซินหมิงพยายามเขย่งเท้าเพื่อจะมองเข้าไปข้างในวงล้อม แต่ร่างนี้ช่างเตี้ยเสียจนมองเห็นแต่แผ่นหลังของผู้คน
"ท่านป้า ๆ กำลังทำอะไรกันอยู่หรอ?" เธอถามหญิงวัยกลางคนที่ยืนอยู่ข้างหลังด้วยกัน ดูแล้วป้าคนนี้คงจะรู้เรื่องดีเพราะเห็นหัวเราะสะใจเสียงดังกว่าใคร
"มีคุณชายท่านหนึ่งมาท้าเล่นทอยเต๋าที่นี่น่ะสิ" ป้าคนนี้ดูไม่ค่อยสนใจเธอเท่าไหร่นัก
"ข้าชนะแล้ว!! ฮ่า ๆ ๆ " เสียงโห่ร้องอย่างดีใจดังขึ้นพร้อมกับทุกคนที่แสดงความยินดียิ่ง ชายวัยกลางคนเดินออกจากวงล้อมพร้อมกับในมือที่มีเหรียญอีแปะพวงหนึ่ง
ทอยเต๋าเหรอ? เหมือนกับเล่นพนันแถวบ้านเธอใช่ไหมนะ?
"ใครจะเล่นต่อ"
"ฉัน!!!" มือบางยกขึ้นสูงหลังฝูงชน แต่เห็นเพียงปลายนิ้วเท่านั้น
"คุณหนู!!!"