webnovel

1058 สองเทพรวมเข้าด้วยกัน!

ตอนที่ 1058 สองเทพรวมเข้าด้วยกัน!

บนหน้าต่างระบบเทพสงคราม แถวหิ่งห้อยขนาดเล็กยังคงผุดขึ้นมา

“ท่านได้ใช้หกวิชาแห่งยมโลก: ชักนำผู้คน”

“ท่านควบคุมซากศพ… ราชาเทพอสุราหกวิถี”

“เพราะความต่างพลังระหว่างท่านกับซากศพราชาเทพมากเกินไป ท่านจึงทำได้เพียงควบคุมซากศพราชาเทพได้เพียงหนึ่งนาที”

เมื่อกู่ฉิงซานเห็นคำพูดเพียงไม่กี่คำจากราชาเทพอสุรา เขาตอบสนองทันที

ไม่สงสัยเลยที่เขารู้สึกว่าอีกฝ่ายช่างคุ้นเคย

ตอนแรกที่เขาอยู่ในยมโลก แม้กระทั่งท่ามกลางพายุก็มีการติดต่อกับอสุรามากมาย เขาประทับใจในการแต่งกาย นิสัยและรูปลักษณ์ของอสุรา

ทันทีที่ราชาเทพออกมา เห็นได้ชัดว่ามันเป็นความรู้สึกของราชาอสุรา

ราชาเทพอสุราเดินมาหากู่ฉิงซานพร้อมสวมหน้ากากวิญญาณชั่วร้ายกับเจ็ดอาวุธที่อยู่บนแผ่นหลัง

เวลา หนึ่งนาที

กู่ฉิงซานจับจ้องกับวิญญาณกรีดร้อง

เขาเห็นว่าอีกฝ่ายยังรวบรวมพลังแห่งความโกลาหลอยู่เพื่อเตรียมปล่อยการลงทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์

มันยังไม่รู้ว่าราชาเทพอสุราถูกกู่ฉิงซานควบคุมไปแล้ว

การปรากฏตัวของราชาเทพทำให้วิญญาณกรีดร้องหวาดกลัวจนหวาดวิตกมากขึ้น

หกแขนประกบเข้าด้วยกัน จุดประกายเจิดจ้าอันไร้ที่สิ้นสุดในความว่างเปล่า ก่อเกิดเป็นการลงทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์ที่เหนือยิ่งกว่าที่ผ่านมา

“กู่ฉิงซาน นี่คือโอกาสสุดท้าย ให้คำตอบข้าภายในสามวินาที!”

“ข้าจะนับแล้ว”

“สาม”

“สอง”

“หนึ่ง!”

โดยไม่รอให้อีกฝ่ายยิง ราชาเทพอสุราขยับเล็กน้อย

ไม่ว่าจะเทพแห่งชีวิตหรือวิญญาณกรีดร้อง ไม่มีใครมองเห็นว่าราชาเทพอสุราเคลื่อนไหว

จากนั้นหกแขนของวิญญาณกรีดร้องถูกฟันจนขาด

แสงแห่งการลงทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์ในมือพลันหายไป

ขณะมองราชาเทพอสุราอีกครั้ง ไม่อาจรู้ได้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ขวานมาอยู่ในมือ

โลหิตหยดลงมาจากคมขวาน

“แข็งแกร่ง! ไม่สูญเปล่าจริงๆ … เก่งกว่าราชาเทพทั่วไปนัก!”

เหล่าต้าอดที่จะกล่าวเสียงหลงไม่ได้

“อสุราคือเผ่าพันธุ์ที่ต่อสู้ได้ดีที่สุด” กู่ฉิงซานกล่าว

เขาเองก็ลอบประหลาดใจเหมือนกัน

จากการสื่อสารกับจี้น้ำเต้าหยกเหวยจุนก่อนหน้านี้ เขารู้แจ่มแจ้งว่าวิชาทั้งหมดที่เกิดจากโลงศพสีดำทั้งหมดตรงหน้าประกอบด้วยทั้งสิ้นยี่สิบสามวิชา

คาดไม่ถึง เขาสามารถบดขยี้วิญญาณกรีดร้องได้ด้วยการหยิบยืมวิชาจากหนึ่งในนั้นมา

ในเวลาเดียวกัน

โลงศพสีดำอีกโลงมาจากท้องนภาขณะขวางทางเทพแห่งชีวิตเอาไว้

โลงศพสีดำนี้ได้รับการปกป้องจากซากศพจำนวนมาก มันป้องกันไม่ให้เทพแห่งชีวิตโจมตีได้

ความผันผวนของพลังที่ลึกล้ำดุจทะเลปรากฏขึ้นจากโลงศพสีดำ ทำให้เทพแห่งชีวิตรู้สึกสิ้นหวัง

ราชาเทพอีกองค์

ไม่มีหนทางแล้วจริงๆ

“อา บัดซบ!”

หญิงชราส่งเสียงร้องอย่างบ้าคลั่ง

ในที่สุดนางก็สิ้นหวัง

ทันใดนั้น เสียงหนึ่งดังขึ้นในใจของนาง

“กลับมา ข้ายังมีทางอยู่… ทางเดียวที่จะหลบหนีได้!”

นี่คือเสียงของวิญญาณกรีดร้อง

หญิงชราเงยหน้าขึ้นก่อนรีบถอยกลับไปสู่ใจกลางสมรภูมิ

ขณะถอย มันมองวิญญาณกรีดร้อง

นางเห็นว่าหกแขนของอีกฝ่ายขาดไปแล้ว แต่มันยังพยายามสุดความสามารถที่จะรวบรวมแสงศักดิ์สิทธิ์นับไม่ถ้วนไว้รอบกายเพื่อสร้างการป้องกันที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นมา

รูปลักษณ์ของวิญญาณกรีดร้องน่าสังเวชนัก

ดวงตาของมันสบกับเทพแห่งชีวิต

ในวิญญาณของเทพแห่งชีวิต เสียงของอีกฝ่ายพลันดังขึ้นอีกครั้ง

“ฟังนะ…”

เทพแห่งชีวิตฟังจนจบอย่างรวดเร็ว

วิธีการที่อีกฝ่ายบอกมันน่าเหลือเชื่อนัก แต่เทพแห่งชีวิตไม่สนแล้ว!

ในช่วงแห่งความสิ้นหวังอย่างสมบูรณ์นี้ มันไม่มาตัดสินแล้วว่าคำพูดของอีกฝ่ายจริงหรือเท็จ

ตราบที่สามารถมีชีวิตรอดได้ อย่างอื่นก็ไม่สำคัญ!

อีกด้าน

ในความว่างเปล่า กู่ฉิงซานได้ถ่ายทอดคำสั่งให้กับราชาเทพอสุราแล้ว

ราชาเทพอสุราเก็บขวานไว้ข้างหลังก่อนหยิบธนูออกมา

ธนูยาวถูกดึงจนกลายเป็นจันทร์เต็มดวง

ในความว่างเปล่า ลูกธนูที่แกะสลักจากงาช้างสีขาวปรากฏขึ้น จากนั้น

นิ้วของราชาคลายออก

ไม่มีใครเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น ช่วงล่างของวิญญาณกรีดร้องถูกระเบิดจนสิ้น!

“อา! ไอ้สารเลว เป็นเจ้าแน่ๆ กู่ฉิงซาน!”

“ออกไปจากที่นี่!”

วิญญาณกรีดร้องคำรามด้วยความเจ็บปวด

กู่ฉิงซานยังคงไร้อารมณ์

ยังไม่ตายอีกเหรอ

นับว่ามีความสามารถอย่างแท้จริง

เขาคิดอีกครั้ง

ราชาเทพอสุราเก็บธนูยาวไว้ข้างหลังก่อนชักมีดชูร่าออกมา

หลังจากทดสอบไปสองครั้ง กู่ฉิงซานก็คุ้นเคยกับการควบคุมอีกฝ่ายให้ต่อสู้แล้ว

เหลืออีกยี่สิบวินาที

มากเกินพอแล้ว

วันนี้ ที่นี่ เขาอยากสังหารวิญญาณกรีดร้อง!

ด้วยความคิดของกู่ฉิงซาน ร่างของราชาเทพอสุราเอียงเล็กน้อย

ราชาเทพเริ่มพุ่งเข้าสู่ใจกลางสมรภูมิ!

เมื่อวิญญาณกรีดร้องเห็นอีกฝ่ายชักมีดยาวออกมา มันกล่าวอย่างวิตกว่า “ไม่มีเวลาแล้ว ทิ้งร่างสัตว์ประหลาดนั่นซะ เร็วเข้า!”

เทพแห่งชีวิตกัดฟันก่อนฟันหลังตัวเอง

หางยาวของงูสีดำถูกฟันจนขาด กลายเป็นเทพแห่งชีวิตขณะพุ่งตรงเข้าหาวิญญาณกรีดร้อง

เป็นความจริงที่ร่างของสัตว์ประหลาดทรงพลังจนแม้แต่การโจมตีของเทพจำนวนมากไม่สามารถแตะต้องได้ แต่วิญญาณกรีดร้องบอกชัดเจน

ว่ามีเพียงร่างของเทพเท่านั้นที่ทำให้สามารถหลบหนีได้

ตอนนี้ เพื่อชีวิตตัวเอง นางทำได้เพียงทิ้งร่างของสัตว์ประหลาดด้วยความไม่เต็มใจ

เทพแห่งชีวิตค่อยๆ เข้าหาวิญญาณกรีดร้อง

ราชาเทพอสุราพุ่งเข้าใส่ทันที

เขาและเทพแห่งชีวิตมาถึงตรงหน้าวิญญาณกรีดร้องพร้อมกัน

ราชาเทพชูมีดยาวขึ้นมา

“สายเกินไปแล้ว!” เทพแห่งชีวิตกล่าวอย่างสิ้นหวัง

“ไม่ จังหวะนี้แหละ!”

วิญญาณกรีดร้องคำราม

แสงสว่างวาบพลันพุ่งออกจากวิญญาณกรีดร้องขณะปกคลุมเทพแห่งชีวิตเอาไว้

นี่คือพลังทั้งหมดของเทพ

ในความเจิดจ้า เทพแห่งชีวิตละทิ้งการป้องกัน ทั่วร่างของนางค่อย ๆ หายไป

วิญญาณกรีดร้องแผดเสียงคำรามด้วยความเจ็บปวด

วินาทีต่อมา

มีดยาวของราชาเทพอสุราฟันเข้าใส่คอของวิญญาณกรีดร้องจนศีรษะขาด

“หืม”

กู่ฉิงซานถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ทันใดนั้นคิ้วของเขาขมวด

เขาเห็นศีรษะของวิญญาณกรีดร้องถูกปกคลุมด้วยชั้นแสงสีเทาขณะลอยในอากาศอย่างเงียบงัน

สิ่งที่เหลือเชื่อได้เกิดขึ้น!

วิญญาณกรีดร้องที่เดิมเป็นใบหน้าชายหญิงพลันมีใบหน้างอกขึ้นบนหน้าผาก

มันคือใบหน้าชราที่เต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่น

เทพแห่งชีวิต!

เทพแห่งชีวิตหลอมรวมเข้ากับวิญญาณกรีดร้อง

กู่ฉิงซานสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่อันตรายได้ตามสัญชาตญาณ เขาควบคุมราชาเทพอสุราก่อนฟันเข้าไปอีกครั้ง

มีดยาวฟันผ่านศีรษะของวิญญาณกรีดร้อง แต่กลับสัมผัสไม่โดนอะไร

“ฮ่าๆ ราชาเทพอะไรกัน”

เสียงผู้หญิงของวิญญาณกรีดร้องส่งเสียงหัวเราะน่าขนลุกออกมา

“เกิดอะไรขึ้น” กู่ฉิงซานถามอย่างเคร่งขรึม

เหล่าต้าถอนหายใจแล้วตอบว่า “ข้าจำได้แล้ว วิชาการหลอมรวมเทพคือเรื่องต้องห้าม แต่มันมีข้อดีอยู่… ในกระบวนการหลอมรวม วิชานี้จะเรียกกฎดั้งเดิมทั้งหมดมาปกป้องเพื่อให้แน่ใจว่าการหลอมรวมนี้จะไม่ถูกขัดขวาง”

“มันเหลือเพียงหัวเดียวเท่านั้น แบบนี้จะสามารถอยู่รอดจากการหลอมรวมได้งั้นหรือ” กู่ฉิงซานถาม

“มันก็พูดยาก เทพแห่งชีวิตอาจจะทำบางสิ่ง พวกมันจะทนทุกข์แสนสาหัสจนท้ายที่สุดก็หลอมรวมได้สำเร็จ” เหล่าต้ากล่าว

ตอนนี้ ในสมรภูมิ ศีรษะของวิญญาณกรีดร้องหันไปทางความว่างเปล่าแล้วกล่าวเสียงดังว่า

“กู่ฉิงซาน เจ้าทำข้าบาดเจ็บซะหนักเลย แต่อายุขัยของข้าไร้ที่สิ้นสุด ตอนนี้ข้าหลอมรวมกับเทพแห่งชีวิตแล้ว เมื่อข้ากลับมามีพละกำลังอีกครั้ง ข้าจะพรากชีวิตของเจ้าแล้วทำการทรมานวิญญาณชั่วนิรันดร์!”

ร่างของมันพลันเผาไหม้จนลามไปถึงศีรษะก่อนจมเข้าสู่ความว่างเปล่าแล้วหายไป

กู่ฉิงซานตกตะลึง

หนีงั้นเหรอ?

มันถึงกับซ่อนวิธีหลบหนีจากสวรรค์เอาไว้ได้

กู่ฉิงซานสั่งให้ราชาเทพไล่ตาม แต่น่าเสียดายที่ซากศพของราชาเทพต้องได้รับวิชาอื่นก่อนเพื่อปลดปล่อยพลังทั้งหมดในชีวิตออกมาได้

ราชาเทพไม่สามารถออกจากพื้นที่ที่ถูกปกคลุมด้วยโลงศพสีดำเหล่านี้ได้

การมาถึงของซากศพนับไม่ถ้วนถึงกับเป็นพลังที่เกิดจากการผสานร่วมกันของหลายสิบวิชา

ตอนนี้มีอีกการเปลี่ยนแปลงในสมรภูมิ

ซากศพทั้งหมดพุ่งออกจากโลงศพก่อนมาล้อมงูสีดำขนาดใหญ่เอาไว้

“ดูท่าเป้าหมายของพวกมันจะเป็นร่างของสัตว์ประหลาดตัวนี้” เหล่าต้ากล่าวอย่างแผ่วเบา

กู่ฉิงซานพยักหน้าเช่นกัน

ด้วยเหตุนี้จึงไม่สงสัยเลยว่าเทพแห่งชีวิตถึงซ่อนอยู่ในมือเรเควี่ยมจนไม่กล้าออกมา

แต่ทำไมมันถึงยึดครองซากศพของสัตว์ประหลาดตัวนี้ล่ะ

นี่คือการหลีกเลี่ยงคำสาบานของเหล่าเทพเพื่อให้ไม่ถูกควบคุมโดยคำสาบานจนสามารถกินวิญญาณได้อย่างสบายใจเพื่อทำให้ตัวเองเติบโตขึ้นเรื่อยๆ หรือ

ถ้าไม่ใช่เพราะพวกกู่ฉิงซาน มันคงสามารถนั่งผ่อนคลายได้เรื่อยๆ แล้ว

มันสามารถคงอยู่แบบนี้ไปได้อีกนานแสนนาน!

เป็นเทพที่น่ารังเกียจจริงๆ

หลังจากนั้น!

กู่ฉิงซานมองเหล่าต้า เหล่าต้ามองเขาเช่นกัน

ทั้งสองคิดถึงคำตอบอันน่าขนลุกได้พร้อมกัน

หากซากศพสัตว์ประหลาดข้องเกี่ยวกับซากศพเทพเหล่านี้ มันก็น่าจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมายาวนานนัก

หรือก็คือ

สมัยก่อน วิชาที่เกิดจากการผสานด้วยวิชานี้มีอยู่ก่อนแล้ว

หลังจากผ่านมาหลายหมื่นปี วิชานี้ยังทำงานอยู่

ช่างเป็นพลังที่เหลือเชื่อนัก!

พวกเขาสองคนตกตะลึงอยู่สักพัก

ในความมืดเหนือความว่างเปล่า หมอกสีดำนับไม่ถ้วนเคลื่อนลงมาจากท้องนภาก่อนกระแทกใส่ซากศพงูสีดำ

งูสีดำเริ่มสั่นไหวเล็กน้อย

กู่ฉิงซานไม่กล้าเสี่ยงอีกต่อไปก่อนพาเหล่าต้าออกจากที่นี่ทันที

มีเพียงภูตผีเท่านั้นที่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น!

เวลาในการควบคุมราชาเทพอสุราใกล้หมดแล้ว

กู่ฉิงซานคล้ายกับนึกถึงบางสิ่งก่อนก้าวพริบตาอย่างรวดเร็วเพื่อกลับมาหาเทพอสุราแล้วเอามือวางบนอาวุธ

วิชานี้น่าสะพรึงเกินไป เขาไม่กล้าเอาอาวุธซากศพเทพมาเป็นของตัวเอง

เขาเพียงแตะดาบยาวของราชาเทพอสุราเล็กน้อย พลังวิญญาณของเขาถูกใช้จนเกือบหมด จากนั้นกางร่มสีดำเพื่อพาเหล่าต้าออกจากระยะวิชา

วินาทีต่อมา

ระยะเวลาของหกวิชาแห่งยมโลก: ชักนำผู้คน ได้สิ้นสุดลง

ราชาเทพอสุราหยุดการเคลื่อนไหวทันทีก่อนยืนอยู่กับที่

ผ่านไปสักพัก ซากศพที่อยู่รอบข้างคล้ายกับค่อยๆ พบปัญหา

เส้นด้ายอักขระสีดำลอยอยู่เหนือท้องนภาอีกครั้งเพื่อควบคุมซากศพของราชาเทพอสุรา

ในความว่างเปล่าไกลจากระยะวิชา เหล่าต้าและกู่ฉิงซานมองการเปลี่ยนแปลงของวิชาอย่างเงียบงัน

ในความมืดเหนือวิชานั่น มีใบหน้ามนุษย์ผมเขียวอยู่

โลงศพสีดำนับไม่ถ้วนเคลื่อนลงมา

ซากศพเทพยืนรอบร่างสีดำ

ดูท่าวิชาผสานนี้กำลังจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว

เมื่อคิดถึงระยะเวลาที่ใช้วิชานี้ ทั้งกู่ฉิงซานและเหล่าต้าตกตะลึงเล็กน้อยจนอดที่จะถอยออกมาไกลอีกไม่ได้

ตอนนี้เหล่าต้าอดที่จะถามไม่ได้ว่า “เจ้าทำอะไรตอนสัมผัสดาบของราชาเทพ”

“ไม่มีอะไร เดิมข้าอยากเอาดาบเล่มนั้น แต่ข้ากลัวว่าจะมีปัญหาที่ไม่รู้จักตามมา ดังนั้นในท้ายที่สุดข้าก็เลยตัดใจ” กู่ฉิงซานตอบ

เหล่าต้าเห็นด้วย “เจ้าทำสิ่งที่ถูกแล้ว วิชานี้คงอยู่มาช้านานจนเกินกว่าจะจำได้ ระวังเอาไว้ก็ดี”

กู่ฉิงซานพยักหน้า

ในความว่างเปล่าตรงหน้าเขา มีตัวเลือกบนหน้าต่างระบบเทพสงครามที่ยังคงกะพริบไปมา

สกิลเทพสงคราม

แถวหิ่งห้อยขนาดเล็กปรากฏขึ้นจากสกิลเทพสงครามขณะค้างอยู่บนหน้าต่างระบบ

“ท่านได้สัมผัสดาบเอ็กซ์คาลิเบอร์อสุรา”

“ท่านใช้พลังวิญญาณสามล้านแต้มเพื่อทำความเข้าใจสกิลบางอย่างที่ท่านสามารถใช้ได้กับดาบเอ็กซ์คาลิเบอร์”

…………………….