webnovel

1172 สิ่งที่หลงเหลือของเชือกแห่งเมฆาสัญจร(1)

ตอนที่ 1172 สิ่งที่หลงเหลือของเชือกแห่งเมฆาสัญจร

“หน้าต่างระบบเทพสงคราม สองตัวตนของเทพยมโลกที่ข้ามีมันคืออะไร” กู่ฉิงซานถาม

หน้าต่างระบบเทพสงครามตอบว่า “ที่จริง ท่านรู้อยู่แล้วว่าสองตัวตนนั่นคืออะไร แต่เมื่อถามแล้ว…”

“แค่บอกข้ามาก็พอ” กู่ฉิงซานกล่าว

“ข้าต้องเก็บนะ” หน้าต่างระบบเทพสงครามกล่าว

เขาเห็นค่าพลังวิญญาณที่เหลืออยู่ขยับ พลังวิญญาณสองร้อยแต้มหายไป

กู่ฉิงซานเงียบ

หน้าต่างระบบเทพสงครามกล่าวว่า “ท่านมีเทวภัณฑ์สองชิ้นในเศษเสี้ยวยมโลก ชื่อของมันคือไม้เท้าราชาภูตผีจองจำกับดาบขุนเขาศักดิ์สิทธิ์หกภพ ท่านคือเจ้านายของพวกมันอย่างไม่ต้องสงสัย ดังนั้นตัวตนของท่านจึงเป็นราชาภูตผียมโลกกับเทพขุนเขาศักดิ์สิทธิ์หกภพ”

“ถ้าท่านอยากเข้าเส้นทางสู่สวรรค์ ท่านต้องทิ้งสองตัวตนนี้”

กู่ฉิงซานครุ่นคิด “หรือก็คือ ข้าต้องทิ้งอาวุธสองชิ้นนี้ไปงั้นหรือ”

“ใช่” หน้าต่างระบบเทพสงครามตอบ

“อย่าแม้แต่จะคิด” กู่ฉิงซานโพล่งออกไป

ครั้งหนึ่งเคยมีอีกตัวตนเตือนให้เขาทิ้งฐานะราชาภูตผียมโลกไป

ทว่า อีกฝ่ายไม่ได้กล่าวถึงดาบขุนเขาศักดิ์สิทธิ์หกภพ

กู่ฉิงซานพลันครุ่นคิด

ในความคิดของเขา ถึงแม้ไม้เท้าราชาภูตผีจองจำจะสำคัญ แต่ก็ใช่ว่าจะทิ้งไม่ได้

แต่ดาบขุนเขาศักดิ์สิทธิ์หกภพต่อสู้เคียงข้างเขามานาน มันคือดาบของเขาเอง

ผู้ใช้ดาบจะไม่มีวันทิ้งดาบของตัวเอง

ถ้าต้องเทียบสิ่งหนึ่งกับดาบขุนเขาศักดิ์สิทธิ์หกภพ เขาย่อมให้ความสนใจดาบเล่มนี้แล้วเก็บไว้กับตัวมากกว่า

ในเมื่ออีกฝ่ายไม่พูดอะไร

เช่นนั้น ดูท่าว่าอีกฝ่ายจะยังไม่ได้ดาบขุนเขาศักดิ์สิทธิ์หกภพ

ในทางกลับกัน หากมีเพียงไม้เท้าราชาภูตผีจองจำ ในสถานการณ์แบบนี้ อาจจะต้องชั่งน้ำหนักพอสมควร

แต่ถ้าเขามีดาบขุนเขาศักดิ์สิทธิ์หกภพ ยังไงเขาก็ไม่ยอมยกดาบให้ ตัวตนจากยมโลกยิ่งแล้วใหญ่

อีกฝ่ายไม่มีดาบเล่มนี้

เรื่องนี้ใช่แน่ๆ

กู่ฉิงซานถอนหายใจ

“อาจารย์ ดูท่าข้าจะไม่สามารถไปหาท่านได้สักพักแล้วล่ะ” เขากล่าวอยู่ในใจอย่างเงียบงัน

เซียนแห่งสำนักร้อยบุปผา เซี่ยเต้าหลิง ไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธ์ธรรมดา ภายใต้สถานการณ์ปกติ ไม่จำเป็นจะต้องเป็นห่วงนาง

เมื่อคิดถึงตรงนี้ กู่ฉิงซานถอยออกมาก่อนออกจากขอบผา

ทันใดนั้น มีเสียงดังมาจากอีกฝั่งของหน้าผา

ภูตและผู้ฝึกยุทธ์มาถึงแล้ว

ที่จริง ภูตมาถึงตนแล้วตนเล่าตั้งแต่เมื่อครู่ แต่กู่ฉิงซานยุ่งอยู่กับการตรวจสอบสถานการณ์ของเส้นทางสู่สวรรค์ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สนใจสักพัก

กู่ฉิงซานปล่อยจิตเทพก่อนพบว่าทุกคนอยู่ที่นี่แล้ว

เขาคลายร่างจักรพรรดิส้มก่อนกลับสู่ร่างผู้ใหญ่

เพียงพริบตา “เงาภูตผีแห่งราตรีมายา” หายไปจากตัวเขา

ภูตและผู้ฝึกยุทธสังเกตเห็นรูปลักษณ์ของเขาทันที

ชายชราเครายาวพุ่งเข้ามาแล้วตะโกนว่า “กดปรดทราบ! คนสุดท้ายที่ถึงยอดเขาคือกู่ฉิงซาน เขาจะต้องกลายเป็นเบ้ให้ทุกคนดู!”

ด้านหลังของเขา ราชาภูตลดเสียงลงแล้วกล่าวว่า “ไม่ใช่แล้ว ไม่ใช่เบ้ แต่เป็นเบ๊ต่างหาก”

ชายชราเครายาวหันศีรษะมาชำเลืองมองราชาแล้วกล่าวว่า “เบ้กับเบ๊มันต่างกันตรงไหน ก่อนหน้าข้าจำได้ว่าท่านพูดว่าเบ้นะ”

เขามองผู้ฝึกยุทธ์ที่ตามมา

ผู้ฝึกยุทธ์มองหน้ากันขณะก้มศีรษะ

กู่ฉิงซานยักคิ้วแล้วกล่าวว่า “ข้ามาถึงที่นี่ก่อนพวกเจ้า”

“เหลวไหล!” ภูตคำราม

“พวกข้าล้วนมาที่นี่ได้สักพักแล้ว แต่ไม่สังเกตเห็นใครบนยอดเขาลูกนี้เลย” ราชาภูตตะโกน

“รีบกลายเป็นเบ๊เร็ว! เร็ว! เร็ว! เร็ว!” ชายชราเครายาวเร่ง

ผู้ฝึกยุทธ์เหล่านั้นเผยสีหน้าคาดหวังเช่นกัน

กู่ฉิงซานพูดไม่ออก

เรื่องอื่นสามารถคุยได้ก็จริง แต่เห็นได้ชัดว่าเขามาถึงคนแรก ทำไมต้องมาเป็นเบ๊ด้วย ยังไงเขาก็ไม่ยอมเป็นแน่ๆ

“นี่ ข้ามาถึงก่อนจริงๆ นะ!”

ขณะกล่าว เขาใช้พลังเหนือธรรมชาติระดับขุนเขาเซียวหมีเพื่อกลายเป็นแมวสีส้ม จากนั้นหายไปจากทุกคน

“เดี๋ยว คนหายไปไหนน่ะ” ชายชราเครายาวถามด้วยความสับสน

ท่ามกลางความว่างเปล่า มีเสียงร้องของแมวดังขึ้น “เหมียวๆ เหมียวๆๆ !”

ชายชราเครายาวพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ข้าเชื่อแล้ว ข้าเชื่อแล้ว เจ้ามาถึงก่อนจริงๆ เจ้าไม่ต้องเป็นเบ๊แล้วล่ะ”

เขาหันศีรษะไปมองผู้ฝึกยุทธ์ที่กำลังปาดเหงื่ออยู่

ก่อนจะทันได้กล่าวอะไร ขุนเขาศักดิ์สิทธิ์พลันขยับ

ชั้นแสงสว่างวิญญาณรวมตัวบนยอดเขา ลำแสงทะยานไปสู่ท้องนภา

การก้าวข้ามภัยพิบัติเสร็จสิ้นแล้ว

ตอนนี้ ขุนเขาเซียวหมีกำลังจะส่งทุกคนกลับโลกเดิม!

เพียงพริบตา กลิ่นอายจำนวนมากปรากฏขึ้นก่อนเคลื่อนลงมาหาทุกคน

ตูม!

กลิ่นอายกลืนกินทุกคนก่อนพุ่งออกจากยอดเขา

กู่ฉิงซานเชื่อมต่อกับภูตทุกคนก่อนเคลื่อนย้ายไปในความว่างเปล่าด้วยความเร็วสูงยิ่งและกำลังจะกลับไปยังความว่างเปล่าที่เขาเพิ่งจากมา

“เหมียวๆ (แย่แล้ว) !”

กู่ฉิงซานเปลี่ยนสีหน้าขณะกล่าว

เขาสังหารชางอู๋จางที่นั่น จากนั้นก็ใช้พลังการก้าวข้ามภัยพิบัติเพื่อหลบหนี ตอนนี้ที่นั่นจะต้องถูกห้อมล้อมโดยวิญญาณชั่วร้ายนับไม่ถ้วนแน่ๆ

อาจจะมีปรมาจารย์ภูตผีอยู่ที่นั่นด้วย!

โดยไม่ลังเล กู่ฉิงซานปล่อยสามเหรียญด้วยอุ้งเท้า

ทูตสวรรค์แห่งบาป!

บัญญัติราชามาร!

ต้นไม้หนามโบราณ!

สามเหรียญตอบสนองกันเป็นอย่างดีขณะรวมตัวเชิงสัญลักษณ์ขึ้นมา

ลำแสงสองสายพุ่งออกจากเหรียญ “ทูตสวรรค์แห่งบาป” และเหรียญ “บัญญัติราชามาร” ก่อนตกลงบนกู่ฉิงซาน

เหรียญ “ต้นไม้หนามโบราณ” ปลดปล่อยแสงเจิดจ้าขณะกระแทกใส่ภาพมายาของต้นไม้หนามโบราณที่ปรากฏขึ้นจากข้างหลังเขา

ต้นไม้หนามโบราณได้รับคำสั่งจากลอร่าว่าให้ติดตามกู่ฉิงซานตลอดเวลา

สามพลังร่วมแรงกัน!

“เหมียว เหมียวๆๆๆ !” กู่ฉิงซานกล่าวเสียงดัง

ถึงแม้ชายชราเครายาวจะยังมองไม่เห็นเขา แต่ยังตอบรับเสียงดังว่า “เอาล่ะ พวกเราก็ไปด้วยกันเถอะ!”

จิตของกู่ฉิงซานขยับ

หมอกสีดำไม่มีสิ้นสุดพุ่งออกจากสามเหรียญก่อนกระจายออกอย่างรวดเร็วเพื่อปกคลุมกู่ฉิงซานและภูตทั้งหมดเอาไว้

“เดินทาง” ทำงาน!

ความว่างเปล่าทั้งหมดที่อยู่รอบข้างหายไปทันที

แม่น้ำสายยาวที่ส่องแสงระยิบระยับปรากฏขึ้นตรงหน้าทุกคน

แม่น้ำแห่งกาลเวลาสายยาว!

ทุกคนลอยอยู่เหนือแม่น้ำสายยาว!

กู่ฉิงซานมองแม่น้ำสายยาวกับหมอกที่ลอยอยู่ด้านบน เขาถอนหายใจยาวออกมา

ตอนนี้ยังปลอดภัย

เขาหันไปมองภูตแล้วกล่าวว่า “เหมียวๆ ”

ต้องเปลี่ยนแปลงกะทันหัน!

ภูตเพียงได้ยินเสียงเหมียวที่คาดไม่ถึงดังมาจากอีกฝั่ง จากนั้นก็ไม่มีการเคลื่อนไหวอะไร

แมวส่งเสียงร้องพร้อมกระดิกหางยาว จากนั้นพุ่งไปสถานที่ใดไม่ทราบที่อยู่ไกลออกไป

มันชี้ปลายนิ้วมา ไม่ส่งเสียงอะไร

ชายชราเครายาวกระพริบตาก่อนหันไปมองด้านหลังแล้วถามว่า “เขาบอกให้รอหรือ”

ราชาภูตตอบว่า “ใช่ เขาบอกว่าให้รอก่อน”

“แทนตัวเองว่า ‘เขา’ หรือ” ชายชราเครายาวถาม

“ฟังจากน้ำเสียง น่าจะเป็นคำนี้นะ” ราชาตอบ

“เช่นนั้นพวกเราก็รอที่นี่แล้วกัน” ชายชราเครายาวปรบมือ

กู่ฉิงซานพุ่งอยู่ในความว่างเปล่าไม่มีสิ้นสุด

สิ่งมีชีวิตลึกลับเหล่านั้นที่หลอกหลอนในความว่างเปล่า ไม่มีใครสามารถตรวจจับเขาได้

แรงดึงขนาดใหญ่ลากร่างแมวให้มุ่งไปทางสถานที่ลับที่ไม่ถูกพบเห็นมานาน

ซากศพขนาดใหญ่!

ขณะเหาะไปตามทาง กู่ฉิงซานเกิดความสงสัย

ซากศพขนาดใหญ่ไม่ได้ติดต่อเขามานานมาก

เขากังวลมาตลอด ไม่รู้ว่าตอนนี้อีกฝ่ายเป็นอย่างไรบ้าง

ตอนนี้ จู่ๆ มันเคลื่อนย้ายพริบตามาหาเอง หรือจะมีเรื่องเร่งด่วนกันแน่

กู่ฉิงซานลอบครุ่นคิดในใจว่าจะต้องคลายสภาพจักรพรรดิส้มก่อน

หากจะไปพบซากศพขนาดใหญ่ ไปพบด้วยร่างตัวเองน่าจะดีกว่า

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เขาพลันสัมผัสถึงบางสิ่งก่อนก้มมองเชือกสั้นสีม่วงที่พันรอบอุ้งเท้าของเขา

เชือกสั้นพันรอบอุ้งเท้าแมวเอาไว้แน่น แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะขยับเขยื้อนตรงส่วนนั้น

นี่คือเชือกที่สามารถดึงดูดโชคได้...

ทำไมจู่ๆ มันถึงมาพันที่อุ้งเท้าได้ล่ะ

กู่ฉิงซานเงียบก่อนจะอดนึกถึงสิ่งที่ลอร่ากล่าวในตอนนั้นไม่ได้

“ที่จริง ข้ายังมีสมบัติแปลกประหลาดที่ตกทอดมาจากตระกูลวิหคหนามอยู่ มันคือเชือกแห่งเมฆาสัญจร”

ลอร่าผูกที่คาดผมสีม่วงไว้ที่ข้อมือแล้วกระซิบว่า

“หน้าที่ของมันคือการเสริมโชคเป็นพิเศษ”

โชค…

กู่ฉิงซานยังคงเงียบสักพักขณะรักษาสภาพจักรพรรดิส้มเอาไว้ รวมถึงรักษาพลังเหนือธรรมชาติ “เงาภูตผีแห่งราตรีมายา” เอาไว้ด้วย

ตัดสินจากสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากใช้งาน การตัดสินของเขาจะกำหนดกับความเป็นความตายในระดับหนึ่ง

เขาไม่รู้ว่าต้องอยู่อีกนานแค่ไหน

จู่ๆ โลกไร้อารายธรรมแห่งหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา

โครงกระดูกสีดำนับไม่ถ้วนเดินอยู่บนพื้นแห้งอย่างไม่เหนื่อยล้า

เสาทองสัมฤทธิ์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ระหว่างสวรรค์และปฐพี มองไม่มีจุดสิ้นสุด

ตอนนี้ แมวสีส้มมาถึงแล้ว

มันเคลื่อนลงไปในความว่างเปล่าตรงหน้าเสาทองสัมฤทธิ์อย่างแผ่วเบาขณะมองเสา

เขาเห็นกระดูกสีขาวซ่อนอยู่ในชุดเกราะสีดำ มันถูกตรึงไว้กับเสาทองสัมฤทธิ์

“ระวังด้วย”

เสียงของซากศพขนาดใหญ่พลันดังขึ้น

..............................