webnovel

0541 จุดจบ

ตอนที่ 541 จุดจบ!

ณ กรมบังคับกฎ

การสนทนาระหว่างศิษย์อาจารย์ยังคงดำเนินต่อไป

“อาจารย์ ผู้หญิงที่เป็นคนช่วยหนูไว้เมื่อครู่ ได้มอบใบไม้ให้กับหนู แล้วจู่ๆ มันก็เกิดการทำงานขึ้น ผลักดันให้หนูสามารถตัดผ่านขอบเขตเดิมของตัวเองได้”

 “งั้นเหรอ แต่มันก็เป็นเรื่องปกติที่เธอจะทำแบบนั้นกับเจ้า”

 “แท้จริงแล้วเธอเป็นใครกันแน่คะอาจารย์”

 “ครั้งหนึ่ง...เอ่อ ถ้าจะให้เรียกก็คงจะเป็นสหายล่ะมั้ง”

ซูเซี่ยเอ๋อแสดงท่าทีไม่อยากจะเชื่อ

“ก็ได้ๆ ข้ายอมรับว่าเธอกับข้าเคยเกินเลย ไปไกลกว่าคำว่าสหาย” จอมมารทะเลเลือดกล่าวด้วยรอยยิ้มราวกับว่าได้ตกลงสู่ห้วงความทรงจำในครั้งอดีต

“ในตอนที่ข้ายังเยาว์ ข้าได้เดินทางออกจากเกาะหมอก พเนจรไปยังดินแดนชิงอำนาจ หมายจะเห็นโลกกว้าง”

 “จากนั้น ข้าก็ได้พบกับเธอ”

“ผู้หญิงคนเมื่อครู่นี้น่ะเหรอคะ?”

“ใช่ พวกเราสนิทกันมาก วันคืนเหล่านั้นช่างแสนสุข แต่ละคนต่างก็รู้สึกดีต่อกันและกัน”

 “แต่ตอนนี้เธอดูเหมือนว่าจะโกรธมาก”

“ตอนแรกข้าไม่รู้ถึงสถานะที่แท้จริงของเธอ ไม่ชัดเจนว่าเธอมีอำนาจอันน่าอัศจรรย์ใจเพียงใด ดังนั้นครั้งหนึ่งข้าจึงเคยพลั้งเผลอไปคาดการณ์โชคชะตาของเธอโดยพลการ และสัมผัสได้ว่าเธอกำลังตกอยู่ในอันตราย” จอมมารทะเลเลือดฝืนยิ้มอย่างขมขื่น 

เขาเยาะหยันตนเองและกล่าว “ในช่วงเวลานั้น ข้าก็ได้ทำแบบเดียวกันกับเจ้า”

ซูเซี่ยเอ๋อ “แล้วเธอก็โกรธมากกับการตัดสินใจของอาจารย์งั้นเหรอ?”

“ใช่ เมื่อเธอค้นพบความจริง เธอก็ทิ้งข้าไปทันที โดยไม่ให้โอกาสข้าได้อธิบายอีกเลย”

“ผ่านพ้นมานานกว่าหนึ่งหมื่นปี เธอก็ยังไม่เคยที่จะให้อภัยข้า สำหรับการกระทำที่ข้าคิดว่ามันถูกต้องในตอนนั้นเลย”

ซูเซี่ยเอ๋อเงียบไปครู่หนึ่งจึงกล่าว “แต่หนูทนไม่ได้ที่จะต้องเห็นฉิงซานตาย หนูค่อนข้างคิดว่าตัวเอง…”

ทันใดนั้นเธอก็เริ่มวิตกกังวลทันที “อาจารย์ หนูร้องขอให้ท่านช่วยเหลือเขาจะได้ไหม?” 

จอมมารทะเลเลือดเฝ้ามองซูเซี่ยเอ๋อ แล้วถอนหายใจออกมา “เด็กโง่...”

เขาครุ่นคิดอยู่สักพักหนึ่ง สุดท้ายจึงเอ่ยปาก “จงนำไพ่สามใบนั้นออกมา”

ซูเซี่ยเอ๋อลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็จั่วไปในความว่างเปล่าสามครั้ง

และทันใดนั้นไพ่ทั้งสามใบก็ปรากฏออกมา

ของขวัญจุมพิตจากแม่มด คำสาบานของพันธนาการ และจอมมารคุ้มภัย

เนื่องจากพวกมันได้ถูกทำลายลง ดังนั้นแสงที่ปรากฏออกมาบนไพ่ทั้งสามใบจึงดูริบหรี่มาก

จอมมารทะเลเลือดรับไพ่ทั้งสามใบมา ปากอ้าขยับร่ายคาถาอย่างเงียบๆ

เอ่ยพึมพำอยู่กว่ายี่สิบลมหายใจ ก่อนที่จะปล่อยไพ่ทั้งสามลอยไปในอากาศ

แล้วไพ่ใบใหม่ก็ปรากฏขึ้นในมือของจอมมารทะเลเลือด

บนไพ่ใบนี้ ไม่มีสิ่งใดอยู่เลยนอกจากห่วงโซ่เส้นใหญ่

“เจ้ารู้ไหมว่าข้าเคยมีสหายมากมาย แต่สุดท้าย ภายหลังพวกเขาก็ไม่มีใครยอมติดต่อกับข้าอีกเลย” จอมมารทะเลเลือดกล่าว

“ทำไมกัน?” ซูเซี่ยเอ๋อเอ่ยถาม

“เพราะในทุกๆ ครั้งที่เราออกไปสู้รบ ข้ามักจะจัดการทุกอย่างได้อย่างถูกต้องไว้ล่วงหน้าเสมอๆ”

“ถ้าเป็นแบบนั้น ทุกคนก็สมควรที่จะชอบท่านอาจารย์สิ”

 “ไม่ใช่หรอก ส่วนเหตุผลน่ะหรือ นั่นเป็นเพราะข้าได้กำจัดศัตรูทั้งหมดล่วงหน้าจนสิ้น และคอยเฝ้ารอสหายที่กำลังไล่ตามมาด้วยความกระตือรือร้นจนทัน เมื่อพวกเขามาถึง ก็จะเห็นข้าที่กำลังยืนถือแก้วไวน์ ดื่มกินท่ามกลางกองซากศพ พอมองย้อนนึกไปถึงสีหน้าของพวกเขาในตอนนั้นแล้ว อืม มันช่างน่ารื่นรมย์เสียจริงๆ”

“อาจารย์ ท่านทำแบบนั้น…ก็คงจะแน่อยู่แล้วที่ไม่มีใครจะมาติดต่อกับท่านอีก”

“ฉะนั้นก็จงเรียนรู้จากความผิดของผู้อื่นซะ แม้ตัวเจ้าจะโดดเด่น แต่ในยามที่ไม่ว่าจะเพื่อนหรือแฟนกำลังต่อสู้ เจ้าก็ต้องรู้นิสัยพวกเขา เข้าใจถึงทัศนคติของพวกเขาในฐานะมิตรแท้ เจ้าไม่สามารถกระทำแบบเดียวกันกับข้าได้…อืม แบบนี้มันเรียกว่าอะไรนะ?”

 “จิตวิปริต?”

“ไม่ๆ ฟังดูร้ายแรงจัง ขอเป็นสำนวนจะได้หรือไม่?”

“ทำตนคล้ายกับกระเรียนในฝูงไก่”

“ใช่ คำนี้แหละสมบูรณ์แบบไปเลย”

จอมมารทะเลเลือดดีดนิ้วจนเกิดเสียง ‘เป๊าะ’

แล้วไพ่ใบที่มีห่วงโซ่เส้นใหญ่ก็สาดกลุ่มแสงออกมา เข้าปกคลุมไพ่ของขวัญจุมพิตจากแม่มด คำสาบานของพันธนาการ และจอมมารคุ้มภัย

“นี่คือภาพลวงตาติดตาม เป็นทริคเล็กๆ น้อยๆ แต่มันต้องใช้พลังระดับข้าในปัจจุบันเท่านั้น ถึงจะสามารถใช้เทคนิคนี้ได้ มันสามารถช่วยแสดงภาพลวงตาติดตามของผู้ที่เคยเอาชนะไพ่ของเจ้า และแสดงสถานการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ว่าคนคนนั้นกำลังทำอะไรอยู่กันแน่” จอมมารทะเลเลือดอธิบาย

เห็นแค่เพียงในแสงและเงา ร่างของกู่ฉิงซานปรากฏขึ้น

เขาอยู่ท่ามกลางพายุหิมะ

ซึ่งเป็นโลกสมบัติของทริสเต้

ในโลกที่มีผู้เข้าสู่วิถีมารกว่าร้อยล้านคน

เชื้อไฟกำลังส่งยอดฝีมือออกมา เพื่อต้องการที่จะฆ่ากู่ฉิงซาน

ในหัวใจของซูเซี่ยเอ๋อหนักอึ้งขึ้นทันใด

“ท่านอาจารย์ ตอนนี้เขาตกอยู่ในอันตรายมากไหม”

“อย่าถามข้า เทคนิคมนตรานี้ของข้าทำได้เพียงแอบสอดแนมเขาเท่านั้น มิอาจทำอื่นใดได้อีก”

“งั้นพวกเราจะไปอัลเบอัสกันในตอนนี้…”

“ไม่ แบบนั้นไม่ดีหรอก เพราะเทสส์คงกำลังวุ่นเกี่ยวกับการตระเตรียมการต่อสู้เป็นแน่ พวกเราไม่สามารถไปได้ เพราะมันจะเป็นการทำให้ศัตรูไหวตัวทัน”

 “ถ้าอย่างงั้นพวกเรา”

“เราจะอยู่ที่นี่ และไม่ไปไหนทั้งนั้น”

จอมมารทะเลเลือดกล่าวอย่างจริงจัง “เซี่ยเอ๋อ เจ้ายังไม่ทราบเลยมิใช่หรือ ว่าเขาสามารถทำลายทั้งสามเทคนิคไพ่ของเจ้าได้อย่างไร?”

 “ถ้าอย่างงั้นเจ้าก็คอยเฝ้าดู แล้วทำความเข้าใจเกี่ยวกับตัวเขาให้มากขึ้นซะก่อนเถอะ ไม่อย่างนั้นแล้วเจ้าจะร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่กับเขาได้อย่างไร?”

ซูเซี่ยเอ๋อพอได้ฟังก็ชะงักไป

ปากที่กำลังโต้เถียงค่อยๆ หุบลง คู่ดวงตางดงามค่อยๆ เบนมองไปยังแสงและเงา ตกลงบนร่างของกู่ฉิงซานและไม่ละจากไปอีกเลย

อีกด้านหนึ่ง

กู่ฉิงซานกำลังขี่ปีกแห่งดินแดนชำระล้าง ควบไปตามผืนน้ำแข็ง

ทว่าทันใดนั้นเอง จู่ๆ ก็ปรากฏร่างเงาขึ้นในอากาศที่ว่างเปล่า และมันก็เอื้อมมือไปกดลงเบาๆ เบื้องหลังปีกแห่งแดนชำระล้าง

และทั้งคนวิหคและม้าก็หายวับไปพร้อมกัน

พวกเขาปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ท่ามกลางจักรวาลอันมืดมิด ทว่าเต็มไปด้วยดวงดาราบนฟากฟ้า

“เพื่อหลีกเลี่ยงการค้นพบ พวกเราเลยต้องเว้นระยะจากมันไปชั่วคราว แต่ขอบอกก่อนว่าสถานที่แห่งนี้สามารถอยู่ได้หนึ่งนาทีเท่านั้น ดังนั้นพวกเรามาทำให้เรื่องยาว มันสั้นกระชับกันจะดีกว่า” เลดี้เทสส์กล่าวอย่างรวดเร็ว

“เจ้าหนูสมาคมกำปั้นเหล็ก” เธอหันไปกล่าวกับกู่ฉิงซาน “แฟนของเจ้าได้ทำสิ่งที่โง่เง่านัก หากไม่ใช่เพราะเราออกหน้าลงมือปกป้องแล้วล่ะก็ เธอคงตายลงเพื่อเจ้าไปแล้ว ดังนั้นตอนนี้โชคชะตาจึงหวนกลับคืน…เจ้าจะกล้ากลับไปรับโชคชะตาอันตรายแทนที่เธอหรือไม่?”

“ขอน้อมรับด้วยความยินดี” กู่ฉิงซานประสานกำปั้นไปทางอีกฝ่ายและกล่าว “โชคดีจริงๆ ที่ท่านลงมือ ตอนนี้ผมติดหนี้ท่านแล้ว”

“นี่เจ้าไม่หวาดเกรงว่าจะพบเผชิญกับชะตากรรมอันเลวร้ายหรือ?”

“หากว่ากันตามปกติแล้ว มันต่างหากที่สมควรจะกลัวผม”

“ยอดเยี่ยม ประโยคนี้ช่างเหมาะสมกับชายชาตรีโดยแท้”

เทสส์พยักหน้า และมองดูกู่ฉิงซานด้วยความพึงพอใจมากขึ้น

“ว่าแต่แฟนของผมไปอยู่ที่ไหนแล้ว?”

“เราได้พาเธอไปมอบให้แก่อาจารย์ของเธอแล้ว จงวางใจเถอะ แม้ว่าอาจารย์ของเธอจะโง่ แต่ความแข็งแกร่งของเขาไม่เลวร้ายเลย”

ภายนอกแสงและเงา จอมมารทะเลเลือดเผลอบีบแก้วไวน์ในมือจนแตก เขาสะบัดๆ มือ แล้วเปลี่ยนแก้วใหม่

ในหัวใจของกู่ฉิงซานจึงค่อยผ่อนคลายลงชั่วคราว

แล้วสายตาของเทสส์ก็หันไปมองลอร่า

“เรายังสามารถอยู่ต่อได้อีกเพียงไม่กี่สิบวินาทีสุดท้าย ลอร่า เจ้าไม่มีอะไรจะบอกเราเลยงั้นหรือ?”

“ป้าเทสส์!”

ลอร่าวิ่งเข้าไปจับมือของเทสส์ น้ำใสๆ ไหลรินจากสองตา ขณะที่ปากอ้าขยับบอกเล่าเรื่องราวทุกอย่างรวดเร็ว

เลดี้เทสส์รับฟังอย่างตั้งใจ และพยักหน้าเล็กน้อยเป็นครั้งคราว

ในที่สุดเธอก็ถอนหายใจและกล่าว “สงครามคงกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้วสินะ”

เทสส์มองไปยังกู่ฉิงซานและกล่าวต่อ “นี่เป็นเพียงร่างเงาที่แทรกแซงเข้ามา ดังนั้นเราจึงไม่สามารถพาลอร่ากลับไปได้ ยิ่งไปกว่านั้นหากอยู่ที่อัลเบอัส  ทริสเต้คงจะสามารถค้นพบตำแหน่งของเธอได้ง่ายดายกว่าที่นี่อย่างแน่นอน”

“ในกรณีนั้น ทริสเต้ก็จะสามารถถอดรหัสผนึกประทับเทคนิคมนตราจากตัวลอร่าได้ในทันที”

“เมื่อทริสเต้สามารถเชื่อมต่อกับโลกของตัวเองได้แล้ว เธอก็จะเปิดมัน และเริ่มแพร่เกมหมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออกไปตลอดทั่วทั้งอัลเบอัส”

“ผมเข้าใจแล้ว ตอนนี้กุญแจสำคัญทั้งหมด อยู่ที่ตัวลอร่า” กู่ฉิงซานกล่าว

“ใช่” เลดี้เทสส์กล่าว “ลอร่าจะต้องไม่ปรากฏตัวขึ้นชั่วคราว มิฉะนั้นแล้วเผ่ามารนับล้านๆ ที่ซุ่มซ่อนอยู่ในมุมมืด ก็จะลงมือปฏิวัติ เข้ายึดครองอัลเบอัสโดยตรง แล้วสงครามของตลอดทั้งโลกเก้าร้อยล้านชั้นก็จะเริ่มต้นขึ้นทันที”

“ดังนั้นพวกเราก็จะไม่ออกไปภายนอกชั่วคราว เพื่อให้แน่ใจว่าทริสเต้จะไม่สามารถค้นพบโลกใบนี้ได้” กู่ฉิงซานกล่าว

เทสส์พยักหน้าเล็กน้อย และเอ่ยถามอีกครั้ง “ลอร่าบอกว่าเจ้าสาบานว่าจะช่วยชีวิตเธอให้ได้ใช่ไหม?”

 “ใช่”

“ดีมาก สมกับที่เป็นสมาชิกของสมาคมกำปั้นเหล็กจริงๆ” เทสส์กล่าวด้วยความพึงพอใจ

“เอาล่ะ ถึงเวลาที่ข้าจะต้องรีบกลับไปเพื่อเตรียมตัวรับมือกับสงครามแล้ว แล้วเจ้าเล่า? พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับโชคชะตาดั้งเดิมของตนเองแล้วหรือยัง?”

กล่าวจบ เธอก็หายไปจากสถานที่เดิม

บังเกิดอาการพร่ามัวขึ้นเบื้องหน้าของกู่ฉิงซาน 

รู้สึกตัวอีกที เขาก็ค้นพบว่าตนเองได้กลับมายังโลกของทริสเต้อีกครั้งแล้ว

อย่างไรก็ตาม สถานที่ที่ถูกส่งกลับมา มันดันเป็นอีกจุดหนึ่ง

บริเวณโดยรอบรายล้อมไปด้วยหมอกน้ำแข็งเย็นฉ่ำ

เมื่อจิตสัมผัสเทวะถูกปลดปล่อยออกไป แทบจะในทันทีก็พบว่าไม่ใกล้ไม่ไกล หลายสิบคนกำลังจัดกระบวนทัพป้องกันอย่างแน่นหนา คล้ายกำลังรอรับมือกับอะไรบางอย่างอยู่

บริเวณโดยรอบฟุ้งไปด้วยไอน้ำจำนวนมาก ขณะเดียวกันก็มีสามแท่งน้ำแข็งขนาดใหญ่กำลังลอยล่องอยู่บนท้องฟ้า

มันคงจะเกิดจากกระแสธารอันเชี่ยวกราdใต้ผืนน้ำแข็ง ซึ่งถูกดึงดูดขึ้นสู่ท้องฟ้าด้วยพลังอำนาจบางอย่าง

โลกถูกปกคลุมไปด้วยหิมะและน้ำแข็ง ขณะที่ท่ามกลางสถานการณ์ดังกล่าว คล้ายกับทุกสิ่งอย่างถูกแช่แข็งเป็นเวลาหลายปี

กู่ฉิงซานหันไปมองรอบๆ และสามารถเข้าใจทุกสิ่งได้อย่างรวดเร็ว

 สถานที่แห่งนี้คงเป็นจุดที่ ซูเซี่ยเอ๋อเคยยืนอยู่

ขณะที่เธอกำลังจะตาย เธอก็ได้รับการช่วยเหลือจากเลดี้เทสส์อย่างกะทันหัน 

ผู้หญิงคนนั้นได้ทำลายเทคนิคเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของซูเซี่ยเอ๋อ

ดังนั้นตอนนี้ เขาจึงถูกส่งกลับมายังโชคชะตาเดิมของตนอีกครั้ง

กู่ฉิงซานส่ายหัว

ลอร่ามองผ่านหมอกหนาด้วยกล้องส่องทางไกล และเอ่ยว่า “ข้างหน้ามีคนอยู่เยอะเลย”

“ใช่ เชื้อไฟคงส่งพวกเขามาจับกระหม่อม แท้จริงแล้วที่คือสถานการณ์ที่หม่อมฉันจะต้องเผชิญ”

“งั้นตอนนี้พวกเราจะทำอย่างไรดี?” ลอร่าเอ่ยถาม

กู่ฉิงซานกระโดดลงจากหลังม้า หนึ่งมือหยิบหน้ากากเงินขึ้นมาสวมใส่บนใบหน้า 

เอ่ยสั่งด้วยความนึกคิด พริบตานั้นสามดาบพลันปรากฏขึ้นจากในความว่างเปล่า เวียนวนโคจรรอบตัวเขา ลอยล่องท่ามกลางหมอกหนา

“จุดจบของพวกเขา…จะเป็นเช่นเดียวกันกับเชื้อไฟ!”

หนึ่งมือดาบค้ากุมดาบพิภพที่ลอยล่อง สองเท้าย่างกรายข้ามฝ่าหมอกหนาเย็นฉ่ำ มุ่งหาศัตรูเบื้องหน้าไปอย่างเชื่องช้าทีละก้าว ทีละก้าว…

…………………………………..........