ตอนที่ 1160 ความเชื่อใจของมังกรมาร
ชางอู๋จางจากไปโดยไม่หันหลังกลับ
ในห้องโถง เหล่าภูตผีก้มศีรษะ ไม่กล้าพูดอะไรสักคำ
คนหนึ่งคืออดีตเจตจำนงภูตผี อีกคนคือเจตจำนงภูตผีในตอนนี้
ทั้งสองไม่ได้ปะทะกันในตอนแรก แต่ตอนนี้พวกเขาแสดงความขัดแย้งกันกลางที่สาธารณะ ใครจะรู้ล่ะว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้
เมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์ดังกล่าว จะมีภูตผีตนไหนกล้าพูด
บนที่นั่งหลัก ผู้หญิงชุดคลุมสีดำวางคัมภีร์ในมือลง
“ทั้งหมดออกไปรอข้างนอก”
นางสั่งอย่างแผ่วเบา
“ขอรับ” ภูตผีทั้งหมดยืนขึ้นก่อนคำนับ จากนั้นเดินออกไปตนแล้วตนเล่า
ผู้หญิงชุดคลุมสีดำนั่งอยู่กับที่ขณะครุ่นคิดสักพัก
นางไม่ขยับ นิ่งเงียบราวกับประติมากรรมดินเหนียวอยู่เนิ่นนาน จากนั้นยืนขึ้นแล้วเดินไปที่โถงด้านหลัง
ตรงกันข้าม โถงด้านหลังใหญ่กว่าและโล่งกว่าโถงด้านหน้า มีรูปปั้นของวิญญาณชั่วร้ายตั้งอยู่ข้างใน
ผู้หญิงชุดคลุมสีดำถือก้านธูปด้วยมือทั้งสองข้างก่อนปักลงไปในกระถางธูป จากนั้นคุกเข่าข้างหนึ่งเพื่อคารวะ
ไม่ช้า
ธูปลุกเป็นไฟ ควันโขมง
รูปปั้นวิญญาณชั่วร้ายคล้ายกับปราดเปรียวมากขึ้น มันก้มลงมองผู้หญิงชุดคลุมสีดำ
เมื่อเห็นว่าธูปลุกเป็นไฟ ผู้หญิงชุดคลุมสีดำคำนับรูปปั้นแล้วกล่าวว่า “ข้าน้อยขอคารวะท่าปรมาจารย์ภูตผี”
น้ำเสียงเฉยชาและเหินห่างดังมาจากรูปปั้น
“มีเรื่องอะไร”
ผู้หญิงชุดคลุมสีดำตอบว่า “ข้าล้มเหลว”
เสียงอีกฝ่ายแหบพร่ามากขึ้นก่อนกล่าวว่า “ว่ามา”
ผู้หญิงชุดคลุมสีดำกล่าวว่า “ข้าใช้คำสาปแมลงกัดกร่อนวิญญาณหมื่นอสูร แต่ราชาภูตผียมโลกทำลายคำสาปได้”
รูปปั้นถามว่า “คำสาปนี้นับว่าไม่เลว แล้วเจ้าล้มเหลวได้ยังไง ถ้างั้นจะบอกว่าราชาภูตผียมโลกไม่ติดกับอย่างนั้นหรือ”
“ด้วยการใช้มังกรมาร ราชาภูตผียมโลกจึงติดกับแต่มันไม่ตาย” ผู้หญิงชุดคลุมสีดำตอบ
รูปปั้นวิญญาณชั่วร้ายเงียบแล้วกล่าวว่า “แม้กระทั่งชีวิตของมังกรมารก็ใช้ไปแล้วแต่ก็ยังฆ่ามันไม่ได้…”
ผู้หญิงชุดคลุมสีดำคำนับด้วยความเคารพ ไม่พูดอะไรสักคำ
รูปปั้นวิญญาณชั่วร้ายกล่าวอย่างช้า ๆ ว่า “ตามแผนของเจ้า ตอนนี้เจ้าจะฆ่ามังกรมาร นำพลังมันกลับมาพร้อมกับราชาภูตผียมโลกอีกครั้งเพื่อเปลี่ยนให้เป็นคำสาปกู่อันใหม่เพื่อคลี่คลายหน้าที่ที่มอบหมายให้กับเจ้า ท้ายที่สุดก็ขัดเกลาชางอู๋จางถูกขัดเกลาด้วยมือของเจ้า…ทั้งสามแผนนี้เจ้าทำได้ดีเลย แต่น่าเสียดาย ความสามารถของราชาภูตผียมโลกเกินกว่าที่เจ้าคาดคิดเอาไว้”
ผู้หญิงชุดคลุมสีดำกล่าวว่า “ข้าน้อยผิดไปแล้ว ปรมาจารย์ภูตผีโปรดลงโทษด้วย”
รูปปั้นกล่าวว่า “อย่าโทษตัวเองเลย ที่จริง ความสามารถของราชาภูตผียมโลกเกินกว่าที่ข้าคาดคิดเช่นกัน”
ชั่วขณะนั้น สีหน้าของผู้หญิงชุดคลุมสีดำเผยความประหลาดใจออกมา
สามปรมาจารย์ภูตผีคือปรมาจารย์ของวิญญาณชั่วร้าย พวกเขามีชีวิตเพื่อสังหารโดยไม่กล่าววาจาใด ๆ สักคำ แต่ตอนนี้พวกเขาถึงกับยอมรับความผิดพลาดของตัวเองต่อหน้านางอย่างนั้นหรือ
เรื่องแบบนี้แทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เสียงอีกฝ่ายกล่าวอย่างมีอารมณ์ที่หาได้ยากยิ่งว่า “ในบรรดาโลกต่าง ๆ วีรชนนับไม่ถ้วนจะเข้าร่วมในสงครามยิ่งใหญ่นี้ ต่อสู้กันเพื่อสิทธิ์ที่จะอยู่รอดในวันสิ้นโลก หากพวกเราก้าวต่อไปก็จะได้พบกับบางสิ่งที่ไม่เป็นใจ นับว่าเป็นเรื่องปกติ”
“ข้าไม่สนเกี่ยวกับราชาภูตผียมโลก เพราะชะตากรรมของมันมีเพียงแค่ความพินาศเท่านั้น”
รูปปั้นวิญญาณชั่วร้ายนิ่งแล้วกล่าวต่อว่า “ไปเสีย อวี่ ไปจับตาดูให้ข้า เจ้าต้องรักษาความปลอดภัยของมันให้ได้ ไม่ว่าต้องใช้กำลังคนในเรื่องนี้เท่าไหร่ก็ไม่มีปัญหา”
ผู้หญิงชุดคลุมสีดำลังเล “รับทราบ นายท่าน แต่ภารกิจของพวกเราในตอนนี้…”
รูปปั้นวิญญาณชั่วร้ายกล่าวว่า “ไม่สำคัญหรอก พวกข้าสามคนกำลังจะไปแนวหน้า”
ผู้หญิงชุดคลุมสีดำสั่นสะท้านทั่วร่างก่อนกระซิบว่า “ปรมาจารย์ภูตผีจะเข้าร่วมการต่อสู้ด้วยตัวเองงั้นหรือ”
รูปปั้นวิญญาณชั่วร้ายตอบด้วยน้ำเสียงลุ่มลึกว่า “ใช่ หุบเหวนิรันดร์ใกล้จะแพ้แล้ว”
ผู้หญิงชุดคลุมสีดำกล่าวอย่างยินดีว่า “กลายเป็นว่าหุบเหวนิรันดร์ไม่สามารถต้านไหวอีกแล้ว”
“ถูกต้อง” รูปปั้นวิญญาณชั่วร้ายกล่าวอย่างช้า ๆ “ข้าอยากให้อู๋จางทำงานแทนเจ้าสักพัก แต่ตอนนี้หุบเหวนิรันดร์กำลังจะถูกพิชิตโดยพวกเรา ดังนั้นปล่อยให้เข้าทวงคืนเจตจำนงภูตผีในไม่ช้านี้ไปเถอะ”
“รับทราบ” ผู้หญิงชุดคลุมสีดำกล่าว
รูปปั้นวิญญาณชั่วร้ายกล่าวว่า “เจ้าไปด้วยตัวเองเลย นำกำลังคนไปให้มากพอ ล้มราชาภูตผียมโลกเอาไว้ ส่วนชีวิตของมันก็ให้ชางอู๋จางจัดการ”
“น้อมรับ” ผู้หญิงชุดคลุมสีดำกล่าว
“นำดาบศักดิ์สิทธิ์และดาบพิภพกลับมา นี่คือผลงานในส่วนของเจ้า”
เมื่อเสียงของรูปปั้นวิญญาณชั่วร้ายกล่าวถึงตรงนี้ มันก็หายไป
ผู้หญิงชุดคลุมสีดำรออยู่สักพัก จากนั้นยืนขึ้นแล้วเดินออกไป
ชุดคลุมสีดำบนร่างของนางตกลงบนพื้น เผยให้เห็นสีขาวราวหิมะที่มันเยิ้ม
เสื้อสีดำรัดรูปปรากฏขึ้นบนตัวนาง
หลังจากนั้น ชุดเกราะสมบูรณ์ที่มีจิตสังหารรุนแรงถูกสวมใส่
นางผลักประตูห้องโถงเปิดออกก่อนกล่าวกับแม่ทัพที่รออยู่ข้างนอกว่า “ถ่ายทอดคำสั่งทหารของข้า”
แม่ทัพคุกเข่าข้างหนึ่งแล้วกล่าวว่า “น้อมรับคำสั่ง”
ผู้หญิงชุดคลุมสีดำไม่แสดงสีหน้าก่อนกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ส่งกองทัพทั้งหมดไปโลกเก้าร้อยล้านชั้นพร้อมกับข้า”
แม่ทัพตนหนึ่งถามด้วยความสับสนว่า “นายท่าน พวกเราจะไปทำอะไร”
ผู้หญิงชุดคลุมสีดำชำเลืองมองเขาแล้วตอบว่า “สงครามกำลังจะสิ้นสุดแล้ว แต่ยังมีสุดยอดเทวภัณฑ์นิรันดร์ที่ยังหลงเหลืออยู่ในหุบเหวนิรันดร์ ไปเอามันกลับมาให้ปรมาจารย์ภูตผี”
“น้อมรับ!”
…
ที่ใดสักแห่งในอดีต
โลกแปลกประหลาด
แมวสีส้มหมอบอยู่บนชายคาของอาคารอิฐแดง
แถวหิ่งห้อยขนาดเล็กปรากฏขึ้นตรงหน้า
“แมลงกู่กัดกร่อนวิญญาณหมื่นอสูรถูกดูดกลืนแล้ว”
“ต่อไปท่านจะเริ่มดูดกลืนพลังมังกรมาร”
“โปรดทราบ! โปรดทราบ!”
“วิญญาณของมังกรมารยังมีพลังเต็มเปี่ยมและไม่จากไปไหน ท่านอยากกินวิญญาณของมันเพื่อเปลี่ยนเป็นพลังวิญญาณของท่านหรือไม่”
ดวงตาของแมวสีส้มทอประกาย
หลังจากคิดสักพัก มันส่ายหน้าเล็กน้อย
ที่จริง ไม่จำเป็นต้องให้หน้าต่างระบบเทพสงครามมาเตือน มันก็รู้สึกถึงวิญญาณของอีกฝ่ายได้แล้ว
น่าแปลก…
เห็นได้ชัดว่าเขาปล่อยวิญญาณมันไปแล้ว ทำไมวิญญาณของมันถึงยังไม่ไปอีกล่ะ
แมวสีส้มหลับตาเพื่อเข้าสู่ทะเลแห่งความตระหนักรู้
เขาเห็นชายร่างกำยำที่มีเขาคู่ยืนอยู่สุดขอบทะเลแห่งความตระหนักรู้ ไม่บุกหรือถอย
มันเพียงยืนเอามือไพล่หลังเท่านั้น คล้ายกับกำลังรอบางสิ่งอยู่
มังกรมาร
กู่ฉิงซานเผยร่างก่อนไปหาอีกฝ่าย
“ทำไมเจ้าไม่ไป ยังคิดถึงพลังของตัวเองอยู่อีกหรือ” กู่ฉิงซานถาม
มังกรมารตอบว่า “ในฐานะภูตผี มีเพียงทะเลแห่งความตระหนักรู้ของเจ้าเท่านั้นที่ข้าสามารถพูดได้สองสามคำในช่วงเวลาสุดท้าย”
“โห เจ้าอยากบอกอะไรข้าล่ะ” กู่ฉิงซานถาม
มังกรมารตอบว่า “ตอนข้ากำลังตาย ข้าถึงกับมีวิธีต่อสู้กับเจ้ามากมาย อย่างน้อยก็สามารถทำร้ายเจ้าได้ ตอนนั้นเองที่ข้าทราบถึงตัวตนของแมลงกู่นั่น”
สายตาของมันชำเลืองมองในความว่างเปล่าจนสูญเสียสมาธิ
“แมลงกู่นั่นไม่สามารถรอที่จะเริ่มควบคุมร่างของข้าได้ เหมือนกับการควบคุมตัวหมากและตัวหุ่นเชิดนั่นแหละ”
“ตอนนี้ข้าเข้าใจทุกสิ่งแล้ว”
กู่ฉิงซานยักคิ้ว จากนั้นกล่าวว่า “มันน่าหงุดหงิดจริง ๆ ที่ด้วยคนที่หนุนหลังให้ข้า”
มังกรมารอดที่จะกล่าวไม่ได้ว่า “ข้ามีพลังเหนือธรรมชาติที่จะคลายความสงสัยให้เจ้าจนสามารถลบล้างข้าได้อย่างสมบูรณ์ ทำไมเจ้าถึงไม่กินวิญญาณของข้าล่ะ”
กู่ฉิงซานตอบว่า “วิญญาณไม่ใช่อาหารของข้า”
มังกรมารถามว่า “เจ้าไม่กลัวว่าข้าจะกลับมาในอนาคตหรือ”
กู่ฉิงซานตอบว่า “วันนี้ข้าสามารถฆ่าเจ้าได้ ในอนาคตข้าก็สามารถฆ่าเจ้าได้อีกนับครั้งไม่ถ้วน”
มังกรมารพลันหัวเราะออกมาแล้วกล่าวว่า “มันช่างเป็นเรื่องน่าขันจริง ๆ ผู้ที่หนุนหลังข้าถวิลหาทุกสรรพสิ่งที่ข้ากลืนกิน แต่ศัตรูของข้ากลับปล่อยวิญญาณไปเสียอย่างนั้น”
กู่ฉิงซานกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “เจ้าไม่ต้องมาซาบซึ้งเพราะเรื่องนี้หรอก เพราะข้าฆ่าวิญญาณมานับไม่ถ้วนแล้ว ส่วนเจ้าข้าแค่คิดว่าเจ้าสั่งสมพละกำลังมามากพอ แถมเจ้าก็ทำหลายสิ่งได้ดีซึ่งควรค่าแก่การชื่นชม ดังนั้นข้าจึงเลือกวิธีนี้ หากเจ้าใช้พลังของตัวเอง อย่างน้อยเจ้าก็ควรให้ค่าตอบแทนบ้าง นี่คือหลักการแลกเปลี่ยนของข้า”
“แต่เจ้าตายแล้ว ข้าไม่มีอะไรจะให้เจ้า เช่นนั้นให้วิญญาณของเจ้ากลับไปมีชีวิตด้วยการกลับชาติมาเกิดอีกครั้งดีกว่า”
มังกรมารฟังเงียบ ๆ ก่อนนิ่งไปพักใหญ่
“กู่ฉิงซาน ข้าถูกจองจำอยู่ในร่างของมังกรมาร เดินอยู่ในความมืดมาชั่วชีวิต ข้าลืมไปแล้วว่าการเป็นมนุษย์นั้นมันเป็นยังไง”
“หลายหมื่นปีที่ผ่านมา ไม่มีใครมองข้าว่าเป็นมนุษย์เลย”
“ข้ามอบทุกสิ่งให้มัน แต่สุดท้ายกลับต้องมาลงเอยแบบนี้”
“ดังนั้นข้าจึงคิดแบบนี้ ก่อนข้าจะไปข้าตัดสินใจจะขอเจ้าอย่างหนึ่ง”
กู่ฉิงซานยิ้มแล้วยกมือขึ้นทันที “เดี๋ยวก่อนนะ ไม่ว่าเจ้าจะขออะไร ข้าไม่สามารถสัญญาในทันทีได้”
“ทำไมล่ะ” มังกรมารหรี่ตาถาม
“เจ้าก็รู้ว่าช่วงนี้ข้ายุ่งมาก โชคชะตาของโลกเก้าร้อยล้านชั้นกำลังจะถูกตัดสิน บัญญัติต้องวิวัฒนาการให้เร็วขึ้นกว่านี้ ข้าต้องคิดวิธีรับมือความโกลาหล จากนั้นข้ายังเป็นพันธมิตรกับหุบเหวอีก มันช่วยข้ามาหลายครั้ง ตอนนี้ถึงเวลาที่ข้าต้องสู้เพื่อมันบ้าง จากนั้นข้าให้สัญญากับหลินแล้วด้วยว่าจะส่งนางไปประตูโลก หรือก็คือ มีหลายสิ่งให้ทำเยอะเลยล่ะ” กู่ฉิงซานตอบ
มังกรมารฟังเงียบ ๆ ก่อนพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “เจ้ายุ่งจริง ๆ ”
กู่ฉิงซานกล่าวว่า “เพราะแบบนี้ เจ้าสามารถบอกเรื่องที่จะขอมาก่อนได้เลย หลังจากทุกสิ่งคลี่คลายแล้ว เช่นนั้นข้าถึงมีเวลา ข้าจะเดินทางไปโลกมากมาย พบเห็นหลายสิ่งที่ไม่เคยเห็น พบเห็นผู้คนที่ไม่เคยเจอ เมื่อเวลามาถึง หากเรื่องที่เจ้าขอไม่เป็นการทำร้ายผู้คน เช่นนั้นข้าจะยื่นมือเพื่อช่วยให้มันสำเร็จลุล่วง”
“นี่การแสดงความเคารพต่อศัตรูของข้า”
กู่ฉิงซานครุ่นคิดสักพักก่อนเสริมว่า “ข้าหวังว่าหลังจากทำสิ่งที่เจ้าขอให้แล้ว เจ้าจะสามารถมีชีวิตที่ดีในชาติหน้าได้ แล้วก็เลิกเป็นคนชั่วด้วย ข้าเหนื่อยกับการที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้มาก”
“อ้อ จะว่าไปแล้ว ไม่ต้องมาแก้แค้นข้านะ ข้าไม่ชอบฆ่าคนจริง ๆ ”
มังกรมารมองกู่ฉิงซานอยู่นานก่อนถามว่า “เจ้าอยากวางมือหรือ ความคิดแบบนี้นับว่าดีมาก แต่น่าเสียดาย..”
“น่าเสียดายยังไง” กู่ฉิงซานถาม
“หุบเหวนิรันดร์จะถูกทำลายในวันนี้”
..............................