webnovel

1278 สถานการณ์ที่แท้จริง

ตอนที่ 1278 สถานการณ์ที่แท้จริง

“กำลังมา!”

“มันกำลังมา!”

“วิ่ง”

เสียงอึกทึกดังขึ้น

ที่สุดขอบแม่น้ำสุสาน เงามายาโหดเหี้ยมเข้าใกล้อย่างรวดเร็วราวกับหมอก

ซากศพวิญญาณชั่วร้ายไหลไปตามน้ำขณะเข้าทักทายมันช้า ๆ

สัตว์ประหลาดกำลังยืนอยู่บนซากศพ แบ่งออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งห้อมล้อมกู่ฉิงซาน อีกกลุ่มมีเพียงเจ็ดถึงแปดคน พวกเขายืนอยู่ฝั่งตรงข้ามด้วยสีหน้าระแวดระวัง

ทางฝั่งกู่ฉิงซาน สัตว์ประหลาดตัวหนึ่งถามอย่างระแวดระวังว่า “นักบุญ คิดว่าพวกเราควรซ่อนตัวหรือเปล่า”

กู่ฉิงซานยิ้มก่อนถามกลับว่า “เจ้าเคยเห็นวันสิ้นโลกตัวนี้มาก่อนหรือเปล่า”

สัตว์ประหลาดส่ายหน้าแล้วตอบว่า “สถานที่รับมรดกที่ข้าแทรกซึมเข้าไปในตอนแรกมีวันสิ้นโลกเพียงประเภทเดียว ดังนั้นข้าจึงไม่เคยเห็นวันสิ้นโลกประเภทนี้มาก่อน”

มันหันมาแล้วตะโกนว่า “นี่คือภาพมายาวันสิ้นโลกที่ถูกปลดปล่อยตอนเจ้าออกมาหรือเปล่า”

สัตว์ประหลาดส่ายหน้าตัวแล้วตัวเล่า เป็นสัญญาณว่าไม่ใช่

แม้กระทั่งสัตว์ประหลาดเจ็ดถึงแปดตัวที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็มีสีหน้าสับสน

กู่ฉิงซานลอบหวาดกลัว

เมื่อครู่สัตว์ประหลาดพูดออกมาสามคำ “ถูกปลดปล่อย”

หลังจากนั้น สัตว์ประหลาดทั้งหมดเริ่มคิดเกี่ยวกับภาพมายาวันสิ้นโลกที่พวกมันปลดปล่อยออกมา

หรือก็คือ

สัตว์ประหลาดติดอยู่ในที่สถานที่รับมรดก หากอยากออกไป หนึ่ง พวกมันต้องแทนที่ร่างด้วยเผ่าพันธุ์มนุษย์ในถ้ำหมื่นอสูร สอง พวกมันต้องปลดปล่อยภาพมายาวันสิ้นโลก

ช่างน่าปวดหัวจริง ๆ !

ตอนนี้ มือขนาดเล็กพลันยื่นออกมาจับมือของกู่ฉิงซานเอาไว้เงียบ ๆ

กู่ฉิงซานมองด้านข้าง

เป็นซานไห่ชีเสีย

นางจับมือของกู่ฉิงซานอย่างแรงด้วยสีหน้ากังวล

“ข้าพบลวดลายบางอย่าง” นางกระซิบ

“ว่าไงนะ” กู่ฉิงซานถาม

“ข้าใช้กระดิ่งเสียงมายาเพื่อตามรอยภาพมายาวันสิ้นโลกก่อนหน้านี้ รวมถึงภาพมายาวันสิ้นโลกที่กำลังจะเจอในตอนนี้แล้ว พบว่าพวกมันไม่ได้จงใจมาพบพวกเรา แต่พวกมันต้องผ่านแม่น้ำสายนี้เพื่อเข้าสู่โลกถ้ำหมื่นอสูร”

“เจ้าหมายความว่าภาพมายาวันสิ้นโลกที่พวกเราเจอก่อนหน้านี้เข้าสู่ถ้ำหมื่นอสูรไปแล้วหรือ” กู่ฉิงซานถาม

ซานไห่ชีเสียตอบว่า “ใช่ มันกำลังผ่านถ้ำและกำลังจะไปถ้ำเป่ยซาน หนึ่งในแปดถ้ำของโลก”

ด้วยดวงตาแดงก่ำ นางกล่าวต่อว่า “ก่อนหน้านี้พวกข้าไม่เคยเจอวันสิ้นโลกเลย ต้องมีคนจำนวนมากที่ตายอยู่ภายในนั้นแน่ ๆ ”

กู่ฉิงซานทำได้เพียงปลอบอีกฝ่าย “อย่าคิดมาก ยังไงเสีย มันก็แค่ภาพมายา น่าจะห่างชั้นจากวันสิ้นโลกที่แท้จริง”

เรื่องนี้นับว่าชัดเจนแล้ว

กลายเป็นว่าวันสิ้นโลกเหล่านั้นในถ้ำหมื่นอสูรล้วนเข้าสู่ถ้ำหมื่นอสูรด้วยการนี้

ผู้พิทักษ์เหล่านี้ปลดปล่อยภาพมายาวันสิ้นโลกเพื่อยึดร่างเผ่าพันธุ์มนุษย์ในถ้ำหมื่นอสูร

เดิมที

เดิมทีพวกมันมีวิธีเอาตัวรอดที่ดีกว่านี้ แต่พวกมันกลับเลือกวิธีการที่โหดเหี้ยม

น่าเสียดายที่สัตว์ประหลาดเหล่านี้แข็งแกร่งเกินไป กู่ฉิงซานเดาว่ามันเกินกว่าที่ตัวเองคาดไว้ น่าจะสังหารได้เพียงหนึ่งตัวแม้จะใช้พละกำลังทั้งหมดที่มีก็ตาม จากนั้น สัตว์ประหลาดตัวอื่นจะโต้กลับทันที

บัดซบ!

พวกมันฉกฉวยหกมรดกและปลดปล่อยภาพมายาวันสิ้นโลกออกมา ถึงอย่างนั้นพวกมันทรงพลังจนไม่สามารถรับมือได้โดยง่าย!

กู่ฉิงซานหักห้ามจิตสังหารในใจเอาไว้แล้วกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ดูนั่น ภาพมายาวันสิ้นโลกนี้จะไม่โอบกอดพวกเรา”

เสียงเพิ่งเปล่งออกไป

เงาชั่วร้ายของวันสิ้นโลกนั่นพลันหายไปจากที่ที่เคยอยู่

มันไปอยู่ที่ด้านหลังของวิญญาณชั่วร้าย!

ทุกคนรู้สึกเพียงแค่ไอเย็นแผ่ซ่านไปทั่วร่าง หลังจากผ่านไปเพียงอึดใจเดียว ความรู้สึกนี้ก็หายไปสิ้น

เงาของวันสิ้นโลกหายไปแล้ว

แปดคนที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับกู่ฉิงซานหายไปเช่นกัน

“นักบุญ” เหล่าสัตว์ประหลาดอุทาน

“อืม ข้าเห็นแล้ว พวกเขาเลือกที่จะไม่ตามข้า นี่คือจุดจบของพวกเขา” กู่ฉิงซานกล่าวอย่างแผ่วเบา

เขาเดินไปข้างหน้ากลุ่มคนขณะจ้องแม่น้ำสุสานในหมอก

เหล่าสัตว์ประหลาดเงียบ

พวกมันพลันนึกได้ว่าตอนเทพราชาสัตว์อสูรและนักบุญเจรจากันอยู่นั้น นักบุญได้บอกว่าเขามีใครบางคนอยู่ในแม่น้ำสุสาน

นับจากนี้ไป นักบุญคล้ายกับรู้ทางที่จะไปต่อแล้ว

ถ้าเป็นแบบนั้นจริง…

ขณะมองแผ่นหลังของกู่ฉิงซาน เหล่าสัตว์ประหลาดค่อย ๆ รู้สึกยำเกรง

ซากศพของวิญญาณชั่วร้ายลอยอยู่บนแม่น้ำสุสานขณะไหลไปข้างหน้าช้า ๆ

ส่วนเงาของวันสิ้นโลกอยู่กับที่ ค่อย ๆ เคลื่อนไปทางที่ทุกคนมา

มันจะเข้าสู่ถ้ำหมื่นอสูร

กู่ฉิงซานปล่อยจิตเทพเพื่อสังเกตสักพัก ความคิดของเขาพลุ่งพล่าน

ครั้งนี้เป็นสถานการณ์ที่ซับซ้อนที่สุดที่เขาเคยประสบมา

สุสาน

มรดก

ดาบหวนคืนชาติภพหกวิถี

ผู้พิทักษ์

วันสิ้นโลก

วิถีวิญญาณชั่วร้าย

และกลุ่มสัตว์ประหลาดที่เป็นพันธมิตรกับวิถีวิญญาณชั่วร้าย

มีมิติและเวลาอันปั่นป่วนที่พัวพันกันมากเกินไป ที่นี่ เขาสามารถถึงขั้นได้พบกับตัวเองในโลกคู่ขนาน

และที่ใต้เท้า

ซากศพของวิญญาณชั่วร้ายกำลังแกล้งตาย

กู่ฉิงซานถอนหายใจอย่างเงียบงัน

เขาอดทนอยู่นานก่อนจะเอาไม้เท้าราชาภูตผีจองจำออกมาก่อนเอาไปปักหลังของซากศพวิญญาณชั่วร้าย

เพราะวันสิ้นโลกไม่สามารถพัวพันกับซากศพนี้ได้ แสดงว่าต้องมีความลับอยู่ในซากศพนี้ที่ไม่สามารถรับมือได้ง่ายอย่างแน่นอน

ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาเผยไต๋ เขาทำได้เพียงแสร้งเป็นไม่รู้เท่านั้น

กู่ฉิงซานคิดวกวนไปมาแล้วพลันกล่าวว่า “ข้าออกมาช้าสุด ดังนั้นบอกสิ่งที่รู้มาที หลังจากนี้ ข้าต้องรู้ทุกสิ่งก่อนถึงจะตัดสินใจได้ว่าต้องทำอะไร”

เหล่าสัตว์ประหลาดฟังก่อนมองหน้ากันแล้วไม่กล่าวอะไรสักพัก

กู่ฉิงซานนิ่งแล้วพลันหัวเราะออกมา

“หรือว่าพวกเจ้ายังคงรักภักดีกับเทพราชาสัตว์อสูรที่ตายไปแล้วล่ะ”

เสียงของเขาพลันดังขึ้น มันเต็มไปด้วยร่องรอยจิตสังหารชัดเจน

คำพูดนี้จริงจัง

นักบุญสงครามอยู่ระดับเดียวกับเทพราชาสัตว์อสูร ทันทีที่โกรธ ใครบ้างจะสามารถต้านทานผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นได้

แปดคนในตอนนี้ไม่คิดจะลงมือกับนักบุญแม้แต่คนเดียว!

เหล่าสัตว์ประหลาดสั่นสะท้าน

ไม่ช้า ชายวัยกลางคนคนหนึ่งยืนขึ้น

เขาคือคนที่ใช้ชิ้นส่วนกระดูกเพื่อทำนายสถานที่ที่เทพราชาสัตว์อสูรอยู่ก่อนหน้านี้

“นักบุญ ที่จริง ภายใต้การนำของเทพราชาสัตว์อสูร พวกข้ากำลังตามหาชิ้นส่วนของเทวภัณฑ์เขตแดนหกวิถีอยู่”

“ชิ้นส่วนหรือ” กู่ฉิงซานถาม

“ใช่ ในสุสานขนาดใหญ่แห่งนี้ เพราะมีวันสิ้นโลกถูกปลดปล่อยออกมามากเกินไป ดาบจึงไม่สามารถให้การสนับสนุนได้จนแตกสลายเป็นชิ้นส่วนจำนวนมากเพื่อคุ้มกันทุกหนแห่งในแม่น้ำสุสาน” ชายคนนั้นตอบ

“ว่าต่อ” กู่ฉิงซานกล่าว

“เหตุผลที่ทำไมพวกข้ากำลังตามหาชิ้นส่วนเทวภัณฑ์เขตแดนหกวิถีก็เพราะคนของวิถีวิญญาณชั่วร้ายกำลังศึกษาซากศพวิญญาณชั่วร้ายที่พวกเราเหยียบอยู่ พวกเขาถึงกันค้นพบหกสุสานที่แท้จริงจนได้ร่างหลักของดาบในสุสานมา” ชายคนนั้นกล่าว

อีกคนขัดว่า “ตอนพวกเราตอบสนอง พวกมันก็เริ่มมองหาชิ้นส่วนดาบเทพ พวกข้ามีชิ้นส่วนของมัยมาก เมื่อถึงเวลาแลกเปลี่ยน ทำให้มีโอกาสต่อรองมากขึ้น”

หัวใจของกู่ฉิงซานดิ่งวูบ

คนของวิญญาณชั่วร้ายมีดาบเล่มนั้นงั้นหรือ

ตอนนี้กลายเป็นเรื่องยากแล้ว

แต่เขาได้ยินสัตว์ประหลาดกล่าวต่อว่า “นักบุญ ท่านเป็นเป้าหมายของพวกมันเหมือนกัน เพราะท่านเอา ‘ปู้โจว’ ที่เป็นมรดกแข็งแกร่งที่สุดไป ข้าได้ยินมาว่ามรดกนี้ข้องเกี่ยวกับตัวตนหนึ่งในอนาคต”

หลังจากพูดจบ พวกมันล้วนมองกู่ฉิงซาน

เดิมเทพราชาสัตว์อสูรพยายามช่วงชิง “ปู้โจว” แต่เขาตายก่อนที่จะได้มันมา

…เทียบกันแล้ว นักบวชมีพิษร้ายมากกว่า

กู่ฉิงซานไม่แสดงสีหน้า เขาไม่ทำให้เกิดข้อผิดพลาดใด ๆ

ตัวตนในอนาคต…

เขาลอบครุ่นคิดในใจก่อนนึกถึงฉากที่สังหารนักบุญจนได้ “ปู้โจว” มาอย่างรวดเร็ว

ในตอนนั้น หน้าต่างระบบเทพสงครามได้ให้คำแนะนำว่า

“ท่านคือหนึ่งในจ้าวแห่งสงครามหกวิถี ท่านมีคุณสมบัติเข้าร่วมในหกวิถีของยุคใหม่”

“วิชายุทธ์ที่ท่านสืบทอดมาเป็นการพิสูจน์ตำแหน่งในสงคราม”

สิ่งที่โลกวิญญาณชั่วร้ายต้องการคือ “ปู้โจว” พวกมันต้องการสถานะนั่น!

“ว่าต่อ”

กู่ฉิงซานส่งสัญญาณให้อีกฝ่าย

ทันใดนั้น สีหน้าของอีกฝ่ายร้อนรนแล้วกล่าวว่า

“นายท่าน คนของวิญญาณชั่วร้ายกำลังมาเอาร่างหลักของดาบและรวบรวมชิ้นส่วนจากสถานที่มากมายในสุสาน พวกเราต้องรีบรวบรวมให้มากกว่านี้ จากนั้นก็รีบไปให้ไว”

กู่ฉิงซานมองเขา

เขามองกู่ฉิงซานด้วยสีหน้าครุ่นคิดเช่นกัน

กู่ฉิงซานกระซิบว่า “ดังนั้น ทันทีที่วิญญาณชั่วร้ายเอาดาบไป สุสานจะไม่มีสมบัติไว้กำราบวันสิ้นโลก วันสิ้นโลกทั้งหมดจะออกมา ไหลหลั่งเข้าสู่ถ้ำหมื่นอสูรและโลกรอบข้างอีกนับไม่ถ้วนอย่างนั้นสินะ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ชายคนนั้นก้มศีรษะแล้วตอบว่า “ใช่แล้ว นักบุญของข้า พวกเราต้องรีบกอบโกยให้ไว ไม่อย่างนั้น หากอยู่ในสุสานนานเกินไปจนกระทั่งวันสิ้นโลกถูกปล่อยออกมา พวกเราจะตายอย่างแน่นอน”

……………………………………………………