ครูสาวใจเต้นตึกตักทุกครั้งที่ได้ยินเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามา เธอเป็นคนเรียกอีกฝ่ายมาเอง ความรู้สึกหวงแหนกับความรู้สึกอยากรู้อยากเห็นตีกันมั่วไปหมด แต่อยู่ดีดีก็มีคำถามเกิดขึ้นในใจ เธอจะเก็บรักษามันไปทำไม ในเมื่อเจ้าคนคนนั้น ยังไม่คิดที่จะรักษาหัวใจของเธอเอาไว้เลย
ครูสาวลุกขึ้นจากโต๊ะทำงานแล้วเดินไปที่หน้ากระจก เธอก้มมองดูช่วงล่างของตนเองที่เหลือแต่กางเกงในสีฟ้า ขาของเธอนั้นเล็กเรียวดูสวยงาม ผิวพรรณของเธอก็ขาวเนียนนุ่มน่าสัมผัส และเมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมาผมยาว ๆ สีน้ำตาลที่ม้วนเป็นปมอยู่บนหัวก็ทำให้เธอมีเสน่ห์ไม่น้อย นัยน์ตาสีน้ำตาลภายใต้แว่นกลม ๆ ก็ดูซุกซน ใบหน้ารูปไข่และผิวขาวอมชมพูนั้นดูงดงามตามประสาลูกคุณหนู และสิ่งสุดท้ายที่เด็กหนุ่มไม่มีวันปฏิเสธเธอแน่นอนก็คงจะเป็นหน้าอกหน้าใจที่อีกฝ่ายนั้นจ้องมองอยู่ทุกวัน
ป๊อก ๆ ครูสาวสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู
"ครูครับ ผมมาเอาเครื่องเกม"
ครูน้ำตาลมองท่อนล่างของตัวเองแล้วเขินอายเล็กน้อย ก่อนจะรีบวิ่งกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงาน
"เข้ามาสิ ประตูไม่ได้ล็อก"
แกร๊ก ชีฟเปิดประตูเข้ามา ก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้อง ห้องของครูน้ำตาลนั้นเป็นห้องโทนสีชมพู และมีตู้หนังสือการ์ตูน นิยาย และตู้เก็บของต่าง ๆ วางอยู่รอบห้อง ส่วนตรงกลางห้องนั้นก็เป็นฟูกนอนขนาดใหญ่ ซึ่งดู ๆ แล้วคล้ายกับห้องของคนญี่ปุ่นเลย ชีฟเลื่อนสายตาไปหยุดที่โต๊ะทำงานใกล้กับหน้าต่างของห้อง
"เอ่อ ครูครับ เครื่องเกม"
ครูน้ำตาลไม่หันกลับมามองชีฟเลยสักนิด แต่กลับบอกให้อีกฝ่ายทำอย่างอื่น
"ปิดประตูด้วย"
ชีฟรีบปิดประตูให้ทันที
ครูน้ำตาลใช้แรงแค้นและความอยากรู้อยากเห็นในการเสริมความกล้า จากนั้นเธอก็ลุกจากโต๊ะทำงาน
พรวด ชีฟที่เห็นท่อนล่างที่ไร้ซึ่งการปกปิดก็สะดุ้งตกใจ ก่อนจะล้มไปกับพื้น และเมื่อครูสาวเดินเข้ามาใกล้ ชีฟก็ดันตัวเองถอยหลังไปจนสุดกำแพง
"เอ่อ คะ คะ ครูครับ"
ครูน้ำตาลเห็นเด็กหนุ่มขี้ตกใจก็ขยับยิ้มที่มุมมาก ก่อนจะย่อตัวลงแล้วก้มคลานสี่ขาไปหาเด็กหนุ่มตรงหน้า
ชีฟกลืนน้ำลายอึกแล้วอึกเล่า เมื่อท่าก้มนี้ทำให้คอเสื้อมันห้อยลงมา จนเห็นได้ชัดว่าข้างในเสื้อยืดสีขาวนั้นไร้ซึ่งการปกปิด
ครูน้ำตาลคลานมาพร้อมกับรอยยิ้มอันแสนเจ้าเล่ห์ และเมื่อเธอคลานมาจนใบหน้าเกือบจะแนบชิดกับใบหน้าของเด็กหนุ่ม เธอก็ชะโงกหน้าไปกระซิบที่ข้างหูของอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา
"ครูเห็นนะ ว่าเธอชอบแอบมองหน้าอกครูบ่อย ๆ"
"ขะ ขอโทษครับ"
ชีฟรีบเบือนหน้าหนีไปทางอื่น ร่างกายอันแข็งแกร่งสั่นไปทั้งตัว เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นมาจนเต็มใบหน้า
ครูสาวที่เห็นอีกฝ่ายยังนิ่งอยู่ก็กระซิบต่อ
"อาหารถ้ามองอย่างเดียวมันไม่อิ่มหลอกนะ"
พูดจบก็งับลงบนใบหูสีแดงอย่างแผ่วเบา ก่อนจะกลับมาจ้องหน้าอันตื่นตกใจของเด็กหนุ่มตรงหน้า
ชีฟสะดุ้งสุดตัวตั้งแต่โดนงับหู เขาหันหน้ากลับมามองจ้องสบตากับอีกฝ่าย ใบหน้าของทั้งสองนั้นอยู่ใกล้กันนิดเดียวใกล้มากจนสัมผัสได้ถึงไออุ่นจากลมหายใจของกันและกัน
ครูสาวที่ตอนนี้สติดีกว่าหายใจเข้าออกอย่างเชื่องช้า หน้าอกภายใต้เสื้อยืดก็ขยับขึ้นลงอย่างแผ่วเบา ส่วนชีฟที่อยู่ดีดีก็โดนรุกก็ทั้งหายใจแรงและติดขัด มือสองข้างกำขอบฟูกนอกของครูเอาไว้แน่น
สองสายตาจ้องสบประสานกันอย่างเริ่มรู้ใจ สายตาของทั้งคู่ตอนนี้ล้วนมีความต้องการที่เหมือนกัน แต่ด้วยความไม่แน่ใจของสายตาคู่หนึ่ง เขาจึงได้เอาแต่มอง ชีฟจ้องริมฝีปากสีชมพูอวบอิ่ม มันเป็นริมฝีปากที่งดงามอย่างมาก
ครูสาวที่เห็นสายตาจ้องแต่ริมฝีปากของเธอ ก็ยืนหน้าเข้าไปใกล้เพื่อให้อีกฝ่ายได้ลิ้มรสความอบอุ่นนั้น ริมฝีปากของทั้งคู่ประกบเข้าหากันอย่างแผ่วเบา ชีฟหลับตาลงช้า ๆ เพื่อลิ้มรสความอบอุ่นที่ไม่เคยรู้จัก ครูน้ำตาลเองก็เช่นกัน เธอที่ไม่เคยจูบกับใครมาก่อน สัมผัสแรกนี้ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นเป็นอย่างมาก
ครูน้ำตาลสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อริมฝีปากของอีกฝ่ายขยับไร้เล็มริมฝีปากของเธออย่างช้า ๆ ริมฝีปากล่างของเธอถูกงับซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เมื่อได้ลิ้มลองรสชาติอันหอมหวาน ชายหนุ่มก็เริ่มที่จะหยุดตัวเองไว้ไม่อยู่ ลิ้นนุ่ม ๆ เริ่มเกี่ยวพันเข้าหากัน
ครูน้ำตาลต้องเป็นฝ่ายหลับตาแล้วลิ้มรสสัมผัสครั้งนี้บ้าง
'ทั้งหวานทั้งอุ่น นี่เหรอจูบ'
ความพอใจทำให้ครูน้ำตาลค่อย ๆ ถอยกลับมา แต่ไม่ใช่ความพอใจของเด็กหนุ่มตรงหน้า ที่มันไม่มีสิ้นสุด
ชีฟขยับตามไปทีละนิด โดยไม่ยอมปล่อยริมฝีปากอันแสนหอมหวานนี้ไปง่าย ๆ
เมื่อครูน้ำตาลถอยไปเรื่อย ๆ ชีฟก็ใช้มือทั้งสองข้างโอบกอดแผ่นหลังเอาไว้เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายถอยได้อีก
ครูน้ำตาลตกใจเล็กน้อยที่โดนรั้งเอาไว้ เธอออกแรงดันหน้าอกอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าริมฝีปากของเธอจะเป็นอิสระได้เลย
'เด็กคนนี้ นี่เหรอความต้องการของผู้ชาย'
ตอนนี้ทั้งสองนั่งกอดจูบกันอยู่บนฟูกนอน ชีฟยังคงลิ้มรสความหอมหวานไม่ยอมปล่อย เขาบดขยี้ริมฝีปากและออกแรงดันไปเรื่อย ๆ จนอีกฝ่ายเอนหงายหลังแล้วล้มตัวลงไปบนฟูกนอน ซึ่งชีฟก็เผลอล้มตามลงไปคร่อมอยู่บนตัวของครูพอดี
ริมฝีปากที่หลุดออกจากกันทำให้ชีฟได้สติ และจ้องมองหน้าครูสาวที่หน้าแดงก่ำ
ชีฟจ้องหน้าแดงแดงและมือสองข้างที่ดันหน้าอกของเขาเอาไว้เหมือนไม่เต็มใจ
"เอ่อ ขอโทษ คือผม"
ครูสาวมองมือทั้งสองข้างของตัวเองที่เผลอดันอีกฝ่ายไว้โดยไม่ได้ตั้งใจ เธอนั้นเป็นคนที่รักงวนสงวนตัวเอามาก ๆ มือทั้งสองข้างจึงขยับไปโดยอัตโนมัติ แต่ตอนนี้ความรู้สึกดีจากการจูบเมื่อครู่นี้ ก็ทำให้เธอรู้สึกอยากที่จะให้อีกฝ่ายกระทำมากกว่านี้ เธอจึงขยับมือทั้งสองข้างไปโอบกอดรอบคออีกฝ่ายไว้อย่างแผ่วเบา พร้อมกับขาสองข้างที่หนีบเอวอันแข็งแกร่งไว้อย่างหลวม ๆ
"คืออะไร ไม่ต่อละ"
ชีฟที่เห็นท่าทีอีกฝ่ายเปลี่ยนไปก็จ้องมองดูลำคอที่ขาวผิดผ่อง ก่อนจะก้มลงไปงับที่ผิวเนื้ออย่างแผ่วเบา
ครูน้ำตาลกระตุกกอดชีฟไว้แน่นขึ้น เมื่อสัมผัสนั้นทำเอาเธอเสียวไปทั้งตัว ทุกสัมผัสสร้างแรงกระเพื่อมแห่งความเสียวซ่านออกมาอย่างต่อเนื่อง มือที่ซุกซนก็เริ่มหาทางปลดเปลื้องเสื้อผ้าน้อยชิ้นออกไป
เมื่อทั้งสองไร้ซึ่งอาภรณ์ ชีฟก็หยุดทุกการกระทำแล้วจ้องมองร่างกายอันสวยงาม มันสวยมากจนเขาไม่สามารถที่จะละสายตาไปจากมันได้
ครูน้ำตาลหน้าแดงก่ำจนคล้ายลูกตำลึงยามเมื่อโดนจ้องมองร่างกายที่ไร้ซึ่งสิ่งใดปกปิด เธอเบือนหน้าหนีด้วยความอาย แล้วใช้การข่มขู่เพื่อกลบเกลื่อน
"หยุดจ้องได้แล้ว มันอาย ถ้าไม่ต่อเดี๋ยวให้ออกจากห้องนะ"
คำขู่ที่เหมือนกับคำท้าทาย เมื่ออีกฝ่ายต้องการ ชีฟก็ไม่ลังเลที่จะดำเนินตามบทสุดท้ายที่ได้รับ
ร่างทั้งสองร่างขยับเข้าหากันอย่างแนบชิด ความอบอุ่นสอดแทรกเข้ามาในร่างกาย ก็ทำให้ครูสาวไม่สามารถสะกดกั้นเสียงร้องเอาไว้ได้ ฟูกนอนขนาดใหญ่ขยับสั่นไหวจนไปกระแทกกับตู้หนังสือ จากฟูกนอนที่ถูกจัดไว้อย่างดี ผ้าปูผืนใหญ่ที่เรียบเนียนไร้รอยยับ บัดนี้มันกลับยับยู่ยี่จนไม่เหลือเค้าเดิม แรงสั่นสะเทือนที่เพิ่มขึ้นก็เริ่มทำให้ห้องทั้งห้องสั่นไหวตามไปด้วย ตู้หนังสือตู้เสื้อผ้าสั่นระริกอย่างหยุดไม่ได้ ราวกับแผ่นดินไหวที่สั่นสะเทือนจนมิอาจควบคุม