webnovel

[สมาคมโจรเร้นเงา]

'เข้าเมืองมาได้ไม่ถึงวัน ก็ส่อแววฉิบหายซะแล้วตู... ไม่! ใจเย็นๆ สิวะ ไอ้แจ็ก ยิ่งสถานการณ์อันตรายเท่าไร เอ็งยิ่งต้องเยือกเย็นเข้าไว้' ผมพยายามเตือนสติตนเองในใจอย่างรวดเร็วและเริ่มนับถอยหลัง

4…

เจ้าแมวตัวนั้นคาบบัตรเงินสดมาจ่อใกล้มือขวาของผม เพื่อให้กดได้สะดวก ผมยื่นนิ้วออกไปด้วยมือที่สั่นเทาจากสถานะอัมพาต ผมกดปุ่มคำสั่ง [Max] เพื่อเรียกจำนวนเงินทั้งหมดในบัตร

3…

"ปล้นคนจากฟ้านี่มันคุ้มค่าจริงๆ เคี้ยกๆ!" ชายคนนั้นหัวเราะออกมา

2…

ผมกดปุ่ม [Accept] เพื่อเป็นการยืนยันเรียกเงินออกมา

1…

ผมใช้มือคว้าถุงเงินออกมาจากบัตรและปล่อยมันจากมือ ถุงเงินจำนวน 50,110 G ร่วงตกไปที่พื้นเสียงดังตุบ และเสี้ยววินาทีที่ชายคนนี้เหลือบตาไปมองถุงเงินนั้น

0…

สถานะอัมพาตสิ้นสุดลง ผมใช้มือซ้ายเรียกเคียวออกมาในเสี้ยววินาที กระแทกมีดออกจากคอตนเองอย่างรวดเร็ว และฟันต่อเนื่องไปที่ชายคนนั้นทันที

แคร้ง!

ชายคนนั้นใช้มีดป้องกันการโจมตีของผมได้ และถอยฉากทิ้งระยะห่างออกไป

ฮ้า- ฮ้า- ผมหายใจหอบเล็กน้อย เอามือลูบไปที่คอและรู้ว่าตัวเองเลือดไหลนิดหน่อย แต่บาดแผลไม่ลึกมาก

"ฮึ! ไม่เลวนี่ไอ้หนู ใจเด็ดแถมไม่กลัวตายซะด้วย"

"ขอบคุณที่ชม" ผมจ้องไปที่ชายคนนั้นแบบไม่วางตาและโน้มตัวลงไปเพื่อเก็บถุงเงินกับบัตรเงินสดพร้อมกัน แต่มือของผมกลับสัมผัสได้แต่บัตรเงินสด ผมเหลือบตาไปมองอย่างไวที่สุด ถุงเงินมันหายไปแล้ว...

"แต่ที่ข้าต้องการ ไม่ใช่ชีวิตแกหรอกไอ้หนู… เงินแกต่างหากล่ะ" กริ๊ง! เสียงเหรียญทองในถุงเงินกระทบกัน แมวตัวนั้นคาบถุงเงินเอาไว้ และเกาะอยู่บนไหล่ของชายคนนั้น

"อาดิโอส" ชายคนนั้นกระโดดทแยงชิ่งกำแพงขวาและซ้ายของตรอกเพื่อส่งตัวเองขึ้นไปบนหลังคา เขาหันมามองหน้าผมหนึ่งทีและทำท่าชูสองนิ้วสะบัดจากคิ้วเป็นการบอกลา

ผมอึ้งราวกับโดนสตั้นต่ออีกสักหนึ่งวิ จากนั้นเมื่อตั้งสติได้ก็รีบตามไปวิ่งกระโดดชิ่งกำแพงบ้าง

"อึ้บ!.... อึ้บ!"

"แอ๊ก!" ผมชนขอบหลังคาเข้าอย่างจัง แต่ใช้มือยึดเกาะไว้ทันและรีบปีนขึ้นไปทันที ผมเห็นหลังของชายคนนั้นไวๆ

"เฮ้ย!! คืนเงินมานะว้อย!!" ผมรู้ดีว่าเขาไม่คืนหรอก แต่ตอนนั้นผมไม่รู้จะตะโกนว่าอะไรจริงๆ

ชายคนนั้นหันมามองผมและแสยะยิ้มให้ จากนั้นเขาก็กระโดดลงไปจากหลังคา ผมวิ่งตามไปและได้เห็นว่าที่เขาลงไปตรงนั้นคือตลาดที่คนพลุกพล่าน ผมรีบกระโดดไล่ตามทันที และแล้วการไล่จับในต่างโลกของผมก็เริ่มขึ้น

"ขอโทษครับ! ขอทางหน่อย" ผมวิ่งตามไปสุดฝีเท้าหลบผู้คนไปด้วยอย่างทุลักทุเล ชนคนที่เดินไปมาบ้าง

"โอ๊ย! ระวังหน่อยสิพ่อหนุ่ม"

"ขอโทษครับ! ขอโทษครับ!" ผมรีบวิ่งไล่ต่อ และยิ่งไล่ระยะของพวกเรายิ่งห่าง ชายคนนั้นรูปร่างบึกบึนมีกล้าม ไม่ได้เพรียวลมแท้ๆ ที่สำคัญเขาไม่ได้วิ่งเร็วกว่าผมแน่นอน แต่วิธีที่เขาวิ่งนี่มันอะไรกัน เขาวิ่งโดยปล่อยให้ร่างกายลื่นไหลไปตามสถานการณ์และใช้สิ่งที่เผชิญด้านหน้าให้เป็นประโยชน์ เขาไม่ชนใครเลย เขาพุ่งตีลังกาม้วนหน้าข้ามแผงขายของ วิ่งไต่กำแพงด้านข้าง กระโดดตัวเฉียงค้ำโต๊ะหรือไหล่ของผู้คนเพื่อลอยตัวข้ามสิ่งกีดขวาง กระโดดลอดผ่านสิ่งกีดขวางได้อย่างเหลือเชื่อ เขาวิ่งไต่ขึ้นกำแพงตรงๆ เพื่อข้ามไปอีกซอย ร่างกายของเขาหมุนซ้ายขวาหน้าหลังอย่างพริ้วไหว

"ใช่แล้ว แบบนี้เราเคยเห็นในหนังนี่นา ที่เค้าเรียกกันว่า 'ปากัวร์' หรือ 'ฟรีรันนิ่ง' นั่นเอง"

ผมตามเขาเกือบไม่ทันแล้ว แต่ใครจะยอมเสียเงินไปง่ายๆ ละ

ไม่มีทางแน่ ไม่งั้นวินคงผิดหวังในตัวผมน่าดู ผมตัดสินใจตะโกนดังลั่นว่า

"ทุกคนกรุณาหลบออกไปข้างทางด้วยครับ เจ้าหญิงจะเสด็จแล้ว!!"

คือไม่รู้หรอกนะว่าที่อาณาจักรนี้มีเจ้าหญิงรึเปล่า แต่ผมเห็นมีปราสาทลอยฟ้า มันก็น่าจะมีสิเจ้าหญิงน่ะ และดูเหมือนจะได้ผลแฮะ

"เจ้าหญิง?!"

"จริงเหรอ? ไหนๆๆ!"

"ท่านไม่เคยลงมาจากปราสาทเลยนี่นา!"

"พวกเราโชคดีจัง"

"ช่วยๆ กันเปิดทางเร็วเข้า!"

ทุกคนพร้อมใจกันแหวกทางและหันมาดูด้วยความสงสัยใคร่รู้ พวกเขาต่างอยากจะยลโฉมเจ้าหญิงสักครั้งเป็นแน่แท้ แต่สิ่งที่ทุกคนเห็นก็คือ เด็กหนุ่มตี๋ผิวขาวผมสีน้ำตาลทองคนหนึ่งวิ่งตะบึนหน้าตั้งไปอย่างรวดเร็วดังสายลม

"โอ้ววววววววว!!" ตุบๆๆๆๆ เฟิ้ยว~~~~~ว

พอทุกคนเห็นว่าไม่ใช่เจ้าหญิง สภาพตลาดก็กลับมาเหมือนเดิม ค้าขายเดินช้อปปิ้งกันต่อพร้อมเสียงบ่นงุนงงเซ็งแซ่ตามมาว่า อิหยังวะ? ตัวอะไรแว่บๆ? มันเป็นใคร?

"จะทันแล้วววววว! อย่าหนีนะว้อย!"

ผมเห็นชายคนนั้นกับแมววิ่งเลี้ยวไปทางขวาอีกครั้ง ผมรีบวิ่งตามติดๆ และเห็นหางแมวแวบๆ หลบเข้าประตูหน้าสีแดงเลือดของอาคารสองชั้นแห่งหนึ่ง

"แฮ่ก! แฮ่ก!" ผมพักหายใจขณะที่ยืนอยู่หน้าอาคารหลังนั้น ตัวอาคารเป็นรูปทรงเหมือนหอประชุมใหญ่ สีดำสนิททั้งหมด หลังคาเป็นทรงจีนกระเบื้องสีเทาเข้มมีขอบประดับสีแดงเช่นเดียวกับประตู ป้ายใหญ่ตรงกลางด้านบนเขียนเอาไว้ว่า

[สมาคมโจรเร้นเงา]

"เหะเหะ ฮะฮ่า แบบนี้ก็สวยเซ่"

ผมยิ้มแยกเขี้ยวเดินก้าวอาดๆ ตรงไปที่ประตูหน้าสมาคม ไม่ต้องใช้มือเปิดให้เสียเวลา ผมถีบประตูโครมเข้าให้

"ตาแก่หูปลาอยู่ไหน?! เอาเงินคืนมาเดี๋ยวนี้!!"

ผมตะโกนเสียงดังที่สุดเพื่อให้รู้ว่าผมเอาจริง แต่บรรยากาศที่ได้รับกลับมานั้นดันไม่ใช่อย่างที่คิด หากเปรียบเทียบกับกิลด์นักผจญภัยที่ผมเห็นในวันแรกที่ล็อกอินละก็ ที่นั่นสร้างด้วยไม้สีน้ำตาลอ่อน ประดับด้วยธงหลากสีแขวนห้อยอยู่ กระถางต้นไม้วางประดับเอาไว้อย่างสดชื่น ห้องล็อบบี้ดูโอ่โถง สว่างไสว และอบอุ่น แค่ก้าวเข้ากิลด์ไปก็สัมผัสได้ถึงการผจญภัยอันน่าตื่นเต้นที่รอคอยอยู่

แต่ที่สมาคมโจรเร้นเงาแห่งนี้นั้นบรรยากาศอึมครึม ลึกลับและไม่น่าไว้ใจ ภายในมืดมาก ที่นี่ไม่แม้แต่จะเปิดหน้าต่างให้แสงในเวลากลางวันเล็ดลอดเข้ามา มีเพียงแสงจากเทียนเล็กๆ ที่อยู่ตามโต๊ะเท่านั้นที่ทำให้ที่นี่ไม่มืดมิดโดยสิ้นเชิง และผมเห็นเงาคนจากแสงเทียนแต่ละเล่มนั้นมองมาที่ผมแวบหนึ่งก่อนที่จะเบือนหน้าหนีไปคุยกันเองต่อ หรือหายวับเข้าไปในความมืด

"มีธุระอะไร ก็เข้ามาคุยข้างในสิ…" เสียงของชายวัยกลางคนที่สุขุมนุ่มลึก แต่ฟังดูมีอำนาจ ดังมาจากตรงกลางด้านในของห้องล็อบบี้ที่มืดมิด ผมทำใจกล้าเดินเข้าไปสามสี่ก้าว และผมสัมผัสได้ว่าจิตใจที่ฮึกเหิมของตนเองลดน้อยลงไปมาก จากแต่ละก้าวที่ผมได้เหยียบย่างเพื่อเข้าสู่สมาคมแห่งนี้

เป๊าะ! เสียงดีดนิ้วดังขึ้น จากนั้นตะเกียงโคมไฟใหญ่ที่กำแพงทั้งสองข้างด้านบนติดพรึ่บขึ้นทันที ทำให้ผมมองเห็นสภาพรอบตัวมากขึ้น ผมกำลังยืนอยู่บนพื้นที่ว่างขนาด 10*10 เมตร ที่ด้านข้างมีโต๊ะยาวเรียงรายอยู่ทั้งสองข้าง และชั้นสองเป็นระเบียงที่มองลงมาเห็นด้านล่างได้เช่นกัน และตรงกลางสุดห้องนี้มีโต๊ะทำงานใหญ่ที่เต็มไปด้วยเอกสารมากมายตั้งตระหง่าน พร้อมกับมีผู้ชายคนหนึ่งในชุดสูทสีดำทั้งตัวเอนหลังพิงเก้าอี้เบาะหนังใหญ่ และเอาเท้าทั้งสองข้างวางพาดโต๊ะทำงานตัวที่ว่าอยู่ ผมคิดว่าเขาคือคนที่เชิญชวนผมเข้ามาเมื่อสักครู่ เขาไว้ผมหงอกทรงสั้นแบบเท่ากันทั้งหัว และมีจอนยาวมาก ยาวจนเกือบถึงคาง เขาใส่แว่นตากรอบสีดำทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า แว่นตาของเขาเลื่อนตกมาอยู่ที่

ปลายจมูก

"ตาแก่หูปลาที่ว่า..." ชายคนนั้นพูดขึ้นอีกครั้ง "คือแกสินะ

'ไนท์ฮอว์ก'"

"ฮ่ะห์!" เสียงหัวเราะในลำคอสั้นๆ ดังขึ้น "ใช่แล้วมาสเตอร์ ข้าเอง" ฟุบ ไนท์ฮอว์กจุดเทียนที่โต๊ะของตัวเอง เพื่อให้ผมเห็นว่าเขานั่งอยู่ที่โต๊ะด้านในสุดห้องนี้ เขาจ้องมองมาที่ผมและส่งรอยยิ้มสยองมาให้

"แกบอกว่าอยากมาที่สมาคมโจรไม่ใช่เหรอ ข้าอุตส่าห์นำทางมาให้"

"นำทางเหรอ?!" ผมพูด "วิ่งหนีจนแทบจะตามไม่ทันเนี่ยนะ เอาเงินคืนมานะเดี๋ยวนี้เลย!"

ไนท์ฮอว์กครางฮึ่ม "...ไม่คืน"

ผมทำท่าจะเดินเข้าไปหาเขา ทันใดนั้นมีมีดสั้นคุไน (มีดสั้นนินจา) เล่มหนึ่งพุ่งมาปักที่พื้นข้างหน้าผม ฉึก! เฉียดหัวแม่โป้งผมไปนิดเดียว

"...."

"อยู่ต่อหน้ามาสเตอร์ลู หัดมีมารยาทซะบ้าง ไม่งั้นครั้งหน้ามีดจะปักที่ลูกตาแก ไอ้เด็กบ้า" เสียงผู้หญิงคนหนึ่งด่าผมจากชั้นสองตรงไหนสักแห่ง

"เอาเป็นว่าใจเย็นก่อนเถอะ..." มาสเตอร์ลูพูดขึ้น "นายเสียท่า

ไนท์ฮอว์กไปแล้ว ทำใจยอมรับซะ ขืนดื้อดึงกว่านี้ นายได้ตายแน่ไอ้หนู"

"ผมไม่กลัว ให้เขาออกมาดวลกับผมซะดีๆ อย่างลูกผู้ชาย!"

"ลูกผู้ชาย? ...คั่กคั่ก...เคี้ยกๆๆ!" ไนท์ฮอว์กหัวเราะขึ้นมา "ใครเขาสนเรื่องลูกผู้ชายกันบ้างวะ ข้าเป็นโจรนะว้อย!"

"ฮึ่ม! ไอ้คนไม่มีศักดิ์ศรี ไอ้หมาลอบกัด!"

"ขอบใจที่ชมข้านะเว้ย เคี้ยกๆ ไอ้หนูนี่ฮาเป็นบ้าเลยว่ะ ไม่อยากฆ่าเด็กก็จริง แต่ปากดีแบบนี้...สงสัยต้องสั่งสอนซะหน่อยล่ะมั้ง" ไนท์ฮอว์กเดินออกมาหาผมจนได้…

"ไนท์ฮอว์ก พอได้แล้ว" มาสเตอร์ลูพูดออกมาด้วยเสียงที่ทรงพลัง เขาไม่ได้ตะโกนแท้ๆ แต่ผมรู้สึกว่าเสียงมันดังก้องเข้าไปในจิตใจตรงๆ เลย

"คร้าบๆ ข้าไม่ลงมือเองก็ได้ เลเวล 50 แบบข้า จะลดตัวมาสู้ทำไมล่ะครับ งั้นขอเบาะๆ ก็แล้วกัน เรามีเด็กๆ อยู่พอดีเลยไม่ใช่เหรอครับ" ไนท์ฮอว์กผิวปาก ฟวิ๊ด~! ฟวิ๊ด! จากนั้นมีผู้ชาย 5 คน ดูท่าทางซำเหมาลุกออกมาจากโต๊ะ ยืนล้อมผมเอาไว้เป็นวงกลม

"พวกนี้แต่ละคนเลเวลประมาณ 20-25 เป็นนักเลงปลายแถวในเมืองนี้แหละ น่าจะสมน้ำสมเนื้อกับแกดีนะ"

'สมน้ำสมเนื้อ?' ผมคิดในใจ 'เอ็งเรียกคนมารุมกระทืบตูตั้งห้าคนเนี่ยนะเว้ย ไอ้บ้านี่…'

"ฮึ่ม…" ผมไม่ยอมให้คนแบบนี้เอาเปรียบแน่ๆ

"เฮ้ย! ไนท์ฮอว์ก!" ผมตะโกนเรียกชื่อเขา "มาเดิมพันกัน!"

"เดิมพัน?"

"ถ้าผมชนะพวกนี้ได้ คุณต้องคืนเงินมาให้ผม!"

ไนท์ฮอว์กหยิบสเคาเตอร์ออกมาส่องผม "...แกเลเวลแค่ 26 ยังจะทำอวดเก่งอีกเรอะ"

"งั้นคุณจะกลัวอะไรล่ะ จริงไหม?!"

"...."

"เออ ก็ได้ตกลงตามนั้น แต่ถ้าแกแพ้ละก็ ข้าจะเชือดแกทิ้งด้วยมือของข้าเอง" ไนท์ฮอว์กตอบรับคำพร้อมทำท่าเชือดคอและหันไปมองมาสเตอร์ลูอีกครั้ง มาสเตอร์ลูพยักหน้าให้เป็นการยืนยันว่าถ้าแพ้ละก็ ผมคอขาดแน่นอน

นักเลงทั้งห้าคนค่อยๆ เดินเข้ามาผมพร้อมกำหมัดหักข้อต่อดังกร๊อกแกร๊ก

"อย่าโกรธเคืองกันเลยนะ พวกข้าแค่ทำตามคำสั่ง" คนที่ดูเหมือนลูกพี่ในกลุ่มพูดออกมา

มีคนหนึ่งควักมีดออกมา และเอาลิ้นเลียมีด "หึหึหึ ได้แทงคนแบบไม่ต้องรับผิดชอบ นี่มันสุขีจริงจริ๊ง"

"ไอ้เวรนี่ พวกเรารุมเด็กคนเดียว แล้วแกยังจะใช้อาวุธอีกเรอะวะ" ลูกพี่นักเลงหันไปด่าคนที่ถือมีด

"จัดเต็มมาได้เลย!" ผมพูดขึ้น "เพราะผมจะอัดพวกคุณให้ยับเช่นกัน!"

"...."

"ปากกล้าดีนี่ งั้นทุกคนลุยเลยว้อย! โอ้ว!"

คำพูดที่เหมือนสัญญาณเริ่มต้นการต่อสู้ดังขึ้น ผมเริ่มลงมือตามแผนที่คิดไว้ ผมปาระเบิดพริกป่นไปที่ตะเกียงโคมไฟน้ำมันใหญ่ตรงกำแพงด้านบนทั้งสองข้าง เพล้ง! เพล้ง! แสงสว่างในห้องนี้แทบจะหายไปในทันที ผมไม่รู้ว่านักเลงพวกนี้มีสกิลอะไรบ้าง แต่ที่แน่ๆ เลยคือผมมีสกิล [ตาแมว] ที่สามารถมองเห็นในความมืดได้ดียิ่งขึ้น

"เฮ้ย! ใครดับไฟวะ?!"

"มองไม่เห็นเลย ไอ้เด็กนั่นอยู่ไหน?!"

"โอ๊ย! ไอ้บ้านี่ข้าเอง อย่าเหวี่ยงมีดซี้ซั้วสิวะ!"

"ขอโทษครับลูกพี่!"

ชัดเลยว่าพวกมันไม่มีสกิลนี้ ผมปาระเบิดหนามลงพื้นตามไปอีกสองลูก ลูกหนามมากิบิชิกระจายทั่วพื้นที่ต่อสู้ ลูกหนามพวกนี้ไม่ได้มีดาเมจอะไรมากมาย มันแทบไม่มีความหมายเลยหากคุณใจเด็ดพอ หรือใส่รองเท้าระดับสองดาวขึ้นไป

"โอ๊ย! เจ็บ!"

"ระวังนะเว้ย ที่พื้นเหมือนจะมีหนามอยู่ อย่าขยับมั่วซั่ว!"

"ใครโดนมันโจมตี รีบตะโกนบอกตำแหน่งเลย" เมื่อลูกพี่สั่งการเสร็จ ผมเห็นลางๆ ว่าเขาล้วงเข้าไปในกระเป๋าหลังเพื่อหาอะไรสักอย่าง

ไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไร แต่ผมไม่รอให้ตั้งตัวได้แน่ ผมเรียกเคียวจันทร์เสี้ยวออกมาถือไว้และพุ่งตัวกระโดดชิ่งกับเสาใหญ่ค้ำระเบียงชั้นสอง เข้าโจมตีคนที่อยู่ใกล้สุดก่อนเลย

ฉัวะ! "อ๊าก!" นักเลงคนที่หนึ่งโดนฟันล้มลงกับพื้นและโดนหนามตำอีกต่อหนึ่ง "โอ๊ย! ทางนี้ ข้าโดนเล่นแล้--!"

ก่อนที่เขาจะพูดจบ ผมกระโดดเข้าไปกระทืบหน้าของเขาซ้ำกับพื้นอีกทีหนึ่งเสียงดังตึง จากนั้นผมเหลือบเห็นว่านักเลงคนที่สองกำลัง

ตั้งท่าโจมตีผมด้วยมีดสปาร์ต้า ผมรีบใช้ร่างของคนที่หนึ่งเป็นฐานรอง เพื่อกระโดดชิ่งเสาอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความมืดแบบนี้ หากโดนโจมตีจากมุมที่คาดไม่ถึง คุณไม่มีทางไหวตัวทันแน่นอน

ฉัวะ! "โอ๊ย!" ผมฟันเข้าที่ขาของนักเลงคนที่สองและถีบหน้าอกยันโครมซ้ำอีกครั้ง ตึง! ร่างของเขากลิ้งกระเด็นม้วนไปบนพื้นที่เต็มไปด้วยลูกหนาม "โอ๊ย! เจ็บๆๆๆ!"

นักเลงคนที่สามกับสี่เริ่มปอดแหกขึ้นมาทันทีที่ได้ยินเสียงเพื่อนร้องด้วยเจ็บปวด พวกเขาถอยหลังจนไปชนกันเองและใช้ขวานกับดาบโจมตีใส่กันและกันด้วยความตกใจกลัว

ฉัวะ! ฉัวะ! "อึ่ก! อั่ก!"

ผมไม่พลาดจังหวะนี้แน่ ผมรีบกระโดดชิ่งเสาเพื่อโจมตีทั้งคู่พร้อมกันในครั้งเดียว

ฉัวะ! ฉัวะ! "อี๊กกก!"

ผมฟันเข้าที่ท้องของทั้งคู่ พวกเขานั่งทรุดลงไปโดยที่เอามือกดบาดแผลของตนเองไว้ ไม่ให้เลือดพุ่งทะลักออกมามากกว่านี้

ตอนนี้เหลือนักเลงลูกพี่อีกคนเดียว และดูเหมือนเขาจะหยิบคบไฟพกพาขึ้นมาจุด เพื่อให้มองเห็นศัตรู เอาจริงๆ ผมคิดว่าเป็นการกระทำที่ไม่ฉลาดเท่าไรนัก เพราะทันทีที่เขาจุดไฟสำเร็จ แสงมันจะจ้าเข้าตาตัวเองก่อนเลย และกว่าที่จะเห็นว่าผมกระโดดเข้าไปหา ก็สายเกินไปเสียแล้ว

ฉัวะ! "อ๊ากกก!"

ผมฟันตั้งฉากขึ้นด้านบนจนแขนของเขาแหว่งจนเกือบขาด คบไฟพกพาลอยหมุนคว้างวูบวาบอยู่ด้านบน และลอยร่วงตกลงมา

หมับ ผมคว้ารับเอาไว้อย่างสวยงาม แสงจากคบไฟส่องสว่างทั่วห้อง แสดงภาพของนักเลง 5 คน นอนร้องโอดโอยบนพื้น โดยมีผมยืนเก๊กหล่อมาดนิ่งอยู่ ซึ่งที่จริงตอนนี้ผมเหยียบหนามเลือดไหลซึมออกจากเท้าอยู่เช่นกัน ดูเหมือนรองเท้าสองดาวของผมพลังป้องกันจะต่ำเกินไปแฮะ แต่ยังไงต้องฝืนอดทนเอาไว้ก่อน ไม่งั้นเดี๋ยวไม่เท่

ผมเห็นไนท์ฮอว์กสีหน้าเปลี่ยนไป ดูเหมือนเขาจะรู้ตัวแล้วว่าแพ้พนันผม

"ไอ้หนู นายตั้งใจไม่เล็งจุดตายงั้นเหรอ?" มาสเตอร์ลูถามผม

"ผมแค่ต้องเอาชนะ ไม่ได้อยากฆ่าใคร และที่สำคัญผมสัญญากับเพื่อนไว้ว่า'พวกเราจะไม่ฆ่าคนพื้นโลกเด็ดขาด'"

"...ไนท์ฮอว์ก แกแพ้แล้ว" มาสเตอร์ลูพูด

"ชิ! รู้แล้วล่ะครับ" ไนท์ฮอว์กโยนถุงเงินคืนมาให้ผม ผมรับมาและเอาใส่ในบัตรเงินสดทันที อืม ครบถ้วนทุกบาททุกสตางค์

"ไอ้หนู เห็นว่านายอยากมาที่สมาคมโจรสินะ มีธุระอะไร?" มาสเตอร์ลูถามขึ้น

"ผมชื่อแจ็กครับ ผมอยากสมัครเข้าเป็นสมาชิกที่นี่"

"เดินเข้ามาใกล้ๆ แล้วเอาสเตตัสมาดูสิ" ผมเดินย่องๆ ลบหนามที่ตัวเองทำไว้ เข้าไปยืนหน้าโต๊ะทำงาน กดวินโดว์และผลักออกไปให้มาสเตอร์ลูได้เห็น

"ปกติ พวกเราจะไม่รับ 'คนจากฟ้า' เข้าเป็นสมาชิก แต่ฉันว่าแกมีกึ๋นพอสมควร งั้นฉันจะให้โอกาสแกได้ทดสอบ"

"ขอบคุณครับที่ให้โอกาส" ผมคิดสงสัยในใจเหมือนกันว่าทำไมไม่มีคนจากฟ้ามาสมัครที่นี่เลย แต่ช่างมันเถอะ เพราะถ้าไอ้วินบอกว่าดี

ก็ต้องดีสิน่า

ก๊อก ก๊อก มาสเตอร์ลูใช้นิ้วเคาะโต๊ะและพูดว่า "ฟังนะแจ็ก… เงื่อนไขคือต้องผ่านการทดสอบจาก 'ห้าเสือ' ของสมาคมเรา ซึ่งแต่ละคนจะมีบททดสอบที่ต่างกันไปแล้วแต่เจ้าตัว แต่ถ้านายผ่านได้ละก็ จะไม่ใช่แค่ได้รับการยอมรับจากเหล่าเสือที่เป็นดั่งขุนพลข้างกายฉันเท่านั้น แต่นายจะได้ 'สกิลเฉพาะอาชีพโจร' เป็นของแถมด้วย"

"โอ้ เจ๋งไปเลยครับ" ผมตอบ

ติ๊ง!

เควส: [เสือแห่งสมาคมโจรเร้นเงา] ระดับความยาก: S

- หนึ่งในเจ็ดสมาคมใหญ่ของเมือง ถึงแม้จะมีจำนวนสมาชิกน้อยที่สุด แต่สมาคมโจรเร้นเงามีศักยภาพและผลงานที่น่าทึ่งอยู่เสมอ โดยที่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าเป็นฝีมือพวกเขา คุณต้องทำทุกวิธีทางเพื่อเอาชนะใจ 'ห้าเสือ' ให้จงได้ และเมื่อทำสำเร็จ คุณจะได้รับการยอมรับในฐานะ 'เสือตัวที่หก'

เงื่อนไขเคลียร์: เอาชนะใจห้าเสือแห่งสมาคมโจนเร้นเงา

รางวัลเควส:

สกิลพาสซีพระดับ S 'รอยสักพยัคฆ์'

ค่าชื่อเสียงในเมืองคาเอลุม +1000

ค่าความสัมพันธุ์กับ NPC ห้าเสือและมาสเตอร์ลูจะขึ้นสู่ [ระดับสูง] เป็นอย่างน้อย

รางวัลเสริม:

สกิลอาชีพโจรจากห้าเสือ (ได้รับระหว่างทำเควส)

หากเควสล้มเหลว:

คุณจะไม่มีสิทธิ์เหยียบสมาคมโจรเร้นเงาอีก เควสในเงามืดทั้งหมดของเมืองคาเอลุมจะหายไป

ค่าชื่อเสียง -2000 (ขึ้นอยู่กับกรณี)

คุณจะไม่ได้อยู่ดีมีสุขในเมืองคาเอลุม (ขึ้นอยู่กับกรณี)

"โอ้! รางวัลเควสเป็นสกิลระดับ S ว้าวๆ… แต่ถ้าล้มเหลวนี่ท่าจะแย่แฮะ"

"งั้นเริ่มที่เสือตัวที่หนึ่ง ไนท์ฮอว์ก" มาสเตอร์ลูผายมือไปทาง

ไนท์ฮอว์กที่ยืนพิงเสาอยู่ทางด้านข้าง

ไนทฮอว์กแสยะยิ้มแยกเขี้ยวอย่างน่ากลัวอีกครั้ง แมวของเขากระโดดออกมาจากกระเป๋าไต่ขึ้นมานั่งบนไหล่และขู่ฟ่อใส่ผม

"เคี๊ยกๆๆ งานนี้ต้องสนุกแน่… ไอ้หนู~"

"...."