webnovel

ตอนที่ 4 แต้มบุญเทวดา

บุญกุศลส่งมาแด่เทวา

ผิวกายาอิ่มเอิบหน้าเด้งสดใส

ลดความกร้านทำเอาดูเยาว์วัย

รับบุญไซร้เปล่งปลั่งเช่นนี้เอง

รับศิลรับพรจากพระสงฆ์แล้วผิวกายเปล่งปลั่งราวกับได้คอลลาเจนชั้นดีที่เห็นผลได้ในพริบตายิ่งพอเทวดารูปหล่อที่อยู่ข้างๆ ยิ่งเพิ่มประกายวาววับจับผิวจนอยากจะหาแว่นกันแดดมาใส่ลดแสงจ้านี่ถ้าไม่เห็นกับตาคงไม่คิดว่ารับบุญแล้วผิวกายจะสดใสได้ขนาดนี้

"กลับได้แล้ว" หันไปบอกทาวิน

"กลับได้แล้วเหรอ เย้ แต่ว่าไอ้นั่นมันอะไรเหรอ" มองไปที่ห่อผ้าเหมือนที่อาบังแบกเดินผ่านหน้าโรงงานทุกวันสมัยอยู่โลกมนุษย์ อาบังชอบเอาเสื้อผ้ามุ้งผ้าห่มมาให้ชาวโรงงานผ่อน ซึ่งทาวินไม่ใช่คนงกที่จะไม่แจกของใช้ให้พนักงานแต่พวกเขาชอบผ่อนเจ้าของโรงงานอย่างธาวินไม่เข้าใจ ที่สุดยอดที่สุดของโรงงานคือการแจกแป้งเย็นให้ใช้เดือนละกิโล อากาศร้อนตับแลบราวกับตั้งอยู่บนพื้นผิวดวงอาทิตย์อย่างประเทศไทยแป้งเย็นนี่มันเดอะเบสแล้ว

"ของกินของใช้ เจ้ามาช่วยเราแบบกลับไปวิมานด้วย" วัชเรนทร์เอ่ยบอก

"ห๋า ยังต้องแบกไปด้วยเหรอ" ธาวินเกาหัวแกรก ลำพังที่ไปขนมาจากในห้องก็หนักแล้วยังจะแบกนี่ไปอีก

"เร็วเรามีงานจะต้องทำอีก" วัชเรนทร์ยกห่อผ้าขึ้นหลังสองแขนหิ้วอีกข้างละห่อ นานๆ ที่จะมีคนใจปั้มถวายของเทวดาขนาดนี้จะให้ทิ้งไว้ได้ยังไงกัน

"ก็ได้ๆ" แบกห่อผ้าขึ้นหลังโหยยย หนักโคตรไม่สิเทวดาต้องไม่พูดคำหยาบ

"มันหนักกี่กิโลเนี่ย" รีบวิ่งตามเอ้ยเหาะตามเทวดาพี่เลี้ยงก่อนที่จะตามไม่ทัน

ยังไงวัชเรนทร์เทวดาก็ยังอยู่ในชั้นเทวดาที่ยังมีกามกิเลสต่างๆ อยู่ดังนั้นเรื่องแบบนี้ถือว่าเป็นธรรมดา ถึงแม้จะไม่ต้องกินต้องใช้มากมายเหมือนมนุษย์แต่ต้องเก็บสะสมเอาไว้เพราะใช่ว่าจะได้รับการถวายของมากมายอย่างนี้บ่อยๆ บางครั้งสามสี่ปีถึงจะมีทีแล้วจะพลาดได้ยังไง คนเอ้ยเทวดาที่ได้มารับบุญที่โลกมนุษย์มีน้อยมากหากไม่ถูกเชิญมาก็มาไม่ได้ ผิดกับพวกรุกขเทวดาหรือพระภูมิที่ได้บุญง่ายกว่า การสะสมบุญจนสิ้นอายุขัยเป็นสิ่งที่ควรทำเมื่ออยู่ในชั้นนี้การเวียนว่ายตายเกิดเหมือนมนุษย์เป็นเรื่องปกติเพียงแต่วัฏจักรยาวนานกว่าแค่นั้นแล้วพิเศษตรงที่ว่าถ้าสะสมบุญได้มากอาจจะเลื่อนไปอยู่ชั้นเทวดาที่สูงกว่ากามกิเลสต่าง ๆ ก็ลดน้อยลงยิ่งสูงบุญยิ่งมากกิเลสยิ่งน้อยและหายไปที่สุด จนสุดท้ายอิ่มทิพย์ไม่เสาะแสวงหาสิ่งใดและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขปราศจากกิเลสตัณหา

จะว่าไปแล้ววัชเรนทร์เทวาไม่ได้มารับบุญแบบนี้เกือบสิบปีของโลกมนุษย์แล้ว เทวดาที่เกิดมาเป็นเทวดาไม่มีใครรู้จักไม่มีบุญแบ่งให้ไม่มีใครถวายบุญให้ต้องรอคนใจดีเอ่ยถวายโดยไม่ระบุที่สำคัญต้องตามคิวกว่าจะถึงคิวตัวเองก็ลืมไปแล้วว่ามีบุญถวายให้

"หนักชะมัด" ธาวินเอ่ย กว่าจะแบกกลับมาที่วิมานได้เล่นเอาหอบ

"ไม่เห็นจะต้องแบกมามาก หมดเมื่อไหร่ค่อยไปเอาก็ได้" ธาวินยอกแขนเสื้อปาดเหงื่อเม็ดโต

"ได้ที่ไหนกัน ถ้าไม่มีคนถวายให้เจ้าก็หยิบฉวยเอามาไม่ได้" วัชเรนทร์เสียงขุ่น

"เรายังเอามาแล้วเลย" ชี้ไปที่ของของตัวเอง

"นั่นเพราะเจ้าเพิ่งตายและกลายเป็นเทวดาถึงหยิบฉวยของตัวเองเอามาได้ แต่จากนี้เจ้าไปเอามาไม่ได้แล้วเพราะครบเวลามันจะกลายเป็นของคนอื่น" เห็นหน้าตาโง่ ๆ เลยอธิบายให้ฟังเสียหน่อย

"จริงดิ่ โธ่เอ้ยรู้แบบนี้เอามาเยอะ ๆ ก็ดี ทำไมท่านไม่บอกเรา" บึนปากใส่เทวดาพี่เลี้ยงงอน ๆ

"เจ้าหายไปไหนเรายังไม่รู้เลย แล้วจะให้เราไปตามมันใช่ธุระของเราหรือไม่" วัชเรนทร์เบ้ปาก

"แต่ท่านต้องดูแลเราไม่ใช่เหรอ" ธาวินยิ้มหวาน

"ดูแล ไม่ได้หมายความว่าต้องตามไปทุกที่ เจ้าเอาส่วนของเจ้ากลับวิมานได้แล้วเราก็จะเอาส่วนของเรากลับไปไว้เหมือนกัน" แบกของที่ได้มากลับวิมานตัวเอง ธาวินแบกของกลับศาลาท่าน้ำของตัวเองผ้าม่านหมอนผ้าห่มจิ๊กมาจากที่บ้านวางเป็นระเบียบแค่นี้ก็สมเป็นเตียงนอนหน่อย ข้าวของอื่น ๆ ของกินอะไรต่าง ๆ ถูกจัดวางไว้เป็นระเบียบเห็นแบบนี้ธาวินเป็นคนเจ้าระเบียบคนหนึ่งเชียว

ตั้งแต่เป็นเทวดามาไม่รู้สึกหิวสักนิด ตอนนี้ยิ่งอิ่มจนแน่นท้องคงเป็นอย่างที่เทวดาพี่เลี้ยงบอกเทวดาอิ่มบุญจากผู้อื่นแบ่งให้ ว่าแต่ของมากมายขนาดนี้เอาไปแลกบุญเพิ่มได้ไหมนะ

"เจ้าเก็บของแล้วใช่หรือไม่" วัชเรนทร์เทวาเดินเข้ามาหาสองมือไพล่หลังเอาไว้

"เรียบร้อยแล้ว มีอะไรจะใช้เรา" หันมามองมาแบบนี้ทีไรต้องมีเรื่องสั่งสอนหรือใช้งานทุกที

"เราจะพาเจ้าไปที่สโมสรเทวดา" เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เปิดโลกเทวดาให้กับธาวินอีกหนึ่งเรื่องแบบนี้ต้องไปดูเสียหน่อยแล้ว

"ไปเลย รออะไร" ทำตัวดี้ด้าหน้าบานทันใด

"ตามเรามา" ช่วงนี้เห็นจนชิน ถ้าเป็นแรก ๆ คงจะต่อว่านิสัยไม่สำรวมไปแล้ว ตอนนี้ธาวินรับปากแล้วว่าจะไม่ทำให้ตนเดือดร้อนดังนั้นจึงไม่อยากสนใจมากนัก ทำหน้าที่เทวดาพี่เลี้ยงในขอบเขตที่ควรจะเป็นก็พอ

ธาวินเหาะตามวัชเรนทร์เทวาไปไกล เขาเพิ่งรู้ว่าวิมานที่อาศัยอยู่กับวัชเรนทร์นั้นอยู่ห่างไกลวิมานอื่น ๆ โขปุยเมฆขาวสุดลูกหูลูกตา จนกระทั่งเห็นสวนดอกไม้ลอยอยู่ลิบ ๆ

"โอ๊ะ ทำไมถึงได้มาอยู่ที่นี่" ธาวินตกใจ จำได้ว่าตอนเขาไปขอดอกไม้มันอยู่แถวๆ หลังวิมานเขา

"สวนสวรรค์ลอยไปลอยมาไม่มีจุดหมาย" วัชเรนทร์ตอบสั้น ๆ

"เอ๋อ ลอยตามลมนี่เอง" ธาวินพยักหน้า

"มีลมที่ไหนกัน เจ้านี่ก็พูดไปเรื่อย" วัชเรนทร์บ่น เพราะสวรรค์อยู่เหนือปรากฏการณ์ธรรมชาติทั้งหลายแหล่

"อึ่ม ๆ แต่ก็มีแดดร้อน ๆ ใช่หรือไม่" ยังอุตส่าห์เอ่ยขึ้นมาอีก

"ถึงแล้ว" ศาลาไม่สิอุโบสถไม่รู้เรียกว่าอะไรแต่ใหญ่เหมือนวัดพระแก้วเลย มีคนเดินเข้าเดินออกตลอด พอมายืนตรงประตูก็มีเทวดาท่าทางน่ากลัวยืนอยู่

"ท่านวัชเรนทร์วันนี้ก็มาอีกแล้วหรือขอรับ" เทวดาผู้นั้นทักทาย

"พาเทวดาใหม่มา" ชี้ไปที่ธาวิน

"โอ๊ะ งั้นมาลงทะเบียนตรงนี้เลย" ลากธาวินไปที่จุดลงทะเบียนเทวดา

"สมถวิลเทวดาชั้นล่างระดับหนึ่ง" คนพาไปเอ่ยปากบอกเสียงดัง

"ธาวิน เราชื่อธาวิน ทำไมไม่จำกันเสียที" เส้นเลือดผุดบนหน้าผาก

"ก็ชื่อบนหัวเจ้ามัน"

"ปล่อยไปเถอะท่านตายตอนแปดสิบคนเบื่อชื่อ" วัชเรนทร์กระซิบ

"ขอรับ" กลั้นหัวเราะแทบแย่ก่อนจะหันไปหาธาวิน

"ชื่ออะไรนะ ทา ทา"

"ธาวิน" บอกเสียงดังฟังชัด

"ธาวิน" ส่ายหน้าขำ ๆ วัชเรนทร์เทวารีบลากเข้าไปด้านในก่อนที่จะเกิดเรื่องวุ่นวาย

สโมสรเทวดาที่ธาวินมาเหมือนห้างสพรรสินค้าไม่มีผิดมีข้าวของมากมายทั้งของกินของใช้ระดับล่างยันหรูหราอู้ฟู่จนอยากได้กลับไปที่วิมาน

"เราอยากได้จัง" กระซิบบอกธาวิน

"เจ้ามีบุญแลกเหรอ" วัชเรนทร์หันมามองด้วยหางตา

"อะไรนะ ต้องใช้บุญแล้ว" เปิดโลกอีกแล้ว

"ก็ใช่น่ะสิ"

"เอาเถอะดูไว้ก่อนก็ได้" ถอนหายใจเฮือกโต

"โอโหน้ำทิพย์ อร่อยไหม เราอยากชิม" หันมาทำตาอ้อนกับเทวดาพี่เลี้ยง เรื่องอ้อนเนี่ยธาวินไม่เคยเป็นรองใครขนาดนั่งอ้อนให้แม่ไก่ออกไข่ให้ได้นี่ถือว่าสุดยอดแล้ว ทำตาปิ้ง ๆ วิ้ งๆ เหมือนโลลิต้าที่เคยดูกับหลานชายตอนอายุสี่สิบธาวินยังจำได้แม่นเหมือนเปิดสมองแล้วยัดเอาไว้

"อะไรของเจ้า" ส่ายหน้าทำท่าหน่าย ๆ

"เราอยากชิมน้ำทิพย์ พี่เทวดาสุดหล่อ กล้ามใหญ่ใจดีได้โปรดซื้อเอ้ยแลกให้เราชิมหน่อยเถอะ" ทำเสียงออดอ้อนประหนึ่งสาวเชียร์เบียร์โน้มน้าวลูกค้าให้เปย์เบียร์

"ก็แลกเองสิ" แต้มบุญหาได้ง่ายที่ไหนกัน

"งั้นเรายืมก่อน เดี๋ยวเรามีบุญแล้วจะคืนให้" เมื่อขอไม่ได้ยืมก็ได้ฟระ

"งั้นทำสัญญา" ล้วงหยิบกระดาษเอสี่ออกมา (จากไหนมองไม่ทัน) พร้อมปากกาขนนก ธาวินรับกระดาษมาอ่าน

"สัญญายืมแต้มบุญ

ระยะเวลายืม 1 ปีทิพย์

อัตราดอกเบี้ย 0.1 แต้มต่อปี

จำนวนที่ยืม________

ผู้ยืม ธาวิน (สมถวิล)

ลายเซ็น_______

ผู้ให้ยืม วัชเรนทร์

ลายเซ็น__________"

"โหต้องขนาดนี้เลย" ธาวินทำตาโตร้องเสียงดัง

"ไม่งั้นเดี๋ยวเลื่อนตำแหน่งหรือไม่ได้เจอกันแล้วกลับมาทวงไม่ได้" วัชเรนทร์บอกน้ำเสียงจริงจัง

"โหมีเยอะแล้วไม่เห็นต้องทวง" ธาวินบ่นในลำคอ

"ถ้าไม่ทวงมันจะเป็นเรื่องติดค้างของเจ้าทำให้เจ้าไม่สะดวกต่างหาก ไม่งั้นเขาจะขออโหสิกรรมกันตอนตายเหรอ เพื่อจะไม่ให้ติดค้างต่างหาก" วัชเรนทร์อธิบาย

"แล้วไอ้ดอกเบี้ยนี่ล่ะ" แค่นี้ยังจะคิดอีก

"ก็เหมือนฝากบุญก็ต้องมีกำไรให้คนฝากบ้างสิ" เออจริงฝากไปทำบุญคนรับฝากยังได้บุญด้วยเลย

"ยืมหรือไม่ ไม่ยืมเราจะได้พาไปดูชั้นอื่น" วัชเรนทร์อยากพาเดินให้เสร็จๆ จะได้กลับไปนอน

"ยืมสิ เรายืมสองไม่สิ ห้าแต้ม เผื่อเจอของที่อยากได้" น้ำทิพย์หนึ่งกระบวยแก้วใช้แต้มบุญ 1.5 แต้มที่เหลือเก็บไว้สำรองเผื่อจะใช้ หลังจากกรอกเอกสารก็ส่งคืนให้

"ยื่นมือมา" วัชเรนทร์เทวาเอ่ย

"หา" ทำหน้างงๆ แต่ก็ยื่นมือให้แต่โดยดี วัชเรนทร์เทวาพึมพำอะไรบางอย่างปลายนิ้วสว่างวาบเขียนเลขบนฝ่ามือจากนั้นพอธาวินยกมือขึ้นมาก็เห็นแว๊บนึงแล้วหายไป

"เราเอาน้ำทิพย์" ธาวินหน้าบานรีบเดินไปแลกน้ำทิพย์มา น้ำทิพย์สีรุ้งอยู่ในกระบวยแก้วสวยมากเห็นรู้สึกเสียดายถ้าจะดื่มเข้าไปแต่ว่าไหนๆ ก็ไหนๆ ยกกระบวยขึ้นจรดปากดื่มน้ำทิพย์ ความหอมหวานนุ่มละมุนลิ้นสดชื่นชุ่มคอจนบรรยายไม่ถูกเกิดมาพึ่งจะเคยดื่มน้ำที่อร่อยขนาดนี้

"นี่ของท่าน" คนแลกแต้มบุญ เอาน้ำทิพย์ขวดเล็กส่งให้วัชเรนทร์เทวา

"โอ๊ะทำไมท่านได้ด้วย" ธาวินถามเสียงขุ่น

"คนที่นำลูกค้าเอ้ยเทวดามาจะได้รับน้ำทิพย์หนึ่งขวดเล็กขอรับ" หนึ่งขวดเล็กประมาณห้าซีซีเห็นจะได้ หน็อยได้น้ำทิพย์โดยไม่ต้องจ่ายตังค์เชอะ

หลังจากนั้นวัชเรนทร์ก็พาธาวินเดินจนทั่วเล่นเอาแทบจะแขวนขาไว้บนคอ พอเห็นอะไรก็อยากได้ไปเสียหมดจนวัชเรนทร์ต้องรีบลากกลับไม่งั้นธาวินต้องกู้แต้มบุญตัวเองเพิ่มแน่ๆ เทวดาพี่เลี้ยงของวัชเรนทร์หน่อยยิ่งกว่าเหนื่อยเสียอีก