____"เอ๊ะ! เจ้านี่แปลกคน ปกติแล้วเด็กคนอื่นมักจะไม่กล้าพูดอะไรต่อหน้าข้าหรอกนะ แต่เจ้านี่กลับถามไม่หยุด เอาเถอะ! ถือว่าข้าชื่นชอบในความกล้าหาญของเจ้าแล้วกัน ปกติแล้วเด็กวัยเยาว์จะมีธาตุประจำตัวเพียงธาตุเดียวเท่านั้น ผู้ที่มีธาตุประจำตัวสองธาตุมักจะพบในทุกๆ 10 ปี ผู้ที่มีธาตุประจำตัว 3 ธาตุนั้นมักจะพบทุกๆ 30-50 ปี ส่วนผู้ที่มีธาตุประจำตัว 4 ธาตุนั้น... ข้าจำไม่ได้แล้วว่าพบคนสุดท้ายเมื่อใดกัน หรือก็คือเจ้านั้นเป็นคนแรกในช่วงเวลาประมาณ 100 ปีของอาณาจักรออโรร่ายังไงล่ะ" ปรมาจารย์คีตัสลูบคางพลางกล่าวอย่างไม่ใส่ใจนัก
____คำตอบของคีตัสนั้นค่อนข้างน่าตกตะลึง ข้อมูลที่ปรมาจารย์คีตัสกล่าวมานั้นไม่ต่างจากที่แฟนธ่อมสันนิษฐานมาก่อนหน้าสักเท่าใดนัก เพียงแต่ว่าในตอนแรกแฟนธ่อมคิดว่าพรสวรรค์ของเขาค่อนข้างอ่อนแอเลยด้วยซ้ำ แฟมธ่อมคาดไม่ถึงว่าวันนี้เขาจะได้รับการประเมินที่ค่อนข้างสูงจากมหาจอมเวทคีตัสผู้นี้
____'เราค่อนข้างมั่นใจว่าเรามีธาตุประจำตัวเป็นธาตุลมเพียงธาตุเดียวเท่านั้น อีกทั้งปริมาณมานาก็ยังน้อย แล้วทำไมคริสตัลทดสอบถึงตรวจพบว่าเรามีธาตุประจำตัวถึง 4 ธาตุกันนะ หรือว่าจะเป็นเพราะผลลัพธ์จากการที่เราทุ่มเทฝึกฝนเวทมนตร์ตลอดช่วง 1 ปีที่ผ่านมา วิธีการฝึกฝนของน่าเราจะช่วยยกระดับธาตุประจำตัวและมานาในร่างกายของเราไปอีกระดับอย่างแน่นอน นี่ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ' แฟนธ่อมก้มหน้าครุ่นคิดเมื่อได้ยินคำตอบของปรมาจารย์คีตัส
____"แล้วถ้ายังงั้น... มาสเตอร์คีตัสมีธาตุประจำตัวกี่ธาตุหรอฮะ?" แฟนธ่อมถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
____ในเวลานี้ดวงตาของแฟนธ่อมแสดงออกถึงความสนใจแบบเด็กๆโดยไม่ต้องพยายามแสดง นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ทักษะแปลกประหลาดที่มหัศจรรย์เช่นนี้เป็นสิ่งที่แฟนธ่อมมักจะสนใจและชื่นชอบเสมอมา
____"เจ้านี่นะ! ตอนเด็กข้านั่นมีธาตุประจำตัว 3 ธาตุ แต่ในยามนี้ข้าได้ฝึกฝนให้ชำนาญในทุกธาตุและเวทมนตร์ทุกบทแล้ว" ปรมาจารย์คีตัสถอนหายใจพลางตอบด้วยความเหนื่อยหน่ายใจ
____นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่คีตัสไม่ค่อยอยากจะรับศิษย์สายตรงคนใหม่ นั่นเป็นเพราะว่าเด็กมักจะมีพลังงานมากและมีความอยากรู้อยากเห็นสูง การที่รับศิษย์สายตรงมักจะทำให้คีตัสรู้สึกว่าพลังงานของเขาถูกดูดออกไปอย่างรวดเร็ว แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่ทำให้คีตัสหวนย้อนนึกถึงความทรงจำเก่าก่อนเช่นกัน ในอดีตเขาก็เคยเป็นอย่างแฟนธ่อม อยากรู้อยากเห็นในทุกศาสตร์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับเวทมนตร์ มันทำให้เขาได้พบกับการเดินทางมากมาย ความทรงจำเหล่านั้นมีทั้งสุขและทุกข์ การที่ได้เห็นแฟนธ่อมในวันนี้ก็เหมือนกับเขาได้ย้อนวันวานเห็นตนเองในอดีตอีกครั้ง
____"แต่ข้าต้องขอเตือนเจ้าไว้ก่อน การที่เจ้ามีธาตุประจำตัว 4 ธาตุไม่ได้หมายความว่าเจ้าจะต้องเก่งกาจและยิ่งใหญ่อะไร เจ้าไม่ได้เป็นคนแรกที่มีธาตุประจำตัวถึง 4 ธาตุ และจะไม่เป็นคนสุดท้ายเช่นกัน อีกทั้งมานาของเจ้ายังค่อนข้างไปในทางน้อย ในยามนี้มีบุคคลไม่น้อยที่มีธาตุประจำตัว 2-3 ธาตุแต่มีปริมาณมานาสูงกว่าเจ้ามาก แม้แต่ข้าเองยามเด็กข้าก็มีพรสวรรค์ระดับเวทมนตร์ระดับสูง นั่นหมายความว่าในอนาคตต่อให้เจ้าต่อสู้กับจอมเวทที่สามารถใช้เวทมนตร์ได้เพียงธาตุเดียว แต่คนเหล่านั้นก็อาจจะสามารถเอาชนะเจ้าได้อย่างง่ายดาย หากพวกเขาเหล่านั้นมีความชำนาญเวทมนตร์สูงกว่าเจ้า ฉะนั้นเจ้าจะต้องกระหายในการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา ห้ามทะนงตนเรื่องที่เจ้ามีธาตุประจำตัวถึง 4 ธาตุเป็นอันขาด เพราะแท้จริงแล้วไม่ว่าผู้ใดก็สามารถฝึกฝนให้ชำนาญเวทมนตร์ได้หลายธาตุ เรื่องที่ข้าพูดเจ้าเข้าใจหรือไม่?!" ปรมาจารย์คีตัสกล่าวอย่างจริงจังมากที่สุดตั้งแต่พวกเขาพูดคุยกัน
____แฟนธ่อมเข้าใจความหมายในคำพูดของปรมาจารย์คีตัสดี เขาไม่สามารถประมาทได้เลยในทุกเสี้ยววินาที เพราะในชีวิตเดิมของเขาก็ตายเพราะความประมาทนั่นเอง เขาเคยหลงคิดว่าน้องชายของเขาจะรักเขาจริงอย่างที่เขามอบความรักให้กับน้องชาย ความประมาทเป็นต้นเหตุของความตาย แฟนธ่อมรู้ซึ้งในเรื่องนี้มากยิ่งกว่าใคร
____"เข้าใจแล้วครับมาสเตอร์" แฟนธ่อมกล่าวอย่างจริงจังพลางมองตาคีตัส เพื่อเป็นการสื่อสารว่าสิ่งที่คีตัสพยายามจะสื่อนั้นตัวเขาเข้าใจมันดี
____"ดี! เจ้านี่ถึงแม้จะมีปริมาณมานาน้อยนิดกว่าศิษย์คนอื่นๆของข้า แต่สติปัญญาและความเข้าใจในชีวิตของเจ้าดูเหมือนจะเหนือล้ำไปไกล ไม่เลว! เจ้าอาจจะสามารถแข็งแกร่งได้มากกว่าศิษย์คนอื่นๆของข้า ข้าจะติดตามดูเจ้าตลอดไป หากเจ้าหลงเดินทางผิด ข้าจะเป็นคนสังหารเจ้าลงด้วยมือของข้าเอง แต่หากเจ้าภักดีต่ออาณาจักร ข้าจะเป็นคนปกป้องและอุ้มชูเจ้าจนสุดทาง" ปรมาจารย์คีตัสกล่าวอย่างลึกล้ำ
____สิ้นสุดคำกล่าวนั้น พลังเวทมนตร์มหาศาลก็ล้นทะลักออกมาจากร่างกายของมหาจอมเวทคีตัสราวกับคลื่นมหาสึนามิ โลกราวกับถูกหัตถ์พระเจ้าบิดเบือน ทั้งบิชอปวาเนสซ่าและแฟนธ่อมราวกับเป็นมดตัวน้อยที่ตกลงไปในคลื่นวังวนใจกลางมหาสมุทรอันเชี่ยวกราก
____เพียงไม่กี่วินาทีภาพลวงตาที่แฟนธ่อมได้สัมผัสก็หายไปราวกับไม่เคยมีสิ่งใดมาก่อน แต่แฟนธ่อมรับรู้ได้โดยสัญชาตญาณว่านั่นไม่ใช่เพียงภาพมายาหรือภาพหลอนธรรมดา ปรากฎการณ์นั้นต้องเกิดจากพลังเวทมนตร์อันมหาศาลภายในตัวของคีตัสที่ปลดปล่อยออกมาอย่างแน่นอน ในที่สุดเขาก็ได้รับรู้ว่ามหาจอมเวทที่จะสามารถไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดบนโลกใบนี้ได้ อย่างน้อยต้องมีความสามารถและทรงอำนาจมากเพียงใด
____"ข้าทราบแล้วมาสเตอร์ ข้าจะไม่ทรยศต่ออาณาจักรเด็ดขาด และจะไม่ทำให้มาสเตอร์ผิดหวัง พลังอำนาจที่มาสเตอร์สั่งสอนข้า ข้าจะนำพามันเพื่อความรุ่งโรจน์ของอาณาจักรครับ" แฟนธ่อมกล่าวกับคีตัสอย่างกล้าหาญ
____หากเป็นเด็กคนอื่น ทันทีที่โดนคลื่นพลังเวทมนตร์ของคีตัสซัดสาดเข้าใส่โดยไม่ได้ตั้งตัว อย่างหนักอาจจะช็อคหมดสติด้วยความหวาดกลัวได้ทันที อย่างเบาก็อาจจะมีอาการสั่นเทาหวาดกลัวตกค้างเป็นเวลานาน แม้กระทั่งบิชอปวาเนสซ่าที่เป็นจอมเวทชั้นสูงก็ยังมีอาการมึนงงไม่หาย
____แต่แฟนธ่อมราวกับเป็นต้นไม้โลกที่สามารถปักหลักยืนหยัดท่ามกลางคลื่นใหญ่ที่ซัดโหมกระหน่ำได้อย่างมั่นคง ไม่เพียงไม่มีอาการหวาดกลัวในพลังอำนาจของคีตัส แฟนธ่อมยังไม่เปลี่ยนสีหน้าเลยแม้แต่น้อย ความมั่นคงที่แฟนธ่อมแสดงออกมานั้นแม้แต่คีตัสยังรู้สึกทึ่ง
____ขั้นตอนการแสดงพลังอำนาจหลังจากรับศิษย์สายตรงนั้นมีความจำเป็น การทำให้ศิษย์ของตนรับรู้ถึงพลังอำนาจอันยิ่งใหญ่ของปรมาจารย์นั้นเป็นขั้นตอนที่มหาจอมเวทระดับตำนานเชื่อมั่นว่าต้องกระทำ แม้แต่คีตัสก็ยังเคยโดนอาจารย์ของเขากระทำเช่นนี้มาก่อน ซึ่งชายหนุ่มคีตัสในเวลานั้นถึงกับลงไปคุกเข่าใบหน้าซีดเผือด แต่น่าประหลาดใจที่แฟนธ่อมกลับไม่มีอาการที่แสดงถึงความอ่อนแอออกมาให้ผู้อื่นเห็นเลยแม้แต่น้อย คีตัสเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าจิตใจที่อยู่ภายในร่างเด็กน้อยนั่นเป็นตัวตนอะไรกันแน่ เขาไม่แน่ใจว่าตนกำลังจะสร้างสัตว์ประหลาดอะไรขึ้นมาในอนาคตหรือไม่ แต่กระนั้นมันก็ทำให้คีตัสเริ่มตื่นเต้น เขาอยากจะเห็นโลกที่ศิษย์ของเขาชักนำมันให้เกิดขึ้นแล้ว
____"ท่านเกือบทำข้าลืมเรื่องสำคัญไป นี่เป็นเงิน 1,000 เหรียญทองตามที่เราเคยตกลงกันไว้ค่ะ" บิชอปวาเนสซ่ารีบนำถุงเงินขนาดใหญ่ที่บรรจุเหรียญทองทั้งหมดเอาไว้ออกมาวางไว้บนโต๊ะ ซึ่งเธอดึงมันออกมาจากแหวนมิติของเธอเอง เพราะน้ำหนักของเหรียญทองทั้งหมดสูงประมาณ 15 กิโลกรัม ถุงเงินจำนวนนี้หนักเกินกว่าที่ผู้ใดจะเดินถือไปมาเป็นเวลานานได้
____"เหอๆ ตอนที่ข้าบอกว่าข้าจะคิดค่าสอน 1,000 เหรียญทองข้าหมายความอย่างนั้นที่ไหนกัน ข้าก็แค่ตั้งเงื่อนไขไว้สูงๆเพราะหวังว่าจะได้ไม่มีผู้ใดอยากส่งบุตรหลานมาเรียนกับข้าเท่านั้น คิดไม่ถึงว่ามันจะยังคงไร้ผล ฮ่าๆๆๆ" ปรมาจารย์คีตัสกล่าว
____"เอาอย่างนี้แล้วกันเจ้าหนู" ปรมาจารย์คีตัสหันมากล่าวกับแฟนธ่อมพร้อมกับนำถุงเหรียญทองไปใส่ไว้ในแหวนมิติของตนพลางดึงมันออกมาจากนิ้วมือและยื่นให้แฟนธ่อม "ข้าจะให้เงินนี้พร้อมกับแหวนมิติวงนี้กับเจ้า เจ้าสามารถนำเงินนี้เพื่อไปใช้ส่วนตัวในช่วงที่เจ้ากำลังเล่าเรียนอยู่เพื่อจะได้ไม่ลำบากเกินไป" ปรมาจารย์คีตัสกล่าวอย่างใจกว้าง