ตอนที่ 1159 ภารกิจล้มเหลว!
ศีรษะมังกรลอย!
กู่ฉิงซานไม่ได้รู้สึกโล่งอก แต่ความรู้สึกถึงหายนะในใจยิ่งมากยิ่งรุนแรง
เขาชำเลืองสายตาไปที่แม่น้ำแห่งกาลเวลาสายยาวแล้วเห็นว่าในแม่น้ำสายยาวไม่มีการเคลื่อนไหวผิดปกติแต่อย่างใด
ทั่วความว่างเปล่าที่เต็มไปด้วยหมอก นอกจากเขาและฉานนู่แล้ว ไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่น
จังหวะการเต้นของหัวใจยิ่งมากยิ่งเร็ว อันตรายในการรับรู้วิญญาณยิ่งมากยิ่งเข้าใกล้
…หายนะนี้มาจากไหนกัน
กู่ฉิงซานมองรอบข้างอย่างระแวดระวัง
“นายท่าน ร่างของมังกรมารกำลังจะตกไปแล้ว” ฉานนู่เตือน
กู่ฉิงซานกลับมามีสติขณะมองซากศพมังกร
ใช่แล้ว
นี่คือซากศพของมังกรมารและเป็นมังกรตัวที่สามที่เขาสังหาร
มันไม่ใช่มังกรหลับใหล ไม่ใช่มังกรหุบเหว มันดูดกลืนพลังจำนวนมากมาหลายหมื่นปี ทำให้เหนือกว่าสองตัวที่ว่ามา
มันเป็นส่วนหนึ่งของวิญญาณชั่วร้าย
“อย่างที่เจ้าว่า ในโลกใบนี้ มังกรมารตัวเดียวก็เกินพอแล้ว…”
กู่ฉิงซานมองศีรษะมังกรขณะกระซิบ
…ไม่ว่าหายนะจะเป็นอะไร แต่สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือดูดกลืนพลัง!
กลุ่มหมอกสีดำพุ่งออกมาจากร่างของกู่ฉิงซาน หมอกสีดำเหล่านี้พุ่งออกมาอย่างรวดเร็วขณะปกคลุมซากศพมังกรและศีรษะมังกรเอาไว้
พลังของสายเลือดมังกรมารทำงาน!
นี่คือพลังของสุดยอดสิ่งประดิษฐ์วิญญาณของเผ่าพันธุ์มนุษย์โบราณ มันคือผลงานชิ้นโบว์แดงที่ดีที่สุด!
แต่ในหมอกสีดำ ซากศพมังกรค่อย ๆ หายไป
มังกรมารหลอมรวมเข้ากับหมอกสีดำ กลายเป็นสีหมึกที่เข้มขึ้นเรื่อย ๆ …พลังของมันกำลังเปลี่ยนไป
“มา”
กู่ฉิงซานกล่าวอย่างสงบ
หมอกสีดำทั้งหมดลอยกลับมาเข้าร่างกายของเขา
พลังมหาศาลและแก่กล้าของมังกรมารกระแทกเข้าใส่ทะเลแห่งความตระหนักรู้ จิตวิญญาณและร่างกายของเขา ก่อเกิดความเจ็บปวดราวกับดาบนับพันทิ่มแทง
“ฟู่…”
กู่ฉิงซานพ่นลมออกจมูกขณะหักห้ามความเจ็บปวดอยู่เงียบ ๆ
…เทียบกับช่วงเวลาตอนดูดกลืนพลังมังกรคู่แล้ว นี่มันไม่เท่าไหร่
ตราบที่เขาดูดกลืนสิ่งนี้เสร็จสิ้น พละกำลังของเขาจะก้าวกระโดดอีกครั้ง!
กู่ฉิงซานกำลังครุ่นคิด ทันใดนั้นเอื้อมมือไปแตะจมูก
เลือด
มือเต็มไปด้วยเลือด
กู่ฉิงซานปล่อยจิตเทพทันทีเพื่อสังเกตตัวเอง
เขาเห็นว่าดวงตา จมูก ปากและหูเริ่มมีเลือดไหล พลังวิญญาณปั่นป่วน ร่างกายภาพของเขาค่อย ๆ พังทลาย
เสียงคมปลาบดังขึ้นในทะเลแห่งความตระหนักรู้
“ในที่สุด เวลานี้ที่รอคอยก็มาถึง…ร่างที่ดี อีกไม่ช้าก็จะเป็นของข้า…”
น่าแปลก คล้ายกับมีเจตจำนงอีกแห่งอยู่ในร่างของเขา
“เจ้าเป็นใคร!” กู่ฉิงซานตะโกน
เสียงนั้นตอบอย่างหยอกล้อว่า “เจ้ากำลังจะตาย ดังนั้นทำไมถึงต้องสนด้วยว่าข้าเป็นใคร”
หัวใจของกู่ฉิงซานดิ่งวูบ
คาดไม่ถึง มีกับดักซ่อนอยู่ในร่างของมังกรมาร
ทั้งที่เขาระวังสุดตัวแล้ว แต่ก็ยังติดกับ
ตอนนี้หน้าต่างระบบเทพสงครามแสดงแถวหิ่งห้อยขนาดเล็กขึ้นมา
“ตอนที่ท่านเปลี่ยนพลังของมังกรมาร ปรสิตหนอนกู่ที่เป็นแก่นพลังได้เข้าสู่ร่างของท่าน”
“นี่คือคำสาปกู่ขั้นสูงสุด”
“หากท่านไม่อยากถูกมันกิน ท่านต้องรีบหาทาง”
หลังจากอ่านจบ กู่ฉิงซานอดที่จะถอนหายใจไม่ได้
มันเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้จริง ๆ
เห็นได้ชัดว่ามีเพียงตัวเองกับมังกรมารเท่านั้นที่รู้คุณลักษณะของพลังสายเลือดมังกรมาร
แต่ตอนนี้ ใครบางคนสามารถโจมตีโดยตรงได้ด้วยการอาศัยประโยชน์จากความตายของมังกรมาร
ดูท่าจะมีใครบางคนอ่านความทรงจำทั้งหมดของมังกรมารจนอนุมานได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก่อนและหลัง
คนนี้ช่างโหดเหี้ยมไร้ความปรานี มันซ่อนอยู่ในความมืด ทำการโจมตีเงียบ ๆ ทำให้มังกรมารฆ่าตัวเองทันทีเพื่อให้เขาตาย
…หากเขาชนะ เกรงว่าไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหน เขาจะถูกฆ่า ทั่วร่างจะถูกดูดกลืนจนสิ้น
เมื่อคิดถึงตรงนี้ กู่ฉิงซานไม่ลังเลอีกต่อไปก่อนเปลี่ยนร่าง
เขากลายเป็นแมวสีส้มตัวใหญ่!
“ร่างกำราบมาร เมื่อท่านอยู่ในสภาพ ‘ขุนเขาส้ม’ พลังทั้งหมดที่ท่านดูดกลืนจากโลกภายนอกจะเปลี่ยนเป็นพลังของตัวเองอย่างรวดเร็วและจะไม่ถูกพันธนาการโดยผนึกของวิญญาณชั่วร้ายอีกต่อไป”
เขาจะแข็งแกร่งขึ้นเมื่อทำการกิน
…ขุนเขาส้ม!
ทันใดนั้น แถวหิ่งห้อยใหม่ปรากฏขึ้นบนหน้าต่างระบบเทพสงคราม
“กินหรือถูกกิน มันคือช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย”
“ถ้าท่านเต็มใจใช้พลังวิญญาณจำนวนหนึ่ง เช่นนั้นพลังของ ‘ขุนเขาส้ม’ จะแข็งแกร่งขึ้น จะมีความเป็นไปได้สูงที่กินหนอนกู่นั่น”
กู่ฉิงซานกล่าวอย่างไม่ลังเลว่า
“ข้าเต็มใจใช้พลังวิญญาณ!”
สายลมที่มองไม่เห็นพัดพามาที่เขา ไม่ช้าก็จมเข้าสู่ร่างกาย
พลังวิญญาณนับพันหายไปทันที
…แค่ไม่กี่พันแต้มเท่านั้น!
กู่ฉิงซานพลันรู้สึกโล่งอก
“ขุนเขาส้ม” ได้รับการเสริมสร้าง!
ตอนนี้ฉานนู่สัมผัสบางสิ่งที่ผิดปกติได้ก่อนเหาะเข้ามาแล้วถามด้วยความกังวลว่า “นายท่าน เป็นอะไรหรือ”
แมวสีส้มส่ายหน้าแล้วตอบอย่างเย็นชาว่า “เหมียว ๆ ๆ ๆ ๆ เหมียว ๆ ๆ เหมียว ๆ ๆ ๆ ! (มีคนที่อยากกินข้า ข้าก็เลยอยากรู้ว่าใครจะกินใครกันแน่!)”
ฉานนู่กำลังจะพูด แต่ทันใดนั้น แมวสีส้มลืมตาขึ้นและขนตั้งชูชัน
ฉานนู่ใจคอไม่ดีก่อนรีบถามว่า “นายท่าน เกิดอะไรขึ้นกับท่าน”
แมวสีส้มมองนาง จากนั้นก้มมองแม่น้ำแห่งกาลเวลาเบื้องล่าง
“เหมียว ๆ ! เหมียว ๆ ๆ ! (สายไปแล้ว ไปกันเถอะ!)”
…
หลังจากผ่านไปหลายนาที
โลกที่ไม่รู้จัก
แมวสีส้มกำลังนั่งอยู่ในห้องน้ำ อุ้งเท้าข้างหนึ่งกุมท้องไว้ อีกข้างถือม้วนกระดาษ ร่างกายของมันสั่นไหวเป็นครั้งคราว
พะ…พรวด!
แมวสีส้มสำรอกของในท้องออกมาอย่างยากลำบาก
มันชูหางขึ้นก่อนกดลงชักโครก
โครก! ฟู่!
ห้องน้ำคุณภาพสูง ทำให้กำจัดสิ่งสกปรกจนสะอาดได้อย่างรวดเร็ว
ในที่สุดแมวสีส้มก็รู้สึกสบายขึ้นเล็กน้อย
มันถอนหายใจอย่างจนใจขณะมองหน้าต่างระบบเรืองแสงในความว่างเปล่า
“พลังเหนือธรรมชาติระดับราชาแห่งอิสรภาพของท่านคือพลังเหนือธรรมชาติระดับสูงสุด”
“พลังกำราบมารของท่านสามารถกลืนกินทุกสิ่งได้”
“เพราะท่านใช้พลังวิญญาณของตัวเองในการเสริมสร้างพละกำลังของ ‘ขุนเขาส้ม’ ”
“…แมลงกู่กัดกร่อนวิญญาณหมื่นอสูรได้ถูกท่านดูดกลืน กำลังย่อย”
หิ่งห้อยขนาดเล็กวูบไหว ข้อความแจ้งเตือนสองสามแถวรีใหม่
“โปรดทราบ”
“แมลงตัวนี้ดูดกลืนพลังมลทินมากมายที่ซับซ้อนและปั่นป่วนมาก ดังนั้นมันจึงส่งผลกระทบกับท้องสีส้มของท่าน”
“ท่านต้องกำจัดขยะที่มีมลทินออกไปให้หมดจึงจะสามารถกินเจ้านี่ได้”
“ถ้าท่านหยุดกลางคัน พลังเหล่านั้นจะทำให้ท่านกลายเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจมาก”
“จงระวังด้วย”
แมวสีส้มลูบท้อง สีหน้าดูไม่ดีเล็กน้อย
ทันใดนั้น…
ความรู้สึกกินของแสลงเริ่มเกิดขึ้นอีกครั้ง!
แมวสีส้มรีบนั่งนิ่งเพื่อเตรียมตัวอีกครั้ง…
…
อีกด้าน
ประตูโลก
ในค่ายของวิญญาณชั่วร้าย
ชางอู๋จางจ้องหน้ากากวิญญาณชั่วร้ายในมือของผู้หญิงหัวใจของเขาค่อย ๆ ดิ่งวูบ
แมลงกัดกร่อนวิญญาณหมื่นอสูร
คำสาปนี้ถูกแบ่งเป็นหน้ากากสองอัน
คำสาปแมลงหลักซ่อนอยู่ในร่างของสิ่งมีชีวิต มันจะทำงานทันทีเมื่อสิ่งมีชีวิตถูกกินที่ถูกผู้ล่ากลืนกินเข้าไป
คำสาปแมลงที่สองคือหน้ากากในมือของผู้หญิง มันสามารถรวมพลังที่ถูกเปลี่ยนสภาพเพื่อสร้างแมลงตัวใหม่ที่มีพลังมากมายขึ้นมาได้
ถึงจะน่ารังเกียจยิ่งนัก
แต่ไม่มีทางพลาดแน่นอน
ชางอู๋จางก้มศีรษะขณะหักห้ามความโกรธที่ยากจะทานทน
ปรมาจารย์ภูตผีมอบหมายหน้าที่ให้กับเขาเอง บอกว่าขอแค่สังหารราชาภูตผียมโลกได้ เขาจะมีโอกาสกลับมาอยู่ในสถานะเจตจำนงภูตผี
…แต่ถ้าหน้าที่นี้ถูกคนอื่นทำไป เช่นนั้นเขาก็ไม่สามารถหาโอกาสดังกล่าวได้เป็นเวลานานแสนนาน
เขาจะต้องเชื่อฟังคำสั่งของ “อวี่” และยอมให้นางกดขี่
บัดซบ!
ชางอู๋จางมองแม่ทัพภูตผีตนอื่นขณะแสร้งทำเป็นสงบแล้วกล่าวว่า “ท่านอวี่สง เท่าที่ทราบมา มังกรมารคือลูกน้องที่ขึ้นตรงกับเจ้า เจ้าใส่แมลงกู่ลงไปเพื่อที่เวลาเขาตายจะได้ไม่ต้องฝัง เจ้าไม่กลัวว่าลูกน้องคนอื่นจะขนลุกเพราะเรื่องนี้หรือ”
คำพูดนี้แทงใจทุกคน
แม่ทัพภูตผีก้มศีรษะ
ผู้หญิงชุดคลุมสีดำยังหันหลังให้ทุกคนก่อนตอบอย่างแผ่วเบาว่า “ชางอู๋จาง ทั้งที่เจ้ามาแนวหน้าครั้งแรกแต่กล้ายุยงเพื่อทำลายขวัญกำลังใจทหารของข้า ถือว่าเจ้าเติบโตขึ้นมากเลยนะ”
ชางอู๋จางพ่นลมออกจมูกอย่างเย็นชา “ข้าแค่พูดความจริง”
เสียวงของผู้หญิงชุดดำเย็นชามากขึ้น “ถ้าลูกน้องของเจ้าใช้เวลาหนึ่งหมื่นปีแต่กลับทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาไม่สำเร็จ ข้าว่าวิธีการของเจ้าคงน่าขนลุกยิ่งกว่าของข้าอีกนะ”
“หน้าที่หรือ ข้าก็อยากรู้เหมือนกัน มังกรมารจงรักภักดีต่อเจ้ามาหนึ่งหมื่นปี หน้าที่แบบไหนที่ทำให้เจ้าฆ่าเขาแทนที่จะมอบรางวัลให้” ชางอู๋จางถาม
ผู้หญิงชุดคลุมสีดำเงียบสักพักก่อนพูดออกมาเจ็ดคำว่า
“ดาบศักดิ์สิทธิ์และดาบพิภพ”
ชางอู๋จางตกตะลึงก่อนปิดปากลงช้า ๆ
เมื่อเห็นว่าเขาไม่มีอะไรจะพูด ผู้หญิงชุดดำจึงพลันหัวเราะคิกคัก
นางกล่าวว่า “มันก็แค่ขยะ อยู่กับข้าแล้วจะไปมีประโยชน์อะไร ดังนั้นข้าแค่ใช้ขยะ…ใช้ขยะเพื่อฆ่าขยะและก็ฆ่าขยะ”
ชางอู๋จางก้มศีรษะก่อนกัดฟันอย่างรุนแรงจนโลหิตไหลออกจากมุมปาก
นางกล้าดียังไง!
ผู้หญิงคนนี้กล้าหัวเราะว่าข้าเป็นขยะต่อหน้าทุกคน ข้าต้องฆ่านาง! ฆ่านาง!
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ทันใดนั้น เขาได้ยินเสียงแจ่มชัดดังขึ้น
ทุกคนมองพร้อมกัน
หน้ากากในมือของผู้หญิงชุดดำพลันแตกร้าวจนเกิดเสียง “เปรี้ยะ” มันแตกสลายไม่เหลือซากก่อนสลายไปในความว่างเปล่า
เกิดความเงียบสงัด
ไม่มีใครกล้าพูด
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ขยะหรือ ท่านอวี่ ดูท่าวิธีการของเจ้าจะไม่ได้ดีเด่อะไรเลยนะ!”
ชางอู๋จางหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
…ราชาภูตผียมโลกยังไม่ตาย!
ชางอู๋จางยืนขึ้นก่อนเดินออกไป
ภารกิจของเขาคือสังหารราชาภูตผียมโลก แถมนั่นยังเป็นคำสั่งที่ปรมาจารย์ภูตผีมอบหมายให้มากับมือ
ตอนนี้เขาจะทำหน้าที่นี้ให้สำเร็จให้ได้!
ต่อให้เป็น “อวี่” ก็ไม่มีเหตุผลที่จะมาห้ามเขาได้!
..............................