____"สิ่งของนี้มีมูลค่ามหาศาล ข้ารับไว้ไม่ได้หรอกมาสเตอร์" แฟนธ่อมกล่าวทั้งยังไม่ยื่นมือออกไปรับ
____ไม่ใช่ว่าแฟนธ่อมเป็นคนดีหรือต้องการสร้างภาพว่าเขาไม่ใช่คนโลภ แต่แฟนธ่อมรู้ดีว่าการรับเงินของผู้อื่นมาเท่ากับเขาจะต้องติดค้างเป็นหนี้บุญคุณอีกฝ่ายตลอดชีวิต บางทีวันนี้เขาได้รับเงินจากปรมาจารย์คีตัสมา 1,000 เหรียญทอง แต่เขาอาจจะต้องชดใช้อีกฝ่ายคืนเป็นสิ่งที่ตีมูลค่าสูงกว่าเงินจำนวนนี้นับร้อยเท่าได้ แฟนธ่อมรู้ดีเพราะเขาเคยผ่านมันมาก่อนแล้ว และเขาไม่อยากจะติดหนี้บุญคุณใครอีก
____ซึ่งอันที่จริงสิ่งที่แฟนธ่อมไม่อยากรับจริงๆคือแหวนมิติต่างหากไม่ใช่เหรียญทองนั้น แหวนมิติที่สามารถเก็บสิ่งของไว้กับตัวได้มากมายนั้นถือว่าเป็นอุปกรณ์เวทมนตร์ระดับตำนาน อุปกรณ์มิติที่ขยายพื้นที่เก็บของเช่นนี้เป็นสิ่งที่หายากมาก เพียงแค่ตัวมันเองก็มีราคาหลักล้านเหรียญทอง หากไม่ใช่บุคคลระดับสองคนนี้ ยากที่ผู้ใดจะมีอุปกรณ์เวทมนตร์เช่นนี้อยู่ในการครอบครองได้
____"อย่าคิดมากเจ้าหนู จำไว้ว่าเวลาผู้ใหญ่ให้ของห้ามปฏิเสธ!" แม้ปรมาจารย์คีตัสจะกล่าวเช่นนั้นแต่แฟนธ่อมก็ยังยืนนิ่งก้มหน้านิ่งเฉย
____"ก็ถ้าหากเจ้าไม่สบายใจที่จะรับ งั้นข้าจะถือว่าเงินนี้ข้าให้เจ้ายืมก็แล้วกัน วันหน้าเมื่อเจ้ามีเงินมากเพียงพอเจ้าค่อยเอามาคืนข้า รับไปซะ!"ปรมาจารย์คีตัสกล่าวพลางยัดแหวนวงนั้นใส่ไว้ในมือของแฟนธ่อมโดยไม่ถามความสมัครใจของเขาอีก
____"ขอบคุณมากมาสเตอร์" แฟนธ่อมรับแหวนมาพลางก้มหน้ากล่าวเสียงเรียบ
____แฟนธ่อมสัมผัสได้ว่าปรมาจารย์คีตัสและบิชอปวาเนสซ่าล้วนเป็นบุคคลที่จริงใจต่อเขาอย่างแท้จริงและไม่ได้ต้องการสิ่งใดตอบแทน แต่ในอดีตเขาก็เคยคิดว่าน้องชายของเขาจริงใจต่อเขาเช่นนี้เหมือนกัน หลังจากผ่านวันสุดท้ายของชีวิตก่อนมามันก็ทำให้แฟนธ่อมไม่อาจเชื่อใจผู้ใดได้อีกต่อไป ทักษะสายลับของเขาสามารถทำให้เขาเสแสร้งว่าเป็นเด็กร่าเริงที่เป็นมิตรและเข้ากับผู้อื่นได้ง่าย แต่ไม่มีผู้ใดรู้ได้ว่าบาดแผลภายในจิตใจแฟนธ่อมทำให้เขาไม่เคยไว้ใจใครได้อีกเลยตลอดไป
.......
____ไม่บ่อยนักที่แฟนธ่อมจะได้มีโอกาสออกมาเดินเล่นภายนอกวิหารเซนต์มารีอา ไม่ใช่ว่าเขาโดนจับขังหรือมีคำสั่งห้ามแฟนธ่อมออกจากโบสถ์แต่อย่างใด แต่เป็นเพราะเดิมทีแฟนธ่อมก็เอาแต่ฝึกเวทมนตร์ตลอดเวลาจนแทบไม่มีเวลาแม้แต่จะหายใจ
____ภายหลังจากที่เขาได้เป็นโนวิซ เขาก็เอาแต่แสร้งทำเป็นนั่งคุกเข่าภาวนาต่อพระเจ้าแห่งแสงทั้งวันทั้งคืน แน่นอนว่าสิ่งที่แฟนธ่อมทำไปนั้นทำให้ร่างกายเล็กๆนี้ต้องแบกรับความทรมานและความเคร่งเครียดไว้ตลอดเวลา แต่การเพียรพยายามอย่างหนักของเขาก็แสดงผลขึ้นมาไม่น้อย เพราะแฟนธ่อมค่อนข้างมั่นใจว่าเดิมทีแล้วพื้นฐานพรสวรรค์ทางด้านเวทมนตร์ของเขานั้นต้องเป็นพรสวรรค์เวทมนตร์ระดับต่ำ ทั้งยังควรมีธาตุประจำตัวเพียงธาตุเดียวคือธาตุลม ต่อให้บิชอปวาเนสซ่าจะเมตตาในตัวเขามากเพียงใด แต่แฟนธ่อมก็มั่นใจว่าพรสวรรค์เพียงแค่นั้นของเขา ต้องไม่มีทางโยกคลอนจิตใจอันมั่นคงของมหาจอมเวทคีตัสได้อย่างแน่นอน
____ในตอนแรกแฟนธ่อมยังไม่เคยรู้จักมหาจอมเวทคีตัสมาก่อน แต่ภายหลังเขาก็ได้ยินชื่อเสียงของปรมาจารย์คีตัสมาจากปากของเหล่าซิสเตอร์ ที่พวกเธอดีใจแทนแฟนธ่อมจนแทบกระโดดโล้ดเต้นหลังจากที่ได้รู้ข่าวว่าท่านปรมาจารย์คีตัสยอมรับแฟนธ่อมเป็นศิษย์สายตรงคนสุดท้าย เกียรติประวัติทั้งหมดของปรมาจารย์คีตัสนั้นทำให้เขาแทบจะเป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในพระราชสำนักอาณาจักรออโรร่าแล้ว ทุกอย่างสรุปได้เพียงคำเดียวว่า บัลลังของกษัตริย์ออโรร่าราชวงศ์ปัจจุบันยังมั่นคงจนถึงวันนี้ก็เพราะมหาจอมเวทในตำนานผู้นี้นั่นเอง
____แฟนธ่อมไม่ได้ตั้งตัวมาก่อนว่าอาจารย์ของเขาจะเป็นคนดังในอาณาจักรออโรร่าถึงเพียงนี้ เรื่องนี้ทำให้แฟนธ่อมค่อนข้างหนักใจ สำหรับอดีตสายลับอย่างเขาแล้ว การอยู่ภายใต้แสงไฟอันโดดเด่นที่ทำให้ถูกผู้คนมากมายจับตามองไม่ใช่เรื่องที่เขาถนัดนัก
____เรื่องนี้แฟนธ่อมทำอะไรกับมันไม่ได้แล้ว เขาทำได้เพียงค่อยๆก้าวไปข้างหน้าและรับมือกับมันเท่านั้น แฟนธ่อมคิดเรื่อยเปื่อยพลางเดินลากขาไปตามพื้นหิมะเพื่อเดินดูสิ่งของที่เขาจำเป็นต้องซื้อตามร้านค้าต่างๆสองข้างทาง หิมะที่ตกลงมาตลอดเวลาราวกับอยู่ในช่วงคริสมาสต์นั้นทำให้ทุกสิ่งกลายเป็นสีขาวโพลน แต่ถ้าหากมีผู้คนสังเกตตามเส้นทางที่แฟนธ่อมเดินลากขาผ่านมาให้ดีจะเห็นว่าไม่มีรอยเท้าอยู่เบื้องหลังแฟนธ่อม มีเพียงรอยผ้าคลุมเวทที่ลากกลบหิมะเป็นทางเท่านั้น นั่นเป็นเพราะว่าแม้จะออกมาจากโบสถ์แฟนธ่อมก็ยังคงไม่หยุดฝึกฝนเวทมนตร์ต่อไป แฟนธ่อมต้องการให้เขาสามารถใช้เวทมนตร์ได้อย่างเชี่ยวชาญราวกับเป็นลมหายใจ อันที่จริงแม้แต่ตอนหลับแฟนธ่อมยังพยายามจะคงสถานะเวทมนตร์สายลมไว้ให้ได้ด้วยซ้ำ เพียงแต่มันยากมากเกินไปทำให้แฟนธ่อมยังไม่ใกล้เคียงกับคำว่าประสบความสำเร็จเลยแม้แต่น้อย
____ร้านค้าสองข้างทางนั้นทำให้แฟนธ่อมค่อนข้างตื่นตาตื่นใจ อาคารสองข้างทางนั้นเป็นบ้านเรือน 2-3 ชั้น บางส่วนสร้างด้วยไม้ แต่บ้านบางหลังกลับสร้างด้วยปูน สถาปัตยกรรมของพวกเขาช่างสวยงาม ถ้าให้กล่าวคือเป็นสถาปัตยกรรมประมาณยุคเรเนซองส์ แต่สิ่งที่แฟนธ่อมสังเกตว่าวิทยาการที่อาณาจักรออโรร่ามียอดเยี่ยมเป็นพิเศษก็คือวัสดุเรืองแสง
____เนื่องจากเมฆดำที่ปกคลุมท้องฟ้าจนมืดมิดแทบจะตลอดเวลา สิ่งให้แสงสว่างจึงเป็นเรื่องสำคัญ การที่จะนำ ท่อนไม้ ถ่าน หรือ น้ำมัน มาจุดให้แสงสว่างตลอดเวลานั้นถือเป็นเรื่องที่สิ้นเปลืองทรัพยากรเป็นอย่างมาก สภาพแวดล้อมที่เลวร้ายทำให้ทรัพยากรเหล่านี้ถือเป็นทรัพยากรหรูหราฟุ่มเฟือยและมีราคาสูง
____แต่ราวกับโลกใบนี้ต้องการมอบโอกาสในการต่อสู้ดิ้นรนให้กับมนุษย์ โลกแห่งความมืดใบนี้จึงมีแร่ธาตุพิเศษหลายประเภทที่สามารถให้แสงสว่างในตัวของมันได้ แร่ชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติให้แสงสว่างได้มีชื่อว่าแร่ไลท์เทียม ไลท์เทียมเป็นแร่พิเศษที่สามารถนำมาทำประโยชน์ได้หลายอย่าง อย่างเช่นนำมาสร้างเป็น อุปกรณ์เวทมนตร์ คทา ไม้เท้าเวทมนตร์ แต่ที่ชาวออโรร่านิยมที่สุดคือนำสร้างเป็นสีทาบ้าน หรือผสมกับปูนซีเมนต์บางบริเวณทำให้บ้านสามารถเรืองแสงออกมาได้ในจุดที่ต้องการ
____โดยเฉพาะวิหารเซนต์มารีที่ทุกอาคารภายในพื้นที่วิหารจะถูกผสมแร่ไลท์เทียมในการสร้างไปด้วย เพียงแต่แร่ไลท์เทียมเป็นแร่ที่หายากและมีราคาแพงมาก แม้แต่วิหารเซนต์มารีอาก็สามารถเคลือบมันไว้ได้เพียงไม่กี่จุดเท่านั้น อย่างเช่นห้องโถงใหญ่ด้านหน้าโบสถ์หรือผนังโบสถ์ด้านนอกนั่นเอง โบสถ์ทุกแห่งของมหาวิหารแห่งแสงจะสามารถเรืองแสงออกมาได้ตลอดเวลาไม่ว่าโลกจะมืดมิดเพียงไร ทำให้ตัวโบสถ์ดูศักดิ์สิทธิ์ตลอดเวลา นี่เองที่เป็นจุดเด่นของมหาวิหารแห่งแสงจนทำให้มีผู้ศรัทธามากมาย
____ส่วนบ้านเรือนหรือร้านค้านั้น พวกเขาจะสามารถเคลือบไลท์เทียมไว้ได้เฉพาะบางจุดเล็กๆที่จำเป็นต้องมีแสงเท่านั้น อย่างเช่นหน้าร้านหรือบริเวณที่พวกเขาวางขายสินค้า สิ่งเหล่านี้จึงกลายเป็นจุดเด่นของมหานครออโรร่าไป แต่จุดที่มีแสงสว่างมากที่สุดและถูกใช้งานแร่ไลท์เทียมมากที่สุดกลับเป็นกำแพงเมืองเมโทรไลท์ชั้นนอกทั้ง 4 ด้านที่แสนใหญ่โต
____ปรากฏการณ์แห่งความมืดมิดที่โลกใบนี้ต้องเผชิญไม่เพียงแค่ทำให้มนุษย์ใช้ชีวิตได้ยากลำบากเท่านั้น แต่มันกลับได้ทำให้เกิดบีสท์และเดมอนที่ดุร้ายขึ้นมาด้วยเช่นกัน ภายนอกมหานครออโรร่านั้นจะมีบีสท์ดุร้ายอยู่เต็มไปหมด มันยิ่งทำให้มนุษย์จำเป็นต้องพึ่งพิงอาศัยอยู่ในเมืองและยากจะเดินทางออกไปในดินแดนที่เต็มไปด้วยความมืดมิด
____อาณาจักรมนุษย์มากมายต้องดิ้นรนต่อสู้กับทั้งบีสท์และมนุษย์ด้วยกันเอง เพื่อที่จะเอาชีวิตรอดไปจากโลกอันโหดร้ายใบนี้ให้ได้ บางเมืองนั้นถึงขั้นตั้งเมืองขึ้นบนเหมืองแร่ขนาดใหญ่ที่ขุดค้นพบแร่ไลท์เทียมและแร่อื่นๆที่สามารถให้แสงได้ หรือบางอาณาจักรก็สามารถดำรงอยู่ได้ด้วยต้นไม้โลกที่สามารถเรืองแสงขับไล่ความมืดมิดได้
____แฟนธ่อมไม่แน่ใจนักว่าบนโลกแห่งความมืดแห่งนี้เขาจะสามารถเอาชีวิตรอดไปได้หรือไม่ ดังนั้นแม้ว่าตลาดสองข้างทางจะมีร้านขายสินค้าที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น คทาและลูกแก้วเวทมนตร์ เสื้อผ้าเวทมนตร์ที่ส่องแสงในตัวเองได้ เครื่องประดับระยิบระยับ หนังสือเวทมนตร์ ร้านขายสมุนไพรและยาวิเศษ สัตว์เลี้ยงวิเศษ แต่แฟนธ่อมกลับเพียงมองดูด้วยความสนใจและไม่ได้ซื้อสิ่งของเหล่านั้นเลย