webnovel

0976 โน้มน้าวหรือ

ตอนที่ 976 โน้มน้าวหรือ

เมื่อเริ่มพิธี

ทั่วตำหนักมีการคุ้มกันแน่นหนา

บนจุดสูงสุดของตำหนัก มีเสียงหวีดหวิวลับดังขึ้นที่ไหนสักแห่ง

คนที่ทำหน้าที่คุ้มกันที่นี่คืออารักขาหนาม

เขากำลังจับตาดูการเคลื่อนไหวรอบข้างอย่างระแวดระวัง

ตอนนี้ เผ่าพันธุ์เทพปรากฏตัวจากท้องนภา

อารักขาอดที่จะเงยหน้ามองท้องนภาไม่ได้

ตอนนี้

ผู้ชายสวมแว่นตากรอบดำปรากฏตัวขึ้นจากด้านหลังของเขาขณะมองท้องนภา

ผู้ชายมองการปรากฏตัวของเผ่าพันธุ์เทพอย่างละเอียด สีหน้าเผยความสนใจเล็กน้อย

“ช่างเป็นความคิดที่ยอดเยี่ยมนักที่ใช้ภาพของเทพเพื่อสร้างฮอร์ครักซ์ขึ้นมา ไม่รู้หรือว่านี่จะทำให้ฮอร์ครักซ์เสียการควบคุม”

“ส่วนในด้านพละกำลัง ยังห่างชั้นจากเทพที่แท้จริงอีกหลายหมื่นไมล์ ไม่ต่างอะไรจากของเล่นเลย”

ผู้ชายออกความเห็นเสียงต่ำ

เมื่อเขาพูด อารักขาที่ยืนอยู่ด้านหน้าคล้ายกับไม่ได้ยิน ยังคงมองเผ่าพันธุ์เทพที่อยู่บนท้องนภา

เผ่าพันธุ์เทพกำลังสนทนากับ “ลอร่”

ทันใดนั้น ที่แท่นสูงบนพิธี มีอารักขายืนอยู่ระหว่าง “ลอร่า” และเย่เฟยหลี

ฉากนี้สร้างความสนใจให้กับทุกคน

ผู้ชายสวมแว่นตากรอบดำก้มศีรษะมองการเคลื่อนไหวด้านล่างอย่างจริงจังเช่นกัน

เขารู้ว่าอารักขาคนนี้คือใคร เขารู้เช่นกันว่าอีกฝ่ายเป็นคนที่ช่วยชีวิตเขาเอาไว้

“ในเวลาแบบนี้ เจ้าคิดจะทำอะไรเมื่ออยู่ต่อหน้าโลกเก้าร้อยล้านชั้นกันนะ”

ผู้ชายสวมแว่นตากรอบดำถามอย่างแผ่วเบา

ผลลัพธ์ไม่ทำให้เขาผิดหวัง

กู่ฉิงซานลากจางหยิงห่าวและเย่เฟยหลีขึ้นมา ทันใดนั้นก็เริ่มร่ายรำ

เมื่อการร่ายรำสิ้นสุดลง ทุกคนเริ่มแสดงความปรารถนาออกมา

ผู้ชายสวมแว่นตากรอบดำกล่าวด้วยความไม่เต็มใจว่า “ข้าอยากค้นหาต่อไป”

ทันใดนั้น ดวงตาของเขากลับมากระจ่างชัดอีกครั้ง

“ช่างเป็นการร่ายรำที่แปลกประหลาดนัก ถ้าถามความเห็นข้า ข้าไม่เคยเห็นการร่ายรำแบบนี้มาก่อน”

ผู้ชายสวมแว่นตากรอบดำครุ่นคิดขณะกล่าวอย่างระแวดระวัง

เขาเปิดหนังสือในมือแล้วอ่าน

“ทำการบันทึก”

สิ้นคำพูดของเขา หน้าหนังสือเริ่มแสดงภาพของการร่ายรำเมื่อครู่

ทันใดนั้น หนังสือลุกเป็นไฟขึ้นมา

หน้าที่กำลังบันทึกการร่ายรำถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน

ผู้ชายสวมแว่นตากรอบดำประหลาดใจ

“บันทึกไม่ได้หรือ”

เขาถามหนังสือด้วยความสงสัย

หนังสือสั่นไหวเล็กน้อยราวกับเกรงกลัวบางสิ่ง

ผู้ชายสวมแว่นตากรอบดำปิดหนังสือช้าๆ ก่อนเก็บมัน

“แม้กระทั่งทิศทางของชะตากรรมยังสามารถแอบดูได้หนึ่งถึงสองทาง แต่กลับไม่สามารถบันทึกการร่ายรำนี้ได้…”

เขาพึมพำขณะจมสู่ความคิด

มันคือการร่ายรำที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน

หนังสือแห่งชะตากรรมไม่สามารถบันทึกได้เช่นกัน

เรื่องราวชักน่าสนใจขึ้นมาแล้ว

ถ้าอีกฝ่ายแค่มาช่วยเขาก็คงจะดี แต่อีกฝ่ายลึกลับ เขาต้องระวังตัวและสืบหาให้รู้เรื่อง

ทันทีที่คิดได้ดังนั้น บนแท่นพิธีด้านล่าง กู่ฉิงซานพุ่งออกไปสังหารเผ่าพันธุ์เทพหลายสิบองค์ที่ยังอยู่ในสภาพสับสน

จากนั้น มังกรมารเคลื่อนลงมาจากท้องนภา

มังกรมารสำแดงพลัง

มังกรมารตาย

มังกรมารเหลือเพียงศีรษะ จากนั้นถูกสวมหมวกสีเขียวที่ทำหน้าที่ผนึก

หลังจากนั้นผู้ชายสวมแว่นตากรอบดำก็กลับมามีสติ

“หืม นั่นมันสัตว์เลี้ยงข้าไม่ใช่หรือ มันมาทำอะไรน่ะ”

เขาประหลาดใจ

บนแท่นพิธี

กู่ฉิงซานเจรจากับมังกรมาร

“มีหลายคนอยู่ที่นี่ ไปหาสถานที่สงบเพื่อสนทนากันช้าๆ ดีกว่า” กู่ฉิงซานกล่าว

เขาถือศีรษะมังกรมารก่อนเดินทางไปตำหนักขณะสั่งการรอบข้างอย่างต่อเนื่อง

“ลอร่า หยุดการถ่ายทอดสด ให้แขกออกไป เปิดการป้องกันของตำหนัก ให้อารักขาและกองกำลังทั้งหมดเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ ตื่นตัวทุกสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นทุกเมื่อ”

“เข้าใจแล้ว” ลอร่าตอบรับ

“หลิน เจ้าไปปกป้องลอร่า ข้ากังวลว่ามังกรมารจะมีผู้สมรู้ร่วมคิด”

“ไม่สำคัญหรอกว่าจะคิดมากแค่ไหน แต่ระวังไว้หน่อยก็ดี” หลังจากหลินกล่าวจบ นางเดินไปหาลอร่า

“จางหยิงห่าว เย่เฟยหลี พวกเจ้ากลับตำหนักกับข้า”

“ได้”

ตอนนี้ แม่ทัพหนามปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งเพื่อประกาศเสียงดังว่าพิธีสิ้นสุดลงแล้ว

อารักขาหนามเริ่มรักษาระเบียบ

ไม่ช้า กองทัพของอาณาจักรหนามมารวมตัว พวกเขาสวมเกราะเต็มยศก่อนอุทิศตัวเองเพื่อทำการรักษาระเบียบในพื้นที่อย่างรวดเร็ว

เจ้าหน้าที่ปรากฏตัวคนแล้วคนเล่าขณะนำแขกออกจากพิธี

จนถึงตอนนี้ ผู้คนยังตามืดบอด

เผ่าพันธุ์เทพปรากฏตัว

เผ่าพันธุ์ถูกกำจัดจนสิ้น

มีช่วงเวลาว่างเปล่ามาคั่นกลางไว้ สุดท้ายมันเกิดอะไรขึ้น

ไม่มีใครสามารถจำฉากในตอนนั้นได้

จากนั้นก็เป็นการปรากฏตัวและความตายของมังกรมาร

มันแสดงให้เห็นว่าตัวเองทรงพลังแค่ไหน รวมถึงความรู้สึกที่เกิดจากการตายในทันทีมันรุนแรงเพียงใด

อาณาจักรหนามีพละกำลังที่สามารถจัดการกับศัตรูระดับนี้ได้!

กลายเป็นว่านอกจากต้นไม้หนามโบราณกับความมั่งคั่งไม่มีสิ้นสุด อำนาจของอาณาจักรหนามยังน่าสะพรึงอีกด้วย!

โลกเก้าร้อยล้านชั้นรู้สึกเช่นนั้น

ตอนนี้ ไม่รู้ว่ามีกี่กองกำลังที่กำลังทบทวนเรื่องการเผชิญหน้ากับอาณาจักรหนามใหม่

พิธีในวันนี้พังทลายสิ้น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้มากพอจะทำให้ทุกคนทำความเข้าใจได้ช้าๆ

ภายในตำหนัก

กู่ฉิงซานวางศีรษะมังกรมารบนโต๊ะก่อนรอเงียบๆ

เย่เฟยหลีส่งกระป๋องให้จางหยิงห่าวกับกู่ฉิงซาน

“ไม่ ข้าเพิ่งเอาไปเอง” กู่ฉิงซานกล่าว

“กระป๋องที่ข้าให้เตรียมไว้สำหรับการต่อสู้อันดุเดือด มันช่วยเติมเต็มได้มาก ถึงตอนนี้ข้าจะรู้สึกขาดพลังก็ยังสามารถใช้สิ่งนี้ที่อยู่ในมือเพื่อติมเต็มพลังงานได้เล็กน้อย” เย่เฟยหลีอธิบาย

กู่ฉิงซานรับมา เปิดกระป๋องแล้วดื่มช้าๆ

กลิ่นของสิ่งนี้สุ่มจนไม่สามารถควบคุมได้

แต่ครั้งนี้โชคของกู่ฉิงซานนับว่าดี กระป๋องเครื่องดื่มนี้มีกลิ่นสตรอเบอร์รี่

กระป๋องที่จางหยิงห่าวดื่มเข้มข้นยิ่งกว่า มันเหมือนกับซุปซี่โครงหมู

กู่ฉิงซานยกขึ้นจิบหลายคำ พละกำลังกายภาพที่ถูกผลาญไปจากการร่ายรำและการต่อสู้ค่อยๆ ถูกเติมเต็ม

สุดยอดไปเลย

เขาอดที่จะถามไม่ได้ว่า “เฟยหลี เจ้าเอาเครื่องดื่มออกมามากมายขนาดนี้ มันจะไม่ส่งผลร้ายกับเจ้าใช่หรือเปล่า”

เย่เฟยหลียิ้มแล้วตอบว่า “สิ่งนี้ผลาญพลังวิญญาณก็จริง แต่ไม่สำคัญหรอก ข้าได้รับพลังวิญญาณมากมายในหอคอยโลก”

“เจ้าฆ่าสัตว์ประหลาดไปมากเลยหรือ” จางหยิงห่าวถาม

“อืม หอคอยนั่นใหญ่มาก ข้าพบว่ามีสถานที่หนึ่งในหอคอยที่สัตว์ประหลาดเกิดใหม่เร็วมาก ข้าอยู่ที่นั่นหลายวัน จากนั้นก็ระเบิดพลังวิญญาณเพื่อให้ถึงขีดสุดของความสามารถนี้” เย่เฟยหลีกล่าว

ผ่านไปสักพัก

ลอร่าและหลินกลับมา

“ทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว ในกรณีที่เกิดอะไรขึ้น พวกเราสามารถทราบข่าวได้ทันทีเพื่อเลือกว่าจะสู้หรือหนี” ลอร่ากล่าว

กู่ฉิงซานพยักหน้าขณะมองมังกรมาร

“ว่าไง เจ้าคิดใคร่ครวญหรือยัง” กู่ฉิงซานถาม

“เจ้าอยากรู้ข่าวของใคร” มังกรมารถาม

กู่ฉิงซานตอบว่า “ทูตสวรรค์แห่งบาปกับเหรียญพิเศษของนาง ข้าจำได้ว่ามันตกไปอยู่ในมือของเจ้าใช่หรือไม่”

มังกรมารครุ่นคิดสักพักก่อนเข้าใจช้าๆ

“เจ้าจะรวบรวมสามเหรียญหรือ คิดจะเดินทางผ่านมิติและเวลาหรือไง นี่คือสิ่งที่เจ้าอยากจะทำสินะ” มังกรมารกล่าว

“ต่อให้ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ข้าต้องตามหาเสี่ยวซี นางคือคู่หูข้า” กู่ฉิงซานตอบ

มังกรมารเงียบสักพักแล้วกล่าวว่า “ข้ามีเงื่อนไข ถ้ายอมสัญญา ข้าจะบอกเจ้า”

“ถ้าข้าไม่ให้สัญญาล่ะ” กู่ฉิงซานถาม

“ถ้างั้นเจ้าจะไม่มีวันได้พบกับทูตสวรรค์แห่งบาป” มังกรมารกล่าว

“เจ้าพูดเงื่อนไขมาก่อนเลย” กู่ฉิงซานกล่าว

มังกรหุบเหวกล่าวว่า “ตอนเจ้าใช้งานสามเหรียญ ข้าจะกลับอดีตกับเจ้าด้วย”

“เจ้าเนี่ยนะ จะกลับไปทำไมกัน”

กู่ฉิงซานประหลาดใจ

มังกรมารคร่ำครวญออกมา “เพราะการต่อสู้ครั้งแรกเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ข้ารู้สึกเสมอว่าจิตใจตัวเองบ้างก็สับสน บ้างก็เศร้าโศก ข้าอยากกลับไปช่วงเวลานั้นเพื่อสำรวจต้นตอของทั้งหมดนี้”

กู่ฉิงซานเงยหน้าขึ้นก่อนจมสู่ความคิด

ดูท่าผู้สร้างปฐพีจะฉวยโอกาสตอนที่มังกรมารหลับใหล แต่แผนลับอะไรกันที่ใช้เล่นงานมังกรลับ…

“ไม่” กู่ฉิงซานปฏิเสธ “ข้าไม่ให้เจ้ากลับไปช่วงเวลานั้น”

ใบหน้าของมังกรมารถอดสีก่อนถามว่า “ทำไมล่ะ”

“เพราะที่ข้าจะย้อนกลับไปไม่ใช่ยุคโบราณ แต่เป็นช่วงเวลาอื่น” กู่ฉิงซานตอบ

มังกรมารครุ่นคิดสักพักแล้วกล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้น หลังจากเจ้าไปแล้ว พอกลับมาอีกครั้ง เอาเหรียญมาให้ข้า ข้าจะใช้มันอีกครั้ง”

กู่ฉิงซานเพียงอ้าแขนแล้วกล่าวว่า “ก็ยังไม่ได้อยู่ดี ข้าไม่รู้ว่าเจ้าจะทำอะไรเมื่อกลับไปในช่วงเวลานั้น ดังนั้นข้าปล่อยให้ไปไม่ได้”

มังกรมารจ้องเขาก่อนถามเน้นย้ำทีละคำว่า “เจ้าไม่คิดจะให้อะไรข้าเลยหรือ”

กู่ฉิงซานอ้าแขนอีกครั้งก่อนตอบอย่างภาคภูมิใจว่า “หากไม่นับเรื่องที่พูดก่อนหน้านี้ เจ้าสามารถขออย่างอื่นได้หมด ข้าจะพิจารณาให้ตามความเหมาะสมเอง”

“ข้านึกอยู่แล้วว่าเจ้าต้องมาไม้นี้ ถ้างั้นขอราชินีหนามละกัน”

“ไม่ได้”

“ข้าต้องการผู้ทำลายล้างโลกที่อยู่ข้างเจ้า เขามีค่ามาก”

“ไม่ได้”

“งั้นข้าต้องการดาบเจ้า ในบรรดาดาบศักดิ์สิทธิ์กับดาบพิภพ เจ้าเลือกให้มาเล่มหนึ่ง”

“ไม่ได้”

มังกรมารปิดปาก ดวงตาหลุบต่ำ ไม่สนใจกู่ฉิงซานอีก

“นี่ พูดอย่างอื่นสิ พวกเราอาจจะตกลงกันได้นะ” กู่ฉิงซานโน้มน้าว

มังกรมารคำรามอย่างเกรี้ยวกราดออกมา

“สารเลว เจ้าไม่เพียงแค่ฆ่าข้า แต่ยังไม่ให้อะไรข้าอีก ข้ายอมตายดีกว่าจะบอกคำตอบเจ้า!”

กู่ฉิงซานขมวดคิ้วแล้วกล่าวว่า “ช้าก่อน พูดคุยกันก่อนไหม”

“ไม่พูดแล้ว! เจ้ามันก็แค่คนขี้เหนียว!”

“ไม่พูดจริงหรือ”

“ข้ายอมตายดีกว่าจะพูดออกมา!”

ขณะคำราม เสียงหนึ่งพลันดังมาจากหูของมังกรมาร

“บอกเขา”

เมื่อได้ยินเสียงอันคุ้นเคยยิ่งนี้ที่เหมือนกับเสียงผู้ชายในฝันร้าย มังกรมารพลันนิ่งงัน

ต่อให้เหลือเพียงศีรษะ มันก็ค่อยๆ รู้สึกถึงเงามืดที่เคยสงบนิ่งในใจกลับมาพลุ่งพล่านอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง

แย่แล้ว!

เป็นเขา! เป็นเขา! เป็นเขา!

คาดไม่ถึงว่านายท่านจะมาเยือน แถมยังลอบถ่ายทอดคำสั่งอีก!

นายท่านทำแบบนี้หมายความว่าอย่างไร

ข้าต้องทำอะไร

จิตใจของมังกรมารว้าวุ่นยิ่ง

ในฐานะสมาชิกของหุบเหว จะไม่กล้าฟังเขาได้อย่างไร

ทำไมถึงไปอยู่ข้างกู่ฉิงซานล่ะ

ถึงแม้บางครั้งนายท่านจะไม่ให้ความสนใจ แต่ในช่วงวิกฤติหลายครั้ง เขาก็ไม่เคยพลาดโอกาส

ถ้างั้น กู่ฉิงซานอาจจะออกหน้าในฐานะนายท่านก็ได้

งั้นก็หมายความว่า

มังกรมารเผยรอยยิ้มยินดีขึ้นช้าๆ แล้วกล่าวว่า

“กู่ฉิงซานเอ๋ย ข้าจะบอกเจ้า เมื่อครู่ข้าแค่ล้อเล่น แต่ที่จริงข้าเตรียมจะบอกเจ้าอยู่แล้วว่าทูตสวรรค์แห่งบาปอยู่ที่ไหน”

กู่ฉิงซานนิ่ง

ทุกคนนิ่ง

กู่ฉิงซานมองมังกรมารจนอดที่จะลังเลไม่ได้เมื่อนึกขึ้นได้ว่าอีกฝ่ายอาจจะมีแผนบางอย่างอยู่ในใจ

“มังกรมาร…ท่าทางการพูดของเจ้ามันเร็วไปหน่อยนะ…ข้าเชื่อไม่ลงหรอก”

กู่ฉิงซานกล่าวอย่างไม่แน่ใจ

มีเสียงเคาะประตู

เสียงผู้ชายดังมาจากข้างนอก “ต้องขอโทษด้วยที่เข้ามาที่นี่ แต่ข้ายังอยากขอบคุณผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตข้าด้วยตัวเองน่ะ”

……….……….……….……….