webnovel

0550 สถานการณ์ใหม่

ตอนที่ 550 สถานการณ์ใหม่

ภายในวิหารบรรพกาล

กว่าแปดร้อยผู้เข้าสู่วิถีมารปิดล้อมกู่ฉิงซานและลอร่าจากทุกทิศทาง ไม่ยินยอมให้หลบหนี

แต่ขณะที่พวกเขากำลังจะยกอาวุธตนและพุ่งเข้าสังหารนั้นเอง

กู่ฉิงซานก็ตะโกนขึ้นมาอย่างกะทันหัน

“ช้าก่อน!”

เขาไม่สนใจปฏิกิริยาของฝ่ายตรงข้าม ปากอ้าตะโกน “ฉันคือคนจากสมาคมกำปั้นเหล็ก และตัวตนทรงอำนาจอย่างกำปั้นเหล็กแบรี่ก็เป็นเพื่อนกันกับฉัน ตอนนี้เขากำลังต่อสู้เพื่อปกป้องโลกจากภายนอก ถ้าพวกนายคิดว่าฉันโกหกล่ะก็ ลองย้อนกลับไปดูพาดหัวข่าวหน้าหนังสือพิมพ์เมื่อวานได้เลย!”

กว่าแปดร้อยร่างหยุดชะงักไปทันที

แน่นอนว่ามันไม่ใช่เพราะคำกล่าวของกู่ฉิงซาน แต่ที่พวกเขาต้องหยุดมันก็เป็นเพราะ

ในระหว่างที่กู่ฉิงซานขู่ ขณะเดียวกันก็บังเกิดกระแสลมรุนแรงพัดกระพือขึ้น

ค่ายกลดาบไท่หยี!

สามดาบเผยโฉมออกมาพร้อมกันในความว่างเปล่า

ร่างเงาอันไร้ที่สิ้นสุดกระจายตัวออกจากดาบบิน และลอยล่องไปตามสายลม แผ่ขยายไปตลอดทั้งวิหาร

ในเสี้ยววินาที กระแสลมและร่างเงาดาบก็ท่วมทับไปทั่วตัววิหาร

ไม่มีใครสามารถต้านทานสายลมนี้ได้ ไม่มีใครสามารถรอดพ้นจากการถูกปกคลุมไปด้วยแสงและเงาดังกล่าวได้เลย

หลังจากทั้งหมดนี้ ต้องไม่ลืมนะว่านี่คือค่ายกลดาบที่ถูกเสริมแกร่งขึ้นเป็นสองเท่า แถมยังซ้อนทับกันถึงสองครั้ง!

ฝูงชนที่เดิมฟุ้งไปด้วยเจตนาร้ายช่วยไม่ได้จำต้องถอยหลังไป และเตรียมรับมืออยู่ในท่วงท่าป้องกัน

นั่นเพราะทุกคนตระหนักดี 

ว่าค่ายกลดาบนี้ทรงประสิทธิภาพเพียงใด พวกตนจำต้องเตรียมตัวป้องกัน มิฉะนั้นแล้วร่างกายคงแหลกสลาย มิแตกต่างจากอุกกาบาตร่วงตกทับ!

ภายใต้พลังของค่ายกลดาบที่ปะทุออกมา ทว่ายังมิถูกเปิดใช้งานโดยสมบูรณ์ กู่ฉิงซานเร่งกล่าวต่ออย่างรวดเร็ว

“จงสังเกตสาวน้อยบนไหล่ของฉันให้ดีๆ หากมีใครในที่นี้ ที่มีสถานะสูงส่งเขาคนนั้นก็จะรู้ได้ทันทีว่าเธอคือเจ้าหญิงหนาม ลอร่า!”

“พวกเรามาที่นี่ในฐานะตัวแทนของราชวงศ์วิหคหนามเพื่อช่วยเหลือพวกนาย!”

“สิ่งที่พวกเราต้องการจะบอกทุกคนก็คือ พวกนายอาจจะคิดว่าตนเองได้เข้าสู่วิถีมารแล้ว ทว่าแท้จริงนั่นมันเป็นเรื่องหลอกลวง!”

ประโยคเหล่านี้ ข้อมูลและความน่าสงสัยมันเยอะมากเกินไป

แต่เหล่าแปดร้อยผู้เข้าสู่วิถีมารภายในวิหาร ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นอัจฉริยะจากในบรรดานับพันล้านคนที่ถูกคัดเลือกมา ดังนั้นพวกเขาย่อมมิใช่คนโง่

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับค่ายกลดาบอันยิ่งใหญ่ พวกเขาก็จำต้องหยุด และลองคิดทบทวนเกี่ยวกับความหมายของประโยคทั้งสามนี้

“จริงสิ ฉันก็ว่าทำไมถึงรู้สึกคุ้นๆ หน้าเขา พอถูกเตือนก็เลยจำได้แล้ว ตอนที่ฉันอ่านหนังสือพิมพ์ เขาคือคนเดียวกันกับที่ยืนอยู่ข้างๆ แบรี่จริงๆ” บางคนร้องตะโกนขึ้น

“แน่ใจนะว่าเป็นเขา?”

“แน่ใจสิ เรื่องนี้ไม่ผิดพลาดแน่ ๆ ฉันยืนยันได้”

“งั้นก็ไม่น่าแปลกใจเลย ว่าทำไมเขาถึงสามารถครอบครองสิ่งประดิษฐ์เทวะได้ถึงสามชิ้น”

“คนจากสมาคมกำปั้นเหล็ก…ช่างร้ายกาจจริงๆ”

ในระหว่างที่คนเหล่านี้พูดคุยกันถึงเรื่องดังกล่าว ช่วงเวลานั้นเอง บางคนก็อุทานขึ้น “เจ้าหญิงล่อร่า เป็นท่านจริง ๆ งั้นหรือ?”

ลอร่าหันมองไปตามทิศทางของเสียง

“เพียสแห่งดาราจิต? เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?” เธอเอ่ยด้วยความประหลาดใจ

ทันใดนั้นเพียสก็เปลี่ยนภาษาพูดของตนเองอย่างกะทันหันและเล่าว่า “แน่นอนว่ากระหม่อมมาที่นี่เพื่อเข้าร่วมการเรียกขานของวิหคหนาม แต่เป็นฝ่าบาทต่างหาก เหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่ได้?”

“เรามาที่นี่กับกู่ฉิงซาน เพื่อช่วยเหลือพวกเจ้า”

ลอร่าอธิบาย ภายใต้เสียงตะโกนของกู่ฉิงซาน

และเธอก็ตอบกลับไปด้วยภาษาสากลของดาราจิต

ดาราจิตนั้นเป็นอาณาจักรที่แตกฉานในหลากหลายภาษา โดดเด่นในด้านการสรรค์สร้างเทคนิคมนตรา และมักจะใช้เทคนิคมนตราแปลงเป็นภาษาของชนเผ่าเพื่อใช้ในการสื่อสาร

ภาษานี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คุณจะไม่สามารถสื่อสารด้วยภาษาชนเผ่าของพวกเขาได้ เว้นเสียแต่ว่าคุณจะได้รับการอนุญาตจากชาวดาราจิต

และสำหรับเจ้าหญิงหนาม แน่นอนว่าเธอย่อมเป็นแขกผู้ทรงเกียรติของพวกเขา ดังนั้นเธอจึงได้รับอนุญาตให้สื่อสารด้วยภาษาของพวกเขาได้

พอได้ยินถึงสำเนียงภาษาตน เพียสแห่งดาราจิตก็ตกใจ

เขากระโจนออกมาอย่างกะทันหัน และตะโกนต่อหน้าทุกคน “นี่คือเจ้าหญิงหนามตัวจริง! ถ้าพวกนายไม่อยากตาย ก็ขอให้มายืนฝั่งฉัน และหยุดมือซะ!”

บังเกิดความวุ่นวายขึ้นในฝูงชน

หลังจากนั้นอีกไม่กี่คนก็เดินออกมา

ชายตัวเล็กๆ คนหนึ่งน้อมกายคารวะไปทางเจ้าหญิงลอร่าและกล่าว “ปีที่แล้ว กระหม่อมเคยได้เห็นท่านในงานเลี้ยงอาหารค่ำของอาณาจักรดาราจิต และรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่เกือบทำร้ายฝ่าบาทให้ได้รับบาดเจ็บโดยไม่ตั้งใจ”

แม้ว่าจะเข้าสู่วิถีมาร แต่พวกเขาก็เลือกที่จะยืนอยู่ฝั่งวิหคหนาม

คนพวกนี้นับว่ามีสมองจริงๆ

แต่พวกเขาก็ยังไม่รู้อยู่ดี ว่ามันเกิดอะไรขึ้นภายนอกกันแน่

ทันใดนั้นเอง ชายร่างสูงผิวแทนก็กระโดดออกมาและถามว่า “รอก่อน! เมื่อกี้นายบอกว่าจะช่วยพวกเรา แล้วไอ้ที่ว่าพวกเราถูกหลอกน่ะ มันเรื่องอะไรกัน?”

“ใช่ๆ วิหคหนามน่ะไม่เคยสนับสนุนให้มีภารกิจในการสังหารมาก่อนเลย แล้วทำไมเวลานี้ระบบราชามาร...เชื้อไฟถึงได้ปรากฏขึ้น?” อีกคนถามต่อ

บางคนถามออกมาอย่างไม่มั่นใจ

“ฉันได้รับพลังอันยิ่งใหญ่และสมบัติที่ทรงอำนาจมากมายผ่านการบรรลุภารกิจเก็บรวบรวมแต้มพลังวิญญาณ นี่มันไม่ใช่เพราะเกมหมื่นสวรรค์สิ้นโลกาออนไลน์หรอกหรือ? แล้วที่บอกว่าการเข้าสู่วิถีมารมันเป็นเรื่องหลอกลวงนั่นมันอะไรกัน เข้าใจอะไรผิดรึรึเปล่า?

ภายในฝูงชนเริ่มเกิดการถกเถียง เสียงสนทนาดังขึ้น ดังขึ้นเรื่อยๆ

“เอาล่ะๆ ทุกคนฟังฉันนะ ความจริงแล้วพวกนายยังไม่ได้เข้าสู่วิถีมาร” กู่ฉิงซานร้องเสียงดัง

ฝูงชนต่างหันมามองเขาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

เพราะทุกคำกล่าวของมนุษย์ผู้นี้ มันอยู่เหนือล้ำกว่าจินตนาการของทุกๆ คนไปมากเหลือเกิน

ไม่ว่าจะเป็น

กำปั้นเหล็กแบรี่เป็นเพื่อนกับเขา และกำลังปกป้องโลกจากภายนอกเอย

เจ้าหญิงหนาม ลอร่ามาเยือนที่นี่ในฐานะตัวแทนของอาณาจักรหนามเอย

แล้วยังมาบอกว่าพวกเขาถูกหลอกอีก

แต่ทั้งสามเรื่องนี้ ทำให้แต่ละคนจำต้องหยุดมือ และเค้นสมองขบคิด

ตัวตนทรงอำนาจอย่างกำปั้นเหล็กแบรี่เป็นเพื่อนกับเขา ซึ่งในตลอดทั้งโลกเก้าร้อยล้านชั้น มันจะมีซักกี่คนเชียวที่ไม่กล้าไว้หน้าอีกฝ่าย?

นอกจากนี้ ที่นี่คือโลกของทริสเต้ และลอร่าก็เป็นเจ้าหญิงหนาม ซึ่งเป็นผู้ปกครองคนต่อไปของอาณาจักร

 ยามเมื่อเธอปรากฏตัวขึ้น นั่นย่อมหมายความว่าโอกาสที่เธอจะเป็นตัวแทนของราชวงศ์หนามนั้นมีสูงมากจริงๆ

ขณะที่ตนเองและคนอื่นๆ อยู่ในโลกวิหคหนามทริสเต้ ดังนั้นหากมีใครกล้าลงมือกับเจ้าหญิง แล้วทางตระกูลหนามเกิดโกรธแค้นขึ้นมา นั่นไม่เท่ากับว่าตนได้บีบโลกที่ตัวเองใช้อาศัยอยู่ให้ถูกทำลายลงโดยวิหคหนามหรอกหรือ?

ยังไม่หมดอีก! เพราะชายคนนี้ยังบอกอีกว่าพวกตนถูกหลอก!

 พวกเรายังไม่ได้เข้าสู่วิถีมารงั้นเหรอ?

ไม่นะ นี่มันไม่ถูกต้อง เห็นได้ชัดว่าพวกเราตกอยู่ในวิถีมารแล้ว

ช้าก่อน! พอลองมาคิดดูดีๆ เชื้อไฟมันมาจากที่ไหนกัน และมันเชื่อถือได้จริงๆ น่ะหรือ?

หรือว่าบางที เขาคนนี้จะแค่พูดคาดเดาออกมาเรื่อยเปื่อยกันแน่นะ?

ภายในฝูงชน ฉันมองนาย นายมองฉัน ความสงสัยภายในจิตใจ ยิ่งนานยิ่งเพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้นอย่างไม่อาจระงับได้

หลายร้อยคนสลับกันมองไปมาๆ แบบนี้สักพัก แล้วในที่สุดก็มองไปยังสามผู้เข้าสู่วิถีมารที่ยืนอยู่เบื้องหลังสุด

ในบรรดาทั้งแปดร้อยคน ทั้งสามคือตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุด

 และหนึ่งในสามก็คือคนที่ได้ทำการประเมินกำลังรบของกู่ฉิงซาน ตาเทพก็อยู่ที่นั่นเช่นกัน

“ตาเทพ เจ้าช่วยยืนยันสถานะของเจ้าหญิงลอร่าจะได้ไหม?” หนึ่งในสามพูดขึ้น

“นักพรตเทพเอ๊ย ดวงตาของข้าได้เห็นมันจนสิ้นแล้ว และขอยืนยันว่าสถานะของสาวน้อยคนนั้นเป็นเรื่องจริง” ตาเทพที่ภายในแววตาท่วมไปด้วยแสงเรืองรองสีม่วงเอ่ยปากออกมา

“ในเมื่ออีกฝ่ายเป็นเจ้าหญิงหนามจริงๆ ข้าคิดว่าพวกเราควรจะหยุดมือ แล้วเจ้าล่ะ…คิดว่าอย่างไร?” นักพรตเทพถาม

“ตรงส่วนนี้ข้าเห็นด้วย คิดว่าพวกเราคงต้องเข้าใจสถานการณ์ให้มันชัดเจนซะก่อน” ตาเทพกล่าว

แล้วทั้งสองก็หันไปมองคนสุดท้าย

“นักรบเทพ เจ้าเล่ามีความเห็นเช่นไร?” ทั้งสองคนเอ่ยถาม

นักรบเทพถอนหายใจ “‘ต้นกำเนิด’ พึ่งจะส่งภารกิจใหม่มาให้ข้าอย่างบ้าคลั่ง และบอกตรงๆ เลยว่าแม้กระทั่งตัวข้าเอง พอได้เห็นรางวัลแล้ว ก็ยังแทบจะไม่สามารถระงับความปรารถนาในจิตใจเอาไว้ได้”

เมื่อกี้เขาพูดว่า ต้นกำเนิด ใช่ไหม!?

 กู่ฉิงซานสามารถจับคำนี้ได้อย่างรวดเร็ว

ดูเหมือนว่าเชื้อไฟจะอัพเกรดแล้วจริงๆ!

 สามารถยืนยันได้เรื่องหนึ่งแล้ว!

ว่าเชื้อไฟกำลังหลอกลวงตนเอง

ช่วงเวลานั้นเอง สายตาของทุกคนก็เบนออกไปพร้อมกัน

ใครบางคนตะโกนขึ้น “ดูรางวัลสำหรับภารกิจใหม่นี่สิ!”

กว่าแปดร้อยคนเงียบชนิดลืมหายใจ ทุกสายตาจ้องมองไปยังความว่างเปล่าเบื้องหน้าตัวเองอย่างเงียบๆ

ก่อนที่บางคนจะค่อยๆ เบนมันออกไปมองกู่ฉิงซานกับลอร่าด้วยประกาศวูบไหว

กู่ฉิงซานรู้ว่าสถานการณ์กำลังจะถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ จึงเร่งส่งเสียงทางความคิดไปบอกกับลอร่าอย่างรวดเร็ว

 ลอร่าลุกขึ้นยืนบนไหล่ของเขา และประกาศก้องทันที “ในนามของราชวงศ์วิหคหนาม เราขอประกาศว่า ไม่ว่าพวกเจ้าจะได้รับสิ่งใดเป็นรางวัล ทางวิหคหนามของเราจะมอบมันให้มากกว่าเป็นสองเท่า!”

“เราไม่เชื่อหรอกว่าในตลอดทั้งโลกเก้าร้อยล้านชั้นนี้ จะมีผู้ที่ครอบครองสมบัติมากกว่าวิหคหนามเช่นเรา!”

ฮือฮา

บังเกิดเสียงเซ็งแซ่ขึ้นในฝูงชน

บางคนอดไม่ได้ที่จะตะโกนถาม “แต่ฝ่าบาท ภารกิจที่ต้นกำเนิดมอบให้กระหม่อมสังหารท่าน รางวัลของมันคือสิ่งประดิษฐ์เทวะ…”

“สิ่งประดิษฐ์เทวะ ไม่นับว่าเป็นสิ่งใด เจ้าลองดูนี่! นี่คือสิ่งประดิษฐ์เทวะโบราณที่เราเอาไว้ใช้บ้วนปาก!” ลอร่าเอ่ยหยัน

ว่าจบ เธอก็หยิบถ้วยโลหะขึ้นมา และโยนมันทิ้งไป

เคร้ง!

 ถ้วยโลหะกระทบกับพื้นน้ำแข็ง กลิ้งไถลยาวออกไป จนหยุดอยู่หน้าฝูงชน

กราว กราว!

แล้วทรายสีทองนับไม่ถ้วนก็หลั่งไหลออกมาจากถ้วยอย่างไม่หยุดยั้ง

“ดูนั่น! มีทรายสีทองไหลออกมาจากจอกศักดิ์สิทธิ์ไม่หยุดเลย!” บางคนร้องด้วยความตื่นเต้น

แม้ว่าทองคำจะไม่ใช่สกุลเงินระดับสูง แต่มันก็เป็นสิ่งสากลที่สามารถใช้จ่ายได้ในตลอดทั้งหมื่นโลกา

และจอกศักดิ์สิทธิ์...กลับสามารถสร้างทรายทองคำออกมาได้อย่างต่อเนื่อง!

แม้ว่ามูลค่าของทองคำจะไม่สูงเท่าใดนัก ทว่าตราบใดที่ใช้งานจอกศักดิ์สิทธิ์นี้ตลอดเวลา จะร่ำรวยค้ำฟ้าก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น!

ฝูงชนจมลงสู่ความเงียบ

ทุกคนมองไปยังจอกศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเจ้าของมันเรียกว่าถ้วยบ้วนปากเท่านั้น ก่อนจะสลับไปมองหน้าต่างระบบของตัวเอง

 ใช่แล้วล่ะ วิหคหนามน่ะร่ำรวยที่สุด เมื่อเทียบกับโลกที่ตนเองอยู่ในปัจจุบันแล้ว ต่อให้ได้รับรางวัลล้ำค่าเพียงใด มันก็ไม่คุ้มที่จะล่วงเกินพวกเขา

นอกจากนี้ แม้ว่าตนจะเข้าสู่วิถีมารแล้ว แต่ก็คงจะไม่กล้าต่อกรกับตัวตนจากดินแดนอัศจรรย์อยู่ดี

เกือบทุกๆ สิ่งมีชีวิต ไม่เว้นกระทั่งเผ่ามาร ก็ยังไม่กล้าที่จะเข้าสู่ดินแดนอัศจรรย์ได้อย่างง่ายดาย

เพราะหากไปที่นั่น ผลลัพธ์ก็คือความตาย!

หลายคนเมื่อคิดอย่างนั้น ก็เริ่มเกิดความลังเล

สถานการณ์คุกรุ่นเริ่มจะเย็นลงครู่หนึ่ง

แต่ทันใดนั้นเอง นักรบเทพก็เปิดปากของเขา และถามออกมา “แล้วเมื่อกี้ที่บอกว่าพวกเราถูกหลอก มันหมายความว่าอย่างไร?”

ซึ่งกู่ฉิงซานกำลังเฝ้ารอช่วงเวลานี้มานานแล้ว!

นี่แหละคือเหตุผลที่เขายอมโยนตนเองมาเสี่ยงอันตราย มันก็เพื่อเวลานี้!

“พวกนายได้ดาวน์โหลด เกมหมื่นสวรรค์สิ้นโลกาออนไลน์ ‘ต้นกำเนิด’ มาแล้ว ถูกต้องไหม?” กู่ฉิงซานเอ่ยถาม

คนจำนวนมากพยักหน้า

“ใช่” นักรบเทพยอมรับ

“ฉันกับลอร่าในฐานะตัวแทนของตระกูลวิหคหนาม ต้องขอโทษทุกคนในที่นี้ด้วยใจจริง” กู่ฉิงซานกล่าว

 “หืม? นี่เจ้าหมายความว่าอย่างไรกันแน่?”

เมื่อฝูงชนได้ยินอีกฝ่ายกล่าวเช่นนั้น พวกเขาก็เริ่มที่จะรู้สึกไม่สบายใจ

“บางทีทุกคนอาจจะคิดว่าตัวเองได้ดาวน์โหลดระบบราชามารจากดินแดนที่ถูกยึดครองโดยศัตรูมา แต่ฉันอยากจะบอกทุกคนว่า นั่นมันคือของปลอม”

“เนื่องจากความผิดพลาดของเรา เป็นพวกเราเองที่ไม่ตรวจสอบมันให้ดี และในช่วงเวลานั้นเอง มันก็ดันหลุดออกมาหลอกลวงผู้คน จนสุดท้ายก็เกิดผลกระทบร้ายแรงตามมาอย่างที่เห็น” กู่ฉิงซานกล่าวต่อ

แปดร้อยผู้เข้าสู่วิถีมาร พอได้ยินก็ไม่เข้าใจ

“ของปลอมงั้นเหรอ? ไม่น่าจะใช่นะ เกมหมื่นสวรรค์สิ้นโลกาออนไลน์นี่เป็นของจริง มันช่วยให้ข้าแข็งแกร่งขึ้นจริง ๆ” นักรบเทพอดไม่ได้ที่จะตะโกนขัด

แล้วเขาก็เหวี่ยงกำปั้นของตนออกไป

 บังเกิดอำนาจของสามธาตุ ลม ไฟ และสายฟ้า ควบรวมกันอยู่ในกำปั้นของเขา

ฝูงชนพอได้ยินและได้เห็นเช่นนั้น ต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย

 กู่ฉิงซานกล่าวทันที “ถ้างั้นฉันขอถามกลับหน่อยสิ ว่านายได้รับพลังที่ว่านั่น ผ่านแต้มพลังวิญญาณหรือค่าประสบการณ์ล่ะ?”

นักรบเทพกล่าว “ตอนแรกที่ยังเป็นเชื้อไฟ ข้าได้ใช้แต้มพลังวิญญาณในการแลกเปลี่ยนพลังธาตุเหล่านี้มา”

“แต่ปัจจุบันได้เปลี่ยนมาใช้ค่าประสบการณ์แล้ว แต่ค่าประสบการณ์ก็ยังสามารถถูกหักไปเพื่อใช้ในการยกระดับได้อีกด้วย มันนับว่าเป็นสิ่งที่ดีจริงๆ” ระหว่างกล่าว เขาก็เบนสายตาไปมองค่าประสบการณ์ของตัวเองในอากาศที่ว่างเปล่า

ค่าประสบการณ์!

ในหัวใจของกู่ฉิงซานบีบตัวแน่นขึ้น

เพราะนั่นคือคำที่แสนจะคุ้นเคยสำหรับเขา

มันเป็นความรู้สึกคุ้นเคย...ที่ฝันลึกลงไปถึงกระดูก

กู่ฉิงซานถอนหายใจและกล่าวว่า “งั้นนายลองไปเปิดข้อมูลส่วนบุคคลดูนะ ว่าหลังจากที่ตัดผ่านไปในแต่ละขอบเขตแล้ว ค่าประสบการณ์ที่จำเป็นน่ะมันสูงมากมายขนาดไหน”

“ก็ได้ จะลองดู”

นักรบเทพเริ่มเลื่อนหน้าต่างในอากาศที่ว่างเปล่าตามคำขอของอีกฝ่าย

แต่แล้วเพียงไม่นาน ใบหน้าถมึงทึงของเขาก็ค่อยๆกลายเป็นซีดขาวในทันใด

เหงื่อเย็นขนาดเท่าเม็ดถั่ว ผุดขึ้นมาตามหน้าผากเขาอย่างรวดเร็ว

“ค่าประสบการณ์มากมายขนาดนี้…มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหามาใช้ตัดผ่านได้…”

“หลอกลวงล่ะ เจ้าสิ่งนี้มันหลอกลวงพวกเราจริง ๆ ด้วย...”

เขาเอ่ยราวกับคนที่สูญสิ้นจิตวิญญาณไป

 มองไปยังท่าทีของนักรบ กว่าแปดร้อยผู้เข้าสู่วิถีมารในสถานที่เดียวกันก็อดไม่ได้ที่จะเริ่ม เปิดหน้าต่างส่วนบุคคลของตน

“ค่าประสบการณ์นี่มัน...!”

“ไม่นะ! นี่มันเป็นไปได้อย่างไร!”

“ถ้าเป็นแบบนี้ฉันคงไม่สามารถบรรลุมันได้ตลอดทั้งชีวิตของตัวเอง!”

“พวกเราถูกหลอกแล้ว…”

“กลับกลายเป็นว่าจริงๆ แล้วฉันไม่ใช่ผู้เข้าสู่วิถีมาร แต่แค่ถูกหลอกโดยระบบขยะ!”

คนแล้วคนเล่าเริ่มตะโกนออกมา

กู่ฉิงซานยังคงเงียบ และไม่เอ่ยอะไรออกมาแม้เพียงครึ่งคำ

เขาคอยเฝ้าสังเกตดูปริกิริยาของฝูงชน

อืม ใช่! นี่ช่างเป็นฉากที่แสนจะคุ้นเคย เป็นสถานการณ์เดียวกันกับที่เขาเคยพบเผชิญมาเหมือนกันในชีวิตก่อนหน้า

มันคือความสิ้นหวัง เป็นประสบการณ์ที่หากได้รับมาแล้วจะไม่มีวันลืมเลือน

กู่ฉิงซานใช้ประโยชน์จากช่วงเวลานี้ ตะโกนขึ้นมาอย่างกะทันหัน

เขาเปล่งกระแสเสียงด้วยพลังทั้งหมดที่มี จนมันกลบเสียงโวยวายของทุกคน

“นอกเหนือไปจากเรื่องค่าประสบการณ์แล้ว ยังมีเรื่องโชคร้ายอีกอย่างหนึ่งที่ฉันจะต้องบอกกับพวกนาย”

“รางวัลทุกอย่างที่พวกนายได้รับมาจากระบบนี้ คือทรัพย์สินส่วนบุคคลของผู้อื่น และมันจะหายไปทันทีหรือไม่พวกนายก็จะไม่สามารถนำมันไปได้ หลังจากที่ออกจากที่นี่”

“แค่พูดน่ะมันไม่พอหรอก เจ้าพอจะพิสูจน์เรื่องนี้ได้รึเปล่า?” นักรบเทพกล่าวอย่างไม่ยินยอม

“แน่นอน! ในเมื่อฉันชอบดาบ งั้นฉันก็จะยกตัวอย่างดาบก็แล้วกัน พวกนายลองเปิดไปในหน้าต่างรางวัลดาบนะ แล้วนายจะพบว่าพวกมันทั้งหมดมาจากร้านค้าอาวุธในเมืองเล็กๆ ของอัลเบอัส” 

“ต่อให้พวกนายจะใช้แต้มพลังวิญญาณหรือว่าค่าประสบการณ์การในการแลกเปลี่ยนมันก็ตามที แต่หากในตอนที่ต้องออกจากระบบ แล้วคิดจะนำติดตัวไปด้วย พวกนายก็จะถูกไล่ล่าโดยผู้ปกครองของอัลเบอัส อย่างแน่นอน!”

“สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับดาบ ใครที่เคยไปยังรีสอร์ตในเมืองเล็กๆ หรือทดลองลองเปิดอ่านสมุดรายการสะสมที่เกี่ยวกับดาบก็จะรู้เอง ถ้าไม่เชื่อก็ลองพิสูจน์คำพูดของฉันดูสิ!”

กู่ฉิงซานกล่าวจบ ก็หุบปากลงทันที

ทุกคนเองก็เช่นกัน

ทั้งหมดกำลังเฝ้ารอใครบอกคนบอกผลลัพธ์ของคำกล่าวนี้

 ตลอดทั้งวิหารจมลงสู่ความเงียบไปครู่หนึ่ง

กู่ฉิงซานยังคงเลือกที่จะเฝ้ารอ

ทันใดนั้นเอง เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากในฝูงชน

“ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับดาบหรอกนะ แต่ค้อนระดับมหากาพย์ของฉัน เป็นมรดกที่ถูกเทพวิญญาณทิ้งเอาไว้เบื้องหลัง และฉันก็เคยเห็นมันมาก่อน เมื่อนานมาแล้วในตัวเมืองรีสอร์ตของอัลเบอัส”

ชายร่างใหญ่ที่ดูกำยำก้าวออกมาข้างหน้า และยื่นค้อนที่อยู่ในมือของเขาให้ฝูงชนโดยรอบดู

“ฉันเองก็ยังสงสัยอยู่เหมือนกันว่าทำไมตัวเองถึงสามารถใช้แต้มพลังวิญญาณแลกเปลี่ยนกับไอเท็มในเมืองรีสอร์ตได้ แต่พอได้ยินคำพูดของนาย ในที่สุดฉันก็เข้าใจแล้ว”

ว่าจบชายร่างสูงใหญ่กำยำ ก็เกรี้ยวโกรธด้วยความอัปยศอดสู เขาเขวี้ยงค้อนลงบนพื้นด้วยเจตนาร้าย!

ไม่ผิดแล้ว! นี่คือไอเท็มจากในเมืองรีสอร์ตจริงๆ!

หากออกจากที่นี่และนำค้อนนี้ติดตัวไป เขาจะต้องถูกไล่ล่าอย่างแน่นอน

ที่ทุ่มเททำภารกิจมามากมาย มันกลับไม่มีค่าอะไรเลย!

น่าสมเพชตนเองยิ่งนัก!

แถมเมื่อมองไปยังค่าประสบการณ์ที่มหาศาลเหล่านั้น-

มันคงจะเป็นอย่างที่อีกฝ่ายพูดจริงๆ ว่านี่มันเป็นเรื่องหลอกลวง!

ระบบของราชามารที่แท้จริง มันต้องไม่ใช่แบบนี้!

เมื่อยิ่งคิดลึกเข้าไปเกี่ยวกับมัน

หากระบบของตนยังคงเป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ สถานการณ์ยิ่งนานคงยิ่งเลวร้าย ต่อไปเขาคงจะถูกควบคุมโดยระบบ และจะต้องใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ โดยการแลกเปลี่ยนค่าประสบการณ์ ทั้งที่จริง ๆ แล้วมันไม่มีค่าอะไรเลย!

ค่าประสบการณ์ที่ราวกับหลุมลึกอันไร้ที่สิ้นสุด ไม่ว่าผู้ใดตกลงไป ย่อมไม่อาจปีนป่ายขึ้นมาได้อีก

ดังนั้นแต่ละคนจึงได้แต่เฝ้าอธิษฐาน ว่าสิ่งที่คนคนนี้พูดจะเป็นความจริง ไอ้เจ้าเกมที่เรียกว่า หมื่นสวรรค์สิ้นโลกาออนไลน์ ต้นกำเนิด นี่จะต้องเป็นของปลอม!

“ไอ้สารเลวเอ๊ย น่าเจ็บใจชะมัดเลย”

“บัดซบ นี่ฉันถูกหลอกงั้นเหรอ!?”

“วิหคหนามทำแบบนี้ได้อย่างไร! ทำไมถึงได้มอบสิ่งหลอกลวงที่จะส่งผลอันตรายถึงเพียงนี้แก่พวกเรา!”

“แบบนี้ไม่เข้าท่าแล้ว นี่เป็นความผิดพลาดของวิหคนาม และทางวิหคหนามจะต้องรับผิดชอบทั้งหมด!”

“ฉันต้องการค่าชดใช้!”

 ฝูงชนเริ่มตะโกนเสียงดัง

 อย่างไรก็ตาม แม้ทุกคนจะข่มขู่ ด่าทออย่างรุนแรง แต่บนร่างกายของพวกเขากลับไม่มีใครปลดปล่อยเจตนา ฆ่าออกมาอีกเลย

เพราะท้ายที่สุดนี้ หากต้องการจะให้เรื่องราวต่างๆ คลี่คลายลง มันจำเป็นต้องพึ่งพาอีกฝ่ายหนึ่ง

กู่ฉิงซานเฝ้ามองดูฉากนี้อย่างใจเย็น

 ริมฝีปากของเขายกสูง คางเชิดขึ้นเล็กน้อย ทั้งคนทั้งร่างเริ่มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ

“โอเค ไม่มีปัญหา ก็เป็นพวกเรานี่แหละที่ได้รับความไว้วางใจจากทางราชวงศ์หนาม ให้มาจบเรื่องนี้ลงโดยสมบูรณ์”

 เขายิ้มให้กับฝูงชน และกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

 ขณะนี้ ลอร่าแทบจะทนไม่ไหวที่จะระงับหัวใจของเธอไม่ให้สั่นเทา

มองไปยังสถานการณ์ปัจจุบันเบื้องหน้านี้ ทุกสิ่งอย่างราวกับเป็นเพียงภาพฝัน

เห็นได้ชัดว่าศัตรูมีอยู่ถึงแปดร้อยคน

เห็นได้ชัดว่านี่เป็นกับดักอันตราย ร้ายแรงที่สุด หากก้าวผิดเพียงครั้ง ย่อมจมลงสู่สถานการณ์ที่มิอาจย้อนคืนได้

 แต่ทำไมกัน? ผลลัพธ์ของสถานการณ์มันพลิกผันมาในรูปแบบนี้ได้อย่างไร?

ลอร่าลองย้อนนึกถึงสิ่งที่พึ่งเกิดขึ้นอีกครั้ง แต่เธอก็ยังอดไม่ได้ที่จะเหลือเชื่อ

เธอทนไม่ไหว ต้องแอบถามกู่ฉิงซานอย่างเงียบๆ

“กู่ฉิงซาน…แท้จริงแล้วก่อนหน้านี้เจ้าเคยเผชิญกับสิ่งใดมากันแน่?”

…………………………………..........