webnovel

เงารักในรอยใจ

เรื่องเมื่อสี่ปีก่อนทั้งหมดเป็นเพียงความผิดพลาด จี้อี้ แอบชอบ 'เขา' มาโดยตลอด เธอหวังว่าเขาจะชอบเธอบ้าง แต่หลังจากงานเลี้ยงจบมัธยมปลาย ค่ำคืนที่เธอคิดว่าเป็นคืนสุดแสนโรแมนติกกลับกลายเป็นความเพ้อฝันอันว่างเปล่า ... “ถ้าคืนนั้นฉันไม่เมา เธอคิดหรือว่าฉันจะแตะต้องตัวเธอ” “เพราะงั้นเธอบอกราคามาดีกว่า สรุปแล้วคืนนั้นจะเอาเท่าไหร่ เธอถึงจะยอมแล้วกันไป ทำเหมือนเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น” ... ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน ขณะที่เธอคิดว่าตัวเองสามารถลืมเขาได้แล้ว แต่ทุกครั้งกลับพบว่าในส่วนที่ลึกที่สุดในหัวใจกลับมีเงาของเขาอยู่ตรงนั้นเสมอ

เย่เฟยเย่ · Urban
Not enough ratings
1075 Chs

012

บทที่ 12

คนวุ่นวาย…ปลายนิ้วจี้อี้ที่ถือหนังสืออยู่แข็งเกร็งเล็กน้อย

ทว่าในใจของเธอกลับรู้สึกว่าโชคดีเหลือเกินที่ตอนนี้เธอกำลังจ้องหนังสือ ไม่ได้กำลังคุยกับหลินหย่าจึงไม่ต้องรักษาท่าทางที่แสดงออก เพราะไม่เช่นนั้นแล้วหญิงสาวก็ไม่รู้จริงๆว่าหลังจากที่ได้ยินคำพูดของเฮ่อจี้เฉินแล้ว เธอจะแสดงท่าทีอะไรออกไป เมื่อพูดจบเฮ่อจี้เฉินก็หันหลังแล้วเดินตรงออกไปอย่างไม่แยแส ทิ้งไว้เพียงบรรยากาศน่าอึดอัดและเงียบงัน

หลินหย่ายืนอยู่ที่เดิมอย่างุนงง ดวงตาจ้องมองด้านหลังของเฮ่อจี้เฉินแล้วมองไปที่จี้อี้ ท่าทางอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่กลับไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร

เฮ่อจี้เฉินเดินออกมาได้ระยะหนึ่งจึงเพิ่งสังเกตเห็นว่าหลินหย่าไม่ได้ตามมา จึงพูดว่า " ไปได้แล้ว "

หลินหย่ารู้สึกได้จากน้ำเสียงของชายหนุ่มว่าเขากำลังจะหมดความอดทน เธอเม้มริมฝีปาก พร้อมกับกระซิบบอกจี้อี้ว่า “เสี่ยวอี้ ขอโทษนะ” แล้วรีบเดินออกจากห้องพักปิดประตู พร้อมกับรีบเดินตามหลังเฮ่อจี้เฉินไป

ภายในห้อง เหลือจี้อี้เพียงคนเดียว เธอยังอยู่ในท่าเดิม หญิงสาวจ้องหนังสืออยู่นานด้วยท่าทีสงบนิ่ง ผ่านไปพักหนึ่งก็กระพริบตาเบาๆพร้อมกับยกปลายนิ้วขึ้นพลิกหน้าหนังสือ

สายตาจ้องมองไปที่ตัวหนังสือบนกระดาษตาไม่กระพริบ

-

ที่จี้อี้ปฏิเสธหลินหย่าว่า “คืนนี้มีเรื่องอื่นที่ต้องไปทำ” นั้นไม่ใช่เพียงแค่ข้ออ้าง แต่ว่าคืนนี้เธอมีเรื่องอื่นที่ต้องไปทำจริงๆ ก็ไม่ได้มีอะไรที่สำคัญหรอก พ่อที่ไปคุยธุรกิจที่ฮ่องกงเมื่อวานนี้กลับมาปักกิ่ง แม่จึงโทรมาหาเธอเพื่อเรียกเธอให้กลับไปกินข้าวที่บ้านคืนนี้

ระยะทางจากหอ B ถึงบ้านของจี้อี้ ไม่ไกลมากนัก เดิมทีเธอคิดว่าจะอ่านหนังสือในมือให้จบก่อน แต่ว่าพอเฮ่อจี้เฉินปรากฏตัวก็ทำให้เธอจนหมดอารมณ์ที่จะอ่านหนังสือต่ออีก เธอจึงวางหนังสือลงแล้วออกจากหอพักก่อนเวลาที่ตั้งใจไว้ ตอนที่กลับมาถึงบ้านยังไม่ห้าโมงเย็น พ่อกับแม่น่าจะกำลังออกไปเดินเล่น ภายในบ้านไม่มีคนอยู่ จี้อี้จึงเดินตรงเข้าไปที่ห้องนอนของตนเองทันที

ตอนกลางวันไม่ได้พักผ่อน จึงทำให้เธอรู้สึกง่วงเล็กน้อย จี้อี้ล้มลงบนเตียง ผ่านไปครู่หนึ่งก็ผล็อยหลับไป

จี้อี้ไม่รู้ว่าตัวเองนอนหลับไปนานแค่ไหน ขณะที่สะลึมละลือ เธอได้ยินเสียงคนกำลังคุยกัน หลังจากนั้นเธอก็ตื่นขึ้นมาจากความฝัน

ท้องฟ้านอกหน้าต่างเป็นสีดำ หน้าต่างที่ไม่ได้ปิดพาให้สายลมยามค่ำคืนพัดเข้ามาอย่างเอื่อยๆ พร้อมกับนำเอากลิ่นหอมของดอกกุ้ยฮวาจากใต้ตึกลอยเข้ามาด้วย

ข้างนอกห้องนอน ได้ยินเสียงแว่วของโทรทัศน์ พ่อแม่คงจะกลับมาแล้ว

จี้อี้ลงจากเตียง เธอเดินไปล้างน้ำที่ห้องน้ำก่อนแล้วจึงเปิดประตูเดินออกจากห้องนอน

ภายในห้องรับแขก มีเสียงพูดคุยของพ่อ ครู่หนึ่ง จี้อี้คิดว่าพ่อกำลังคุยโทรศัพท์ จึงไม่ได้คิดอะไรเดินตรงมาข้างล่างทันที

เมื่อมาถึงชั้นหนึ่งจี้อี้ก็ได้ยินเสียงอีกเสียงหนึ่งแต่เพราะเสียงนั้นเบามากจี้อี้ก็จึงฟังไม่ออกว่าเสียงที่ได้ยินนั้นเป็นเสียงของใคร

ในบ้านมีแขกมาเหรอ..จิตใต้สำนักสั่งให้จี้อี้มองไปที่โซฟาโดยไม่รู้ตัว เห็นว่าที่โซฟาทรงยุโรปของเธอมีผู้ชายนั่งอยู่คนหนึ่ง

เขากำลังมองพ่อ เธอจึงเห็นแค่ท้ายทอยของเขา ถึงกระนั้นมองครั้งเดียวเธอก็รู้ว่าเขาคือใคร

จังหวะการก้าวของจี้อี้ ค่อยๆหยุดชะงัก

เฮ่อจี้เฉิน…

เขาไม่ได้ไปงานเลี้ยงกับหลินหย่าหรอกเหรอ? ทำไมเขาถึงมาปรากฏตัวในบ้านของเธอได้?

จี้อี้ยังไม่ทันได้เรียกสติของตนเองกลับคืนมาจากความประหลาดใจ พ่อก็เห็นเธอซะก่อนแล้วส่งเสียงเรียก “เสี่ยวอี้ มาดูสิว่าใครมา?”