webnovel

1056 ความลับของโลก

ตอนที่ 1056 ความลับของโลก

การต่อสู้ระหว่างสองเทพกับกลุ่มเทพและกึ่งเทพที่ตายไปแล้วยังคงดุเดือด

ใจกลางสมรภูมิ

เทพแห่งชีวิตและวิญญาณกรีดร้องยังคงคำราม

ทั้งคู่มีชีวิตมานานนับไม่ถ้วนและมีความกระตือรือร้นในการต่อสู้ตามธรรมชาติ

ดังนั้นขณะที่สู้อยู่ พวกมันจับจ้องโลงศพที่เพิ่งเคลื่อนลงมา

พวกมันพบว่ากลิ่นอายในโลงศพแข็งแกร่งเกินไป ทำให้ลงมืออย่างสุดความสามารถเพื่อทำลายโลงศพอย่างสิ้นหวัง

หลังจากทำแบบนี้ โลงศพกลายเป็นภาพมายาก่อนหายไปชั่วคราว

ทว่า ยิ่งเวลาผ่านไปเท่าไหร่ โลงศพจะปรากฏขึ้นใหม่อีกครั้ง โลงศพที่มาเยือนตกลงมาราวกับกระแสน้ำก่อนค่อยๆ กลืนกินสองเทพเข้าไป

ซากศพเทพที่ออกมาจากโลงศพเริ่มโอบล้อมเข้ามา

เทพแห่งชีวิตและวิญญาณกรีดร้องต้องหลังชนหลังเพื่อช่วยกันเพื่อรักษาสมดุลของการต่อสู้เอาไว้อย่างยากลำบาก

เมื่อเผชิญหน้ากับความเป็นความตาย ความขัดแย้งใดๆ ย่อมสามารถปล่อยวางได้ชั่วคราว

อีกอย่าง พวกมันเข้าใจเช่นกันว่าตัวเองถูกหลอก

ถึงจะเป็นเช่นนี้

พวกมันก็มีเวลาไม่มาก

ตอนนี้ กู่ฉิงซานและเหล่าต้ามายังสุดขอบสมรภูมิขณะถือร่มสีดำเอาไว้

เหล่าต้าขมวดคิ้ว สายตาจ้องมองซากศพเทพแล้วพึมพำว่า “ไม่ นี่ไม่ใช่เพียงซากศพเทพจากโลกภายในเท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งที่ข้าไม่รู้จักอีกด้วย…”

กู่ฉิงซานถามว่า “เจ้ารู้จักเทพทั้งหมดจากโลกภายในงั้นเหรอ?”

“ข้ารู้จักเทพที่แท้จริงทั้งแปดพันองค์” เหล่าต้าตอบยืนยัน

“อะไรที่แข็งแกร่งกว่าเทพที่แท้จริงล่ะ” กู่ฉิงซานถาม

“ราชาเทพเมื่อครู่มีลมหายใจของราชาเทพอยู่ในโลงศพ ทั้งสองโจมตีโลงศพอย่างสิ้นหวัง โลงศพหายไปชั่วคราว แต่คาดว่าอีกไม่นานมันจะปรากฏขึ้น” เหล่าต้าตอบ

กู่ฉิงซานกล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้นคำถามก็คือเทพเหล่านั้นที่เจ้าไม่รู้จักมันมาจากไหน”

เขาลอยขึ้นอย่างเงียบงันเพื่อเข้าหาโลงศพ สายตาจับจ้องอย่างละเอียด

“นี่ดูเหมือนจะเป็นโลงศพที่ปรากฏขึ้นด้วยเวทมนตร์”

กู่ฉิงซานกล่าว

เมื่อกล่าวจบ เขาก็ตกตะลึง

เวทมนตร์

เวทมนตร์แบบไหนที่สามารถควบคุมเทพและกึ่งเทพนับร้อยเหล่านี้ได้

แถมยังมีราชาเทพอีก!

นี่มันเหลวไหลสิ้นดี

กู่ฉิงซานส่ายหน้า เขากำลังจะปฏิเสธความคิด แต่กลับได้ยินเหล่าต้ากล่าวว่า “ใช่ ข้าก็รู้สึกเหมือนกัน นี่คือวิชาเวทมนตร์ ดูเทพเหล่านั้นสิ”

กู่ฉิงซานหันไปตามทางที่เหล่าต้าชี้ก่อนปล่อยจิตเทพออกไป

โลงศพที่อยู่ใกล้พวกเขาที่สุดเปิดออก ซากศพกึ่งเทพออกมา

“ดูให้ดีสิ” เหล่าต้ากระซิบ

“อืม”

กู่ฉิงซานตอบ

เขาสัมผัสมันด้วยจิตเทพ

บนซากศพกึ่งเทพนี้ มีเส้นไหมคล้ายเส้นผมหลายเส้นที่ยึดร่าง มือและเท้าของซากศพเอาไว้

หากมองใกล้ๆ จะพบว่าเส้นไหมเหล่านี้ไม่ใช่เส้นไหมจริงๆ แต่เป็นลำแสงทมิฬที่รวมเข้าด้วยกันเป็นอักขระแปลกประหลาด

ใช่แล้ว นี่คือวิชา!

กู่ฉิงซานและเหล่าต้ามองหน้ากัน ทั้งคู่เห็นความตกตะลึงในแววตาของอีกฝ่าย

หนึ่งในพวกเขาคือพระผู้ช่วยของโลก ราชาภูตผีแห่งยมโลกและเทพแห่งสี่เสาหลัก อีกคนคือคนแรกที่ได้อยู่บนมงกุฎแห่งดวงดาว จ้าวแห่งหุบเหว ราชาผู้มีพลังไร้ขีดจำกัด สามารถนับได้ว่ามีความรู้มากมาย

แต่พวกเขาทั้งสองไม่เคยได้ยินวิชาเวทมนตร์ที่สามารถควบคุมซากศพเทพนับพันแบบนี้ได้

ดวงตาของเหล่าต้าเผยแววสับสนออกมา “เวทมนตร์แบบไหนกันที่สามารถเรียกเทพทั้งหมดออกมาจากหลุมศพได้ ข้าไม่รู้จริงๆ ”

กู่ฉิงซานครุ่นคิดสักพักแล้วกล่าวว่า “เมืองเรเควี่ยม… เป็นเพียงที่พักอาศัยสำหรับลูกหลานเทพใช่หรือเปล่า”

เหล่าต้าถามกลับว่า “เจ้าคิดว่าไงล่ะ”

กู่ฉิงซานตอบว่า “เห็นได้ชัดว่าเทพแห่งชีวิตรู้เรื่องนี้ จึงทำการซ่อนตัวในเมืองเรเควี่ยม ข้าเดาว่ามันอาจจะมีบางสิ่งที่ข้องเกี่ยวกับวิชานี้”

เหล่าต้าครุ่นคิดถึงความทรงจำแล้วกล่าวว่า “ตอนโลกภายในถูกทำลาย ซากศพจากสงครามนับไม่ถ้วนกระจายไปตามความว่างเปล่า”

“เจ็ดเทพที่รอดมาได้รวบรวมร่างของพวกที่ตายจากการต่อสู้ก่อนสร้างสุสานในวังวนความว่างเปล่าขึ้นมาโดยมีเทพแห่งชีวิตคุ้มกัน”

“ภายหลัง เทพแห่งชีวิตเพียงส่งลูกหลานทั้งหมดไปอยู่ใกล้หลุมศพแล้วสร้างโลกขึ้นมา นั่นก็คือเมืองเรเควี่ยมที่เจ้ารู้จักนั่นแหละ”

กู่ฉิงซานประหลาดใจ

ไม่สงสัยเลยว่าถึงถูกเรียกว่าเมืองเรเควี่ยม เพราะเดิมทีมันอยู่ใกล้กับหลุมซพคนตายในสงครามนั่นเอง

กู่ฉิงซานอดที่จะถามไม่ได้ว่า “โลกภายในเป็นโลกแบบไหนกัน แล้วทำไมมันถึงถูกทำลายล่ะ”

เมื่อเห็นเขาถามอย่างจริงจัง เหล่าต้าจึงตอบว่า “โลกภายในคือสถานที่พิเศษที่ทำให้โลกคู่ขนานไม่อาจมองเห็นกันได้ อีกทั้งยังมีหลักประกันเป็นวังวนความว่างเปล่าที่สามารถแยกโลกคู่ขนานออกจากกันได้”

“โลกคู่ขนานอาจจะแบ่งเป็นโหนดทางประวัติศาสตร์นับไม่ถ้วน จากนั้นจึงเกิดเป็นโลกคู่ขนานแห่งใหม่ขึ้นมา”

“แต่มันมีเพียงแห่งเดียวในโลก”

“ทันทีที่โลกภายในถูกทำลาย โลกคู่ขนานและวังวนความว่างเปล่าจะค่อยๆ ปั่นป่วน ปัญหามากมายจะบังเกิดขึ้น”

กู่ฉิงซานถามว่า “ยกตัวอย่างเช่น ก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้นในการต่อสู้ระหว่างโลกคู่ขนานและวันสิ้นโลกก่อนที่จะตกลงไปในสู่หุบเหวนิรันดร์”

เหล่าต้าถอนหายใจออกมา “ใช่ โลกภายในถูกวันสิ้นโลกทำลาย ดังนั้นโลกคู่ขนานจึงเริ่มปั่นป่วน”

กู่ฉิงซานจมสู่ความคิดอีกครั้ง

“โลกภายในไม่ได้ถูกทำลาย ข้าจำได้ว่ายังมีคนออกมาอยู่…” กู่ฉิงซานกล่าว

“ใช่ แต่วิญญาณจะกลับชาติมาเกิดในกระแสวังวนความว่างเปล่า อันตรายมีมากมาย มีเทพไม่กี่องค์เท่านั้นที่มีความสามารถนี้”

เหล่าต้ากล่าวต่อว่า “ในบรรดาเทพหนึ่งหมื่นองค์จะมีราชาเทพหนึ่งองค์ มีเทพแปดหมื่นองค์ที่โลกภายใน ทำให้มีราชาเทพเพียงแปดองค์ เหนือเทพแปดองค์นั้นก็คือจักรพรรดิของเทพทั้งมวล เขารับผิดชอบเรื่องการปกครองโลกภายในทั้งหมด”

“ในตอนนั้น โลกถูกทำลาย จักรพรรดิพ่ายแพ้วันสิ้นโลก เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสก่อนหายตัวไป สองในแปดเทพตายในการต่อสู้ หกองค์รู้ว่าพวกเขาจะพ่ายแพ้ จึงใช้วิชาเพื่อกลับชาติมาเกิด”

หัวใจของกู่ฉิงซานสั่นสะท้านเมื่อได้ยินเช่นนี้ขณะพยายามรวบรวมความคิด “พวกเรายังต้องสำรวจอีกว่าวิชานี้คืออะไร”

เหล่าต้าครุ่นคิด “สิ่งที่ทำให้เทพแห่งชีวิตหวาดกลัวจะต้องเป็นมากกว่าวิชาเรียบง่ายแน่ๆ มันอาจจะข้องเกี่ยวกับสิ่งที่ทำด้วย”

“เป็นเวลานานมากแล้วที่มันซ่อนอยู่ในเมืองเรเควี่ยม” กู่ฉิงซานกล่าวอย่างเงียบงัน “ดังนั้นพวกเราจึงมั่นใจได้อย่างหนึ่ง เมืองเรเควี่ยมปลอดภัย ถ้าอย่างนั้นสิ่งที่ทำจะต้องไม่ข้องเกี่ยวกับเมืองเรเควี่ยม”

“ถ้ามีอะไรที่ทำให้มันกลัวก็ต้องมาจากนอกเมืองเรเควี่ยม”

“มันเอาแต่ซ่อนในเมืองเรเควี่ยม ถ้าอย่างนั้นแล้วมันอะไรเกี่ยวกับโลกภายนอกบ้างล่ะ”

ทั้งสองครุ่นคิดอยู่หลายอึดใจ

“ไม่ใช่ไพ่บัญญัติ” กู่ฉิงซานสรุป “ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับไพ่ ข้าสามารถพิสูจน์เรื่องนั้นได้”

“ถ้างั้นก็เหลือเพียงอย่างเดียว” เหล่าต้ากล่าว

ทั้งสองมองเทพแห่งชีวิตพร้อมกัน

ร่างของมันคืองูสีดำที่สวมหมวกสีม่วงบนศีรษะ หางของมันสามารถแยกออกเป็นหนวดที่ไม่มีสิ้นสุดได้

ใช่แล้ว มีเพียงสัตว์ประหลาดตัวนี้ที่ยังอยู่

เทพแห่งชีวิตยึดร่างของสัตว์ประหลาดตัวนี้มาเป็นของตัวเอง

สิ่งที่แปลกก็คือไม่มีเทพองค์ไหนสามารถสังหารสัตว์ประหลาดตัวนี้ได้ แล้วเทพแห่งชีวิตยึดร่างของสัตว์ประหลาดได้ในครั้งเดียวได้อย่างไร

ยิ่งพวกเขาคิดเท่าไหร่ ยิ่งรู้สึกว่ามันมีบางสิ่งผิดปกติมากเท่านั้น

ขณะที่พวกเขาตั้งสมมติฐานในแต่ละเรื่องอยู่นั้น สถานการณ์ในสมรภูมิยิ่งมายิ่งอันตราย

ร่างของเทพแห่งชีวิตและวิญญาณกรีดร้องมีบาดแผลทุกหนแห่ง

โลงศพอีกแถวเคลื่อนลงมา

ซากศพของเทพห้าร่างออกมาจากโลงศพ

วิญญาณกรีดร้องไม่ทนอีกต่อไปก่อนพลันตะโกนว่า “ออกมา กู่ฉิงซาน!”

กู่ฉิงซานและเหล่าต้าล้วนตกตะลึง

เจ้านี่รู้ได้อย่างไรว่าพวกเขาอยู่ที่นี่

วิญญาณกรีดร้องตะโกนต่อว่า “ข้ารู้ว่าเจ้าอยู่แถวนี้ ดูนี่สิ”

‘ตูม!’

ทันใดนั้น ลำแสงยิ่งใหญ่ไร้ที่สิ้นสุดพุ่งออกจากร่างของมัน ค่อยๆ รวมตัวเป็นหมัด ก่อเกิดเป็นกลุ่มลำแสงเจิดจ้า

นี่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นพลังทั้งหมดที่มันมี

เหล่าต้ากล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “ช่างเป็นการลงทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลังอะไรอย่างนี้”

กู่ฉิงซานพยักหน้าเช่นกัน

พลังแห่งความโกลาหลอย่างการลงทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์นี้แตกต่างจากการลงทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์ที่เขาเคยเจอเมื่อคราวที่แล้วอย่างสิ้นเชิง

ขณะหลบการโจมตีของซากศพเทพ วิญญาณกรีดร้องกล่าวเสียงดัง

“ข้ารู้ว่าเจ้ามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับอาณาจักรหนาม”

“ข้าจะนับถึงสาม ถ้าเจ้าไม่ใช้วิชาปกปิดเพื่อออกมาช่วยข้า ข้าจะปล่อยการลงทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์นี้เพื่อระเบิดอาณาจักรหนามให้ราบเป็นหน้ากลอง!”

“ข้ารู้ว่าเจ้าสามารถหยิบยืมพลังของข้าได้ แต่ข้าสามารถโจมตีแบบเดียวกันนี้ได้หลายรอบ ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะสามารถหยิบยืมพลังการลงทัณฑ์ของข้าได้ตลอดหรอก!”

กู่ฉิงซานประหลาดใจเล็กน้อย

สัตว์ประหลาดตัวนี้มีความคิดที่ร้ายกาจนัก มันจับจุดอ่อนของเขาได้แล้ว

ลอร่าทำทุกสิ่งเพื่อช่วยตัวเอง นางต้องไม่ยอมให้อาณาจักรถูกทำลายเป็นแน่

เหล่าต้ามองเขาด้วยความกังวล

กู่ฉิงซานส่ายหน้าเป็นสัญญาณว่าไม่เป็นไร

เขามองวิญญาณกรีดร้องอย่างสงบ

ดาบปรากฏขึ้นในมืออย่างเงียบงัน

“พลังวิญญาณของท่านไม่มากพอที่จะฆ่ามัน” เสียงหนักแน่นของดาบพิภพดังขึ้น

“ข้ารู้ พวกเราแค่จะใช้แดนศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น” กู่ฉิงซานกล่าวอย่างแผ่วเบา

เขาเสริมว่า “ด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มี”

“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เป็นไร” ดาบพิภพไม่กล่าวอะไรอีกหลังจากพูดจบ

ตอนนี้ วิญญาณกรีดร้องไม่สามารถต้านทานการโจมตีของเหล่าเทพได้อีกต่อไป มันจึงนับเสียงดัง

“สาม”

“สอง”

“หนึ่ง!”

มันคำรามก่อนเหวี่ยงหมัดออกไป

กู่ฉิงซานลงมือ

สกิลเทพ เคลื่อนย้าย!

เพียงพริบตา เขาสลับตำแหน่งกับเทพแห่งชีวิต

เขาถือร่มไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างถือดาบเอาไว้

อาณาจักรหนึ่งดาบ!

‘ตูม!’

ดาบพิภพฟาดใส่วิญญาณกรีดร้องอย่างรุนแรงจนร่างโซเซถอยไปไกล

แสงและเงาจำนวนนับไม่ถ้วนพลันปรากฏในความว่างเปล่า วิญญาณกรีดร้องกระแทกลงกับพื้น

คาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะเตรียมการไว้แล้ว!

แต่แรงโน้มถ่วงหนึ่งพันเอ็ดเท่าที่ฟาดฟันมาประกอบกับพลังทั้งหมดของกู่ฉิงซาน แสงจากการลงทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์ของวิญญาณกรีดร้องพลันหลุดออกจากมือก่อนลอยเหนือความว่างเปล่า

ทันทีที่ดาบออกมา กู่ฉิงซานไม่ลังเลก่อนใช้งานเคลื่อนย้ายอีกครั้ง!

วินาทีต่อมา เทพแห่งชีวิตเข้ามาแทนที่อีกครั้ง!

ในเวลาเดียวกัน วิญญาณกรีดร้องตอบสนองก่อนฟาดไปที่ข้างหลังอย่างรุนแรง

เทพแห่งชีวิตไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นมันจึงถูกฟาดอย่างรุนแรงจนกลิ้งไปกองอยู่กับพวกกึ่งเทพ

“อา! เจ้ารนหาที่ตายเองนะ!” เทพแห่งชีวิตกล่าวอย่างเดือดดาล

ทันใดนั้น เสียงทั้งหมดหายไป

ไม่ว่าจะกู่ฉิงซาน เทพแห่งชีวิตหรือวิญญาณกรีดร้อง ตอนนี้พวกเขาลืมแล้วว่าจะพูดอะไรออกมา

พวกเขาเงยหน้ามอง

แสงลงทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์พุ่งขึ้นท้องนภา ระเบิดความมืดอันมองหม่นจนเผยให้เห็นบางสิ่ง

ใบหน้ามนุษย์ผมสีเขียวขนาดใหญ่กำลังมองลงมาจากความมืดด้านบน

ใบหน้าของผู้ชายผมเขียวกว้างใหญ่

โลงศพนับไม่ถ้วนยังคงเคลื่อนลงมาจากปากของมัน

วินาทีต่อมา

พลังการลงทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์หายไป

ความมืดเหนือสมรภูมิรวมตัวอีกครั้ง บดบังใบหน้าของมนุษย์ผมเขียวเอาไว้…

…………………….