...
โชวิ่งไปหาป้าเพ็ญอย่างไม่คิดชีวิต เขามาถึงหน้าร้านขายของชำของป้าเพ็ญ ก่อนที่ชายแปลกหน้าคนนั้นจะมาถึงก่อน โชวิ่งไปแอบตรงที่ข้างๆหน้าร้านเพื่อดูสถานการณ์ ชายแปลกหน้าคนนั้นเดินหันซ้ายและขวามาโดยตลอด เหมือนกับว่าเขากำลังหาใครสักคน หรือหาบ้านคนที่กำลังตามหาอยู่ และพลันสายตาของเค้าก็เหลือบไปเห็นลุงพุธ ที่กำลังนั่งคุยอยู่กับป้าเพ็ญอยู่ที่ในร้าน ชายคนนั้นตะโกนเรียงลุงพุธของเขาอย่างเสียงดัง
" อ้อ.. อยู่นี่เอง ว่ายังไง แกจะเอายังไงกับน้องสาวของฉัน " ชายแปลกหน้าไม่สนใจใคร เขาตะโกนอย่างเสียงดังต่อเนื่อง
" แกจะรัับผิดชอบเรื่องที่แกทำกับน้องของฉันไหม ? " เขายังคงโวยวายไม่ยอมหยุด
" เรื่องอะไรของแก แล้วน้องของแกมันเป็นใคร ? " ลุงพุธไม่รู้จักกับชายคนนั้นอย่างแน่นอน
" ก็.. อ้อยไง!? อ้อยเป็นน้องสาวของฉัน นี่แกลืมอ้อยไปยังงั้นรึ.. " ชายคนนั้นดูโมโหเพิ่มขึ้นไปอีก
" อ๋อ.. อ้อย นี่เอง แล้วอ้อยเป็นอะไรไป เกิดอะไรขึ้นเหรอ " ลุงพุธเพิ่งจะรู้ว่าที่แท้ชายแปลกหน้าคนนี้คือพี่ชายของคนรู้จักของลุงนั่นเอง
" เป็นอะไรน่ะเหรอ ? อ้อยมันก็ท้องกับแกไง ไอ้เวร!! " ชายคนนั้นบอกกับลุงด้วยน้ำเสียงที่ยังคงความโมโหอยู่
" ท้อง!!.. ท้องได้ยังไง!? เอาอะไรมาพูด บ้าบอคอแตกสิ้นดี " ลุงพุธทำท่าไม่สนใจชายผู้นั้น
มันยิ่งทำให้ชายผู้นั้นเกิดความโกรธและโมโหยิ่งขึ้น
" แกจะไม่รับผิดชอบหรือ ไอ้ชั่ว!! " ชายคนนั้นตะคอกอย่างรุนแรงพร้อมกับถลึงตาใส่ลุงพุธอย่างแทบจะกินเลือดกินเนื้อของลุงพุธกันเลยทีเดียว
" โอ้ย.. จะให้ฉันไปรับผิดชอบกันได้ยังไง ใครๆเขาก็รู้ว่าอ้อย น้องสาวของเอ็งน่ะ มันเที่ยวไปเอากับใครต่อใครมานักต่อนักแล้ว และฉันก็ไม่คิดหรอกนะว่าลูกในท้องของหล่อนน่ะมันจะเป็นลูกของฉัน เพราะขนาดเมียที่บ้านของฉันน่ะอยู่กันมาตั้งนานแล้วยังไม่เห็นว่าจะท้องเลย ไปๆ!! รีบไปเสียเถอะ เดี๋ยวแกจะอายคนไปเปล่าๆ " ลุงพุธโบกไม้โบกมือไล่ชายผู้นั้นอย่างไม่แยแส
คนแปลกหน้าที่อ้างตัวว่าเป็นพี่ชายของคนที่ชื่อว่า อ้อย นั้นโมโหอย่างที่สุด เขาเอื้อมมือหยิบสิ่งของบางอย่างจากข้างในกระเป๋าสะพายข้างของเขา สิ่งนั้นที่โชสงสัยและคิดมาโดยตลอด.. มันคือปืนพกนั่นเอง!!..
ชายแปลกหน้าหยิบเอาปืนขึ้นมาขู่ลุงพุธของเขา
" แก.. มันสมควรตาย แกมาทำให้น้องของฉันท้องแล้วยังไม่รับผิดชอบ แถมมาต่อว่าน้องของฉันให้ต้องอับอาย แกมันเลวยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉานเสียอีก.. " ชายคนนั้นเขาเล็งปืนไปที่ลุงพุธอย่างน่ากลัว
" อย่าอยู่เลยแก.. ตายไปซะ!! " ชายคนนั้นเหนี่ยวไกปืนหมายจะยิงลุงพุธอย่างแน่นอน
ด้วยความตกใจที่ชายผู้นั้นมีปืน ลุงพุธจึงหลบหนีโดยแอบมุดและหลบปืนที่ชายผู้นั้นเล็งมาทางลุงพุธ และลุงพุธก็ได้คว้ามือของป้าเพ็ญที่ตอนนั้นป้าเพ็ญได้อยู่ใกล้ๆตัวของลุงพุธ และดึงมือของป้าเพ็ญเข้าหาตัวของลุงพุธ เพื่อให้ตัวป้าเพ็ญมากันตัวของตัวเองเพราะความกลัวตายของลุง ( พูดง่ายๆคือเอาป้าเพ็ญเป็นเกราะกำบังกันกระสุนนั่นเอง )
โชเห็นท่าไม่ดี เขากระโดดออกจากที่ที่เขาซ่อนแอบอยู่ และกระโจนใส่ชายคนนั้นอย่างแรงเพื่อผลักเขาให้กระเด็นล้มลงพื้นไป
" เปรี้ยง!! " เสียงปืนดังลั่นขึ้น
โชตกตะลึงกับภาพที่อยู่ตรงหน้า ป้าเพ็ญของเขาล้มลงมีเลือดไหลเป็นทางนอนร้องโอดโอยอยู่ที่พื้น กับลุงพุธที่นั่งตัวสั่นงันงกอยู่ไกล้ๆ ชายคนนั้นยังคงล้มอยู่ใกล้ๆกันกับโช
เขาเห็นปืนที่กระเด็นตกลงสู่พื้น โชจึงรีบลุกขึ้นวิ่งไปที่ปืนกระบอกนั้น ด้วยความที่เขายังเป็นเด็กความไวจึงเป็นเลิศ โชถึงปืนกระบอกนั้นก่อนและเขาจึงหยิบปืนนั้นมาถือเอาไว้ ก่อนจะตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ
ทันทีที่เสียงปืนดังขึ้น พวกชาวบ้านในชุมชนต่างก็กรูกันออกมาดูเหตุการณ์ว่าเกิดเรื่องอะไรกันขึ้น ด้วยความอยากรู้เรื่อง อันที่จริงพวกเขาทั้งหลายก็ได้ยินเสียงของลุงพุธกับชายผู้นั้นทะเลาะกันอยู่แล้ว แต่พวกเขาคิดว่าแค่คนทะเลาะกันเฉยๆ เลยไม่ได้เอะใจ จนกระทั่งมีเสียงปืนดังขึ้น ทุกคนในชุมชนออกมาช่วยกันจับชายผู้นั้นส่งตำรวจ
ป้าเพ็ญได้รับบาดเจ็บโดนยิงแทนลุงพุธของเขา แต่โชคยังดีที่โชช่วยผลักชายผู้นั้นที่ถือปืนจึงทำให้วิถีของลูกกระสุนหักเหไป ไม่โดนจุดสำคัญแค่ถากๆเฉียดแขนของป้าเพ็ญไปแค่นั้น แต่ยังไงๆป้าเพ็ญก็ได้รับบาดเจ็บจึงต้องพาไปโรงพยาบาล
เหตุการณ์ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้นโชยังตื่นเต้นไม่หาย แต่เขาก็ดีใจด้วยเช่นกัน ที่ตัวของเขาในครั้งนี้มีประโยชน์สามารถช่วยแก้ไขสถานการณ์จากเหตุร้ายแรงให้คลี่คลายและเบาบางลงได้ อย่างเช่นในครั้งนี้
' ฉันขอบใจในตัวของฉันเองจริงๆด้วย นายโช!!.. นายเก่งมากที่ทำให้ป้าเพ็ญของนายปลอดภัยและไม่ต้องกลายเป็นคนพิการอย่างทารุณ ฉันภูมิใจในตัวของฉันเองจริงๆนะเนี่ย ถึงจะไม่มีใครรู้ แต่นายรู้.. ใช่ไหม..? โช '
โชยิ้มกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ เขารู้สึกว่าตัวตนของเขาในตอนนี้เป็นคนที่มีคุณค่ามากมายมหาศาล เพราะว่าเขาสามารถช่วยคลี่คลายและแก้ปัญหาให้กับป้าเพ็ญของเขาได้ โดยที่ในตอนนี้ทุกๆคนจะไม่มีใครรู้เลยก็ตาม จะรู้เพียงแค่ว่าโชเก่งเป็นเด็กที่กล้าหาญ และเป็นฮีโร่มาช่วยป้ากับลุงของเขาแต่เพียงเท่านั้น!! แต่ในความเป็นจริงแล้ว เรื่องเดิมของเหตุการณ์ในครั้งนี้คือ ( เหตุการณ์จริงของโชที่ประสพมาเมื่อสมัย 20 ปีที่แล้ว ) ป้าเพ็ญจะโดนยิงแบบลูกหลงเพราะลุงพุธดึงเอาตัวป้าเพ็ญมาบังตัวของลุงพุธเอง และกระสุนจะถูกยิงเข้าที่ลูกตาข้างขวาของป้าเพ็ญ จึงทำให้ป้าเพ็ญต้องเป็นคนพิการตาบอดไปข้างหนึ่งเลย และหลังจากนั้นลุงพุธก็จะทิ้งป้าเพ็ญโดยที่ป้าเพ็ญไม่ได้ทำผิดอะไร เพียงแค่ป้าเพ็ญพิการเสียตาไปข้างหนึ่งก็เพราะลุงพุธเองนั่นแหละที่เป็นตัวต้นเหตุ แถมพอลุงพุธเลิกกับป้าเพ็ญไปแล้วก็ไปอยู่กับผู้หญิงคนนั้นเลยทันที!! ( ด้วยความกลัวว่าพี่ชายของคนชื่ออ้อยจะตามมาฆ่าตนเอง )
ที่จริงลุงพุธของโชต่างหากล่ะที่ไม่ดีแอบไปเที่ยวซุกซนจนได้เรื่องได้ราวมา และผลกรรมกลับมาตอบแทนป้าเพ็ญเสียได้ ช่างไม่ยุติธรรมกับป้าเพ็ญเลย ถึงในตอนนี้บาดแผลของป้าเพ็ญจะยังไม่เป็นอะไรมากก็ตามที แต่คิดว่าบาดแผลที่จิตใจของป้าเพ็ญนั้นอาจจะรักษาได้ยากยิ่งนัก แถมทางฝ่ายผู้หญิงคนนั้นก็อายุน้อยกว่าป้าเพ็ญมากเธอยังสาวกว่า แล้วเธอคนนั้นยังท้องลูกของลุงพุธอยู่อีกด้วย
ซึ่งในตอนนี้โชก็ยังไม่รู้ว่าป้าเพ็ญจะมีความรู้สึกเป็นเช่นไร…
...
ค่ำวันนั้นหลังจากที่เกิดเรื่อง ณ ที่บ้านของยาย
ยายได้รับรู้เรื่องราวของลุงพุธลูกชายของเธอแล้ว และตอนนี้ที่บ้านก็มีทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา โดยที่ป้าเพ็ญจะคงยังมีผ้าพันแผลพันโดยรอบบาดแผลที่ต้นแขนข้างขวา ในตอนนี้ที่บ้านยายบรรยากาศมาคุมาก.. จนโชรู้สึกได้ถึงความน่าอึดอัดในครานี้
ยายนั่งจ้องหน้าลุงปานประหนึ่งว่า กำลังเล่นเกมส์จ้องตากันอยู่ และป้าเพ็ญที่นั่งนิ่งเงียบเหมือนกับคนเป็นใบ้ ส่วนโชกับน้าศุกร์ทนเห็นความน่าอึดอัดต่อไปไม่ไหวแล้วจึงขอตัวหลบกันขึ้นไปอยู่ข้างบนในห้องของน้าศุกร์
...
" ทำไมพ่อพุธถึงมักง่ายนักล่ะ แม่เพ็ญก็อยู่ทั้งคน.. เมียก็ดีแสนดีแบบนี้ยังไปทำตัวมักง่ายอย่างกับหมาข้างถนนไม่มีผิดเพี้ยน แล้วนี่อะไรกัน.. ความเป็นลูกผู้ชายของพ่อพุธนั้นหายไปไหนหมด ถึงได้เอาเมียมาเป็นโล่กำบังตัวของตน อายเด็กมันบ้างหรือไม่ ดูสิ.. ถ้าไม่ได้โชมันช่วยผลักคนร้ายนะ แม่เพ็ญคงได้ตายไปแล้วแน่ๆ ฉันล่ะขายขี้หน้าจริงๆที่มีลูกชายแบบนี้ "
ลุงพุธไม่ตอบโต้อะไรเลย และป้าเพ็ญก็นั่งน้ำตาหยดอยู่ข้างๆกัน ยายของโชรู้สึกสงสารป้าเพ็ญนัก แต่แกก็ไม่รู้จะช่วยปลอบป้าเพ็ญให้คลายความเศร้าได้อย่างไร เพราะอีกใจของยายก็ยังเป็นห่วงลุงพุธทั้งที่ลุงพุธนั้นเป็นคนผิดอยู่เต็มๆ
" แล้วทีนี้จะทำอย่างไร ? เห็นเค้าว่าฝ่ายนู้นมันท้องลูกของพ่อพุธงั้นเหรอ ? " ยายถามลุงพุธ
" ท้องจริงรึเปล่าก็ไม่รู้ ? " ลุงพุธตอบแบบไม่แน่ใจ
" อ่าว.. แล้วถ้ามันไม่จริง พี่ชายเค้าจะตามมายิงแกถึงที่เหรอ ? " ยายตวาดแหว
" โธ่.. แม่ ผมก็ไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้หรอก และอีกอย่างผู้หญิงคนนั้นมันก็ง่ายๆกับทุกคน ผมก็แค่ไปเที่ยวมันก็แค่นักร้องคาเฟ่ ไม่ได้ชงไม่ได้ชอบอะไรนักแค่ผมผิดพลาดไปแค่ครั้งเดียวเอง แม่ก็ให้อภัยผมเถอะ " ลุงพุธยังคงอ้างและแก้ตัวไปอย่างน้ำขุ่นๆ
" ฉันล่ะอับอายขายขี้หน้าจริงๆ ลูกๆแต่ละคนของฉัน จะมีดีก็คงแม่ศุกร์คนเดียวเสียกระมัง " ยายเอามือบีบขมับและนวดไปมาเพื่อคลายความเครียด
" แม่อย่าพูดแบบนี้สิ ยังไงๆ ฉันก็เป็นคนหาเงินมาดูแลครอบครัวนะ ถึงจะว่างงานในช่วงนี้ก็เหอะ " ลุงยังคงดื้อแพ่งเถียงยายอีก
" โอ้ย..!! นี่!! ยังจะเถียงข้างๆคูๆอยู่อีกเหรอ แล้วทุกวันนี้แม่เพ็ญไม่ได้ทำอะไรเลยรึยังไง ? "
ยายเหนื่อยใจกับลุงพุธมาก แต่ลุงพุธกลับโทษแต่ผู้อื่นไม่ยอมสำนึกผิดส่วนป้าเพ็ญก็เอาแต่นั่งร้องให้แต่เพียงอย่างเดียว ทำไมป้าเพ็ญถึงต้องยอมลุงพุธด้วยนะ นี่ลุงเค้าเห็นแก่ตัวมากไปจริงๆ ขนาดมีเรื่องมีปัญหาแทนที่จะยอมรับผิดกลับไม่ยอมรับความผิด และพอคนร้ายชักปืนมาขู่ แทนที่จะแอบหรือหลบไปเองกลับดึงเอาผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรมาเป็นตัวกันกระสุนให้ตนเองแบบนี้..
นี่หรือที่เขาเรียกว่าคนรักกัน จริงอยู่ที่ว่าสามีและภรรยาต้องร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน แต่มันไม่ใช่ในเรื่องแบบนี้ไม่ใช่หรือ ? ลุงพุธไม่มีแม้การเสียสละ และความรับผิดชอบชั่วดีอะไรเลย ซ้ำยังกระทำการอันไร้หัวใจ เพื่อทำร้ายจิตใจของป้าเพ็ญอีกด้วย..
...
รุ่งเช้าอีกวัน หลังจากเกิดเหตุการณ์..
โชตื่นเช้าและไปช่วยยายใส่บาตรเหมือนเช่นเคย เช้านี้ในชุมชนผู้คนดูคับคั่งกันเป็นพิเศษ ยายทำธุระใส่บาตรเสร็จแล้วก็รีบตรงกลับเข้าบ้านทันที เพื่อหลีกหนีผู้คนที่กำลังรอถามเรื่องราวต่างๆกับยายอยู่ แต่ยายก็หนีไม่พ้นจนได้
" เรื่องราวมันเป็นยังไงเหรอพี่ เค้าว่ากันว่ามีคนมายิงลูกชายพี่ไม่ใช่เหรอ เมื่อวานนี้น่ะ " ผู้อยากรู้เรื่องของชาวบ้านคนที่ 1
" อ๋อเหรอ.. ลูกพี่คนนี้เองหรอกเหรอ เห็นเขาว่าไปทำใครท้องนะคะ " ผู้ที่คอยเสี้ยมให้คนเขาทะเลาะกันคนที่ 2
" แล้วพี่เพ็ญจะเปิดร้านอีกเมื่อไหร่คะ ป้า ? " ผู้ที่อยากรู้ไปซะทุกเรื่องคนที่ 3
ยายไม่ได้ตอบว่าอะไร แค่พยักหน้าหงึกๆแล้วเดินจากมา ปล่อยให้ผู้ที่สงสัยทั้งหลายยืนเดาเรื่องราวกันต่อไป โชเห็นยายแล้วก็ให้มีความรู้สึกสงสารยาย จากที่ยายเคยมีความสุขในตอนเช้าของทุกวัน เพียงเพราะเหตุการณ์เรื่องของลุงพุธเพียงคนเดียวเท่านั้นก็ได้ทำลายความสงบสุขของยายไปโดยทันที
ลุงพุธจะรู้ไหมว่ายายต้องเจอกับอะไรบ้าง และต้องเครียดกับคำถามที่ไม่ยอมจบไม่ยอมสิ้นอย่างนี้ไปอีกกี่วันกัน..
ป้าเพ็ญปิดร้านค้าไปเพียงแค่สองวัน แค่พอเธอขยับแขนได้ไม่เจ็บปวด เธอก็ตัดสินใจเปิดร้านขายของชำของเธอต่อ เธอทำตัวเป็นปรกติของเธอ แต่ข้างในใจของป้าเพ็ญนั้นจะเป็นเช่นไรคงไม่มีใครรู้ได้ ผู้คนในชุมชนที่อยากรู้เรื่องของวันนั้น ต่างก็ทำทีเป็นมาเยี่ยมเยียนเธอที่ร้านค้าขายของชำของเธอกัน
" เปิดร้านแล้ว.. หายดีแล้วเหรอจ๊ะเพ็ญ " ลูกค้ารุ่นๆป้าเพ็ญเอ่ยถาม
" เปิดแล้วจ้า.. แผลก็ไม่มีอะไรแล้วจ่ะ แค่ล้างแผลและกินยาตามที่หมอสั่งก็พอจ่ะ " ป้าเพ็ญตอบพร้อมกับยิ้มเพื่อเรียกลูกค้าให้เข้าร้าน
" แล้ว.. หลานชายไม่มาช่วยเหรอ คนที่เก่งๆที่ช่วยกันจับคนร้ายที่ทำร้ายแม่เพ็ญวันนั้นน่ะ " มนุษย์ป้าอีกคนถามพร้อมทั้งหันมองซ้ายขวาเพื่อสำรวจข้างในร้าน
" อ๋อ.. โชน่ะหรอ.. เดี๋ยวเขาก็คงมา คงกำลังทำงานบ้านช่วยยายอยู่ล่ะมั้ง " ป้าเพ็ญพูดไปพยายามฝืนยิ้มไป
" แล้วสามีเธอล่ะ.. เขาว่าไงบ้าง เรื่องที่ตาคนนั้นมาเอาเรื่องน่ะ สรุปว่าเรื่องจริงรึเปล่า ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยนะ ว่าตาพุธจะไปทำเรื่องอะไรแบบนั้นได้ แม่เพ็ญออกจะแสนดีขนาดนี้ ไอ้คนนั้นมันมาหลอกเอาตังใช่ใหมล่ะ ? ฉันว่าและ ไอ้คนพวกนี้น่ะ มันพวก 18มงกุฎ จริงๆใช่ใหมแม่เพ็ญ " มนุษย์ป้าพูดเองเออเองโดยไม่ได้รับฟังคำตอบจากป้าเพ็ญเลย
" ฉันเองก็ยังไม่รู้อะไรเลยจ่ะ เอาไว้ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจเค้าไปเถอะนะพี่ " เธอถอดใจพูดด้วยใบหน้าที่หลบเลี่ยงสายตาที่กำลังสอดส่องอยากรู้เรื่องราวของเธอ
" อุ้ย.. แหม.. อะไรกัน สามีไปทำอะไรก็ไม่รู้เรื่องกับเขาไปด้วยยังงั้นรึ น่าสงสารแม่เพ็ญจริงๆเลย งั้นตาพุธเนี้ยก็ร้ายลึกจริงๆน่ะสิ เห็นเมียโง่แบบนี้ยิ่งเอาใหญ่ " พวกมนุษย์ป้าที่ตามมาอยากสอดเรื่องของชาวบ้าน ตอนนี้ยืนรุมล้อมกันอยู่ที่หน้าร้านของป้าเพ็ญกันเต็มไปหมด
" โอ้โห!! ป้าเพ็ญ.. ลูกค้าเยอะจังครับ พวกคุณป้าคุณยายทั้งหลายต้องการอะไรบอกผมได้นะครับ พอดีว่าป้าเพ็ญของผมเนี้ยแขนยังเจ็บอยู่ และยังไม่ค่อยจะหายดีเท่าไหร่นักนะครับ อย่าเพิ่งไปรบกวนให้เธอหยิบจับอะไรเลยครับ มาๆ ผมหยิบของให้เอง ใครจะเอาอะไรบอกมาได้เลยครับ " โชเดินมาพอดีเขาช่วยป้าเพ็ญของเขาในทางอ้อมเพราะเขารู้ว่าคนพวกนี้ไม่ได้อยากมาซื้อของอะไรนั่นหรอก แต่แค่อยากจะมาสอดแนมเรื่องของวันนั้นเสียมากกว่า
" โอ้ย.. ยังไม่เอาอะไรหรอกจ่ะพ่อหลานชาย พอดีเป็นห่วงแม่เพ็ญเขาน่ะ ก็เลยแวะมาหา "
" อ๋อ.. ถ้าอย่างนั้นพวกป้าๆช่วยเขยิบไปทางนั้นหน่อยนะครับ ผมจะเก็บกวาดตรงหน้าร้านนี้ซะหน่อย ฝุ่นผงมันเยอะมากครับช่วยหลีกทางด้วยครับ " โชทำทีไปหยิบไม้กวาดกับถังโกยผงและแกล้งกวาดไม่เป็น เขากวาดสะบัดไปมาทำให้มีฝุ่นคลุ้งเต็มหน้าร้านไปหมด ก็เพื่อที่จะไล่คนที่ไม่คิดจะซื้อของตั้งแต่แรกให้ออกไป
" อ๋อ.. จ่ะๆ งั้นพวกฉันไปก่อนก็แล้วกันนะแม่เพ็ญ "
พวกมนุษย์ป้าทั้งหลายต่างทยอยเดินหนีและหลบโชที่กำลังกวัดแกว่งไม้กวาด และแกล้งกวาดพื้นอย่างตั้งใจโดยไม่สนใจพวกยัยป้าๆมหาภัยทั้งหลายเลย…