webnovel

เงารักในรอยใจ

เรื่องเมื่อสี่ปีก่อนทั้งหมดเป็นเพียงความผิดพลาด จี้อี้ แอบชอบ 'เขา' มาโดยตลอด เธอหวังว่าเขาจะชอบเธอบ้าง แต่หลังจากงานเลี้ยงจบมัธยมปลาย ค่ำคืนที่เธอคิดว่าเป็นคืนสุดแสนโรแมนติกกลับกลายเป็นความเพ้อฝันอันว่างเปล่า ... “ถ้าคืนนั้นฉันไม่เมา เธอคิดหรือว่าฉันจะแตะต้องตัวเธอ” “เพราะงั้นเธอบอกราคามาดีกว่า สรุปแล้วคืนนั้นจะเอาเท่าไหร่ เธอถึงจะยอมแล้วกันไป ทำเหมือนเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น” ... ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน ขณะที่เธอคิดว่าตัวเองสามารถลืมเขาได้แล้ว แต่ทุกครั้งกลับพบว่าในส่วนที่ลึกที่สุดในหัวใจกลับมีเงาของเขาอยู่ตรงนั้นเสมอ

เย่เฟยเย่ · Urban
Not enough ratings
1075 Chs

011

บทที่ 11

“เสี่ยวอี้..เธอกับพี่เฮ่อเคยรู้จักกันมาก่อนมั้ย?”

เฮ่อจี้เฉินหยุดความตั้งใจที่จะเคาะประตูไปชั่วขณะ ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาจึงได้ยินเสียงที่ออกมาจากปากของจี้อี้ เสียงของเธอสงบนิ่ง น้ำเสียงราบเรียบไม่สูงไม่ต่ำ “ ไม่รู้จัก”

……

ภายในหอพัก

น้ำเสียงของหลินหย่าเต็มไปด้วยความเสียดาย “ ฉันก็คิดว่าเธอกับพี่เฮ่อจะรู้จักกัน ฉันอยากรู้จริงๆว่าสมัยม.ปลายเขาจะเป็นยังไง..”

จี้อี้ไม่ได้ตอบเธอ

หลินหย่าพูดต่อ “ แต่ เสี่ยวอี้ พี่เฮ่อออกจะโดดเด่นขนาดนี้ ตอนอยู่ที่โรงเรียนเขาต้องเป็นคนที่ดังมากแน่ๆ สมัยที่เธอเรียนอยู่เธอไม่เคยได้ยินเรื่องอะไรเกี่ยวกับเขาเลยเหรอ?”

ครั้งนี้จี้อี้ ไม่ชะงักไปเหมือนเมื่อครู่ แต่ตอบกลับไปอย่างรวดเร็วว่า “ฉันไม่ได้สนใจเขาขนาดนั้นน่ะ”

“อ้อ อย่างนี้นี้เอง..” หลินหย่าคงพอรู้ ว่าเธอไม่สามารถสืบเรื่องเฮ่อจี้เฉินจากจี้อี้ได้ จึงส่งเสียงงึมงำพร้อมกับปิดปากเงียบ

ในห้องเงียบลงพักหนึ่ง เมื่อหลินหย่าแต่งหน้าเสร็จ ก่อนลุกขึ้นยืนอยู่ๆเธอเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ เธอพูดอีกว่า " เออใช่ เสี่ยวอี้ เมื่อสองวันก่อนพี่เฮ่อโทรมาหาฉัน คืนนี้เพื่อนของเขาจัดงานเลี้ยงกลางแจ้งในสวน ในงานเชิญคนที่อยู่ในวงการภาพยนตร์และโทรทัศน์มาหลายคน เขาบอกว่า พวกเราเรียนภาคการแสดง ถ้าลองไปพบปะกับพวกเขาดู อาจจะมีส่วนช่วยพวกเราได้อนาคต เธออยากไปมั้ย?”

ชีวิตนี้เธอไม่ต้องการข้องเกี่ยวใดๆกับเฮ่อจี้เฉินอีก แล้วแบบนี้เธอจะไปร่วมงานเลี้ยงของเขาได้อย่างไร?

จี้อี้แทบตอบกลับในแทบจะทันที "ไม่.."

หลังจากที่หลุดพูดคำนั้น จี้อี้เพิ่งรู้สึกตัวว่าตนเองหลุดท่าทีที่ไม่สมควรออกไป จึงรีบพูดเสริมว่า "..คืนนี้ฉันมีธุระอื่นที่ต้องทำน่ะ"

หลินหย่าพูด “ ธุระสำคัญมากไหม? ถ้าไม่สำคัญ เธอก็เลื่อนไปก่อนแล้วไปกับฉัน ไม่ง่ายเลยนะที่พวกเราจะได้มีโอกาสเจอกับคนวงในแบบนี้ นี่เป็นโอกาสทองที่หาได้ยากมากเลยนะ ดังนั้นไม่ควรพลาดเป็นอันขาด น่าเสียดายจะตาย”

”ขอบคุณนะหลินหย่า น้ำใจของเธอฉันรับไว้ด้วยใจแล้วกัน แต่ฉัน…” ประโยคหลังจากนี้จี้อี้ยังไม่ทันได้พูด ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น

หลินหย่าอยู่ใกล้ประตูมากกว่า เธอ รีบลุกขึ้นยืนแล้วดึงประตูเปิด เมื่อเห็นเฮ่อจี้เฉินยืนอยู่ตรงประตูทางเข้า ทีแรกเธอตกตะลึง แต่หลังจากนั้นบนใบหน้าเล็กๆนั้นก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม “พี่เฮ่อ ทำไมพี่ขึ้นมารับฉันเองเลยล่ะ?”

เฮ่อจี้เฉินไม่พูด เขาไม่ได้เข้าไปในห้อง แต่ยืนพิงประตูด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง

จี้อี้ได้ยินคำพูดของหลินหย่า จึงรู้ว่าคนที่มาคือเฮ่อจี้เฉิน เธอจ้องหนังสือตาไม่กระพริบแสร้งทำเป็นอ่านหนังสืออย่างเพลิดเพลินจนไม่ทันเห็นผู้ที่มาใหม่และไม่ยอมมองไปที่ประตู

หลินหย่ากลัวว่าเฮ่อจี้เฉินจะอดทนรอไม่ไหว จึงรีบเก็บของอย่างรวดเร็ว แล้วพูดว่า “พี่เฮ่อ พวกเราไปกันเถอะ”

เฮ่อจี้เฉินยังคงไม่พูดจา เขาเพียงแต่พยักหน้าเล็กน้อยแล้วยืดตัวตรง ขณะที่เขาเตรียมจะเดินออกไป หางตาของเขาเหลือบไปเห็นบริเวณที่จี้อี้นั่งอยู่ สายตาของเขายังไม่ได้มองเธอก็ถูกถังขยะบนโต๊ะของเธอดึงดูดความสนใจไปเสียก่อน แม้ว่าเธอจะตั้งใจเอาขยะอื่นมาปิดเอาไว้ แต่เขาก็ยังเห็นชัดว่าภายในถังขยะคือชานม

ฝาปิดแก้วยังอยู่ในสภาพดีไร้ร่องรอยการเปิด คล้ายกับว่ายังไม่ทันได้ดื่มสักคำ ก็โยนทิ้งลงถังขยะเสียแล้ว

หลินหย่าเดินไปที่ประตูได้สองก้าวก็หยุดแล้วหันมามองจี้อี้พร้อมกับพูดว่า “เสี่ยวอี้ เธอไม่ไปกับฉันจริง…”

หลินหย่ายังพูดไม่จบเฮ่อจี้เฉินที่ยืนอยู่หน้าประตูไม่พูดไม่จามาตลอดจนถึงตอนนี้ อยู่ๆก็พูดเสียงเย็นว่า “งานเลี้ยงคืนนี้ไม่ใช่ว่าคนแบบไหนก็สามารถเข้าไปได้ อย่าให้คนวุ่นวายเข้าไปเลย!”