ตอนที่ 975 ต่อเนื่อง
น่าแปลก
สถานการณ์ดูไม่ถูกต้องเสียเท่าไหร่
วิญญาณกรีดร้องมองสุนัขแห่งความตาย ความสงสัยในใจยังคงปั่นป่วน
ในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ สุนัขสีดำตัวนี้เต็มไปด้วยพลังแห่งความตายที่โบราณและทรงพลัง
แต่ตอนนี้ แม้กระทั่งร่องรอยแห่งความตายยังไม่แผ่ออกมาจากสุนัขสีดำ
เจ้านี่กำลังคิดอะไรอยู่
วิญญาณกรีดร้องจ้องอีกฝ่าย นึกถึงอดีตของเจ็ดวิหาร
หลังจากการเปลี่ยนแปลงของเวลาและสายลมกับไอเยือกแข็งนับไม่ถ้วน เจ็ดวิหารกลายเป็นเปลือกที่ว่างเปล่านานแล้ว มันถูกควบคุมโดยตัวตนจากหุบเหว จากนั้นก็เข้าควบคุมพื้นที่จ้าวโลก
ครึ่งเทพที่ยังเหลืออยู่ในวิหารเหล่านั้นไม่เคยมีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้
แม้กระทั่งเพื่อความอยู่รอด พวกเขามักเลือกที่จะเชื่อฟังและให้ความร่วมมือ
แต่ตอนนี้ ช่วงเวลานี้ สุนัขแห่งความตายในวิหารแห่งความตายถึงกับปลุกพลังของเทพแห่งความตายขึ้นมาได้
มันปัดป้องการโจมตีสองครั้งติดได้
ความระแวดระวังในใจของวิญญาณกรีดร้องยิ่งมากขึ้น
“ดูท่าเจ้าจะกลายเป็นศัตรูที่คู่ควรให้ข้าใคร่ครวญอย่างจริงจังเสียแล้วสิ” เสียงผู้ชายของวิญญาณกรีดร้องกล่าว
หลังจากนั้น เสียงกรีดร้องสูงของผู้หญิงดังขึ้น “พวกเรามาสู้กันจนตัวตายดีกว่า ให้ยุคสมัยเป็นผู้เลือกเลยว่าจะเป็นผู้นำจะเป็นเทพที่ตกค้างจะเมื่อกาลนานมาแล้วหรือว่าเป็นความโกลาหลอันกว้างใหญ่และเดือดพล่านที่จะชนะ”
วิญญาณกรีดร้องจ้องสุนัขสีดำ กลิ่นอายของเขาค่อยๆ เพิ่มขึ้น
มันเตรียมที่จะสู้แล้ว!
ทว่าสิ่งที่ทำให้วิญญาณกรีดร้องรู้สึกแปลกประหลาดคือทันทีที่พละกำลังของร่างกายทะยานขึ้น หางของสุนัขสีดำที่อยู่ฝั่งตรงข้ามบีบรัดแน่นขึ้น
ดูท่ามันจะเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ครั้งสุดท้ายเหมือนกัน
วิญญาณกรีดร้องค่อยๆ เผยรอยยิ้มกว้างออกมา
ดีมาก มาสิ มาสู้กันอย่างบ้าคลั่ง!
การเปลี่ยนแปลงท่าทีของเขาถูกสุนัขสีดำสังเกตเห็นทันที
สุนัขสีดำยิ้มกว้าง เผยปากที่เต็มไปด้วยฟันแหลมให้เห็น “จะยังไงก็ช่าง แต่ข้าขอบอกตามตรงก็แล้วกันว่าพลังของเทพคือสิ่งที่เจ้าไม่สามารถเอาชนะได้”
มันทำการโจมตี
วิญญาณกรีดร้องนึกถึงการต่อสู้สองรอบก่อนหน้านี้จนอดที่จะตั้งท่าป้องกันอย่างระแวดระวังไม่ได้
หลังจากนั้นเพราะอับอายกับการตอบสนองของตัวเอง วิญญาณกรีดร้องจึงคำรามออกมา “ความตายไม่สามารถหยุดเส้นทางของข้าได้ เจ้าเองก็หยุดไม่ได้เช่นกัน!”
มันก้าวใหญ่ออกไปก่อนพุ่งเข้าหาสุนัขสีดำ
เมื่อเห็นดังนี้ สุนัขสีดำพลันตะโกนออกมา
“ช้าไป!”
วิญญาณกรีดร้องไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นมันจึงนิ่งเล็กน้อย
สุนัขสีดำจ้องมันก่อนกล่าวอย่างขมขื่นว่า “เจ้าคนน่ารังเกียจ ขณะที่สู้กับข้า กลับส่งคนไปทำลายวิหารของพวกข้า!”
วิญญาณกรีดร้องตกตะลึง
สุนัขสีดำตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด “วิญญาณกรีดร้อง เจ้าไม่ใช่นักรบที่แท้จริง เจ้าทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะกำจัดข้า!”
หลังจากพูดจบ มันหดตัวอย่างรวดเร็วก่อนกลายเป็นรูปลักษณ์ของสุนัขสีดำ
สุนัขสีดำไม่หยุดก่อนรีบวิ่งไปทางพื้นที่จ้าวโลก
มันวิ่งเร็วมากราวกับพยายามสุดความสามารถที่จะรีบไปให้ถึง
ดูท่ามันจะวิตกจนต้องกลับไปช่วยวิหาร
ผ่านไปหลายอึดใจ
สุนัขสีดำไปไกลแล้ว
วิญญาณกรีดร้องยืนอยู่กับที่ไปหลายอึดใจ
เกิดอะไรขึ้น
ข้า…ไม่ได้ส่งใครไปทำลายวิหารแห่งความตายโดยเฉพาะเลยนะ
ขณะที่กำลังจะคิดไล่ตาม มันก็หยุดนิ่งทันที
ทำไมข้าต้องไล่ตามมันด้วย
มันจะไม่เสียเวลาไปหน่อยหรือที่จะไล่ตามไปสู้ต่อ
วิหารแห่งความตายจะเป็นยังไง แล้วมันเกี่ยวอะไรกับข้า
วิญญาณกรีดร้องค่อยๆ นึกขึ้นได้
มันหันไปมองทางพื้นที่เอกฐาน
ตอนนี้ ไม่มีใครมาขวางทางมันอีกแล้ว
“เสียเวลานานเกินไปแล้ว ตอนนี้พวกเราต้องเร่งมือหน่อย!”
วิญญาณกรีดร้องพึมพำ
โฮก
สิ้นการตอบรับจากการสั่นสะเทือนของความว่างเปล่า เงาที่มีขนาดเทียบเท่าดาราจักรขนาดใหญ่ลอยมาอยู่ด้านข้าง
สัตว์ประหลาดหุบเหว
มันมีความเร็วมากที่สุดในหุบเหว สามารถก้าวข้ามโลกจำนวนมากพร้อมกันได้
วิญญาณกรีดร้องทะยานขึ้นไปอยู่บนหลังของสัตว์ประหลาดหุบเหวก่อนออกจากวังวนความว่างเปล่านี้อย่างรวดเร็ว
สุนัขสีดำวิ่งไปทิศทางตรงข้าม
มันถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อสังเกตเห็นว่าวิญญาณกรีดร้องไม่ได้ไล่ตาม แต่อีกฝ่ายเลือกที่จะเร่งความเร็วแล้วจากไป
ความจริงนี้ถึงจะอันตราย แต่โชคดีที่ในที่สุดเขาไม่ถูกกิน
“หึ เจ้าโง่ ในที่สุดข้ารอดแล้ว”
สุนัขสีดำกล่าวอย่างเย็นชา
หางของมันตั้งขึ้นสูง กวัดแกว่งอย่างมีความสุขไปมาทั้งสองข้าง
ด้วยเหตุผลบางอย่าง หางพลันหยุดกระดิก
สุนัขสีดำถอนหายใจแล้วพึมพำออกมา “เฮ้อ ข้าทำได้แค่นี้แหละ หวังว่าแอนนากับคนอื่นจะทำสำเร็จนะ”
…
มาย้อนเวลากลับไปสักนิดหนึ่ง
อาณาจักรหนาม
พระราชวัง
ในห้องที่กว้างขวาง
ผู้ชายลืมตาขึ้นก่อนนั่งตัวตรงอยู่บนเตียง
เขาเงียบไปสักพัก
“บาดแผลบนร่างข้าหายดีแล้ว…”
“ดูท่าในนาทีสุดท้าย มีใครบางคนมาช่วยข้าเอาไว้”
ผู้ชายล้มตัวอีกครั้ง เอาหลังมือก่ายหน้าผาก ก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงเขินอายว่า “ข้าถูกใครบางคนช่วยเอาไว้… ทำตัวไม่ถูกเลยจริงๆ”
“จะฆ่าคนคนนี้ที่ช่วยข้าเอาไว้หรือจะหาทางตอบแทนเขา”
“มันช่างน่าอายจริงๆ”
ผู้ชายพึมพำอยู่หลายคำก่อนค่อยๆ ได้กลิ่นบางอย่าง
เขาพลันพบว่าตัวเองหิวแล้ว
ผู้ชายลุกขึ้นนั่ง ลุกออกจากเตียงแล้วมองรอบข้าง
พรมนุ่มและหรูหรา เมื่อเท้าสัมผัส มีลมหายใจแห่งชีวิตกระจายทั่วแขนขาผ่านฝ่าเท้าเล็กน้อย
อีกฝั่งของเตียง บนโต๊ะยาวที่ทำจากทองบริสุทธิ์ อาหารไอกรุ่นจำนวนมากถูกวางเรียงราย
ที่มุมหนึ่งของโต๊ะยาว มีแว่นตากรอบดำสองอันกับกระดาษจดหมายถูกวางทับอยู่ด้านล่าง
ผู้ชายลุกขึ้นเดิน ดึงหัวจดหมายขึ้นมา จากนั้นมองดู
เขาอ่านมัน
“แว่นตาของเจ้าได้รับความเสียหาย พวกข้าเตรียมของสำรองไว้ให้เจ้า ถึงแม้วัสดุจะต่างกัน แต่ประสิทธิภาพเหมือนกัน ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่คิดมาก”
“บาดแผลของเจ้าสาหัสนัก โปรดพักผ่อนให้เพียงพอ หากต้องการอะไร แค่สั่นกระดิ่งบนโต๊ะเท่านั้น ข้ารับใช้จะมารับคำสั่งของเจ้า”
ผู้ชายวางหัวจดหมายลงก่อนหยิบแว่นตากรอบดำขึ้นมา
นี่คือกรอบเดิมของเขา ไม่เพียงแค่เลนส์แตกเท่านั้น กรอบเองก็เบี้ยวเช่นกัน
สิ่งนี้ได้มาตอนเขาเห็นใครบางคนใส่แว่นแล้วดูดี ดังนั้นเขาจึงขอให้มังกรมารซื้อ
คาดไม่ถึง มันจะหักไวขนาดนี้
ผู้ชายหยิบแว่นตาอีกอันขึ้นมา
นี่คือแว่นตาที่สมบูรณ์แบบ เบา แข็ง สะอาด มีการกำจัดฝุ่นอัตโนมัติ แถมยังต้านทานธาตุทั้งห้าได้อีกด้วย
“ชิ…”
ผู้ชายวางแว่นตากรอบดำก่อนนั่งลงที่โต๊ะ
ขณะมองโต๊ะอาหาร ผู้ชายยิ่งรู้สึกหิวมากขึ้น
“ยังไงก็ช่าง กินก่อนดีกว่า ถ้าอาหารอร่อย ข้าจะไม่ฆ่าก็แล้วกัน”
เมื่อผู้ชายพูดจบ เขาเริ่มกิน
ตอนแรก เขากินช้ามาก แต่ผ่านไปสักพักใหญ่ เขากินราวกับพายุลงจนกระทั่งกวาดจานอาหารทั้งหมดอย่างรวดเร็ว
“อะ…อร่อย”
“พลังงานที่อยู่ข้างในปูตัวนี้คือสิ่งที่ข้าต้องการพอดี”
“หืม นี่คือลอบสเตอร์เซี่ยงไฮ้ในตำนานหรือเปล่า ครั้งล่าสุดที่มังกรมารพูดถึงนั้นคือตอนที่มีเงินไม่พอที่จะกินสิ่งนี้ มันช่าง…”
“อร่อยสุดๆ!”
ผู้ชายอุทานเป็นครั้งคราว
อย่ามาล้อเล่นน่า นี่คือประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลกเก้าร้อยล้านชั้นเชียวนะ
อาหารที่ถูกเตรียมโดยผู้ปกครองประเทศนี้จะยาจกได้อย่างไร
ผู้ชายกินอาหารจนหมดอย่างมีความสุขขณะพยายามดื่มของเหลวสีดำที่มีฟอง
“ฮ่า ทำไมการดื่มน้ำอัดลมสีดำนี่ถึงทำให้มีความสุขได้นะ”
ผู้ชายยิ้มก่อนวางถ้วยลง
อาหารมื้อนี้ทำให้เขารู้สึกพึงพอใจมาก
ผู้ชายครุ่นคิดสักพักก่อนหยิบหนังสือในความว่างเปล่า
“หลังจากข้าอยู่ในอาการสาหัส” ผู้ชายกล่าว
หนังสือเปิดออกเอง
ภาพหลากสีสันเปิดออกหน้าแล้วหน้าเล่า
การคว้าของซากแขน ยานอวกาศต้นไม้หนามโบราณ บทสนทนาระหว่างกู่ฉิงซาน ลอร่าและหลิน รวมถึงทุกสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นล้วนแสดงอยู่ในหนังสือ
ผู้ชายจ้องกู่ฉิงซานจนนึกบางอย่างออก
“หนังสือแห่งชะตากรรมเคยเตือนข้าว่าให้มาหาคนคนนี้ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเราจะได้พบกันในสภาพคนหนึ่งช่วยอีกคนหนึ่งเอาไว้”
เขาถอนหายใจเล็กน้อย
หน้ายังคงพลิกต่อไป
ผู้ชายมองสถานการณ์บนหน้าหนังสือด้วยความเพลิดเพลิน เขาดูจนกระทั่งถึงหน้าสุดท้าย
ที่หน้านั้น กู่ฉิงซานและคนอื่นเดินออกจากห้องเพื่อเตรียมขึ้นสู่แท่นพิธี
ความจริง ตอนผู้ชายมองหน้านี้ พิธีในตำหนักเพิ่งจะมาถึงตรงจุดนี้พอดี
กู่ฉิงซานและจางหยิงห่าวแสร้งเป็นอารักขาก่อนเดินขึ้นแท่นพิธีร่วมกับเย่เฟยหลี
ผู้ชายเก็บหนังสือก่อนลูบคาง
“ตอนนี้ข้าเสียพลังมากเกินไป เหลือเพียงหนังสือแห่งชะตากรรม”
“เครื่องดื่มของผู้ทำลายโลกนั่นอาจจะสามารถรักษาบาดแผลข้าได้โดยตรง ถึงแม้ข้าต้องดื่มจำนวนมากก็เถอะ แต่คงไม่มีอะไรที่ดีกว่านี้อีกแล้ว”
“ช่างน่าขันจริงๆ ผู้ทำลายโลกถึงกับปลุกความสามารถลึกลับช่วยคนอื่นเพียงเพราะเป็นความปรารถนาของตัวเองอย่างนั้นหรือ”
ผู้ชายกล่าวกับตัวเอง
ทันใดนั้น มีเสียงโอ่อ่าดังมาจากนอกท้องนภา
“ราชินีลอร่า เทพที่แท้จริงกำลังรอเจ้าอยู่ในวิหารของพื้นที่จ้าวโลก”
เผ่าพันธุ์เทพอยู่ที่นี่
ผู้ชายนั่งอยู่ที่เดิมพลางครุ่นคิดสักพัก จากนั้นยืนขึ้นช้าๆ
ร่างของเขาวูบไหวก่อนหายไปจากห้อง
……….……….……….……….