webnovel

1223 อย่าให้มันรอด

ตอนที่ 1223 อย่าให้มันรอด

แสงระยิบระยับ

ผู้ชายสองคนพุ่งออกมาจากความว่างเปล่าก่อนลงสู่พื้น

“ในที่สุดก็ปลอดภัย กลางวันแล้ว พวกเราจะพักที่นี่จนกว่าจะถึงตอนกลางคืนแล้วค่อยกลับไป”

ผู้ชายคนหนึ่งกล่าวด้วยน้ำเสียงเชิงสั่งการ

เขาปลดชุดเกราะทั้งหมดออกจากร่างกายขณะสวมชุดคลุมสีแดง มือหยิบชุดเครื่องนอนออกมาแล้วปูลงกับพื้น

ผู้ชายอีกคนตอบรับ มือถือคันธนูยาวเอาไว้ขณะมองรอบข้างอย่างระแวดระวัง

ชายหนุ่มชุดคลุมสีแดงนั่งลงอย่างสบายใจก่อนโบกมือ

“เสี่ยวหลี่จื่อ พวกเรารอดกลับมาแล้ว ดังนั้นไม่ต้องระแวดระวังจนเกินไปหรอก ต้มชาให้ข้าสักหม้อดีกว่า”

ชายหนุ่มนามว่าเสี่ยวหลี่จื่อสวมชุดเกราะแตกหักกับถือคันธนูยาวเอาไว้ เขายืนอยู่กับที่ไม่ขยับไปไหน

กู่ฉิงซานสวมอุปกรณ์ของศพครบมือ สามารถต้มชาได้ ระดับของเขานับว่าไม่เลว

แต่เขาไม่รู้ว่าชาแบบไหนที่อีกฝ่ายอยากดื่ม

ผ่านไปหนึ่งอึดใจ

เขาเปิดปากถามว่า “ตอนไปถึงที่นั่น ข้าเห็นท่านถูกสัตว์ประหลาดเล่นงานที่หัวอย่างแรง จากนั้นก็ล้มลงจนหมดสติ หัวของท่านไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่”

นี่คือความจริง ชายหนุ่มชุดคลุมสีแดงถูกสัตว์ประหลาดเล่นงานเข้าที่หัวจนล้มลงหมดสติภายใต้ความตกตะลึงอันแรงกล้า

ชายหนุ่มตกตะลึง

เขามองสีหน้ากังวลของเสี่ยวหลี่จื่อจนอดที่จะแตะหัวตัวเองไม่ได้

“พอเจ้าพูดแบบนั้นแล้ว ข้าคิดว่าคงเจ็บที่หัวจริงๆ นั่นแหละ” ชายหนุ่มพึมพำ

“ท่านไม่ต้องการยารักษาหรือ” กู่ฉิงซานถาม

“ไม่” ชายหนุ่มโบกมือก่อนตอบอย่างภาคภูมิใจว่า “บาดแผลเล็กน้อยแค่นี้ทำอะไรข้าไม่ได้หรอก”

เพี้ยะ!

ดาบยาวราวน้ำสารทยื่นออกมาจากด้านหลังก่อนฟาดเข้าที่หลังคอของเขาอย่างแผ่วเบาและรวดเร็วปานสายฟ้า

ทันทีที่ดาบยาวฟาดออกไป ลำแสงสองสามสายพุ่งออกจากร่างกายของชายหนุ่มขณะพยายามปกป้องเอาไว้

ทว่า ดาบขุนเขาศักดิ์สิทธิ์หกภพมีพลังทำลายกฎเกณฑ์ ไม่ว่าจะวิชาปกป้องแบบไหนก็ไม่สามารถขัดขืนได้

ชายหนุ่มสั่นสะท้านไปทั่วร่างก่อนล้มหมดสติบนเตียงทันที

ดาบยาวกลายเป็นฉานนู่ก่อนกระซิบว่า

“การป้องกันแย่ไปหน่อยนะ”

“นั่นหมายความว่าที่นี่ปลอดภัยยังไงล่ะ” กู่ฉิงซานกล่าวขณะอ้าแขน

ที่นี่คือถ้ำมืดเงียบสงัด พื้นแห้งสะอาด

ประตูถูกปิดด้วยประกายแสงสว่าง เป็นไปไม่ได้ที่จะออกไป

ตอนนี้ กู่ฉิงซานไม่รีบร้อนมองรอบข้าง เมื่อเดินไปมาจนถึงก้าวที่ยี่สิบ เขาวางมือบนหน้าผากของชายหนุ่ม

สืบค้นวิญญาณ ทำงาน!

ฉากแล้วฉากเล่าปรากฏขึ้นในจิตใจของกู่ฉิงซาน ทำให้เขาเข้าใจทุกสิ่งเกี่ยวกับชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว

คิ้วของกู่ฉิงซานค่อยๆ คลายลง

หลังจากผ่านไปครึ่งก้านธูป

ชายหนุ่มได้สติเลือนราง เขาได้กลิ่นหอมของชา

“นอนไม่ค่อยสบายเลย เหมือนโดนทำให้หมดสติไปมากกว่า!”

เขาพลันเงยหน้ามอง

กู่ฉิงซานนั่งอยู่ด้านข้างขณะต้มชา สีหน้าของเขาเป็นกังวล

ชายหนุ่มตรวจสอบเครื่องรางและสมบัติบางส่วนบนร่างกาย

ทุกอย่างปลอดภัยดี

เขาไม่ได้ถูกใครโจมตี

“ข้าหมดสติหรือ ข้าหมดสติไปนานแค่ไหน” ชายหนุ่มยอมรับความจริงขณะถาม

“ราวครึ่งก้านธูป นายน้อย โปรดดื่มชาก่อน”

กู่ฉิงซานรินชาให้

ชายหนุ่มรับถ้วยชาก่อนดื่มหมดในอึดใจเดียว

“เสี่ยวหลี่จื่อ เจ้ายังภักดีเหมือนเดิม เป็นเจ้าที่ช่วยข้าในตอนท้าย ข้าจะจำไว้”

เขาตบบ่ากู่ฉิงซานขณะกล่าวเช่นนั้น

“นายน้อยไม่ต้องเป็นห่วงอะไรหรอก หัวของนายน้อยยังได้รับบาดเจ็บอยู่ รีบรักษาก่อนจะดีกว่า” กู่ฉิงซานกล่าว

ชายหนุ่มคล้ายกับไม่สามารถเช็ดหน้าตัวเองได้

ยังไงเสีย ถึงจะเพิ่งบอกว่าไม่เป็นไร แต่เขากลับหมดสติในทันที

“ช่างมันเถอะ แค่ปัญหาเล็กน้อย ทำอะไรให้กินก่อนดีกว่า ข้าไม่อยากกินอาหารแห้งน่ะ” ชายหนุ่มกล่าว

“ขอรับ”

กู่ฉิงซานหยิบวัตถุดิบออกมาเพื่อเตรียมอาหารตามข้อมูลในความทรงจำของอีกฝ่าย

เทียบกับโลกผู้ฝึกยุทธ์แล้ว ทักษะการทำอาหารของโลกนี้ยังนับว่าเรียบง่าย กู่ฉิงซานเพียงมองดูความทรงจำของอีกฝ่ายก็สามารถช่ำชองได้แทบจะในทันที

ผ่านไปสักพัก

อาหารพร้อมแล้ว

ชายหนุ่มได้กินอาหารที่ดี

อาหารวันนี้ยังเป็นรสชาติเดิม แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขารู้สึกเสมอว่ามันมีกลิ่นหอมกว่าทุกครั้ง

กู่ฉิงซานรอจนกระทั่งอีกฝ่ายกินเสร็จ จากนั้นจึงเริ่มกินในส่วนของตัวเอง

เมื่อเขาทำความสะอาดหม้อและกระทะจนสะอาดแล้ว ชายหนุ่มนั่งขัดสมาธิเพื่อทำสมาธิ

กู่ฉิงซานหยิบธนูออกมาอย่างเงียบงันขณะยืนอยู่ในถ้ำเพื่อเฝ้าระวังภัย

ธนูนี้เป็นของชายหนุ่มที่ตายไป

ยังไงเสีย วิญญาณชั่วร้ายก็ไม่รู้ว่าเขาถึงกับช่ำชองการใช้ธนูด้วย

กู่ฉิงซานเลือกคนนี้เป็นพิเศษเพื่อปกปิดตัวตนที่แท้จริงของเขา

ในโลกเทียนจู เจตจำนงของทุกโลกมอบวิชาของผู้ฝึกยุทธ์ที่ดีที่สุดให้เขา รวมถึงวิชาธนู วิชาดาบและวิชายุทธ์อันยอดเยี่ยมให้

สิ่งเหล่านี้มีแต่เขาเท่านั้นที่เข้าใจ

กู่ฉิงซานครอบครองพลังของสามมังกร บนพื้นฐานของพลังอันแก่กล้านี้ ไม่ว่าจะต่อยมวยหรือยิงธนู ไม่ใช่ปัญหาที่จะเริ่มลงมือฝึกฝนจนชำนาญได้อย่างรวดเร็ว

เขายังเคยใช้ธนูมาก่อน หลังจากวิญญาณได้รับการปลดปล่อย เขาติดตามหลินจนได้เรียนวิชายุทธ์ของเผ่าพันธุ์มนุษย์โบราณเพิ่มเติมด้วย

เดิมทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว ขอแค่รอให้เข้าสู่โลกวิญญาณชั่วร้ายก็เท่านั้น แต่ใครจะนึกล่ะว่าด้วยข้อผิดพลาดบางอย่าง ทำให้ต้องมาอยู่ที่ถ้ำหมื่นอสูร

เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ

ในถ้ำ ชายหนุ่มกำลังทำสมาธิ ส่วนกู่ฉิงซานกำลังทำความเข้าใจวิชาธนูพร้อมกับระแวดระวังการเคลื่อนไหวรอบข้าง

ช่วงหัวค่ำ

ชายหนุ่มเลิกทำสมาธิ

เขามองสีหน้าระแวดระวังของกู่ฉิงซานจนอดที่จะกล่าวไม่ได้ว่า “เสี่ยวหลี่จื่อ ทำไมเจ้าต้องระแวดระวังขนาดนี้ ขอแค่พวกเราไม่ออกไปที่พื้นดินก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอก”

“อีกอย่าง เดี๋ยวเดียวก็มืดแล้ว”

กู่ฉิงซานเงียบ

ในโลกใบนี้ พื้นดินคือสถานที่ที่ไม่มีใครสามารถไปได้

โดยเฉพาะช่วงกลางวัน ถ้ำใต้ดินคือที่เดียวที่ปลอดภัย

ถึงกระนั้น หากต้องการเดินทางออกจากถ้ำ การรอให้ถึงช่วงกลางคืนก่อนนับว่าปลอดภัยกว่า

“นายน้อย ไม่ใช่เพราะพื้นดินหรอก แต่ข้าคิดว่าการที่ท่านถูกโจมตีในครั้งนี้มันมีอะไรแปลกๆ ” กู่ฉิงซานกล่าว

“เสี่ยวหลี่จื่อ เจ้าอยากจะพูดอะไร” ชายหนุ่มถามด้วยความประหลาดใจ

กู่ฉิงซานถามกลับว่า “ทำไมท่านถูกพามาที่สมรภูมิจนต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายแบบนี้ล่ะ”

ชายหนุ่มมีสีหน้าหนักใจ แต่เมื่อได้ยินดังนี้ เขาพลันได้สติขึ้นมา

“หากไม่นับข้า ทุกคนที่สามารถปกป้องท่านได้ตายหมดแล้ว” กู่ฉิงซานกล่าว

ชายหนุ่มครุ่นคิด “แบบนี้ พวกคนที่บอกข้าว่าฉากสงครามช่างยิ่งใหญ่และควรค่าแก่การเชยชมก็ล้วนน่าสงสัย…”

กู่ฉิงซานลอบพยักหน้า

ดีแล้ว ไม่ต้องตีหน้าซื่อ แค่ไม่แสดงออกนอกหน้าจนเกินไป

ชายหนุ่มพลันแตะกำไลบนข้อมือซ้ายเพื่อหยิบคันธนูยาวออกมา

เขาโยนคันธนูยาวให้กู่ฉิงซาน “เจ้าช่วยข้าไว้ ถือว่าทำคุณงามความดีครั้งใหญ่ ข้าควรตอบแทนกลับด้วยการตบรางวัลให้ แต่ตอนนี้สถานการณ์พิเศษนัก ข้าจะมอบธนูนี้ให้กับเจ้าก่อน”

กู่ฉิงซานรับคันธนูยาวมาก่อนนำมาเทียบกับธนูในมือ

แค่ความรู้สึกกับรูปทรง ทั้งสองก็แตกต่างกันมากแล้ว

เขาพบรายละเอียดของธนูนี้จากความทรงจำของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว

นี่คือธนูเลื่องชื่อ

กู่ฉิงซานกล่าวว่า “นายน้อย นี่คือ ‘อินทรีสู่จันทรา’ หนึ่งในสิบสามธนูของสำนักเฟยอวี่ ข้าเกรงว่าตัวเองยังแข็งแกร่งไม่พอ”

“เอาไปใช้ก่อน พอกลับไปได้เมื่อไหร่ค่อยเอามาคืนข้า” ชายหนุ่มกล่าว

กู่ฉิงซานนิ่ง

เฮ้อ แบบนี้น่าเบื่อชะมัด

ตอนนี้ แสงสว่างจกาปากถ้ำค่อยๆ หายไป

“กลางคืนแล้ว ไปกันเถอะ” ชายหนุ่มชุดคลุมสีแดงสั่ง

“ขอรับ นายน้อย”

กู่ฉิงซานยืนขึ้นก่อนปล่อยจิตเทพออกไป

เขาขยับความคิดเล็กน้อย ทันใดนั้นก็หันมาถามชายหนุ่มชุดคลุมสีแดงว่า “นายน้อย หัวเป็นยังไงบ้าง”

ชายหนุ่มชุดคลุมสีแดงตอบอย่างหงุดหงิดว่า “ไม่เป็นไรๆ รีบหน่อยเถอะ กลับไปให้ได้ก่อน เจ้าช่วยเปิดทางข้างหน้าให้ที”

เพี้ยะ!

ดาบยาวฟาดหลังคอของเขาราวกระแสไฟฟ้าแล่นผ่าน

ชายหนุ่มสั่นสะท้านก่อนหมดสติอีกครั้ง

“นายท่าน” เสียงของฉานนู่ดังมาจากดาบยาว

“อืม เจ้าซ่อนตัวก่อน ข้าขอไปดูสถานการณ์สักหน่อย” กู่ฉิงซานกล่าว

“ได้”

ดาบยาวหายไปจากด้านหลังของเขาเงียบๆ

กู่ฉิงซานเดินออกจากถ้ำขณะยืนอยู่ในอุโมงค์ลึกหลายอึดใจ

เขาเห็นชายสวมหน้ากากสองสามคนกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้

กู่ฉิงซานเผยรอยยิ้มออกมาและกำลังจะพูดบางอย่าง แต่ชายชุดดำที่เป็นหัวหน้ากลับออกคำสั่งแล้ว

“อย่าให้มันรอด!”

“รับทราบ!”

คนชุดดำตะโกนพร้อมกัน

รอยยิ้มบนใบหน้าของกู่ฉิงซานแข็งค้าง

ถ้าอีกฝ่ายพูดแบบนั้น มันก็ไม่มีทางอื่นอีกแล้ว

เขายกธนูขึ้นอย่างเกรี้ยวกราด

อย่าให้มันรอดหรือ

ถ้าอย่างนั้น

ธนูยาวในมือของเขาที่มีชื่อว่า “อินทรีสู่จันทรา” พลันหายไปก่อนถูกแทนที่ด้วยธนูยาวสีเขียวเข้มโปร่งแสง

ธนูแห่งวิญญาณล่วงลับ

นี่คือธนูยาวที่แม่นางฟู่สื่อมอบให้ที่โถงทองแดงแห่งความโกลาหล มันคือสุดยอดอาวุธของความโกลาหล

กู่ฉิงซานยกธนูขึ้น กลั้นลมหายใจ ไม่ขยับไปไหน

เพียงชั่วพริบตา เขาเห็นมือตัวเองง้างสายของธนูยาวแล้วปล่อยออกไปราวกับภาพติดตา

เสียงอสนีบาตดังขึ้นต่อเนื่อง

แสงสีเขียวเข้มพุ่งออกไปก่อนหายไปทันที

หนึ่งอึดใจ

ทุกคนถูกลูกธนูยิง แต่มีบางคนหลบไม่ให้โดนจุดตายได้

ยังไงเสีย กู่ฉิงซานก็ไม่ได้ใช้ธนูมานาน ต้องใช้เวลาสักพักถึงจะทำความคุ้นชินได้

แต่เขาไม่ได้ลงมือต่อ

ธนูแห่งวิญญาณล่วงลับมาพร้อมกับ “พลังแห่งการเหี่ยวเฉา” และ “แหล่งกำเนิดการกัดกร่อน”

มีเสียงกรีดร้องดังขึ้น

มีเสียงกรีดร้องดังออกมาจากทุกคนก่อนถูกกัดกร่อนในพริบตา

สายลมเย็นเยือกพัดผ่านมาจากส่วนลึกของอุโมงค์

ทันใดนั้น เงาสีดำปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่าขณะรวมตัวเป็นสัตว์ประหลาดแห่งความมืดดูดุร้าย

ใช้เวลาเพียงชั่วพริบตาที่สัตว์อสูรยักษ์ตัวนี้เคลื่อนผ่านอุโมงค์ยาวก่อนมาอยู่ตรงหน้ากู่ฉิงซาน

“เจ้านักธนูชั่ว ข้าต้องการชีวิตของเจ้า!” สัตว์อสูรยักษ์คำรามด้วยเสียงคมปลาบ

ฉัวะ

ดาบยาวเคลื่อนผ่านร่างกายของมัน

ประกายดาบเย็นเยือกปรากฏขึ้นราวกับแม่น้ำงดงามเป็นสง่าขณะปาดสัตว์ประหลาดแห่งความมืด

การโจมตีขนาดใหญ่นี้ไม่ทำลายหินก้อนใดในอุโมงค์ การควบคุมประกายดาบแทบจะสามารถเรียกได้ว่ายอดเยี่ยมที่สุด

ดาบลับ กระแสพลัง!

พลังของดาบพิภพ การตัดสินใจของพิภพ!

เสียงอึกทึกพลันเงียบลง

ในอุโมงค์ นอกจากสายลมเย็นเยือกที่พัดมาอย่างต่อเนื่อง ไม่มีสิ่งแปลกประหลาดเกิดขึ้นที่นี่อีก

กู่ฉิงซานเก็บดาบ

“ถึงแม้ข้าจะตั้งใจเป็นนักธนู แต่ถ้ามาฆ่ากันในระยะประชิดแบบนี้ มันก็ออกจะเกินไปหน่อยนะ”

เขาพูดช้าๆ ขณะเก็บดาบพิภพและธนูแห่งวิญญาณล่วงลับก่อนเดินกลับไป

เรื่องราวคลี่คลายแล้ว ตอนนี้สามารถเริ่มเคลื่อนไหวได้

กู่ฉิงซานกดที่หลังหัวของชายหนุ่มชุดคลุมสีแดงเบาๆ

อีกฝ่ายได้สติขึ้นมา ใช้เวลาสักพักจึงจะตอบสนองได้

“ข้าหมดสติอีกแล้วหรือ” ชายหนุ่มถาม

กู่ฉิงซานพยักหน้าด้วยสีหน้ากังวล

“นายน้อย ดูหัวของท่านสิ” เขาลังเล

“หยุดพูดได้แล้ว ข้าเข้าใจล่ะ”

ชายหนุ่มแตะกำไล หยิบยาออกมาเจ็ดถึงแปดเม็ดก่อนยัดเข้าปากแล้วกลืนลงไปรวดเดียว

………………………………..