ตอนที่ 1129 พังทลาย!
กู่ฉิงซานมองจักรพรรดินีผู้น่าอัศจรรย์บนท้องนภา
โลกค่อย ๆ ถูกทำลายลง
ทุกสิ่งแตกสลาย
วิญญาณชั่วร้ายทั้งหมดถูกสังหาร
“หยุด!”
กู่ฉิงซานกล่าว
ปฐพีที่แตกสลายพลันหยุดนิ่ง
หมู่เมฆบนท้องนภาไม่ขยับ
ร่างของวิญญาณชั่วร้ายราวกับบุปผาโลหิตบานสะพรั่ง มันไม่ระเบิดอย่างสมบูรณ์ในชั่วขณะ
…นี่ไม่ใช่การหยุดเวลา
กู่ฉิงซานเพียงควบคุมวิชาย้อนเวลาด้วยการหยุดเหตุการณ์ในอดีตช่วงใดช่วงหนึ่งเพื่อให้สามารถสังเกตการณ์อย่างละเอียดได้
เขาเดินเข้าไปหาวิญญาณชั่วร้ายเพื่อสัมผัสมันอย่างตั้งใจ
จากนั้นเขาพุ่งขึ้นท้องนภาเพื่อสำรวจรอบโลก
ในที่สุด เขากลับมาที่เดิม
“ใช่แน่ ๆ ”
เขากล่าว
โลกกลับมาสู่การพังทลายอีกครั้ง
ทั่วโลกค่อย ๆ กลายเป็นสายลมและทรายก่อนเริ่มสลายไปในกระแสวังวนความว่างเปล่า
เรนี่โดลชำเลืองมองโลกเล็กน้อย
ดวงตาของนางจับจ้องกู่ฉิงซาน
กู่ฉิงซานตอบสนองทันที ตอนนี้เขาเป็นวิญญาณชั่วร้ายเฒ่า
“ยังมีปลาลอดออกจากแหอีกหรือ”
เรนี่โดลชี้นิ้วเรียวราวกับหอมแดงก่อนแตะลงไปอย่างแผ่วเบา
ความมืดเคลื่อนลงมา
ภาพทั้งหมดสิ้นสุดลงตรงนี้
กู่ฉิงซานออกมาจากวิชาย้อนเวลา
เขาพบว่าตัวเองกำลังถือศีรษะของวิญญาณชั่วร้ายเอาไว้ ชั้นเหงื่อเย็นเกาะกุมบนแผ่นหลัง เขากำลังหอบหายใจอย่างควบคุมไม่ได้
ในเขตอาคม วิญญาณชั่วร้ายร่างใหญ่เพิ่งหันหลังแล้วก้าวเดินออกไปหนึ่งก้าว
เวลา
ผ่านไปเพียงชั่วขณะเท่านั้น
กู่ฉิงซานเสียสติก่อนล้มลงบนพื้นหินเย็นเยือก
เขาหยิบขวดน้ำเต้าสุราออกมาก่อนเทใส่ปาก หลังจากนั้นจึงค่อยสงบลง
ไม่ใช่เพราะสิ่งอื่นใด แต่เป็นเพราะพลังของเรนี่โดลน่าสะพรึงเกินไป เพียงแค่มองฉากในอดีตเท่านั้น กู่ฉิงซานก็รู้สึกได้ว่าวิญญาณบอบช้ำเล็กน้อย
เขาหลับตาลงก่อนทบทวนทุกสิ่งที่ได้เห็นผ่านจิตใจ
“ไม่ใช่…”
กู่ฉิงซานกล่าวอย่างแผ่วเบา
วิญญาณชั่วร้ายในโลกนั้นอ่อนแอเกินไป
กู่ฉิงซานเคยเผชิญหน้ากับพวกคนสวมหน้ากาก…คนพวกนั้นรวบรวมเศษเสี้ยววิญญาณชั่วร้ายได้เจ็ดสิบส่วนแล้ว ข้ารับใช้ทุกคนครอบครองอาวุธเหตุและผลที่ทรงพลังยิ่ง
อีกด้าน เรนี่โดลไม่พบการขัดขืนที่สูสีกับตัวเองตลอดกระบวนการทำลายโลก
ทำให้สรุปได้ว่าโลกวิญญาณชั่วร้ายที่นางทำลายเป็นแค่เพียงเศษเสี้ยวโลกวิญญาณชั่วร้ายเท่านั้น
เศษเสี้ยวโลก…
ดวงตาของกู่ฉิงซานจับจ้องศีรษะวิญญาณชั่วร้ายที่อยู่ไม่ไกลนัก
น่าแปลก
หมอนี่น่าจะตายไปแล้ว
เศษเสี้ยวโลกวิญญาณชั่วร้ายถูกทำลายไปแล้วเช่นกัน
ทำไมเศษเสี้ยวโลกวิญญาณชั่วร้ายถึงผุดขึ้นมาอีกครั้งได้ล่ะ
โลกนี้เพียงปรากฏตอนกลางคืนเท่านั้น มันกระตือรือร้นที่จะเอาสิ่งมีชีวิต กระตือรือร้นที่จะแลกเปลี่ยน แต่เป็นการแลกเปลี่ยนสิ่งที่ทรงพลังกับสิ่งที่ไม่ดี
กู่ฉิงซานสะบัดมือ ศีรษะวิญญาณชั่วร้ายลอยกลับมาอยู่ในมือ
“เจ้าเป็นตัวอะไรกันแน่” เขาถามอย่างแผ่วเบา
วิญญาณชั่วร้ายลืมตาขึ้น
มันมองเขา
โดยไม่ไหวติง
กู่ฉิงซานวางศีรษะขณะครุ่นคิดต่อ
โลกที่ถูกทำลายไปแล้ว…
มันถึงกับปรากฏขึ้นอีกครั้ง ปรากฏขึ้นในโลกเทียนจูทุกคืน
มีโลกใบนั้นมากมายอยู่ทั่วทั้งโลกเทียนจู
พวกมันคืออะไร
ทันใดนั้น เปลือกตาข้างซ้ายของกู่ฉิงซานกระตุก
นั่นคือวิชาโลกที่ซ่อนอยู่ในดวงตาของเขา
…มีเจตจำนงโลกที่ยังคงอยู่สองใบ
พวกมันขยับคล้ายกับกำลังแนะนำบางสิ่ง
ความคิดของกู่ฉิงซานวูบไหว เขายืนขึ้นทันที
“อย่างนี้นี่เอง…ข้าเข้าใจแล้ว…”
เขามองโลกแปลกประหลาดนับไม่ถ้วนนอกกำแพงเมือง สัมผัสได้เพียงความตกตะลึงและความเศร้าโศกที่เขาไม่สามารถบรรยายได้
ตามเจตจำนงของเขา แถวหิ่งห้อยปรากฏบนหน้าต่างระบบเทพสงคราม
“ในการสังเวยของเทพปฐพีครั้งที่แล้ว ท่านทุ่มเทเจตจำนงจนหมดสิ้น ทำให้ไม่สามารถทำการสังเวยครั้งที่สอง ณ ที่นี้ได้”
กู่ฉิงซานไม่ยอมแพ้
เขาเริ่มปรบมือ
กระทืบเท้า
ส่งเสียงฮัมเบา ๆ
ถึงแม้จะไม่มีเจตจำนง แต่การเต้นบูชายัญก็คือการเต้นบูชายัญ มันน่าจะสามารถแสดงตัวตนได้
เป็นดังคาด ขณะเขาโยกไปมา ตัวตนลึกลับในความว่างเปล่าค่อย ๆ ตอบสนองกับเขา
แถวตัวอักษรขนาดเล็กผุดขึ้นอีกครั้งบนหน้าต่างระบบเทพสงคราม
“โปรดทราบว่าท่านคือผู้นำการเต้นของเทพปฐพี ภายใต้สักขีพยานของตัวตนหนึ่ง ท่านต้องทำข้อตกลงกับโลกที่ถูกทำลายในอดีตว่าท่านจะทำการเต้นบูชายัญจนสำเร็จ”
“ท่านมีพรของโลกอดีต”
“ตอนนี้ พวกมันที่ซ่อนอยู่ในโลกเทียนจูสัมผัสตัวตนของท่านได้”
“พวกมันยอมให้ท่านได้เห็นความจริงของทุกสิ่ง”
เพียงพริบตา โลกทั้งใบและเมืองเทียนจูทั้งหมดหายไป
ภาพภาพหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้ากู่ฉิงซาน
ตัวตนแตกสลายอีกร่างปรากฏขึ้นมา…
ร่างขนาดใหญ่ แขนขาเรียว ไม่มีหน้า คล้ายกับมนุษย์
พวกมันคือวิญญาณที่หลงเหลืออยู่ของโลก
พวกมันทั้งหมดคือโลกที่ถูกทำลายโดยเรนี่โดล มีเพียงวิญญาณที่หลงเหลืออยู่เพียงน้อยนิดเท่านั้นที่ซ่อนอยู่ในโลกเทียนจู
พวกมันกล้าปรากฏตัวตนกลางคืนเท่านั้นด้วยการเชื่อมต่อเข้าหากันด้วยพลัง พวกมันโหยหาพลังต่าง ๆ
กู่ฉิงซานเข้าใจแล้ว
เขาพึมพำว่า “แสดงว่าพวกเจ้าถึงกับต้องการให้สิ่งมีชีวิตเข้าไปในโลกเพื่อขยายตัวตนของตัวเอง; พวกเจ้าหวังที่จะแลกเปลี่ยนของไม่ดีกับสมบัติที่มีพลังแก่กล้าเพื่อช่วยให้ตัวเองได้รับพละกำลังมาเล็กน้อย; พวกเจ้ามารวมตัวกันที่นี่ก็เพื่อความอบอุ่นใช่ไหมล่ะ”
สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่เหล่านั้นพยักหน้าตนแล้วตนเล่า
พวกมันกลายเป็นจุดแสงสว่างนับไม่ถ้วนขณะลอยไปมารอบกู่ฉิงซาน
พวกมันคล้ายกับกระวนกระวายที่จะแสดงอะไรบางอย่าง
…จากการล่อหลอกสู่การติดต่อ จากนั้นก็เข้าใจซึ่งกันและกัน ตอนนี้ ท่าทีของโลกดีขึ้นมาก
“อย่าห่วงไปเลย” กู่ฉิงซานลดความเร็วลงก่อนถามว่า “นี่มันบ้าอะไรกัน ตอบมาช้า ๆ ”
จุดแสงทั้งหมดรวมตัวเข้าด้วยกัน มันมาอยู่ติดกับหูของเขาแล้วกล่าวสองสามคำอย่างช้า ๆ
“เร็ว…หนี…ข้างนอก…มี…มังกร…”
“เดี๋ยวนะ! พวกเจ้าหมายถึงข้างนอกโลกเทียนจูหรือ” กู่ฉิงซานถาม
จุดแสงทั้งหมดลอยขึ้นลงอยู่ตรงหน้าก่อนกลายเป็นจอแสง
ฉากค่อย ๆ ปรากฏบนจอแสง
…ในตำนาน มันมีร่างกายขนาดใหญ่หาใครเปรียบ
หมู่เมฆและหมอก ฟ้าร้องฟ้าผ่า
พลังต่าง ๆ รวมตัวกันมากมาย
ผู้คนอดที่จะสักการะไม่ได้
…มังกรฟ้า!
มันวนรอบโลกเทียนจูขณะบินไปมา
กู่ฉิงซานมองมังกรฟ้า
กู่ฉิงซานสามารถมองเห็นเกล็ดทุกเม็ด เคราทุกเส้นและแม้กระทั่งสีหน้าท่าทางได้อย่างชัดเจน
แต่กู่ฉิงซานไม่สามารถสัมผัสมันได้เลย
ไม่เพียงแค่เขาเท่านั้น ผู้ฝึกยุทธ์ทุกคนหรือแม้กระทั่งอาจารย์ก็ไม่สามารถสัมผัสมันได้
นี่เป็นหนึ่งในความสามารถของมันงั้นหรือ
…มังกรฟ้ารวบรวมกลิ่นอายทั้งหมดขณะเคลื่อนอยู่ในวังวนความว่างเปล่าอย่างเงียบงัน
มันเหมือนกับนักฆ่าเลือดเย็นที่ทั้งสงบและสง่างามขณะรอให้เวลามาถึงเงียบ ๆ
กู่ฉิงซานรู้สึกเย็นสันหลังวาบ
เสียงของวิญญาณที่หลงเหลืออยู่ดังขึ้นอีกครั้ง “รุ่งสาง…พวกข้าจะสลาย…เขตอาคมจะหายไป…มัน…จะมา… ฆ่าทุกคน…”
กู่ฉิงซานเข้าใจ
ช่วงกลางคืน โลกที่หลงเหลืออยู่นับไม่ถ้วนรวมตัวกัน ก่อตัวเป็นเขตอาคมที่สามารถลิดรอนสิ่งมีชีวิตทั้งหมดได้ ดังนั้นมังกรฟ้าจึงไม่สามารถเข้ามาในโลกได้
เมื่อถึงรุ่งสาง โลกที่หลงเหลืออยู่ทั้งหมดจะพากันซ่อนตัว
ถึงตอนนั้นจะไม่มีอะไรมาขวางมังกรฟ้า
มังกรตัวหนึ่งจะแข็งแกร่งขนาดไหนกัน
ตอนวิญญาณที่หลงเหลืออยู่ของมังกรเหลืองมองเขาที่ตำหนักสวรรค์เมฆาวิเวก เขาถึงแก่ความตาย
ถึงแม้พละกำลังของกู่ฉิงซานจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว แต่เมื่อนึกถึงฉากที่เคยเจอมา เขายังรู้สึกหวาดกลัว
วิญญาณที่หลงเหลืออยู่ของมังกรเหลืองทรงพลังนัก
ครั้งนี้ กู่ฉิงซานต้องเผชิญหน้ากับมังกรฟ้า
“ขอบคุณมาก ข้าต้องไปแจ้งให้อาจารย์ทราบว่าพวกเราต้องปีนเสาหลักแห่งสวรรค์ช่วงข้ามคืน!” กู่ฉิงซานพึมพำ
เขานำหินวิญญาณออกมาจากร่างกายทั้งหมดก่อนโยนออกไปนอกเมือง
“ข้านำของที่มีพลังงานติดตัวมาไม่มาก หินวิญญาณเหล่านี้คือสิ่งที่ทรงพลังที่สุด มีอยู่หลายแสนก้อน ให้พวกเจ้าทั้งหมดนั่นเลย” กู่ฉิงซานกล่าว
หินวิญญาณเจ็ดแสนก้อนหายไปทันทีที่ถูกโยน
“ขอบคุณ…”
เสียงขอบคุณดังมาจากความว่างเปล่า
กู่ฉิงซานส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “ไม่เป็นไร พวกเจ้ารักษาตัวด้วย ข้าจะปกป้องอาจารย์จากการก้าวข้ามภัยพิบัติก่อนแล้วค่อยมาสนทนากับพวกเจ้าในภายหลังหากมีเวลา”
เขากำลังจะหันหลังจากไป แต่สายตาเหลือบไปเห็นจุดแสงเหล่านั้นเข้า จุดแสงสว่างบางแห่งที่แผ่กลิ่นอายออกมาได้ลอยเข้ามาอยู่ตรงหน้าเขา
จุดแสงสว่างเหล่านี้ล้อมเขาเอาไว้ก่อนค่อย ๆ เริ่มหมุนด้วยความเร็วสูง
กลุ่มหิ่งห้อยขนาดเล็กพลันปรากฏขึ้นหน้าต่างระบบเทพสงคราม
“เศษเสี้ยวของโลกผู้ฝึกยุทธ์จำนวนมากอยากปลูกฝังความรู้ที่ดีที่สุดในอารยธรรมของพวกเขาให้ท่าน”
“พวกเขาเริ่มเชื่อมต่อกับทะเลแห่งความตระหนักรู้ของท่าน”
“โปรดเตรียมรับความรู้”
..............................