บทที่ 32 เธอฝันไปสิ
ฝ่ายปกครอง
อาจารย์ทุกคนที่รับหน้าที่สอนหนังสือห้อง F กำลังตกตะลึง และเวลานี้กำลังล้อมวิเคราะห์กระดาษคำตอบของเยี่ยหวันหวั่นด้วยกัน ด้านนอกมีนักเรียนที่มามุงดูเรื่องสนุก
หนึ่งในกลุ่มอาจารย์เอ่ยขึ้นว่า “แม้ว่าครั้งนี้วิชาสังคมศาสตร์จะออกข้อสอบแบบสับขาหลอกเยอะมาก แต่ว่าก็ไม่ได้หลุดไปจากขอบเขตของเนื้อหา ล้วนเป็นหัวข้อที่พวกเราเคยทบทวนทั้งหมด นักเรียนหัวกะทิของชิงเหอเรามีตั้งมากมาย คนที่สอบได้เกิน 290 คะแนนไม่ได้มีแค่เยี่ยหวันหวั่นคนเดียว แต่ประเด็นสำคัญคือ...คะแนนแบบนี้ เป็นเยี่ยหวันหวั่นที่สอบได้อย่างนั้นเหรอ?”
“แล้วก็ คะแนนวิชาภาษาจีนสูงขนาดนี้ ยังไงก็อธิบายไม่ได้ใช่ไหม? ต่อให้การเขียนจะบังเอิญเข้าตาอาจารย์ เรื่องการอ่านทำความเข้าใจมีที่ไหนที่ไม่หักสักคะแนนเดียว?” อาจารย์อีกคนหนึ่งก็เอ่ยตั้งข้อสงสัยออกมา
น้ำเสียงของอาจารย์เฝิงรุ่ยอันในเวลานี้ก็เคลือบแคลงความสงสัยบ้างแล้ว “เยี่ยหวันหวั่น เมื่อกี้ฉันดูกระดาษคำตอบของเธออย่างละเอียดแล้ว พบว่าคำตอบของคำถามหัวข้อการอ่านทำความเข้าใจข้อแรกตรงกับคำตอบที่ถูกต้อง ไม่ตกไปสักคำอย่างคาดไม่ถึง จุดนี้เธออธิบายสักหน่อยได้ไหม?”
“ข้อนี้หนูเคยอ่านมาก่อนค่ะ ท่องจำได้ก็แค่นั้น ข้อนี้มาจากคำถามข้อสองของหัวข้อการอ่านทำความเข้าใจในข้อสอบมัธยมปลายปีสามที่หกโรงเรียนพันธมิตร เมือง A ออกร่วมกันในปี XX ” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยตอบอย่างรวดเร็ว
คาดไม่ถึงว่าจะได้ยินเยี่ยหวันหวั่นบอกที่มาของคำถามข้อนั้น ดวงตาของเฝิงรุ่ยอันเป็นประกาย “ถูกต้อง คำถามข้อนี้มาจากที่นี่จริงๆ เพราะคำถามข้อนี้ยากเกินไป ตอนนั้นฉันและอาจารย์คนอื่นๆ ไม่ได้คาดหวังว่าทุกคนจะทำได้ แต่ว่าคำถามการอ่านทำความเข้าใจออกได้ดีมากจริงๆ ครั้งนี้ก็เลยเลือกคำถามข้อนี้ออกมา คาดไม่ถึงว่าเด็กอย่างเธอจะเคยทำข้อสอบชุดนี้ด้วย?”
เรื่องการอ่านทำความใจนี้ สิ่งที่พวกเขาสอนคือวิธีการแก้โจทย์ ไม่มีทางให้นักเรียนไปท่องหัวข้อ ในเมื่อถึงเวลาสอบเข้ามหาวิยาลัยไม่มีทางที่จะออกคำถามเดิมอย่างแน่นอน
ผลลัพธ์คือเยี่ยหวันหวั่นดันท่องจำคำตอบของการอ่านทำความเข้าใจ
จ้าวซิงโจวหาวหวอดอย่างเกียจคร้าน ยกมือพูดแทรกขึ้นมา “ฉันยังมีคำถาม ในเมื่อข้อสอบหลุดออกไปแล้ว ทำไมมีแต่วิชาคณิตศาสตร์ของฉันที่ได้ศูนย์คะแนน?”
เหลียงลี่หวาเอ่ยอย่างรำคาญใจ “คิดว่าไม่ได้ข้อสอบของวิชาคณิตศาสตร์ไปน่ะสิ ไม่อย่างนั้นคนธรรมดาที่ไหนจะท่องคำตอบของการอ่านทำความเข้าใจ อีกทั้งยังเป็นข้อสอบที่อาจารย์ไม่ได้คาดหวังให้นักเรียนทำได้ด้วยซ้ำ สรุปปัญหาตอนนี้ก็คือเธอทุจริตการสอบ เรื่องนี้จะดิ้นยังไงก็ดิ้นไม่หลุด!”
หลิวเหวินป๋อ อาจารย์ฝ่ายปกครองที่อยู่ด้านข้างมองเด็กสาวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เอ่ยถามเสียงเครียด “เยี่ยหวันหวั่น เธอได้ข้อสอบมาจากที่ไหน?”
ใบหน้าเยี่ยหวันหวั่นเรียบเฉย “ได้มาตอนแจกข้อสอบค่ะ”
เหลียงลี่หวาพลันเอ่ยด้วยความโมโห “พวกคุณดูสิ จนตอนนี้แล้วยังไม่ยอมพูดความจริง!”
สายตาเย็นชาของเยี่ยหวันหวั่นมองไปทางเหลียงลี่หวา “อาจารย์เหลียง อาจารย์เอาแต่พูดว่าหนูทุจริตการสอบ รบกวนอาจารย์แสดงหลักฐานที่หนูทุจริตออกมา ถ้าหากมีหลักฐานที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าหนูได้ข้อสอบก่อนการสอบ หนูจะออกจากชิงเหอทันที ถ้าหากว่าไม่มีหลักฐาน หวังว่าทางโรงเรียนจะยกเลิกมติที่จะไล่หนูออกจากโรงเรียน และขอเชิญอาจารย์ขอโทษหนูต่อหน้าเพื่อนนักเรียนทั้งห้องด้วยค่ะ”
เหลียงลี่หวาพลันยิ้มเย็น “เธอฝันไปสิ!”
จ้าวซิงโจวมองหาเก้าอี้ตัวหนึ่ง หยอดก้นนั่งลง โบกมือพลางกล่าวว่า “พูดมาเยอะแยะขนาดนี้ อยากรู้ว่าคะแนนของเด็กคนนี้เป็นความจริงหรือเปล่า ให้เธอสอบอีกครั้งก็รู้แล้วไม่ใช่เหรอครับ? มีข้อสอบชุดที่สองไว้สำรองอีกชุดไม่ใช่เหรอครับ? นำมาให้เธอสอบใหม่ที่นี่ตอนนี้เลยสิครับ!”
สอบใหม่?
เมื่อได้ยินคำพูดของจ้าวซิงโจว อาจารย์ทุกคนพลันเงียบเสียงลง
ตอนนี้เยี่ยหวันหวั่นยืนกระต่ายขาเดียวไม่ยอมรับ หากอยากจะรู้ความจริงใช้ชัดเจน ก็มีแค่วิธีนี้แล้ว
“ผมไม่คัดค้าน” อาจารย์ภาษาจีนพยักหน้า เขาเองก็สงสัยมากว่าเยี่ยหวันหวั่นพูดจริงหรือโกหกกันแน่
อาจารย์คนอื่นๆ เห็นสถานการณ์เช่นนี้ มองหน้ากันไปมา สุดท้ายก็แสดงออกว่าเห็นด้วยกันทุกคน
......................................................................