webnovel

1029 จุดกำเนิดของหุบเหว

ตอนที่ 1029 จุดกำเนิดของหุบเหว

“นางพูดแบบนั้นจริงๆ หรือ”

“ใช่”

เหล่าต้ารำพึง “ถ้าเป็นความจริง งั้นก็ชักน่าสนใจแล้วสิ…”

“ทำไมล่ะ”

“ตอนนี้คงพูดยาก แต่ในเมื่อเจ้าได้รับความสนใจจากหุบเหวแล้ว ข้าแนะนำว่าพวกเราควรสำรวจส่วนลึกของซากปรักหักพังต่อ”

“เหตุผลล่ะ”

“ซากปรักหักพังนี้คือส่วนหนึ่งของเจ็ดเทพที่แยกจากหุบเหว พวกเราต้องเรียกเจตจำนงหุบเหวเพื่อนำชิ้นส่วนเหล่านี้กลับคืนสู่หุบเหว”

เหล่าต้าอธิบายต่อว่า “วันสิ้นโลกของโลกคู่ขนานกลืนกินหุบเหว ในช่วงวิกฤติเช่นนี้ หากพวกเราช่วยหุบเหวจนได้ร่างที่สูญเสียไป นั่นจะเป็นการช่วยหุบเหวได้มาก เจตจำนงหุบเหวจะต้องมาสังเกตการณ์เจ้าอีกอย่างแน่นอน”

“สังเกตการณ์อีก…” กู่ฉิงซานหัวเราะ “ทั้งที่เพิ่งเจอหน้ากันแต่ก็กลายเป็นสหายเสียแล้ว หุบเหวสามารถทำให้ข้ากลายเป็นหุบเหวได้ถ้าข้าให้การช่วยเหลืออย่างนั้นหรือ”

เหล่าต้าตอบว่า “ไม่ขนาดนั้น แต่เจ้าต้องเชื่อข้า นี่คือเรื่องที่ดีอย่างแน่นอน”

กู่ฉิงซานถามว่า “ผลประโยชน์ล่ะ เหมือนกับหิ่งห้อยดาราที่อยู่ในมือเจ้างั้นหรือ”

“ใช่” เหล่าต้าชำเลืองมองทุกคนที่อยู่ที่นี่แล้วกล่าวอย่างจริงจังว่า “มันดีกับพวกเจ้าทุกคน”

กู่ฉิงซานเงียบ

ทุกคนตกอยู่ในห้วงความคิด

เทพแห่งความว่างเปล่าและวิญญาณแปลกประหลาดปรากฏตัวขึ้นมาแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาจะเผชิญหน้ากับอะไรอีก

จะไปต่อหรือไม่นับว่าเป็นคำถามแห่งความเป็นความตายที่ยากเอาการ

เย่เฟยหลีพลันกล่าวว่า “ตอนนี้พวกข้าอ่อนแอเกินไป หากสามารถได้ข้อเสนอที่ดีเยี่ยม ข้าคิดว่ามันก็คุ้มค่าที่จะเสี่ยง”

จางหยิงห่าวครุ่นคิดสักพักแล้วกล่าวว่า “ไปดูหน่อยก็ไม่เสียหาย แต่พวกข้าต้องการหลักประกันความปลอดภัยก่อน”

เมื่อกล่าวเช่นนั้น ทุกคนหันมามองลอร่า

แม้แต่เทพแห่งความว่างเปล่าก็ไม่สามารถหานางได้

ความสามารถของนางในพื้นที่นี้พึ่งพาได้

ลอร่ากล่าวอย่างมีชัยว่า “ข้าจะต่อสู้กับพวกเจ้า ให้ราชินีคนนี้ดูแลสิ่งต่างๆ อย่างการซ่อนแมวเอง”

กู่ฉิงซานปรบมือมือแล้วกล่าวว่า “ถ้างั้นพวกเราไปกันต่อเถอะ หยิงห่าว เจ้าให้แมวเผยทางที ข้าจะใช้แหวนเปิดเส้นทาง ข้าสามารถฟังเสียงทุกสิ่งได้ จะรับผิดชอบจับตาดูการเคลื่อนไหวรอบข้างให้เอง ลอร่าอยู่ใกล้พวกเรา เตรียมกางร่มให้พร้อม ข้ากับเหล่าต้าเตรียมต่อสู้ทุกเมื่อ”

“ได้”

ทุกคนตอบรับ

แมวสีดำอยู่บนร่มหลากสีสัน มองหน้าหลังในความว่างเปล่า ยื่นอุ้งเท้าออกไป ชี้ไปที่ทางหนึ่งแล้วกล่าวว่า “เหมียว!”

“ไปทางนี้” จางหยิงห่าวกล่า

ทุกคนเหาะไปตามทาง มุ่งสู่ด้านบนของวังวนความว่างเปล่า

หลังจากผ่านไปหลายสิบนาที

‘เหมียวๆ’ แมวกระซิบ

จางหยิงห่าวแปล “มันบอกว่ามาถึงแล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะเข้าไปยังไง”

“รอเดี๋ยวนะ” กู่ฉิงซานก้าวมาข้างหน้า ยกมือขึ้นแล้วแนบไปตรงหน้าความว่างเปล่าช้าๆ

แหวนสีทองส่องแสง

กู่ฉิงซานหลับตาลงแล้วเริ่มรับข้อความจากแหวน

เหล่าต้าก้าวมาข้างหน้า ดึงตรีศูลสีดำที่อยู่ข้างหลังออกมาถือไว้ในมือขณะมองรอบข้างอย่างระวัง

ไม่ช้า

กู่ฉิงซานลืมตาขึ้นแล้วกล่าวว่า “ข้ารู้วิธีล่ะ ที่นี่ต้องใช้วิชาพิเศษ”

ขณะเผชิญหน้ากับความว่างเปล่า เขาเริ่มท่องคาถาหนึ่งด้วยเสียงต่ำ

ความว่างเปล่าถอยออกมาทั้งสองฝั่ง

ทางเดินหินลึกทรุดโทรมที่เต็มไปด้วยฝุ่นและมอสเขียวปรากฏตรงหน้าทุกคน

“นี่คือร่างของหุบเหวหรือเปล่า” กู่ฉิงซานถามเสียงต่ำ

“ใช่ นี่คือทางเดินที่เกิดจากร่างหุบเหว” เหล่าต้าตอบอย่างมีอารมณ์ “เทพเหล่านี้มีทางผนึกสิ่งต่างๆ จริงด้วย เจ้าพวกนี้ซ่อนเก่งเหลือเกิน”

“ไปกันเถอะ”

ทุกคนเหาะไปตามทาง

ความว่างเปล่าปิดไล่หลังช้าๆ

ไม่มีใครสามารถพบทางเดินลับไม่สำคัญนี้จากวังวนความว่างเปล่าอันกว้างใหญ่ไพศาลได้

‘ติ๋ง’

‘ติ๋ง’

นอกจากเสียงน้ำหยดอย่างแผ่วเบาแล้ว มีเพียงความเงียบในทางเดินดังกล่าว

อากาศที่อยู่ในนี้มายาวนานปกคลุมทั่วพื้นที่ ทำให้ทุกคนต้องกลั้นหายใจ

กู่ฉิงซานปล่อยจิตเทพเพื่อมองเข้าไปยังส่วนลึกของทางเดินลับ

ระหว่างทาง ไม่มีสิ่งของใดๆ

มีเพียงปลายทางเดินลับเท่านั้นที่มีโลงศพหินถูกห้อมล้อมด้วยเถาวัลย์สีเขียว

กู่ฉิงซานหยุดขณะลูบแหวนในมือ

แหวนไม่ตอบสนอง

ดูท่าแหวนจะตรวจไม่เจอข้อความใหม่ที่นี่

“ไปกันเถอะ” จางหยิงห่าวกล่าว

“เดี๋ยวก่อน”

เย่เฟยหลีพลันห้ามทุกคนไว้

“มีอะไรหรือ” เหล่าต้าถาม

“อืม… ข้าได้ยินเสียงร้องตรงสุดทางเดินลับนี้แหละ” เย่เฟยหลีตอบ

“สุดทางเดินลับงั้นหรือ มีโลงศพอยู่ที่นั่นจริงๆ แต่ข้าไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยนะ” กู่ฉิงซานกล่าว

ทุกคนมองหน้ากัน

“เจ้าได้ยินหรือเปล่า”

“ไม่ แล้วเจ้าล่ะ”

“ไม่เหมือนกัน”

“ดูท่าจะมีแค่เย่เฟยหลีที่ได้ยินนะ”

“แบบนี้…”

ทุกคนค่อยๆ เข้าใจ

เห็นได้ชัดว่า…

เย่เฟยหลีได้ยินเสียงภูตผีกำลังร้อง

ที่นี่ถูกปิดตายมาเกือบหนึ่งร้อยล้านปี

ภูตผีที่กำลังร้องอยู่นั้นเป็นตัวตนแบบไหนกัน

ลอร่าหดตัว ถือร่มหลากสีสันด้วยมือข้างหนึ่ง มืออีกข้างจับเสื้อแจ็กเก็ตของกู่ฉิงซานไว้

“กู่ฉิงซาน ข้ากลัวนิดหน่อยน่ะ…” นางกระซิบ

“ไม่ต้องห่วง พวกเรามีกันหลายคน ไม่ต้องกลัวไปนะ” กู่ฉิงซานปลอบนาง

จางหยิงห่าวครุ่นคิดสักพัก ทันใดนั้นก็หยิบไพ่ออกมา

เชาโยนไพ่ออกไป

ไพ่กลายเป็นกลุ่มหมอกสีขาวทันที

เสือสีเทาปรากฏต่อหน้าทุกคน

เสือลืมตาสีเขียวอ่อนขึ้นขณะมองหน้าหลังในทางเดินลับอันมืดมิด

“หืม จางหยิงห่าว เจ้าอยู่ไหนน่ะ” เสือกระซิบ

ในความว่างเปล่า เสียงของจางหยิงห่าวดังขึ้น

“ข้าอยู่นี่”

เสือเดินไปตามความว่างเปล่าก่อนถามว่า “เจ้าเรียกข้ามาจะให้ทำอะไร”

“มีภูตผีโดดเดี่ยวอยู่ข้างหน้า เจ้าช่วยไปดูทีว่ามันมีความสามารถแค่ไหน”

“ได้ แต่ที่นี่ทำให้ข้ารู้สึกแย่มาก หลังจากใช้ความสามารถแล้ว ข้าจะไปทันที”

“ตกลง เจ้าไปได้แล้ว”

เสือสีเทาได้ยินดังนั้นจึงพยักหน้าด้วยความโล่งอก

มันหันหลัง จ้องไปยังทางเดินลับลึกด้วยดวงตาสีเขียวก่อนตะโกนเสียงต่ำว่า “เจ้าภูตผี!”

ทันใดนั้น ซากศพในชุดคลุมขาดวิ่นปรากฏขึ้นทั้งสองฝั่งของเสือ

ศพหนึ่งถือมีดหลังกว้างเอาไว้

อีกศพถือค้อนหนัก

“ที่ปลายทาง ฆ่าสิ่งที่เห็น” เสือสั่ง

เมื่อซากศพทั้งสองได้รับคำสั่ง พวกมันเดินโซเซไปยังปลายทางเดินลับ

เสือพยักหน้าเล็กน้อยไปทางจางหยิงห่าวก่อนกลายเป็นควันสีขาวแล้วหายไปจากทางเดินลับ

ไม่นานนัก

สองร่างมาถึงปลายทางเดิน

พวกมันยืนอยู่หน้าโลงศพขาดใหญ่ ยกอาวุธขึ้นเพื่อเตรียมจะโจมตี

เถาวัลย์ที่พันรอบโลงศพพลันกระตุก

ภาพติดตาสีเขียววูบไหว

สองร่างหายไปอย่างไร้ร่องรอย

อาวุธตกลงบนพื้นก่อนถูกเถาวัลย์พันเอาไว้ ราวกับน้ำแข็งที่อยู่ภายใต้แสงอาทิตย์ร้อนแรง พวกมันละลายอย่างรวดเร็วก่อนหายไป

ทุกสิ่งเกิดขึ้นเพียงแค่ไม่กี่อึดใจ

ทุกสิ่งคล้ายกับไม่เคยเกิดขึ้น เพราะร่องรอยทั้งหมดของซากศพทั้งสอง รวมถึงอาวุธได้หายไปสิ้น

“เป็นปัญหานิดหน่อยแล้วสิ” เหล่าต้ากล่าวขณะมองฉากที่เผยในหนังสือแห่งชะตากรรม

“นั่นสิ เป็นปัญหาจริงๆ นั่นแหละ” กู่ฉิงซานเห็นด้วย

พวกเขาเห็นชัดเจนว่าเมื่อครู่เถาวัลย์สามารถกินซากศพทั้งสองได้ในพริบตา แม้แต่อาวุธก็ไม่เว้น

ในหมื่นโลก ผู้ที่กินทุกสิ่งได้นั้นหายาก แต่ทันทีที่ปรากฏตัว ปกติแล้วมันจะกินโลกก่อน

สัตว์ประหลาดแบบนั้นช่างน่ากลัวนัก

พวกเขาทั้งสองกำลังครุ่นคิด แต่ทันใดนั้นก็พบว่ามีการเคลื่อนไหวใหม่ที่ปลายทางเดินลับ

โครงกระดูกสองร่างปราฏตรงหน้าโลงศพ

พวกมันหันมาก่อนเดินมาหาทุกคน

“ไม่เพียงแค่สามารถกินอีกฝ่ายได้เท่านั้น แต่ยังสามารถสั่งการอีกฝ่ายด้วยตัวเองได้อีกด้วย” กู่ฉิงซานกล่าว

“ใช่ แบบนี้ยิ่งเป็นปัญหาเข้าไปใหญ่ เพราะเจ้าไม่รู้ว่ามันกินอะไรเข้าไป” เหล่าต้าขมวดคิ้วเช่นกัน

“เกรงว่ามันจะกินซากศพของเทพเข้าไป” กู่ฉิงซานกล่าว

ทั้งสองเงียบสักพัก

โครงกระดูกเดินอยู่ในเส้นทางลึกอย่างช้าๆ

พวกมันมองรอบข้างขณะดูทุกสิ่งในเส้นทางลับ

เห็นได้ชัดว่าสัตว์ประหลาดปล่อยให้พวกมันตรวจสอบสถานการณ์ในเส้นทางลับ

“จะทำเช่นไรต่อ ตัดสินใจเร็ว” จางหยิงห่าวกล่าว

กู่ฉิงซานนิ่งไปสักพัก

“เหล่าต้า เจ้าใช้เวลาเท่าไหร่ในการส่งที่นี่ไปให้หุบเหว” เขาถาม

“ราวสิบวินาที ทำไมหรือ” เหล่าต้าถาม

“งั้นเริ่มเลย” กู่ฉิงซานกล่าว

เหล่าต้าประหลาดใจก่อนพลันตอบสนอง

ใช่แล้ว

สัตว์ประหลาดไม่สามารถมองเห็นหรือตามหาคนอย่างเขาได้

นั่นได้รับการพิสูจน์ด้วยการส่งโครงกระดูกสองร่างมาสังเกตสถานการณ์

ตามสัญญา คนเหล่านี้ไม่สามารถเอาสมบัติในซากปรักหักพังได้

ดังนั้น

ทำไมต้องสู้ด้วยล่ะ

ฉะนั้นจึงเป็นไปได้ที่ต้องอุทิศเส้นทางลับนี้ให้หุบเหวนิรันดร์

ส่วนสัตว์ประหลาด

มีเพียงสิ่งเดียวที่สามารถทำได้ นั่นก็คือตามหารังใหม่ในวังวนความว่างเปล่า

“แต่ข้าต้องการมากกว่าสิบวินาทีเผื่อสัตว์ประหลาดเปิดฉากโจมตีแทรกเข้ามา” เหล่าต้ากล่าว

กู่ฉิงซานชักดาบออกมาแล้วกล่าวว่า “เชื่อมือข้าได้เลย”

พลังวิญญาณหนึ่งล้านแต้ม

ไม่ว่าการโจมตีของอีกฝ่ายจะเป็นอะไรก็น่าจะต้านไว้ได้นานกว่าสิบวินาที

เหล่าต้าคุกเข่าข้างหนึ่งลงกับพื้นทันที วางมือลงกับพื้นแล้วตะโกนว่า “เจตจำนงจงมา!”

‘ตูม’

ทั่วเส้นทางลับเกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรง

โครงกระดูกสองร่างสัมผัสถึงสถานการณ์นี้ได้ก่อนเร่งความเร็วการตรวจจับทันที

พวกมันพุ่งข้ามทางเดินลับ

กู่ฉิงซานประเมินอย่างเงียบงัน

ใช้เวลาเจ็ดถึงแปดวินาทีก่อนพวกมันจะมาถึงที่นี่

แค่รอ

เขาลดดาบขณะรอเงียบๆ

เจ็ดวินาทีต่อมา

โครงกระดูกสองร่างปรากฏขึ้นจากทางเดินลับอันมืดมิด

ตอนนี้ เหล่าต้ากำลังวางมือบนพื้นเพื่อเรียกหาเจตจำนงหุบเหว

“ไม่ต้องทำอะไร ข้าจะรออีกสักพัก”

กู่ฉิงซานมองตรงไปยังอีกฝ่าย

เขามองโครงกระดูกอย่างเงียบงันจนกระทั่งพวกมันมาถึงที่ที่ห่างจากทุกคนเพียงครึ่งเมตร

กู่ฉิงซานชูดาบยาวก่อนตวัดออกไปอย่างแผ่วเบา

โครงกระดูกสองร่างถูกดาบพิภพลบล้างทันที

ทันใดนั้น โลงศพที่อยู่ปลายทางเดินลับพลันปล่อยเถาวัลย์สีเขียวนับไม่ถ้วนออกมาปกคลุมทั่วทางเดินก่อนโจมตีไปทางพวกกู่ฉิงซานด้วยความเร็วที่มากยิ่งกว่าโครงกระดูก

สามวินาที

กู่ฉิงซานยังคงเงียบ

เพียงแค่สามวินาที อีกฝ่ายจะมาถึงที่นี่

เขาชูดาบพิภพเป็นแนวราบตรงหน้าอกก่อนกระซิบว่า “พวกเราลุยด้วยกัน”

“ได้” ดาบพิภพตอบ

กู่ฉิงซานพลันกระตุ้นดาบพิภพ

วิชาดาบลับ กระแสพลัง!

ดาบพิภพ การตัดสินใจของพิภพ!

ประกายดาบวิญญาณอสนีบาตเจิดจ้าพุ่งเข้าไปในทางเดินราวกับน้ำท่วม เป้าหมายคือปลายทางเดินลับ

ประกายดาบพุ่งเข้าใส่

เถาวัลย์บิดเบี้ยวไม่มีสิ้นสุด

พวกมันปะทะกันซึ่งๆ หน้ากลางทางเดินลับ

‘ตูม’

ร่างของเถาวัลย์ค่อยๆ หายไปในแสงเจิดจ้าของประกายดาบ

ประกายดาบพุ่งไปข้างหน้าจนกระทั่งมาถึงปลายทางเดินลับก่อนหายไปตรงหน้าโลงศพขนาดใหญ่

เย่เฟยหลีพลันปิดหู

“มันกำลังกรีดร้องอย่างเกรี้ยวกราด มันกำลังจะโจมตีสุดกำลังแล้ว” เย่เฟยหลีเตือน

“ไม่ว่าจะเป็นอะไร แต่มันจบสิ้นแล้ว”

กู่ฉิงซานกล่าวขณะวางดาบพิภพ

เหล่าต้าคลายมือออกจากพื้นแล้วกล่าวว่า “ใช่ ไม่จำเป็นต้องสู้จนตัวตายหรอก เสร็จแล้วล่ะ”

ทันทีที่สิ้นเสียง ทางเดินลับทั้งหมดหายไปทันทีโดยไม่มีใครรู้ตัว

ทุกคนปรากฏตัวในวังวนความว่างเปล่า

ลอร่ากางร่มหลากสีสันก่อนให้ทุกคนเดินมาอยู่ข้างใน โลงศพที่ถูกเถาวัลย์พันเอาไว้ตกลงไปที่ใต้วังวนความว่างเปล่า

“ดูหนักอยู่นะ” จางหยิงห่าวกล่าว

“หวังว่ามันจะหาบ้านใหม่ได้” เย่เฟยหลีกล่าว

ตอนนี้ หนังสือแห่งชะตากรรมของเหล่าต้าพลันพุ่งออกมาเองก่อนพลิกไปหน้าหนึ่งอย่างรวดเร็ว

“เกิดอะไรขึ้น” กู่ฉิงซานถาม

“ไม่ใช่ข้า เป็นเจตจำนงหุบเหว ดูท่ามันจะมีบางสิ่งบอกพวกเรา” เหล่าต้าตอบ

ทุกคนมองหนังสือแห่งชะตากรรมพร้อมกัน

พวกเขาเห็นรูปลักษณ์ของแอนนาและหลินปรากฏบนหน้าหนังสือ

…………………………