____แต่กระนั้นแฟนธ่อมก็ยังยินดีที่จะเข้าเรียนภายในโรงเรียนของโลกใบนี้เหมือนกับผู้คนและเด็กๆทั่วไป นั่นเป็นเพราะว่าแท้จริงแล้วโรงเรียนไม่ใช่เป็นเพียงแค่สถานที่มอบความรู้เพียงเท่านั้น ในความคิดของแฟนธ่อม โรงเรียนเป็นสถานที่ที่ได้เปิดเผยตัวตนของบุคคลให้เป็นที่ยอมรับต่อผู้คนทั่วไปต่างหาก ต่อให้แฟนธ่อมมีความรู้จากการอ่านหนังสือด้วยตนเอง แต่หากเขาไม่ได้จบการศึกษาอย่างเป็นทางการจากสถานศึกษาแห่งใดภายในอาณาจักรออโรร่า ในอนาคตมันก็อาจทำให้เขายากที่จะได้รับการยอมรับและยากที่จะหางานทำเพื่อดำรงชีพ ซึ่งต่างจากการที่ได้จบการศึกษาจากโรงเรียนเซนต์มารีอา มันจะกลายเป็นใบการันตีถึงความสามารถของเขาไปในตัว ซึ่งแฟนธ่อมยังเคยได้ยินมาอีกด้วยว่า โรงเรียนเซนต์มารีอาไม่ใช่จุดสูงสุดของสถาบันการศึกษาในโลกใบนี้ เพียงแต่เซนต์มารีอาเป็นบันไดทองคำ ที่มันจะปูพรมแดงเปิดโอกาสให้แฟนธ่อมได้เดินทางเข้าไปในเส้นทางใหม่ๆในอนาคตอีกมาก
.......
____วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในที่สุดแฟนธ่อมก็อายุครบ 5 ปี ถึงเวลาที่เขาสามารถเข้าเรียนในโรงเรียนเซนต์มารีอาได้เสียที
____บิชอปวาเนสซ่าไม่ได้โกหกแฟนธ่อม เธอได้สนับสนุนทุนการศึกษาให้แฟนธ่อมเต็มจำนวนจริงๆเป็นจำนวน 100 เหรียญทอง ซึ่งตีเป็นค่าเล่าเรียนต่อปี 90 เหรียญทอง และอีก 10 เหรียญทองจะเป็นค่าอุปกรณ์การเรียน เพราะเหตุนั้นบิชอปวาเนสซ่าจึงยกเว้นค่าเทอมให้แฟนธ่อม แล้วเธอได้มอบเงินเป็นจำนวน 10 เหรียญทองให้เขานำไปหาซื้ออุปกรณ์การเรียนภายหลัง ส่วนหากมีเงินบางส่วนหลงเหลือ แฟนธ่อมสามารถเก็บมันไว้เป็นเงินส่วนตัวเพื่อใช้ซื้อสิ่งของส่วนตัวได้
____นี่เป็นสิ่งที่แฟนธ่อมดีใจมากที่สุด เพราะถึงแม้การเป็นโนวิซจะทำให้เขามีรายรับเดือนละ 10 เหรียญเงิน แต่มันไม่ได้ถือว่ามากมายอะไรนัก
____เรื่องนี้ทำให้แฟนธ่อมสำนึกขอบคุณบิชอปวาเนสซ่าอย่างที่สุด ที่สำคัญคือก่อนทำการเข้าเรียนอย่างเป็นทางการ แฟนธ่อมได้ถูกเรียกตัวไปทดสอบมานา เพื่อตรวจสอบว่าเด็กชายมีพรสวรรค์ด้านเวทมนตร์เพียงพอที่จะได้เข้าเรียนในคลาสเวทมนตร์หรือไม่?
____ตอนแรกแฟนธ่อมรู้สึกกังวลว่าเขาจำเป็นจะต้องแสดงเวทมนตร์ที่เขาสามารถร่ายได้ออกมาแสดงให้กรรมการผู้คุมสอบให้คะแนนหรือไม่ แต่ปรากฏว่าการทดสอบไม่ได้ซับซ้อนยากเย็นถึงเพียงนั้น พวกเขาใช้เพียงคริสตัลเวทมนตร์ในการทดสอบมานาที่อยู่ในร่างกายของมนุษย์เท่านั้น สิ่งที่แฟนธ่อมจำเป็นต้องทำก็คือนำมือไปสัมผัสบนคริสตัลทดสอบนั้นก็เพียงพอแล้ว
____คริสตัลทดสอบมีรูปทรงกลม มันเป็นลูกคริสตัลใสขนาดใหญ่ประมาณลูกบาสเก็ตบอล คริสตัลทดสอบถูกวางไว้บนผ้ากำมะหยี่สีขาวกลางโต๊ะตัวใหญ่ในห้องอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนเซนต์มารีอา ทันทีที่แฟนธ่อมแตะมันก็ปรากฎแสงเวทมนตร์อ่อนๆ 4 สี คือ สีเขียว สีแดง สีน้ำตาล และ สีฟ้า ออกมาทันที ผลลัพธ์นั้นค่อนข้างทำให้บิชอปวาเนสซ่าและปรมาจารย์อีกคนประหลาดใจ
____"นี่มัน... ปริมาณมานาไม่ได้ถือว่าเยอะอะไร ออกจะกลางๆทั่วไปเสียด้วยซ้ำ เพียงแต่ว่าเวทมนตร์ประจำตัวที่เจ้าหนูนี่สามารถใช้งานได้ดีกลับมีครบทั้ง 4 ธาตุ เพียงแต่ธาตุลมมีความโดดเด่นมากที่สุด เจ้าหนูนี่มันยอดเยี่ยมจริงๆ" ปรมาจารย์คีตัสกล่าวพลางมองสลับระหว่างแฟนธ่อมและคริสตัลทดสอบอย่างแทบไม่เชื่อสายตา
____"ข้าบอกแล้วไงท่านคีตัส แฟนธ่อมนั้นเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์จริงๆ ทีนี้ท่านเชื่อข้าหรือยังคะ?" บิชอปวาเนสซ่ากล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส พลางโอบมือไว้บนไหล่น้อยๆของแฟนธ่อมด้วยความภาคภูมิใจราวกับเขาเป็นบุตรชายของบิชอปวาเนสซ่าเอง
____"ฮ่าๆๆ เจ้านี่ได้ทีคุยใหญ่เลยสินะ เอาเถอะ! ครั้งนี้ถือว่าการเดิมพันของข้าแพ้เจ้าสักครั้งก็แล้วกัน" ปรมาจารย์คีตัสกล่าวสัพยอกกลับอย่างอารมณ์ดี
____ปรมาจารย์คีตัส นั้นแท้จริงแล้วเขาคืออาจารย์ใหญ่แห่งโรงเรียนเซนต์มารีอานั่นเอง เขาเป็นชายอาวุโสที่มีอายุประมาณ 70 ปี รูปร่างของปรมาจารย์คีตัสนั้นเป็นนักเวทชายที่มีลักษณะผอมสูงใส่แว่นเลนส์เดียว ภายในสวมชุดสูทสีขาว ภายนอกสวมชุดคลุมจอมเวทสีขาว บุคลิคของคีตัสนั้นตัดสินได้ทันทีว่าเขาเป็นมหาปราชญ์ผู้มากความรู้
____"ปริมาณมานาของข้าไม่เยอะไม่ใช่หรอฮะ เหตุใดจึงเป็นเรื่องดีหรอฮะ?" แฟนธ่อมถามทั้งสองด้วยความสงสัย
____"ฮ่าๆๆ ข้าได้เจ้าหนูจอมสงสัยมาเป็นลูกศิษย์อีกคนแล้วสินะ ก็ได้ ข้าจะบอกให้เจ้าฟัง ปกติแล้วคลาสเวทมนตร์ของโรงเรียนเซนต์มารีอานั้นจะรับเฉพาะนักเรียนเวทที่ข้าพอใจเท่านั้น และข้าพอใจในตัวเจ้า เจ้าจึงจะได้เข้าเรียนคลาสเวทมนตร์เพื่อศึกษาเวทมนตร์กับข้า นี่เป็นเงื่อนไขของข้าเอง ข้าแก่แล้วและไม่อยากรับลูกศิษย์มากมายอีกต่อไป ภายในอาณาจักรออโรร่านั้นมีโรงเรียนนับพันแห่ง โรงเรียนที่มีคลาสเวทมนตร์นั้นมีเป็นสิบแห่ง ส่วนใหญ่โรงเรียนอื่นมักจะเก็บค่าเล่าเรียนถูกกว่าที่นี่มาก การที่ข้าตั้งเงื่อนไขและค่าเล่าเรียนที่สูงเช่นนี้ ก็เพื่อผลักดันให้ผู้คนนำบุตรหลานของพวกเขาไปเรียนที่คลาสเวทมนตร์เซ็กเตอร์ที่สองของเรา หรือไปเรียนในโรงเรียนอื่น นี่เป็นความพอใจของข้าเอง เป็นยังไง? หากเจ้าไม่พอใจเจ้าจะไม่เรียนกับข้าก็ได้นะ" ปรมาจารย์คีตัสเอามือเท้าเอวพลางกล่าวอย่างเอาแต่ใจราวกับเป็นแก๊งอันธพาล
____คำพูดแสนเอาแต่ใจของจอมเวทคีตัสนั้นช่างขัดกับภาพลักษณ์ของมหาปราชญ์ในตอนแรกอย่างมาก
____ความจริงแล้วเหตุผลที่ปรมาจารย์คีตัสนั้นคัดเลือกศิษย์ด้วยความพอใจของตนเองนั้น เพราะเดิมทีมักจะมีผู้คนมากมายนำบุตรหลานของพวกเขามาฝากเป็นลูกศิษย์ของคีตัส เหตุผลไม่มีอะไรซับซ้อน เพราะในอดีตมหาจอมเวทคีตัสเคยเป็นมหาราชครูหลวงของกษัตริย์องค์ปัจจุบัน การที่ได้ชื่อว่าเป็นลูกศิษย์ของคีตัสนั้นเท่ากับว่าบุคคลเหล่านั้นจะมีศักดิ์ฐานะเป็นศิษย์น้องขององค์กษัตริย์ในทันที ซึ่งนั่นจะส่งผลต่อสำนักพระราชวังไม่น้อย ผู้คนมากมายเห็นถึงจุดนี้ พวกเขาจึงตั้งใจนำบุตรหลานของตนเพื่อมาเป็นศิษย์ของคีตัสเพื่อผลประโยชน์เหล่านั้น
____แน่นอนว่าเรื่องนั้นคีตัสก็ยิ่งกว่ารู้ดี ไม่ใช่เพียงตอนนี้ที่มีผู้คนมากมายอยากมาเป็นศิษย์ของเขา ตลอดอาชีพการทำงานของคีตัส มีผู้คนมากมายอยากมาเป็นศิษย์ของเขา เพียงเพื่อต้องการใกล้ชิดองค์กษัตริย์ของอาณาจักรออโรร่า แต่คีตัสเข้มงวดในการรับศิษย์มาก ก่อนหน้านี้จึงมีเพียง 3 คนเพียงเท่านั้นที่เป็นศิษย์ของคีตัส แน่นอนว่าหนึ่งคนนั้นกลายเป็นกษัตริย์ของอาณาจักรแห่งนี้ ส่วนอีกสองคนนั้นในบัดนี้กำลังดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการกองทัพและขุนนางใหญ่ภายในอาณาจักรออโรร่า และคนที่ 4 ก็คือแฟนธ่อมซึ่งเป็นศิษย์สายตรงคนสุดท้ายนั่นเอง
____ในช่วงไม่กี่ปีก่อนหน้า คีตัสได้เกษียณออกมาจากตำแหน่งอันสูงส่งนั้น เมื่อเขากำลังจะกลับมาพักผ่อนอยู่ที่บ้าน เขาก็ได้รับคำเชิญจากบิชอปวาเนสซ่าที่แสนจริงใจ บิชอปวาเนสซ่าแห่งวิหารเซนต์มารีอาได้เดินทางไปถึงบ้านของคีตัสหลายครั้ง เพื่อเชิญคีตัสให้มาเป็นอาจารย์ใหญ่และเป็นปรมาจารย์ของคลาสเวทมนตร์ด้วยความตั้งใจจริง
____เดิมทีคีตัสตั้งใจจะไม่ตอบรับงานนี้ แต่เมื่อได้เห็นถึงความจริงใจของบิชอปวาเนสซ่า อีกทั้งสัญชาตญาณความเป็นครูในตัวของคีตัสที่ยังไม่ได้ดับมอดลงไป ในที่สุดคีตัสจึงได้ตอบรับงานนี้ แต่ในเวลานั้นคีตัสก็ยังมีเงื่อนไข คือเขาจะต้องสามารถเลือกรับลูกศิษย์ได้ตามใจของเขาเอง ต่อให้เป็นนักเรียนของเซนต์มารีอาที่มีพรสวรรค์เวทมนตร์ระดับสูง แต่หากเขาไม่พอใจเขาก็จะไม่รับนักเรียนคนนั้นมาเป็นนักเรียนเวทของเขาเด็ดขาด ต่อให้พ่อแม่ของเด็กเหล่านั้นจะยินดีจ่ายเงินเป็นล้านเหรียญทองคีตัสก็ไม่สนใจ นักเรียนเวทเหล่านั้นจะต้องไปเรียนในคลาสเวทมนตร์เซ็กเตอร์ที่สองของเซนต์มารีอาเท่านั้น
____แม้จะเป็นเรื่องน่าเศร้าที่หลายคนไม่สามารถเป็นศิษย์สายตรงของมหาจอมเวทคีตัสได้ แต่หลายครอบครัวก็ไม่ได้ตัดใจ ตระกูลชั้นสูงจำนวนมากยังคงส่งให้บุตรหลานของพวกเขามาเล่าเรียนที่โรงเรียนเซนต์มารีอา นั่นเป็นเพราะว่าไม่ว่าอย่างไรคีตัสก็ยังเป็นอาจารย์ใหญ่โรงเรียนแห่งนี้ พวกนักเรียนที่เรียนในโรงเรียนแห่งนี้ก็จะยังคงถือว่าเป็นศิษย์ของคีตัสทางอ้อมอยู่ดี
____"ถ้ายังงั้น... แล้วทำไมท่านถึงพอใจในตัวข้าเหรอฮะ?" แฟนธ่อมยังคงถามต่อไปอย่างไม่ยอมหยุด