ตอนที่ 1222 ตัวตนใหม่
สามเหรียญทะลวงผ่านแม่น้ำแห่งกาลเวลาสายยาวอย่างรวดเร็วขณะยังคงพากู่ฉิงซานทวนกระแสน้ำ
บนหน้าต่างระบบเทพสงคราม พลังวิญญาณที่เหลืออยู่ของเขาถูกใช้อย่างรวดเร็ว
“ปลอมแปลง” คือสุดยอดพลังของมิติและเวลา มันต้องใช้พลังวิญญาณจำนวนมากในการกระตุ้น
กู่ฉิงซานมองหน้าต่างระบบเทพสงคราม
ค่าพลังวิญญาณที่เหลืออยู่ของเขาลดลงอย่างรวดเร็วในอัตราเก้าร้อยแต้มต่อวินาที
ยิ่งอยู่ในแม่น้ำแห่งกาลเวลาสายยาวมากเท่าไหร่ การใช้พลังวิญญาณส่วนนี้ก็จะมากขึ้นเรื่อยๆ
ไม่ช้า การใช้พลังวิญญาณของเขาต่อวินาทีก็เกินหนึ่งพันแต้ม!
ในอดีต กู่ฉิงซานเลือกช่วงเวลาก่อนหน้านี้ไว้นานแล้วก่อนพุ่งลงไปอย่างรวดเร็ว
แต่ตอนนี้เขาไม่แตกตื่นแต่อย่างใด
ในการต่อสู้ดุเดือดก่อนหน้านี้ เขาสังหารวิญญาณกรีดร้องและสังหารผู้รอคอยในกลุ่มความโกลาหล
ผู้รอคอยความโกลาหลคือตัวตนทรงพลังที่ซ่อนอยู่ในช่วงเวลาเพื่อเตรียมแผนสำรองนับไม่ถ้วนให้กับกลุ่มความโกลาหล
แม้กระทั่งแม่นางทรายอมตะก็ไม่กล้าดูถูกคนคนนี้
ตามปกติแล้ว หากเทียบระหว่างผู้รอคอยคนนี้กับกู่ฉิงซาน ไม่รู้ได้ว่าห่างกันกี่ขั้น ถึงอย่างนั้นกู่ฉิงซานก็ไม่สามารถเอาชนะเขาได้
แต่กู่ฉิงซานมีวคามมุ่งมั่นหลายร้อยล้านปีอยู่ในมือ ประกอบกับระบำสังเวยชีพแปลกประหลาดที่อยู่ทางฝั่งทุกชีวิต ทำให้ลบล้างผู้ที่รอคอยอยู่จุดนั้นได้ในทันที!
ตอนนี้ กู่ฉิงซานมีพลังวิญญาณทั้งสิ้นหนึ่งร้อยห้าสิบล้านแต้ม!
ตราบที่เข้าใจความสำคัญพื้นฐานของสิ่งต่างๆ ก็ไม่มีอะไรต้องกังวล
ตอนนี้กู่ฉิงซานกำลังเลือกช่วงเวลาอย่างระวัง
ช่วงเวลาที่สมบูรณ์แบบ
นั่นคือช่วงเวลาตอนโลกวิญญาณชั่วร้ายเพิ่งปรากฏตัวขึ้นมาเพื่อเผชิญหน้ากับหุบเหวนิรันดร์!
ในกระแสเวล
สัตว์ประหลาดนับไม่ถ้วนถาโถมผ่านกู่ฉิงซานไป
เมื่อพวกมันเห็นกู่ฉิงซาน พวกมันไม่สนใจที่จะโจมตีแต่อย่างใดราวกับมองไม่เห็น
เพราะสามเหรียญไม่เพียงมีพลัง “ปลอมแปลง” เท่านั้น แต่ยังมีอีกสองพลัง
“ใบรับรอง” และ “เดินทาง” !
นี่คือสองความสามารถหลักที่เป็นหลักประกันความปลอดภัยในการก้าวข้ามแม่น้ำแห่งกาลเวลาสายยาว
ภาพแสงและเงาจำนวนมากผ่านสายตาของกู่ฉิงซานไป
มันคือการต่อสู้ตึงเครียดระหว่างหุบเหวนิรันดร์และโลกวิญญาณชั่วร้าย
แต่จุดกำเนิดของสงครามทั้งมวลอยู่ที่ใด
กู่ฉิงซานยังคงมุ่งหน้าต่อไป
เขาต้องหาแหล่งกำเนิดและตัดเข้าไปในโลกวิญญาณชั่วร้ายจากตรงนั้น
ระหว่างที่มุ่งหน้าเข้าไปอย่างต่อเนื่อง บางครั้งกู่ฉิงซานถึงขั้นเห็นตัวเองกับสหายเหล่านั้น
เมื่อถึงช่วงเวลาหนึ่ง
บนหน้าต่างระบบเทพสงคราม แถวหิ่งห้อยสองแถวพลันปรากฏขึ้น
“โปรดทราบว่ากฎเกณฑ์แห่งชะตากรรม เวลาและมิติสัมผัสถึงตัวตนของท่านได้แล้ว”
“การปิดล้อมของกฎเกณฑ์ทั้งสามจะตกลงสู่ตัวท่าน”
ด้วยการปรากฏของตัวอักษรขนาดเล็กเหล่านี้ กู่ฉิงซานพลันรู้สึกว่าแม่น้ำแห่งกาลเวลาสายยาวกำลังปฏิเสธเขา
เขารู้สึกถึงไอเย็นขมขื่นชัดเจน
นี่คือลางร้ายอย่างไม่ต้องสงสัย
หากต้องการเข้าสู่ช่วงเวลาและมิติหนึ่ง เขาจะถูกลบล้างทันที
“หน้าต่างระบบเทพสงคราม เกิดอะไรขึ้น” กู่ฉิงซานถาม
พลังวิญญาณหายไปสองร้อยแต้ม ไม่สิ ห้าร้อยแต้มอย่างรวดเร็ว
เปลือกตาของกู่ฉิงซานกระตุก เขาอดทนอดกลั้น ไม่พูดอะไร
ตอนนี้เป็นช่วงเวลาวิกฤติ พลังวิญญาณอุดมสมบูรณ์จนไม่ต้องเป็นห่วงอะไรมาก
วินาทีต่อมา
บนหน้าต่างระบบเทพสงคราม ข้อความแจ้งเตือนใหม่รีขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
“เพราะ ‘ปลอมแปลง’ ตอนนี้ท่านจึงมีสองตัวตนอยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน”
“ท่านในอดีตได้กลับจากยุคโบราณและอยู่ในโลกเก้าร้อยล้านชั้น”
“ต่อมา ท่านพบกับลอร่า พบคนแรกบนมงกุฎดวงดาวและร่ายรำพร้อมกับสหายในอาณาจักรหนาม”
“หรือก็คือ ท่านกำลังเริ่มค้นหาแม่นางเฮยไห่ ทุกคำพูดและการกระทำของท่านจะส่งผลกับโชคชะตาของโลกเก้าร้อยล้านชั้น”
“ดังนั้น โชคชะตาของโลกเก้าร้อยล้านชั้นจึงข้องเกี่ยวกับท่านเป็นอย่างมาก”
“ตามกฎ ‘ปลอมแปลง’ แล้ว จึงได้ข้อสรุปต่อไปนี้”
“ทันทีที่ท่านเข้าโลกเก้าร้อยล้านชั้น ท่านจะเหมือนกับเข้าไปสัมผัสผู้คนและสิ่งของในช่วงเวลาปัจจุบันจริงๆ ”
“ทำให้ท่านถูกลบล้างทันที”
กู่ฉิงซานถอนหายใจ
ใช่แล้ว ตามกฎของ “ปลอมแปลง” ไม่มีใครสามารถสัมผัสสิ่งที่ “ตัวตนในอดีต” กำลังประสบอยู่ได้
ไม่สามารถกลับไปที่โลกเก้าร้อยล้านชั้นได้…
นี่นับว่าร้ายแรงก็จริง แต่ยังมีเรื่องอื่นที่ต้องกังวลอีก
กู่ฉิงซานถามอีกครั้งว่า “งั้นถ้าข้าพบคนที่รู้จักในโลกวิญญาณชั่วร้าย อย่างเช่นภูตผีที่โอ่อ่าบางตน แบบนี้จะนับว่าเป็นอะไร”
พลังวิญญาณห้าร้อยแต้มหายไปทันที
หน้าต่างระบบเทพสงครามตอบว่า “กฎเกณฑ์มิติ เวลาและชะตากรรมได้ปิดกั้นโลกเก้าร้อยล้านชั้นเอาไว้ ท่าไนม่มีสิทธิ์เข้าไป”
“หรือก็คือ อีกฝั่งที่ถูกปิดกั้นมิติ เวลาและชะตากรรมเอาไว้จะมีพื้นที่ที่ไม่รู้จักอยู่นอกโลกเก้าร้อยล้านชั้น ในฐานะที่เป็นคนคนเดียวที่ปลอมแปลงประวัติศาสตร์ได้ จึงเป็นไปได้ที่จะยุ่งเกี่ยวกับบุคคลและสิ่งของที่ไม่ได้อยู่ในโลกเก้าร้อยล้านชั้น”
กู่ฉิงซานตกตะลึง จากนั้นยิ้มออกมา
“แบบนี้ก็ยิ่งง่ายเลย”
เขาพึมพำ
อธิบายยืดยาวแบบนี้ แต่ในความสำคัญมีเพียงประโยคเดียว
ขอแค่ไม่กลับโลกเก้าร้อยล้านชั้นก็สามารถทำอะไรก็ได้ตามที่ต้องการ
คาดไม่ถึง สุดยอดพลังของเหรียญมิติและเวลาสามเหรียญช่างร้ายกาจจริงๆ !
กู่ฉิงซานลังเล
ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขารู้สึกเสมอว่าสามเหรียญนี้ทรงพลังเกินไปนิดหน่อย
เมื่อมองย้อนกลับไป สามเหรียญเหล่านี้มีฉายามากมาย หนึ่งในนั้นคือ “เศษเสี้ยวทางเดิน”
เพราะมันเป็นเพียงเศษเสี้ยว แล้วทางเดินสมบูรณ์เป็นอย่างไรล่ะ
เส้นทางดังกล่าวจะพาไปที่ไหน
กู่ฉิงซานถอนหายใจก่อนหยุดคิดถึงเรื่องนี้อีกต่อไป
สำหรับสิ่งมีชีวิต มีความลับไม่มีสิ้นสุดที่ซ่อนอยู่ในความว่างเปล่า การที่อยากรู้ความลับเหล่านี้จะเป็นการนำอันตรายที่คาดไม่ถึงมาสู่ตัว
สิ่งที่เขาต้องทำตอนนี้ไม่ใช่การสำรวจความลับของความว่างเปล่า แต่เป็นการตามหาความจริงที่อยู่เบื้องหลังโลกวิญญาณชั่วร้าย เปลี่ยนประวัติศาสตร์ของพวกมันและปล้นยมโลกมา
นั่นคือสิ่งที่เขาควรจะทำ
กู่ฉิงซานสงบสติลงก่อนมองกระแสเวลาที่อยู่ข้างหน้า
นี่คือช่วงเวลาที่ไกลจากอดีต
การต่อสู้ระหว่างหุบเหวนิรันดร์และโลกวิญญาณชั่วร้ายแทบไม่เคยปรากฏขึ้น แต่ทันทีที่ปรากฏขึ้น มันจะกลายเป็นสมรภูมิที่บีบคั้นทั้งสองฝ่าย
ทุกสงครามคือการต่อสู้ขนาดใหญ่ สถานการณ์นับว่าน่าเวทนายิ่งนัก
จะผิดพลาดไม่ได้
นี่อาจจะเป็นช่วงเวลาที่ทั้งสองฝั่งเริ่มทำสงครามกันครั้งแรก
กู่ฉิงซานสังเกตอย่างระวังขณะเตร็ดเตร่ไปมาตามแม่น้ำแห่งกาลเวลาสายยาวเพื่อพยายามเลือกจุดเข้าที่เหมาะสม
“ใช่ ตรงนี้แหละ” เขาพึมพำ
ในที่สุด เขาก็พบช่วงเวลาหนึ่งและเตรียมที่จะดำดิ่งเข้าสู่มิติและเวลานั้น
แถวหิ่งห้อยผุดขึ้นบนหน้าต่างระบบเทพสงคราม
“โปรดทราบ!”
“ทันทีที่ท่านเลือกเวลาที่จะเข้าไป ท่านจะไม่สามารถกลับมาเริ่มใหม่ได้อีก”
“พลังของเหรียญมิติและเวลาสามเหรียญจะหายไปอย่างสมบูรณ์เมื่ออยู่ในจุดเวลานี้”
“ท่านต้องเริ่มทุกสิ่งจากจุดเวลานี้และอยู่รอดจนกระทั่งถึงช่วงเวลาหนึ่งในอนาคต สามเหรียญถึงจะเริ่มกลับมามีพละกำลัง”
“เพราะท่านมาจากเกาะแห่งกาลเวลา: โลกหอคอย อนาคตที่ท่านต้องไปถึงคืออนาคตที่โลกหอคอยโดดเดี่ยวกำลังจะมาถึง”
“ท่านตัดสินใจจะเริ่มต้นจากช่วงเวลานี้หรือไม่”
กู่ฉิงซานมองฉากบนสมรภูมิก่อนยิ้มออกมาเงียบๆ
เขาถือสามเหรียญก่อนกระโจนเข้าสู่สมิติและเวลานั้น!
…
เหนือโลกเก้าร้อยล้านชั้น
วังวนความว่างเปล่า
สมรภูมิที่ไม่รู้จัก
สงครามโหดร้ายยังคงดำเนินต่อไป มันค่อยๆ มาถึงจุดสิ้นสุด
ศพคนตายที่กองบนพื้นถูกผลักออกไป
ทันทีที่กู่ฉิงซานลุกขึ้น เขาโยนศพหนึ่งเข้าไปในถุงเก็บของก่อนเปลี่ยนตัวเองให้เป็นรูปลักษณ์ของอีกฝ่าย
ปราณดาบพุ่งออกไป
แทบจะในทันที ร่างของเขาถูกปกคลุมด้วยบาดแผลเล็กใหญ่ราวกับผ่านการต่อสู้ดุเดือดมา
ไม่ไกลกันนั้นมีเสียงคำรามของสัตว์ประหลาดหุบเหว
ต้องเร่งมือแล้ว!
กู่ฉิงซานกุมบาดแผลขณะเดินโซเซไปที่หนึ่ง
นั่นคือที่ที่ศพจำนวนมากคุ้มกัน
ผู้ฝึกยุทธ์ทุกคนที่สวมหน้ากากวิญญาณชั่วร้ายเอาไว้ล้วนตายในการต่อสู้
ดูจากท่าทางที่ตายนั้น พวกมันเหมือนกับกำลังคุ้มกันบางอย่างด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มี
กู่ฉิงซานพุ่งเข้าไปก่อนยกคนที่เป็นลมออกจากกองศพ
มีสมบัติชิ้นหนึ่งอยู่ข้างคนคนนี้
กู่ฉิงซานเคยเห็นมันในแม่น้ำแห่งกาลเวลาสายยาวมาก่อน ทุกคนกำลังปกป้องเขา
เขาคือคนใหญ่โต
แถมตอนนี้ยังไม่ตาย!
“ตื่น!”
กู่ฉิงซานตบหน้าอีกฝ่าย
อีกฝ่ายยังคงหมดสติ ไม่ตอบสนอง
ไม่ไกลกันนั้น ฝีเท้าของสัตว์ประหลาดหุบเหวยิ่งมายิ่งดัง แผ่นดินไหวยังคงสั่นสะเทือน
พวกมันกำลังมา!
หากนี่เป็นการปิดล้อมของสัตว์ประหลาดหุบเหว จุดจบก็ช่างน่ากังวลจริงๆ
กู่ฉิงซานขนลุกชูชันขณะคว้าคอเสื้อของอีกฝ่ายแล้วเขย่าไปมา
“เร็ว นายท่าน พวกเราต้องรีบหนีแล้ว ไม่งั้นจะตายนะ!”
เขาตะโกนขณะเขย่า
“อือ…”
ผู้ชายครางออกมาด้วยความเจ็บปวด
มันได้ผล!
แต่ก่อนจะทันได้ลืมตา สัตว์ประหลาดหุบเหวจำนวนมากก็พบทั้งสองคนแล้ว
โฮก!!!
สัตว์ประหลาดหุบเหวพุ่งเข้ามา
เมื่อกู่ฉิงซานเห็นลางไม่ดี เขาแบกอีกฝ่ายทันทีก่อนรีบเลือกทางหนึ่งแล้วตรงไปด้วยกำลังทั้งหมด
เขาวิ่งไปข้างหน้า สัตว์ประหลาดไล่หลัง ระยะห่างระหว่างทั้งสองฝั่งค่อยๆ ใกล้เข้ามา
หัวใจของกู่ฉิงซานค่อยๆ ดิ่งวูบ
ปลอมตัวเป็นนักรบที่ไม่โดดเด่นเพื่อช่วยเหลือบุคคลที่โดดเด่น
นี่แหละคือช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะลอบเข้าสู่การต่อสู้!
บาดแผลของชายคนนี้ร้ายแรงจนไม่อาจได้สติเลยงั้นหรือ
แบบนี้ไม่ดีแน่…
ขณะกู่ฉิงซานกำลังครุ่นคิด ทันใดนั้น เสียงหนึ่งดังมาจากด้านหลังของเขา
“เสี่ยวหลี่จื่อ (ลูกพลัมน้อย) ขอบคุณที่ช่วยข้าไว้”
เสี่ยวหลี่จื่อหรือ
นี่มันชื่ออะไรกัน
มันให้ความรู้สึกว่าเป็นปมด้อยยังไงชอบกล
ช่างเถอะ ทำตัวสงบเสงี่ยมเจียมตัวแบบนี้แหละดีแล้ว
คราวที่แล้วที่เขาไปยมโลก เพราะแสร้งปลอมตัวเป็นฉีหยาน ทันทีที่ไปถึง เขาได้เผชิญหน้ากับจ้าวสำนักทันที ถึงจะอยู่ในสภาพที่เดินบนเส้นเชือก แต่ท้ายที่สุดเขาก็หาทางผ่านพ้นอันตรายมาได้
เรียกว่าเหนื่อยเอาการเลยล่ะ
หัวใจของกู่ฉิงซานสงบลงเล็กน้อย เขาหันหลังแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงลุ่มลึกว่า “คือว่า พวกมันกำลังไล่ตามทันอยู่!”
“ใช่” ผู้ชายกล่าวอย่างไม่รีบร้อน “อ้อ ครั้งนี้ข้าประมาทเอง ไม่คิดเลยว่าสัตว์ประหลาดหุบเหวจะดุร้ายปานนี้ ถ้ารู้อย่างนี้ข้าคงไม่มาหรอก”
ไม่มางั้นหรือ
นี่คือสงครามนะ มาบอกว่าถ้ารู้อย่างนี้ก็คงไม่มาได้อย่างไร
กู่ฉิงซานพลันเข้าใจว่ามีบางอย่างผิดปกติ
เขาได้ยินอีกฝ่ายพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดว่า “เมื่อครู่พวกมันมาเร็วเกินไป ที่จริงข้าอยากลองทำอะไรบางอย่าง แต่ใครจะนึกล่ะว่ามันจะทำให้ข้าเกือบเสียชีวิต”
คนที่อยู่บนแผ่นหลังของเขาคล้ายกับหยิบอะไรบางอย่างออกมาแล้วพูดพึมพำ
ทันใดนั้น ความผันผวนของพลังแปลกประหลาดปกคลุมพวกเขาสองคนเอาไว้
ผู้ชายกล่าวว่า “ไม่ เสี่ยวหลี่จื่อ พวกเราอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว พวกเราต้องกลับไปถ้ำหมื่นอสูรเดี๋ยวนี้!”
ถ้ำ
หมื่นอสูรงั้นหรือ
ดวงตาของกู่ฉิงซานเบิกกว้าง ก่อนที่จะมีเวลาได้พูดอะไร เขาเห็นว่าพลังทั้งหมดรวมตัวเข้าด้วยกันก่อนกลายเป็นวิชาเคลื่อนย้ายมิติ
ความว่างเปล่าแยกออกทั้งสองฝั่ง ม่านแสงวาบผ่านมา
เพียงพริบตา กู่ฉิงซานและผู้ชายบนแผ่นหลังของเขาหายไปจากสมรภูมิ
โฮก!!!
เมื่อเห็นว่าศัตรูกำลังหนี สัตว์ประหลาดหุบเหวเหล่านั้นอดที่จะคำรามใส่ท้องนภาด้วยความโกรธเกรี้ยวไม่ได้
หลังจากไล่ตามมานาน ศัตรูกลับหนีไป มันช่างน่าหงุดหงิดยิ่งนัก
พวกมันหันหลังแล้วจากไป เตรียมระบายโทสะใส่ศัตรูคนอื่น
………………………………….