webnovel

[ชายที่ชื่อไนท์ฮอว์ก Part-1]

"ลุง..."

"ลุงครับ..."

"...."

สวัสดีครับทุกคน ผมแจ็กเอง ตอนนี้อยู่ในเกมต่างโลกครับ กำลังเดินตามเสือตัวที่หนึ่งแห่งสมาคมโจรเร้นเงาอยู่ แต่พี่แกเดินจ้ำอ้าวๆ

ไม่สนใจใครเลยเนี่ยสิ เรียกตั้งหลายรอบก็ไม่หัน ไม่รู้ว่ากำลังวางแผนจะเชือดผมทิ้งอยู่รึเปล่า เพราะผมเพิ่งจะหักหน้าพี่แกเข้าเต็มเปา ถึงแม้ผมจะแค่อยากได้เงินตัวเองคืนก็ตามที เรื่องต่อจากนั้นคือหลังจากมาสเตอร์ลูบอกว่าผมต้องผ่านด่านทดสอบจากเหล่า 'ห้าเสือ' ของสมาคม เฮีย

ไนท์ฮออว์กคนนี้ก็หัวเราะเสียงน่ากลัวใส่ผม แล้วพูดแค่ว่า 'ตามข้ามา' เท่านั้นเอง สถานการณ์แบบนี้เล่นเอาผมรู้สึกสังหรณ์ใจพิกล…

"ลุง ลุง..."

"...."

"เฮ้ย! ตาแก่ไนท์ฮอว์ก!" ไนท์ฮอว์กหยุดกึก แล้วหันมามองผม อ้าว ได้ผลด้วยแฮะ

"จะพาผมไปที่ไหนก็บอกกันบ้างสิครับ"

"เดินตามมาเงียบๆ เดี๋ยวก็ถึงแล้ว" ไนท์ฮอว์กพูดเสร็จก็หันกลับไปเดินต่อ

"เฮ้อ! ตามก็ตามวะ" ผมรีบวิ่งนำหน้าเขาไปนิดหน่อย แล้วซื้อกาแฟคาราเมลมัคคิอาโตมาแก้วหนึ่ง เพื่อดับกระหาย เติมน้ำตาลในเลือดสักหน่อย เผื่อจะช่วยคลายเครียดได้สักนิด

ผมเดินตามไนท์ฮอว์กต่อไป และดูดกาแฟจากแก้วกินไปด้วย พวกเราเดินผ่านร้านค้า และผู้คนมากมาย ผมหยิบแก้วขึ้นมามองที่ด้านข้าง มันเขียนว่าร้านกาแฟ 'สตาร์เบิร์ส' อืมม์… นี่พวกเราคนจากฟ้ามายังโลกนี้ตั้งแต่เมื่อไรนะ รู้สึกเหมือนอิทธิพลหรือวัฒนธรรมหลายๆ อย่างมันปะปนอยู่ในประวัติศาสตร์ของที่นี่มานานนมแล้วนะเนี่ย รู้งี้ตั้งใจฟังที่ไกด์อธิบายตอนเริ่มเกมก็ดีสิ เหอเหอ

พวกเราเดินผ่านย่านที่ดูก็รู้เลยว่าเป็นย่านหรูหราของพวกเศรษฐี ผมรู้ได้ไงน่ะเหรอ คือทุกอย่างมันดูสะอาดสะอ้าน แวววับจับตา บ้านเรือนดูแปลกไป มันดูทันสมัยขึ้น แต่ก็คงความเป็นแฟนตาซีเอาไว้อยู่ ร้านค้าร้านอาหารที่เพียงมองผ่านก็รู้ว่ามีแต่ของแพงๆ ขายในนั้นแน่นอน นักธุรกิจใส่สูทเหมือนที่โลกของเราก็มีเดินให้เห็นกันอยู่เยอะ นักผจญภัยก็มีมากมายและแต่งตัวดูดีมีสไตล์ทุกคนเลย เกราะขัดมันส่องประกาย มีดสั้นทองคำ ดาบที่ตัวด้ามประดับอัญมณีเม็ดเบ้อเร่อ เดินผ่านย่านนี้นี่แสบตาดีจริงๆ

ผมเห็นกิลด์นักผจญภัยของย่านนี้ด้วย ตัวอาคารเป็นไม้สีแดงมันเลื่อม ตรงส่วนขอบหลังคา เฉลียง ประตูเป็นสีทองคำทั้งหมด ส่วนป้ายกิลด์ด้านหน้าพื้นเป็นทองคำขาวตัดขอบทองคำ ตัวอักษรสีดำ ผมรู้ทันทีเลยว่ากิลด์นี้ 'โคตรรวย' มันช่างดูหรูหราอลังการมาก ชื่อกิลด์เขียนว่า [High End] ผมเลยสงสัยว่าที่เมืองนี้มีกิลด์อยู่กี่กิลด์กันแน่

"ลุงไนท์ฮอว์กครับ นั่นคือกิลด์ใช่ไหมครับ?"

"ป้ายข้างหน้ามันก็เขียนบอกนี่ว่า 'กิลด์' แกโง่รึเปล่า" ไนท์ฮอว์ก

ตอบพร้อมหลอกด่าผมด้วยหนึ่งดอก

"ไม่ใช่ๆ ผมหมายถึงว่าที่เมืองนี้มีกี่กิลด์เหรอครับ ผมคิดว่ามีกิลด์นักผจญภัยที่เดียวตรงกลางเมืองซะอีก"

"นั่นคือกิลด์หลักของอาณาจักรคาเอลุม แล้วก็มีกิลด์นักผจญภัยที่ตั้งกันเองแบบนี้แหละ เรียกว่า[กิลด์รอง] ถ้ามีเงินละก็ อยากทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น"

"กิลด์ย่านนี้ก็น่าเข้าดีนะครับ ทุกคนดูดีเชียว"

ไนท์ฮอว์กที่เดินนำหน้า จู่ๆ ก็หันขวับมาจ้องผมด้วยสายตาดุดัน

"อย่าให้ความสวยหรูหลอกตาเอาได้ ไอ้หนู... ไอ้กิลด์นี้น่ะแม่งมีดีแต่เปลือกทั้งนั้น ข้างในโคตรเน่าเฟะ"

"อะ... ครับ ผมจะจำเอาไว้" ผมรู้สึกว่าเขามีอะไรกับกิลด์นี้สักอย่าง ถึงได้โมโหขนาดนี้

...

พวกเราเดินผ่านย่านชนชั้นกลาง ผมเริ่มคุ้นชินกับเมืองมากขึ้น

ทีละนิด มองภาพเมืองออกแล้วว่าย่านไหนอยู่ตรงไหน ซอยมากมาย

เรียงกันยังไง สังเกตง่ายๆ คือมันจะมีป้ายเขียนหน้าซอยบอกไว้เลยว่า

[ซ.กลาง 19] [ซ.กลาง 17] อะไรแบบนี้ ตะกี้ที่ย่านไฮโซก็มีเขียนหน้าซอยเช่นกันว่า [ซ.สูง 35] ประมาณนั้น และแล้วพวกเราก็เดินมาจนถึงย่านชนชั้นล่าง กำลังยืนอยู่หน้า [ซ.ล่าง 8]

"มาหลบตรงนี้" ไนท์ฮอว์กชวนผมเข้าไปหลบในตรอกๆ หนึ่ง

ระหว่างทางที่เดินมาเป็นระยะไกล เหมือนผมได้ซึมซับบรรยากาศของ เมืองแห่งการเริ่มต้น อาณาจักรคาเอลุม นี้อย่างแท้จริง ผมเห็นครอบครัวคนพื้นโลกมากมาย รวมทั้งคนจากฟ้าที่มาตั้งรกรากอยู่เมืองนี้เลย อย่างที่วินเคยเล่าให้ฟังด้วย ย่านระดับสูงจะมีผู้คนประปราย ย่านที่คนเยอะพลุกพล่านคือย่านชนชั้นกลางและชนชั้นล่าง

ในทุกพื้นที่ดูผิวเผินเหมือนจะสงบสุข แต่เผอิญผมมีสกิล [ตาแมว] ที่สามารถมองเห็นได้ดีขึ้นในความมืด เมื่อผมเพ่งมองเข้าไปยังตรอกซอกซอยของแต่ละย่านแล้ว สิ่งที่เห็นในเงามืดนั้นช่างแตกต่างกับความสว่างไสวบนท้องถนน ยกตัวอย่างเช่น หน้าตรอกเล็กๆ แห่งหนึ่งเป็นเพิงร้านไอศกรีม ที่เด็กตัวน้อยแสนน่ารักกำลังดีอกดีใจกับไอศกรีมโคนเจลาโตสามลูกซ้อนของเธอที่ถืออยู่ในมือและเริ่มเลียกินมันอย่างเอร็ดอร่อย แต่ห่างลึกเข้าไปในตรอกมืดนั้นแค่ไม่เกิน 5 เมตร กลับมีเด็กคนหนึ่งกำลังคุ้ยเศษอาหารจากถังขยะกินอยู่อย่างเอร็ดอร่อยเช่นเดียวกัน

ส่วนเรื่องความรุนแรงไม่ต้องพูดถึงเลย เมืองนี้มันอะไรกัน สมมติว่าผมเดินผ่าน 10 ซอย ประมาณ 7 ซอยในนั้นจะต้องมีคนถูกกระทืบอยู่หรือไม่ก็มีคนกำลังต่อสู้กัน ว่าแต่ที่เมืองนี้มันมีกล้องวงจรปิดเฉพาะแค่บนถนนใหญ่หรือยังไง สงสัยจริงทำไมถปล่อยให้กลายเป็นแบบนี้ไปได้

จากการเดินย่ำต๊อกเป็นเวลากว่าหนึ่งชั่วโมง ทำให้ผมตระหนักในบางสิ่งอย่างชัดเจน นั่นคืออาณาจักรแห่งนี้ไม่ได้มีแต่สิ่งสวยงามและน่ารื่นรมย์เสมอไป

ผมยืนพิงกำแพงในตรอกด้วยจิตใจห่อเหี่ยวเล็กน้อย ขอสารภาพตามตรงเลยว่าความรู้สึกตอนนี้เหมือนกำลัง 'อกหัก' เสมือนว่าขณะที่กำลังเริ่มดูใจคบหากับหญิงสาวที่แสนดีและงดงามราวกับนางฟ้าได้ไม่นาน จากนั้นก็ได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงว่าเธอเป็นคนซกมกอาบน้ำแค่อาทิตย์ละหน หรือเป็นคนที่ชอบทารุณสัตว์ หรือไม่ก็เป็นคนจิตใจ

คับแคบ แอบคิดดูถูกคนอื่นลับหลังอยู่เสมอ

"เฮ้อ… อาณาจักรคาเอลุม" ผมถอนหายใจออกมาด้วยความผิดหวัง

"เคี๊ยก เคี๊ยก เคี๊ยก เจอแล้วว้อย! ไอ้หนูดูข้างในซอยนั้น" ไนท์ฮอว์กหัวเราะและชี้ให้ผมดูอะไรบางอย่าง

ผมเพ่งมองเข้าไปในตรอก ภาพที่ได้เห็นก็คืออัศวินชายสามคนกำลังรุมทำร้ายพ่อค้าคนหนึ่งอยู่ และดูเหมือนพ่อค้าคนนั้นกำลังโดนปล้นอยู่ด้วย เพราะเขากำลังยื่นถุงเงินให้คนที่ทำร้ายด้วยอาการหวาดกลัว

"ตามข้ามาดู แต่ไม่ต้องจุ้นล่ะ" ไนท์ฮอว์กพูดจบก็กดอะไรบางอย่างจากวินโดวส์ของเขา

ติ๊ง!

คุณได้รับสิทธิ์เรียนรู้สกิล: [ขู่กรรโชก] ระดับ B

ผลลัพธ์: ทำให้เป้าหมายติดสถานะ [หวาดกลัว]

พลังป้องกันจะลดลง 30%

เป้าหมายจะได้รับดาเมจเพิ่มขึ้นจากผู้ใช้ 100%

คำอธิบาย: แผ่ออร่าที่ดูน่าเกลียดน่ากลัวออกมาเพื่อคุกคามศัตรู ทำให้เกิดอาการตกใจหวาดผวาหรือกลัวจนตัวสั่น

Type: ACTIVE per second (เปิดใช้งานต่อวินาที)

MP cost: 30 มานา / 1 วินาที

Cooldown: 30 นาที

หมายเหตุ: โอกาสใช้สกิลสำเร็จ 30% + X%

( X = ยิ่งหน้าตาดูน่าเกลียดน่ากลัวมากเท่าไร

โอกาสสำเร็จยิ่งเพิ่มมากขึ้น)

"ห๊ะ?! สกิลขู่กรรโชกงั้นเหรอ?"

จากนั้นเขาพุ่งตัวออกไปวิ่งฝ่าผู้คนบนถนนและเข้าไปยังซอยที่เกิดเหตุตรงกันข้ามอย่างรวดเร็ว ผมรีบวิ่งตามเขาไปบ้าง และเหตุการณ์ที่ผมเห็นตรงหน้าคือ

"กำลังสนุกกันอยู่สินะ" ไนท์ฮอว์กพูดขึ้น

อัศวินทั้งสามมองตรงมายังเจ้าของเสียงและคนหนึ่งในนั้นก้าวออกมาตะโกนว่า

"แกเป็นใครวะ อย่าเข้ามาแส่เรื่องนี้นะเว้ย!"

"ไม่แส่.. ไม่ได้ว่ะ เมืองนี้คือถิ่นของข้า" ไนท์ฮอว์กเดินเข้าไปหาอัศวินทั้งสามอย่างช้าๆ

กึก… กึก… กึก…

"อยากเป็นอัศวินก็เป็นไป แต่อย่าริอาจเป็นโจรหน่อยเลย" ไนท์ฮอว์กพูด และจากนั้นเขาก็แผ่ออร่าพลังที่น่ากลัวน่าสยดสยองออกมา ซึ่งขนาดผมที่มองดูอยู่ข้างหลังยังรู้สึกขนลุกเกรียวไปทั้งตัว แล้วแบบนี้อัศวินทั้งสามที่จ้องตาเขาอยู่จะขวัญผวาขนาดไหนเนี่ย... อ๊ะ ผมเห็นพ่อค้าที่โดนทำร้ายคนนั้นหลับตาปี๋เลย

"...อึ่ก!"

"อะ อะ อะไรของแกวะ อย่า… อย่าเข้ามานะว้อย" อัศวินทั้งสามก้าวถอยหลังอย่างหวาดกลัว แต่ดูเหมือนพวกเขาจะขาสั่นจนทำให้ล้มก้นจ้ำเบ้าแล้วตอนนี้

กึก… กึก… กึก… ไนท์ฮอว์กเดินเข้าไปใกล้เรื่อยๆ และแผ่ออร่าน่าเกลียดน่ากลัวยิ่งกว่าเดิม

ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง! มีหน้าต่างระบบเด้งขึ้นมาตรงหน้าพวกเขา

คุณกำลังตกอยู่ในสภาวะ [หวาดกลัว] ค่ะ

ดูเหมือนอัศวินทั้งสามไม่ได้สนใจที่ระบบเตือนแล้ว เพราะร่างที่สูงใหญ่ของไนท์ฮอว์กยื่นค้ำหัวอยู่ และก้มมองกดพวกเขาจากด้านบน พร้อมกับยื่นมีด สปาร์ต้าคมกริบส่องประกายแวววับออกมาอย่างช้าๆ

"อย่า..! อย่าฆ่าพวกเราเลยครับ"

"ขอร้องล่ะ.. ครับ ผมจะไม่.. ทำอีกแล้ว"

"ได้โปรด.. ไว้ชีวิต.. พวกเราเถอะครับ"

"...."

อัศวินทั้งสามคนหน้าซีด ปากสั่น แข็งขาอ่อนแรงขนาดลุกไม่ไหว เรื่องสู้ไม่ต้องพูดถึง บางคนถึงขั้นน้ำตาไหลออกมาเลยทีเดียว

"กดเงินสดทั้งหมดที่มีวางไว้ แล้วไสหัวไปซะ" ไนท์ฮอว์กพูดขึ้นด้วยเสียงที่แหบและแตกพร่าของเขา

"...."

อัศวินทั้งสามรีบควักบัตรเงินสดออกมาและกดอย่างรวดเร็ว ถุงเงินหนักอึ้งสามถุงตกลงที่พื้นเสียงดังตุบ กริ๊งๆๆ และขณะที่พวกเขากำลังหันหลังจะคลานหนี...

"เดี๋ยว!!"

"...ครับ" ทั้งสามคนค่อยๆ เบือนหน้าหันกลับมามองไนท์ฮอว์กอย่างช้าๆ

"ถ้าข้าจับได้ว่าพวกแกทำแบบนี้อีกละก็ ทันทีที่เจอหน้าเน่าๆ ของพวกแกเมื่อไร ข้าจะตรงดิ่งเข้ามาฆ่าพวกแกทิ้งโดยไม่ถามอะไรทั้งนั้น… ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ตาม ข้าจะ เชือด! เชือด! เชือด! เอาให้แกไม่กล้าเดินในเมืองนี้อีกเลย เคี๊ยก เคี๊ยก เคี๊ยก"

"ครับ! ไม่กล้าแล้วครับ! ลาล่ะครับ!" อัศวินทั้งสามขานรับเสร็จแล้วรีบตะกุยพื้นหนีอย่างรวดเร็ว แบบสำนวนที่เค้าเรียกกันว่า 'วิ่งหนีหางจุกตูด' นั่นแหละครับ เหมาะมากที่จะใช้ในสถานการณ์นี้

จะว่าไปผมก็นึกอยากเห็นหน้าตาของไนท์ฮอว์กตอนนี้เหมือนกันแฮะ อยากรู้ว่าจะน่าเกลียดน่ากลัวสัก--!

ทันใดนั้นไนท์ฮอว์กหันขวับมาทางผม และพุ่งกระโจนเข้ามาตั้งท่าจะแทงผมด้วยมีดสปาร์ต้าเล่มนั้น

"ตาย-!!"

"อะจ๊ากกกกก!!" ผมตกใจร้องตะโกนดังลั่นซอย นึกว่าตัวเองจะถูกปีศาจตัวนี้กระซวกเอาแน่ๆ แต่ทว่า…

เขาหยุดมีดไว้อยู่ตรงหน้าผม หยุดแบบห่างจากดวงตาของผมแค่ไม่กี่มิลเท่านั้น ผมหอบหายใจแรงและถี่ขึ้นพร้อมกับใจที่เต้นรัวเป็นกลองเพลเลยทีเดียว

ตึกตักๆๆๆๆ!

หากคุณเคยตกใจเวลาดูหนังผีหรือหนังฆาตกรแนวจัมพ์สแกร์ (Jump Scare) ให้ลองคูณเพิ่มไปอีกสักสิบเท่า แล้วคุณจะเข้าใจความรู้สึกของผมตอนนี้ เจอของจริงนี่มันสุดๆ ไปเลย ออร่าน่าขนลุกที่ทำให้อึดอัดหายใจไม่ออก จิตสังหารที่ปล่อยออกมาอย่างรุนแรง แววตาที่แดงก่ำเป็นสีเลือด ลักษณะท่าทางของร่างกายทั้งหมด ปลดปล่อยอารมณ์สุดสยองที่สื่อให้เป้าหมายได้รับรู้อย่างชัดเจน ผมสรุปเลยว่า

ไนท์ฮอว์กตอนนี้…

"น่ากลัวฉิบหาย"

ติ๊ง!

คุณกำลังตกอยู่ในสภาวะ [หวาดกลัว] ค่ะ!

"รู้ซึ้งหรือยัง?" ไนท์ฮอว์กถามผม

"เอ๊ะ?"

"ข้าถามว่าแกรู้ซึ้งแล้วใช่ไหม ว่าสกิลของข้าเป็นยังไง"

"อะ เอ่อ… ครับ" ดวงตาของไนท์ฮอว์กเริ่มกลับไปเป็นสีเทาตามเดิม เขาคลายออร่าและเก็บมีดสปาร์ต้าเข้าฝัก

"นี่ลุงทำแบบนี้ เพื่อโชว์สกิลให้ผมดู?"

ไนท์ฮอว์กมองผมแต่ไม่ตอบอะไร แล้วเขาก็หยิบไปป์ออกมาจากกระเป๋า จุดสูบต่อหน้าผม แมวของเขาก็ออกมาด้วย ปีนขึ้นมาบนไหล่ หาวหนึ่งทีและเริ่มงีบต่ออีกครั้ง

ฟู่ววววว เขาพ่นควันขึ้นฟ้า "ไอ้หนู ถ้าแกใช้สกิล [ขู่กรรโชก] สำเร็จเมื่อไร เท่ากับแกผ่านการทดสอบจากข้า"

"...."

พ่อค้าเดินเข้ามาโค้งขอบคุณ "คุณไนท์ฮอว์ก ขอบคุณมากครับที่ช่วยไว้"

"เลิกขายไอเท็มผิดกฏหมายซะ มันเสี่ยง" ไนท์ฮอว์กพูดจบก็ยื่นถุงเงินของพ่อค้าคืนให้เจ้าตัวไป

"อ้า ผมก็อยากเลิกอยู่ แต่ใบอนุญาตเปิดร้านอีกหนึ่งสัปดาห์ถึงจะอนุมัติ ยังไงคนเราก็ต้องกินต้องใช้ เลยต้องมาเสี่ยงขายในตรอกซอยแบบนี้น่ะครับ" พ่อค้าอธิบาย

"เอาที่สบายใจ แต่ครั้งหน้าข้าไม่ช่วยแล้วนะ"

"ครับๆ ลาละครับ ขอบคุณครับ" พ่อค้าโค้งปลกๆ และเดินออกมา พอเขาเดินผ่านผม เขาหยุดกึกแล้วแอบมากระซิบชวนคุย

"น้องชาย เธอเป็นลูกศิษย์ของไนท์ฮอว์กเหรอ"

"เอ่อ ทำนองนั้นครับ"

"โอ้ ดีๆ ตั้งใจเรียนรู้นะ ไม่ต้องห่วง ไนท์ฮอว์กน่ะเป็น 'คนดี' "

"คนดี?" ผมแทบไม่เชื่อหูตัวเองในสิ่งที่ได้ยินเมื่อสักครู่ จึงเอานิ้วมาแคะหูยิกๆๆ คำที่สามารถใช้นิยามในตัวไนทฮอว์กได้ ผมว่าก็น่าจะมีเป็นสิบเป็นร้อยคำ แต่ไอ้คำว่า 'คนดี' มันไม่น่าจะใช่แล้วมั้ง

"ครั้งที่แล้วที่เขาช่วยฉัน เขาก็พูดแบบนี้ละว่า 'ครั้งหน้าจะไม่ช่วยอีกแล้ว' แต่พอเห็นใครลำบากเขาก็จะเข้ามาช่วยเหลือทุกครั้ง จริงๆ นะ เขาเป็นคนที่มีน้ำใจชอบช่วยเหลือคน" พ่อค้าอธิบายเพิ่มเติม

"โอ้ ยังงั้นเหรอครับ" ผมว่าเรื่องพวกนี้มันต้องมีเงื่อนงำแน่นอน

'ว่าแต่นี่คุณโดนรุมกระทืบบ่อยเลยสินะ' ผมคิดในใจ

"แต่ฉันจะเลิกขายไอเท็มผิดกฏหมายแล้วละ เอาไว้รอเปิดร้านทีเดียวเลยดีกว่า อีกหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้า น้องชายแวะไปที่ร้านสิ แล้วจะมีส่วนลดให้นะ" พ่อค้าหนุ่มยื่นนามบัตรให้ผม

[ร้านไอเท็มเอลฟ์ร้อนๆ โดย Meison]

"ฉันชื่อ เมซัน โอริเวอรี่" เขาเปิดฮู้ดออก เผยให้เห็นหน้าตาชัดๆ ว่าเขามีหูของเอลฟ์

"วิธีหาร้านก็ไม่ยาก ฉันลงทะเบียนร้านค้าไว้เรียบร้อย แค่น้องชายเปิด [Map] ขึ้นมาแล้ว เอานามบัตรใส่เข้าไป เท่านี้ในแผนที่ก็จะแสดงตำแหน่งของร้านทันที"

"โอ้ว สะดวกดีจัง ขอบคุณครับ แล้วผมจะแวะไปอุดหนุนแน่นอน"

แล้วพ่อค้าเอลฟ์ก็เดินออกไปจากตรอก ผมเดินเข้าไปหาไนท์ฮอว์กที่ยืนพิงกำแพงสูบไปป์อยู่

"คนเมื่อกี้เป็นเอลฟ์เหรอครับ แต่ทำไมเขาดูไม่เหมือนเอลฟ์ที่ผมรู้จักเลย"

"...ฮาล์ฟเอลฟ์" (Half-Elf) ไนท์ฮอว์กพูดขึ้น

"อ้อ หมายถึงลูกครึ่งเอลฟ์สินะครับ ยังงี้นี่เอง"

ไนท์ฮอว์กหรี่ตามองผมอย่างรำคาญ "รีบไปหาเหยื่อได้แล้ว ข้าไม่มีเวลาให้แกทั้งวันนะเว้ย"

"นี่ลุงจะให้ผมใช้สกิลข่มขู่แล้วปล้นคนจริงดิ?"

ไนท์ฮอว์กไม่ตอบและสูบพ่นควันไปป์อีกครั้ง ฟู้วววววววว

'โอ๊ย! รำคาญตาแก่จอมลีลานี้จริงว้อย!' ผมระเบิดอารมณ์ในใจ และพยายามใจเย็นตั้งสติเค้นถามต่อไป

"อย่างน้อยบอกหน่อยสิครับว่า คุณแยกความแตกต่างระหว่างคนจากฟ้ากับคนพื้นโลกได้ยังไง ผมเห็นพวกเขาก็ดูคล้ายๆ กันหมด"

"...ถ้าแกผ่านสเปเชี่ยลวัน ก็จะได้รับสกิลติดตัว [ประเมินค่า] เบื้องต้น เพียงแค่เพ่งมอง ก็จะเห็นไอคอนสามเหลี่ยมชี้ลงเล็กๆ บนหัวของคนจากฟ้า"

"สเปเชี่ยลวัน? เลเวล 40 น่ะเหรอ? อ้าวแล้วงี้มีวิธีอื่นอีกไหมครับ"

ไนท์ฮอว์กกดวินโดว์แล้วโยนไอเท็มสเคาเตอร์ให้ผมหนึ่งชิ้น ผมลองใช้ส่องบนถนนข้างนอกดู

"แจ๋ว!"

ผมมองดูผู้คนเดินผ่านทางหน้าจอใสสีเขียวอ่อนของสเคาเตอร์ มันแสดงชัดเลยว่า บางคนมีไอคอนสามเหลี่ยมบนหัว บางคนไม่มี ส่วนข้อมูลลึกเช่นเรื่องเลเวลและชื่อไอดีจะเห็นได้จากระยะไม่เกิน 10 เมตรเท่านั้น แต่ดูเหมือนบางคนก็ไม่สามารถตรวจสอบเลเวลได้แฮะ มันขึ้นว่า [ID:??? Level:???]

"พวกที่ขึ้นเป็นเครื่องหมายคำถามนี่คืออะไรครับ"

"...พวกนั้นใช้ไอเท็มปกปิดข้อมูล สเคาเตอร์จะอ่านข้อมูลไม่ได้"

"แล้วปกปิดไปทำไม--?"

"เลิกถามสักที! แล้วรีบลงมือซะ ข้าบอกแล้วว่าไม่มีเวลาให้แกทั้งวัน!" ไนท์ฮอว์กดุเสียงแข็งขึ้นมา

"คร้าบๆ ก็ได้ครับ เอ... เอาใครดีหว่า" บอกตามตรงว่าผมเลือกไม่ถูก จู่ๆ จะให้เลือกใครสักคนมาปล้นเนี่ยนะ บ้าไปแล้ว ถ้าเจอพวกคนเลวๆ ก็ว่าไปอย่าง

"อื๋อ? ไอ้หมอนั่นมัน… 'เลโอ' นี่นา ไอ้เด็กบ้านรวยจอมเย่อหยิ่งคนนั้น โลกกลมแฮะ เมืองใหญ่ขนาดนี้ยังเจอกันได้อีก... หึหึหึ งั้นก็ได้เป้าหมายแล้ว"

ผมแอบอยู่ปากตรอกเพื่อรอให้เลโอเดินผ่าน และหันไปบอกไนท์ฮอว์ก "เดี๋ยวผมจะลงมือแล้ว ลุงหลบไปก่อนเถอะ" แต่ผมไม่เห็นตัวเขา เลยมองหาและได้ยินเสียง ฟวี้ด! ฟวี้ด! จากทางด้านบน ไนท์ฮอว์กนั่นเอง เขากระโดดขึ้นไปคอยดูอยู่บนหลังคาตึก แหม เป็นงานซะเหลือเกิน

และเมื่อเลโอเดินกำลังจะเดินผ่านหน้าตรอก ผมเริ่มลงมือตามแผนที่คิดไว้ทันที

"โอ๊ย!" ผมร้องเจ็บและแกล้งล้มไปขวางทางเขา "อึ่ก! ไอ้โจรชั่ว บังอาจมาทำร้ายกันได้นะ! ...อ๊ะ นาย! เลโอใช่ไหม เด็กอัจฉริยะหล่อเหลาและเก่งกาจคนนั้น!"

"อะไร แกเป็นใคร ทำไมรู้จักฉัน?" เลโอกล่าว

"เรื่องนั้นไว้ก่อนเถอะ ฉันเป็นเพลเยอร์คนไทยเหมือนกัน ฉันถูกนักเลงในตรอกนี้หลอกทำร้าย นายช่วยฉันหน่อยนะ คนไทยเหมือนกันต้องช่วยเหลือกันสิเนอะ ถูกไหม?" ผมตั้งใจพูดเร็วๆ รัวๆ เพื่อให้เขาเออออห่อหมกไปกับผม

"หา?" เลโอทำหน้างงเล็กน้อย

"เอ้า! เร็วเข้าๆ เดี๋ยวพวกมันจะหนีไปซะก่อน เก่งๆ อย่างนาย สบายอยู่แล้วละ ไปกันๆ" ผมลุกจากพื้น พูดคะยั้นคะยอเต็มที่ และใช้สองมือดันหลังของเขาให้เข้าไปในตรอก

และเมื่อเขาเข้าไปในตรอกมืดเรียบร้อยแล้ว

"ไหนล่ะ? ไม่เห็นมีใครเลย หนีไปแล้วมั้ง" ก่อนที่เขาจะหันหน้ากลับมา ผมดึงเข็มขัดตัวเองอย่างรวดเร็ว และใช้มันมัดข้อมือข้างหนึ่งของเขา และคว้าแขนอีกข้างมารวบเอาไว้ทางด้านหลังทันที จากนั้นผลักเขาไปชนกำแพงเสียงดังตึง พร้อมกับเรียกเคียวออกมาจ่อคอของเขาเอาไว้

"แก! ตั้งใจจะทำอะไร?!" เลโอถามผมด้วยเสียงโมโหและดุดัน

'สกิล [ขู่กรรโชก]!' ผมสั่งเปิดใช้งานสกิลในใจและพูดออกมาด้วยเสียงที่เข้มที่สุดว่า

"ส่งเงินทั้งหมดที่มีมาซะ ไม่งั้นนาย ตาย!!" ผมรู้สึกถึงออร่าน่ากลัวของสกิลที่เริ่มแผ่ออกมา ผมบังคับดวงตาให้โตและจ้องเขม็งไปที่เป้าหมาย บังคับคิ้ว บังคับปาก เกร็งทั้งหน้าและคอจนเส้นเลือดปูดขึ้นมา ผมพยายามทำหน้าตาให้โหดที่สุด เหี้ยมที่สุด เท่าที่ชีวิตนี้จะทำได้...

"นั่นแกทำบ้าอะไร ทำหน้าตายุกยิกแบบนั้น คิดจะกวนโอ๊ยฉันรึไง?!"

"...."

ติ๊ง!

คุณใช้สกิล [ขู่กรรโชก] ล้มเหลวค่ะ!

"อย่าคิดว่าจะปล้นเงินฉันง่ายๆ นะเว้ย! ประสิทธิ์พลังเวท [จำแลงอัสนีขั้นที่สอง!]" ร่างของเลโอมีสายฟ้าแล่นเปรี๊ยะๆ ไปทั่วร่างอย่างรวดเร็ว จนในที่สุดก็แล่นเข้าสู่มือของผมที่ดันหน้าอกของเขาเอาไว้

เปรี้ยง! เปรี้ยง!

"จื๊ดดด!! จ๊าก!! โอ๊ย!!" เจ็บราวกับถูกไฟฟ้าแสนโวลต์ช็อต ผมกระเด็นเด้งออกห่างจากเลโอทันที

"แฮ่ก แฮ่ก"

"แก! ไอ้โจรชั่ว เตรียมตัวตายได้แล้ว!" เลโอตั้งท่ารวบรวมพลังเหมือนจะร่ายเวทใส่ผม

ผมตัดสินใจอย่างฉับไวไม่มีการลังเลแม้แต่น้อย สองเท้าก้าวรีบวิ่งออกจากตรอกอย่างว่องไว เมื่อพ้นปากตรอกยืนอยู่ริมถนนแล้ว ผมหันไปหัวเราะแห้งๆ และบอกว่า

"แหะๆ ล้อ~เล่นนา! พี่แค่ล้อเล่นนะน้องเลโอ อย่าจริงจัง อย่าซีเรียส เดี๋ยวจะแก่ไวนะจะบอกให้"

"ตาย!!" เลโอซัดสกิลสายฟ้าตรงใส่หน้าผมเลย

เปรี้ยงซู~~~ม!! ผมเอนหลังแหงนหน้าหลบทัน แต่สายฟ้าเฉี่ยวปลายจมูกไปนิดหน่อย

"เจี๊ยกกกก! อะไรเนี่ย แค่เฉี่ยวยังโดนช็อตขนาดนี้เลยเรอะ?!"

เลโอตั้งท่าอีกครั้งหมายจะเล่นงานผมให้ได้ เห็นอย่างนั้นแล้ว ผมไม่ยอมอยู่เฉยแน่

"จะอยู่ให้โง่เรอะ เผ่นสิเฮ้ย!" ผมรีบวิ่งหนีตาย ปะปนเข้าไปในฝูงชนทันที เลโอวิ่งตามผมออกมาเช่นกันแต่ก็หาผมไม่เจอซะแล้ว