ณ เมืองเดือนประดาว
สะ..สรุปแล้วฉันชื่อเจ้าหญิงหรอนี่!!
"จันทร์เจ้าลูกก แม่เป็นห่วงแทบแย่!" มีหญิงสาวอายุประมาณ 45 ปี รีบเดินเข้ามากอดฉัน
"ข้าขอโทษที่ทำให้ท่านแม่เป็นห่วง" ฉันจึงกอดตอบและตามน้ำไป
"หลังจากที่ท่านพ่อของเจ้าเสียแม่ก็มีเจ้าคนเดียวที่ทำให้แม่อยากมีชีวิตต่อ" อ่าา พ่อตายอีกก มีอะไรให้เซอร์ไพรส์กว่านี้อีกไหม
"ข้าขอโทษจริงๆนะท่านแม่"
"อ้าวนั่น พ่อเกตุ" เหมือนแม่จะเริ่มรู้ตัวว่าไม่ได้อยู่กับลูกสองคน
"กราบสวัสดีครับคุณน้า" สามีฉันไหว้ได้งดงามมาก เอาไปเลย 10 10 10 !!!
"ไหว้พระเถอะนะลูก น้าไม่ได้เห็นตั้งนาน เป็นหนุ่มแล้วนะ สูงกว่าน้าแล้วด้วย"
"ครับ เอ่อ..ที่ผมมาวันนี้นอกจากที่จะมาส่งน้องที่จริงผมก็มีเรื่องที่จะต้องมาคุยกับท่านน้าพอดี"
"มีอะไรหรอลูก เอางี้เชิญพ่อนั่งก่อนดีกว่า เด็กๆรีบไปเอาน้ำเอาท่ามาเสิร์ฟคุณเขาเร็ว" หลังจากที่นั่งแล้ว ดื่มน้ำแล้ว ก็ได้เวลาคุยธุระสักที
"ที่กระผมมาวันนี้สืบเนื่องตั้งแต่วัยเยาว์ที่พ่อกระผมและท่านพ่อของน้องจันทร์เจ้าได้ให้คำมั่นสัญญากันไว้ว่าจะเกี่ยวดองกัน" ห้ะ! อะไรนะ! จริงจังไม่จิงโจ้!!
"เอาจริงน้าก็ไม่ได้อยากบังคับให้ทั้งสองตบแต่งกันโดยที่ไม่ได้รักหรอกนะ แต่ในเมื่อพ่อธุมเกตุเสนอมาแม่ก็ไม่ขัด"
เดี๋ยวๆแม่เลยหรออ เมื่อกี๊ยังเรียกน้าอยู่เลยนะ ไม่บังคับเลยจริงๆ
"เมืองอาคิราของเราเมื่อให้สัตย์กับใครไว้ ย่อมไม่ตระบัดสัตย์อยู่แล้วขอรับ ท่านน้า"
"ในเมื่อจะเกี่ยวดองกันแล้วก็ให้เรียกน้าว่าแม่เถอะ" โอเคเลยค่าา ไม่ค่อยอยากให้แต่งหรอกก จริงๆนะ
"ได้ขอรับท่านแม่" โอเคเลยย
"งั้นลองให้ลูกสาวแม่ไปอยู่ที่เมืองของพ่อธุมเกตุสักอาทิตย์ดีหรือไม่" ขุ่นแม่!!! ใจร้อนดั่งลาวาา
"เอ่ออ งั้นลองถามความเห็นน้องจันทร์เจ้าก่อนดีไหมขอรับ"
พึ่งเห็นฉันนั่งตรงนี้หรออ
"เอ่อคือว่า.. ซี๊ด" แม่หยิกหลังฉันกรี๊ดดดดด
"คืออย่างไรหรือ"
"จันทร์เจ้าตามแม่เลยเจ้าค่ะ" โอ๊ยยย หลังเขียวหมดแล้วมั้งกว่าจะปล่อยได้เนี่ย
"งั้นฝากด้วยนะพ่อธุมเกตุ"
"ขอรับ งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้.."
"ไม่ต้องเลยพ่ออ วันนี้เลยพ่อจะได้ไม่ต้องเทียวไปเทียวมา"
"ได้ขอรับตามนั้นก็ได้ขอรับ"
"นังแจ๋วนังจุ๋มไปเก็บเสื้อผ้าลูกฉันมาเดี๋ยวนี้!" กรี๊ดดดด นี่มันนิทานเรื่องอะไรกันเนี่ยย