webnovel

1057 หกวิชาแห่งยมโลก ชักนำผู้คน

ตอนที่ 1057 หกวิชาแห่งยมโลก: ชักนำผู้คน

ใบหน้าของชายผมเขียวซ่อนอยู่ในความมืดอีกครั้ง

“นั่นมันอะไร”

เหล่าต้ากระซิบ น้ำเสียงของเขาสั่นเครือ

กู่ฉิงซานยืนอยู่กับที่ เหงื่อเย็นเกาะบนมือที่ถือร่มเอาไว้

เป็นความจริงที่โลกเก้าร้อยล้านชั้นมีโลกที่มีรูปทรงและรูปลักษณ์มากมาย แต่มีสิ่งที่ยากจะเข้าใจนับไม่ถ้วนอยู่ในวังวนความว่างเปล่า

แต่ใบหน้าของชายผมเขียวคนนี้เกินกว่าหมวดที่ไม่รู้จักทั่วไป แม้กระทั่งเหล่าต้าก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร

ในสมรภูมิ ในที่สุดเทพแห่งชีวิต ไม่สามารถหักห้ามใจไว้ได้อีกต่อไปก่อนหลบหนีอย่างบ้าคลั่ง

แต่มีซากศพจำนวนมากอยู่ทั่วสมรภูมิ ซากศพมาขัดขวางมันทันที

การเคลื่อนไหวของมันดึงดูดความสนใจของซากศพเทพส่วนใหญ่ แรงกดดันบนตัววิญญาณกรีดร้องบรรเทาลงทันที

วิญญาณกรีดร้องปลุกพลังเหนือธรรมชาติขึ้นมาแล้วคำรามออกมาว่า “กู่ฉิงซาน! เจ้าสามารถหยุดข้าได้ครั้งหนึ่ง แต่ครั้งต่อไปล่ะ”

“ข้าจะนับถึงสาม ถ้าเจ้าไม่ออกมาช่วยข้า ข้าจะทำลายอาณาจักรหนามจริงๆ”

“เชื่อข้าเถอะ เจ้าไม่สามารถหยุดข้าได้หรอก”

บนมือทั้งสองข้าง กลุ่มแสงที่รวมตัวจากพลังแห่งความโกลาหลปรากฏขึ้นพร้อมกัน

กลุ่มแสงแผ่แสงสว่างที่เข้มข้นออกมาเรื่อยๆ

กู่ฉิงซานมองวิญญาณกรีดร้องพลางขมวดคิ้ว

เจ้านี่เอาแต่ขู่เขาซ้ำไปซ้ำมา

เมื่อครู่ ในการลงทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์ เจ้านี่วางกับดักนับไม่ถ้วนไว้ในความว่างเปล่ารอบข้าง

มีเพียงบริเวณที่เทพแห่งชีวิตสู้แบบหลังชนหลังเท่านั้นที่ไม่ได้ติดตั้งกับดักเวทมนตร์ใดๆ

เพราะมันหวาดกลัวว่าจะทำให้เทพแห่งชีวิตเข้าใจผิดอีก

กู่ฉิงซานรู้ว่าที่ที่เทพแห่งชีวิตอยู่ปลอดภัย ดังนั้นเขาจึงสลับตำแหน่งก่อนมาปรากฏตัวจากด้านหลัง ดาบจึงเข้าขัดขวางวิญญาณกรีดร้องได้

แต่ตอนนี้เทพแห่งชีวิตพุ่งออกไปอย่างบ้าคลั่ง

กู่ฉิงซานมั่นใจว่าวิญญาณกรีดร้องใช้วิชาโกลาหลนับไม่ถ้วนในความว่างเปล่ารอบตัวเขา ทำให้ไม่มีข้อบกพร่องอีกต่อไป

มันเพียงแค่รอให้เหยื่อติดเบ็ดเท่านั้น

กู่ฉิงซานรีบถามเหล่าต้าว่า “เจ้าสามารถหยุดมันได้หรือเปล่า”

เหล่าต้าตอบว่า “ไม่มีปัญหา แต่คงได้ไม่นานนัก”

“เจ้าช่วยข้าถ่วงเวลาหน่อย ข้าจะหาทาง” กู่ฉิงซานกล่าว

เหล่าต้าถือร่มไว้ในมือข้างหนึ่ง อีกข้างเปิดหนังสือแห่งชะตากรรมก่อนฉีกแผ่นกระดาษสองหน้าออกมา

‘ฟรึ่บ’

แผ่นกระดาษสองแผ่นถูกเผาในมือของเขา

ตอนเหล่าต้าเสียพลังทั้งหมดไป เขาสามารถต้านทานการลงทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์ร่วมกับกู่ฉิงซานได้ ตอนนี้ด้วยการสนับสนุนของหุบเหว พละกำลังของเขาฟื้นคืน เป็นธรรมดาที่เขาจะสามารถต้านทานได้หนึ่งหรือสองครั้ง

บนสมรภูมิ วิญญาณกรีดร้องหลบการโจมตีของซากศพเทพขณะตะโกนว่า

“สาม”

“สอง”

“หนึ่ง!”

มันยกมือขึ้นแล้วตะโกนอย่างเกรี้ยวกราดว่า “กู่ฉิงซาน เจ้าเตรียมตัวเสียใจได้เลย อาณาจักรหนามจะไม่คงอยู่อีกต่อไป!”

แสงสว่างสองกลุ่มที่เต็มไปด้วยความโกลาหลและพลังเหนือธรรมชาติพลันพุ่งออกไป

ในเวลาเดียวกัน เหล่าต้าขว้างแผ่นกระดาษเผาไหม้สองแผ่นไปในความว่างเปล่า

เปลวเพลิงแห่งความว่างเปล่า!

‘ตูม!’

การลงทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์สองกลุ่มถูกสิ่งที่มองไม่เห็นกระแทกเข้าใส่ มันบิดเบี้ยวและพุ่งไปในวังวนความว่างเปล่าที่ไม่รู้จัก

เหล่าต้าใช้วิชาเพื่อเปลี่ยนทิศทางการลงทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์แห่งความโกลาหล

การลงทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์แห่งความโกลาหลจะไม่สามารถโจมตีใส่อาณาจักรหนามได้อย่างแม่นยำ

ส่วนการลงทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์สองสายจะพุ่งไปที่ใดนั้น มันเกินกว่าที่ใครจะควบคุมได้

วิญญาณกรีดร้องสังเกตเห็นทันที

มันคำรามออกมา “เปลวเพลิงแห่งความว่างเปล่า เป็นท่านเองสินะ!”

“น่าเสียดายที่ท่านตกต่ำจนถึงเพียงนี้ ถึงกับไปเกลือกกลั้วกับพวกมดจากโลกเก้าร้อยล้านชั้น!”

ตอนนี้เทพแห่งชีวิตพุ่งผ่านสมรภูมิส่วนใหญ่มาได้แล้วและกำลังจะทะลวงผ่านสมรภูมิออกไป

ซากศพจำนวนมากแหวกว่ายไปทางที่มันอยู่ มีโลงศพสีดำแผ่พลังแก่กล้าสุดหยั่งออกมาอยู่ตรงหน้าเทพแห่งชีวิตที่ไม่ไกลมากนัก

แรงกดดันบนตัววิญญาณกรีดร้องพลันทุเลาลง

มันส่องแสงขึ้นอีกครั้งขณะกล่าวด้วยน้ำเสียงลุ่มลึกว่า “เปล่าประโยชน์ ราชาหุบเหว กู่ฉิงซาน พวกเจ้ามีทางเดียวที่จะช่วยอาณาจักรหนาม นั่นก็คือช่วยข้า!”

ท่ามกลางหกมือ มีสามมือที่ค่อยๆ สร้างแสงแห่งการลงทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา

เหล่าต้าไม่พูด เพียงปาดเหงื่อบนหน้าผากเท่านั้น

ในหนังสือแห่งชะตากรรม แผ่นกระดาษเผาไหม้สามแผ่นกำลังลอยขึ้น

ตอนนี้ เขาพยายามสุดความสามารถ

ในเวลาเดียวกัน

กู่ฉิงซานนึกถึงจี้น้ำเต้าหยกเหวยจุน

“ซากศพเหล่านี้ถูกควบคุมด้วยวิชา เจ้าสามารถหยิบยืมวิชานั่นได้หรือเปล่า” เขาถาม

จี้น้ำเต้าหยกเหวยจุนสั่นไหวก่อนตอบว่า “ฟิ่ว ฟิ่ว (นี่คือวิชาผสาน ข้าไม่สามารถหยิบยืมได้ทั้งหมด)”

กู่ฉิงซานประหลาดใจเล็กน้อย

เขารู้จักวิชาผสาน พวกมันซับซ้อนมาก

ยกตัวอย่างเช่น ดาบมารฟันวิญญาณของเทพแห่งชีวิตคือหนึ่งในวิชาผสานที่เรียบง่ายที่สุด มันคือการรวบรวมวิชาเดียวกันเอาไว้เพื่อทะลวงขีดจำกัดสูงสุดของพลังวิชา

ยังมีวิชาผสานบางอย่างที่ผสานกับคุณลักษณะของแต่ละวิชาเพื่อสร้างวิชาใหม่อันทรงพลังขึ้นมาได้

นี่คือสองกรณีที่ง่ายที่สุด

“มา”

กู่ฉิงซานยื่นมือออกไปแล้วกดลงบนจี้น้ำเต้าหยกเหวยจุนก่อนมอบพลังวิญญาณหนึ่งแสนแต้ม

จี้น้ำเต้าหยกนี้ถูกผนึกในฝุ่นธุลีมานานนับไม่ถ้วน ในที่สุดมันได้พบกับกู่ฉิงซานตอนกำลังจะตายเพราะความหิวโหย

กู่ฉิงซานปฏิบัติกับมันเป็นอย่างดีมาตลอด

สถานการณ์ในครั้งนี้อันตรายเกินไป กู่ฉิงซานจึงต้องสนทนากับมัน

“ฟิ่วๆ ฟิ่วๆ! (ให้ตายสิ ท่านมีพลังวิญญาณเยอะเหลือเกิน!)” จี้น้ำเต้าหยกเหวยจุนกล่าวด้วยความประหลาดใจ

กู่ฉิงซานกล่าวว่า “ใช่ พวกเราไม่สามารถหยิบยืมวิชาผสานได้ แต่สามารถหยิบยืมวิชาเฉพาะอันทรงพลังได้… แบบนี้พอจะทำได้หรือเปล่า”

จี้น้ำเต้าหยกตอบทันทีว่า “ฟิ่ว! (ได้!)”

กู่ฉิงซานถามว่า “เจ้ามีความเห็นเช่นไรกับวิชาเฉพาะ”

จี้น้ำเต้าหยกเหวยจุนเติมพลังวิญญาณขณะเคลื่อนไปรอบข้างสมรภูมิด้วยความเร็วสูงยิ่ง

กู่ฉิงซานใช้ประโยชน์จากช่วงเวลาดังกล่าวเพื่อดูสถานการณ์ของเหล่าต้า

เหล่าต้ายังคงปล่อยเปลวเพลิงแห่งความว่างเปล่าเพื่อเปลี่ยนทิศทางการลงทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์ของวิญญาณกรีดร้องที่กระหน่ำเข้าใส่ ตอนนี้เขามาถึงขีดจำกัดแล้ว

“พลังใกล้หมดแล้ว เจ้าคิดหาทางได้ยัง” เหล่าต้ากัดฟัน

“ขอเวลาข้าหน่อย” กู่ฉิงซานตอบ

ตอนนี้ จี้น้ำเต้าหยกเหวยจุนพุ่งกลับมา มันคล้ายกับเขินอายเล็กน้อยจนส่งเสียง “ฟิ่วๆ”

หลังจากฟังแล้ว กู่ฉิงซานครุ่นคิดสักพักแล้วกล่าวว่า “อย่างนี้นี่เอง ข้าสามารถทำในสิ่งที่เจ้าไม่สามารถทำได้ ข้าจะให้ความร่วมมือเจ้าเพื่อทำสิ่งนี้ให้สำเร็จ”

“แต่เจ้าแน่ใจหรือว่าวิชาเฉพาะที่เจ้าเพิ่งกล่าวถึงคือวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดในวิชาผสานทั้งหมด”

จี้น้ำเต้าหยกเหวยจุนพลันพยักหน้า เป็นสัญญาณว่ามันมั่นใจ

กู่ฉิงซานมองวิญญาณกรีดร้องแล้วพลันตัดสินใจ “เอาล่ะ อย่างนั้นพวกเราลุยกันเลย!”

จะให้โอกาสวิญญาณกรีดร้องอีกไม่ได้แล้ว

เพราะมันรู้แล้วว่ากู่ฉิงซานห่วงสิ่งใด มันจึงเปลี่ยนจากการต่อสู้ซึ่งๆ หน้ามาเป็นการข่มขู่

ต้องฉวยโอกาสนี้เพื่อหาทางฆ่ามันให้ได้!

“ฟิ่ว! (ลุย!)”

จี้น้ำเต้าหยกส่งเสียงร้องก่อนมาอยู่บนไหล่ของกู่ฉิงซาน

กู่ฉิงซานเริ่มก้าวพริบตาก่อนหายไปจากที่ที่เคยอยู่

เขาพาเหล่าต้าและจี้น้ำเต้าหยกเหวยจุนเข้าสู่สมรภูมิอีกครั้งจนมาอยู่เหนือโลงศพสีดำจำนวนมาก

ขณะหลีกเลี่ยงเส้นด้ายสีดำที่เชื่อมโยงซากศพเทพเอาไว้ กู่ฉิงซานมองลงไป

“ทางนั้น!”

ดวงตาของเขาจับจ้องโลงศพที่ทรงพลังมากที่สุด

ตอนนี้ เทพแห่งชีวิตกระตือรือร้นที่จะหลบหนี วิญญาณกรีดร้องก็ยุ่งอยู่กับการข่มขู่กู่ฉิงซานเพื่อช่วยตัวเอง โลงศพที่ลงมายังสุดขอบสมรภูมิถูกล้อมด้วยโลงศพสีดำจำนวนมาก สองเทพไม่มีเวลาขัดจังหวะเพื่อค้นพบสิ่งนี้

โลงศพเปิดออกช้าๆ

มือข้างหนึ่งมาอยู่ตรงขอบโลงศพก่อนผลักไปอย่างแผ่วเบา

‘ปัง!’

โลงศพสีดำพลันแตกเป็นเสี่ยงๆ

ควันจางหายไป

เงาร่างสูงสีดำปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคน

เขาสวมหน้ากากก็อบลิน ร่างกายท่อนบนเปลือยเปล่า แผ่นหลังถูกมัดด้วยอาวุธเจ็ดอย่าง มีมีด หอก ขวาน ค้อน ธนู ดาบและคทา

‘ฟรึ่บ’

พลังไม่มีสิ้นสุดแผ่ออกจากตัวเขาขณะกวาดผ่านผู้ชม!

“อา!”

เทพแห่งชีวิตกรีดร้องขณะพุ่งออกจากสมรภูมิด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มี

วิญญาณกรีดร้องสั่นเทาเช่นกันขณะเริ่มหาทางหนีทีไล่

เห็นได้ชัดว่าลึกๆ แล้วหากมันยังนิ่งเฉย การโจมตีของอีกฝ่ายจะช้าลง แต่ทันทีที่ฝ่าออกไป ซากศพทั้งหมดก็จะตามมา โลงศพสีดำก็จะไล่ตามเร็วขึ้น

แต่ตอนนี้ไม่มีทางอื่นเลย!

วิญญาณกรีดร้องกัดฟันขณะปล่อยแสงแห่งการลงทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์สี่กลุ่มอีกครั้ง

มันคำรามออกมา “กู่ฉิงซาน ราชาหุบเหว นี่คือโอกาสสุดท้ายของพวกเจ้า จะช่วยข้าหรือจะให้ข้าพยายามสุดความสามารถเพื่อทำลายอาณาจักรหนาม”

เหล่าต้ามองกู่ฉิงซาน

กู่ฉิงซานทำเป็นหูหนวกขณะชี้ซากศพจำนวนมหาศาลด้วยดาบแล้วถามว่า “นี่คือราชาเทพหรือ”

เหล่าต้ารีบกล่าวว่า “มันคือพลังระดับเทพจริงๆ แต่ข้าไม่เคยเห็นองค์นี้มาก่อน น่าจะไม่ใช่ราชาของโลก”

กู่ฉิงซานมองผู้ชายแล้วพึมพำว่า “น่าแปลก มีบางสิ่งที่ข้าคุ้นเคยเกี่ยวกับเขา…”

ขณะพูด เขาพุ่งลงไปพร้อมกับเหล่าต้า

เหล่าต้ารีบถามว่า “เจ้าจะทำอย่างไร”

“หาคนช่วย” กู่ฉิงซานตอบ

เมื่อจิตขยับ ดาบพิภพก็มาอยู่ในมือ

วิชาดาบทำงาน

วิชาดาบลับ… ฟาดฟันจันทร์เต็มดวง!

ดาบขาวแสงจันทร์ส่องประกายในความว่างเปล่าอันมืดมิดราวกับประกายแสงระยิบระยับก่อนจะหายวับไป

เส้นผมหลายสิบเส้นราวกับเส้นด้ายอักขระที่ตกลงมาจากท้องนภาเพื่อเชื่อมซากศพเทพเอาไว้ล้วนขาดออกพร้อมกัน

ในเวลาเดียวกัน บนหน้าต่างระบบเทพสงคราม ค่าพลังวิญญาณที่เหลืออยู่ของกู่ฉิงซานไปอยู่ที่เจ็ดแสนแปดหมื่นแต้ม

แค่การฟันเส้นด้ายอักขระบางเหล่านี้ กู่ฉิงซานต้องใช้พลังวิญญาณมากขนาดนี้!

ช่างเป็นวิชาที่เหลือเชื่ออะไรอย่างนี้!

ผู้ชายไม่สวมเสื้อพร้อมกับอาวุธเจ็ดชนิดพลันหยุดเคลื่อนไหว

เพียงชั่วพริบตา กู่ฉิงซานตะโกนว่า “เหวยจุน!”

ทันใดนั้น เสียงของจี้น้ำเต้าหยกดังในความว่างเปล่า “ฟิ่วๆ ฟิ่วๆ! (วิชานี้วิเศษนัก รอข้าหยิบยืมมาให้ได้ก่อนแล้วค่อยไปลุยกัน!)”

ฟิ่วๆ!

เส้นด้ายอักขระสีดำหลายสิบเส้นพุ่งออกจากกู่ฉิงซานเพื่อเชื่อมกับผู้ชายไม่สวมเสื้อ

กู่ฉิงซานพลันเกิดความรู้สึกแปลกๆ

เขารู้สึกว่าตัวเองมีอีกร่าง

นั่นคือชายที่มีพลังศักดิ์สิทธิ์ยิ่งใหญ่ ร่างกายไร้เทียมทาน!

บนหน้าต่างระบบเทพสงคราม แถวหิ่งห้อยขนาดเล็กปรากฏขึ้น

“ท่านได้ใช้หกวิชาแห่งยมโลก: ชักนำผู้คน”

………………