webnovel

ตอนที่ 50 ไกด์

คาลิก้า เนฮิว

"ชื่อดาเนีย ไม่มีตระกูลค่ะ"

เพราะพูดกับทหารหน้าประตูเมืองไปแล้ว อีกอย่างคนนี้น่าจะเป็นอัศวิน หรือก็คือพวกขุนนาง

ถ้าเกิดถามคำถามเกี่ยวกับโรซาคขึ้นมา ฉันตอบไม่ได้แน่ ถ้าถูกจับขึ้นมาได้ยุ่งยากแน่ เลยต้องใช้ชื่อดาเนียไปแทน

"อาศัยอยู่เขตไหน"

"เขตสลัมค่ะ"

หากตอบในเมืองมันต้องถามต่อแน่ว่าอยู่โซนไหน ซอยอะไร บล็อกที่เท่าไหร่ ลักษณะบ้านเป็นแบบไหน แบบนี้ก็จะตรวจสอบได้

แต่พอบอกสลัม สถานที่ที่คนอาศัยอยู่กันมั่วซั่ว มันจึงไม่ถามลงลึกต่อเรื่องบ้าน

"จะไปไหน"

"เข้าไปในสลัมค่ะ"

"ไปทำอะไร"

"ไปต่อสู้ค่ะ"

"เป็นนักผจญภัย?"

"ใช่ค่ะ"

เพราะเล่นกระโดดข้ามหัวทหารเข้าเมืองมา จะบอกเป็นคนสลัมคงไม่น่าได้

"สังกัดกิลด์อะไร"

"ไม่ได้อยู่กิลด์ไหนเลยค่ะ"

"งั้นเอาบัตรประจำตัวที่ทางสำนักงานออกให้มาดู"

"ทำหายไปแล้วค่ะ"

"ถอดหน้ากากออก"

"?!! คือ... ไม่ถอดจะได้ไหมคะ"

"อย่ากำเริบให้มากนัก!"

"ท่านอัศวินสั่งแล้ว รีบทำตามซะ!"

"ขัดขืนคำสั่งท่านอัศวิน! ไม่รู้รึไงว่าจะโดนโทษประหารน่ะ!"

"คนอย่างเธอไม่มีสิทธิปฏิเสธ!"

"ต่อให้สั่งให้แก้ผ้าตอนนี้! เธอก็ต้องทำ!"

"อย่าให้ท่านต้องพูดซ้ำ!"

แค่ประโยคขอร้องประโยคเดียว พวกทหารส่วนตัวก็เปลี่ยนท่าทีพร้อมกับมองฉันด้วยสายตาดูถูกทันที

"ถ้าไม่ถอด ข้าจะสั่งให้พวกเธอปลดทุกอย่างที่เจ้าสวมใส่ออกจนหมด ณ ที่ตรงนี้"

ด้วยน้ำเสียงข่มขู่แบบเอาจริง ฉันจึงยอมถอดออกหน้ากากออก

และพอเผยโฉมพวกมันก็ตื่นตะลึงมองกันตาค้าง ท่าทีแข็งกระด้างของอัศวินหายไป แม้แต่ทหารที่รีบไปเสริมทัพยังมองตามกันจนขบวนช้าลง

แต่หลังทหารสาวหายอึ้ง พวกเธอก็มองด้วยความริษยา ทั้งที่พวกเธอก็หน้าตาดีกันทุกคน

"พาเธอไปที่คฤหาสน์ ข้าจะสอบสวนเธอด้วยตัวเอง"

ทหารส่วนตัวขานรับโดยที่ยังไม่ละสายตาจากฉัน

"ไม่ได้นะคะ ฉันต้องรีบไปช่วยน้อ...!"

ด้วยความร้อนรนฉันจึงเผลอพูดออกมาและปิดปากไม่ทัน

"นั่นคือเหตุผลจริงที่จะเข้าสลัม?"

ในเมื่อหลุดไปแล้วก็ช่วยไม่ได้

"ใช่ค่ะ ฉันต้องรีบไปช่วยน้อง ช่วยปล่อยฉันไปได้ไหมคะ"

"ไม่อนุญาต"

ฉันเผลอกำชายเสื้อด้วยความไม่พอใจ ทหารส่วนตัวที่ล้อมฉันต่างจับอาวุธกันทันที สายตามองทุกการเคลื่อนไหวของฉัน

ถ้าฉันหนีฝ่าออกไป คงโดนโทษของกฎอัยการข้อหาขัดคำสั่งอัศวิน พวกเขาจะมีสิทธิประหารฉัน

ฉันอาจจะหนีรอดได้ แต่การจะพาพี่เทียร่ากับเอลด้าหนีไปด้วยคงยากแน่ ถ้าโดนทหารทั้งอาณาจักรตามล่า

"บอกชื่อกับลักษณะน้องเธอมา ข้าจะส่งคนไปตามหาให้เอง"

"น้องฉันไม่เชื่อใจใครนอกจากฉันที่เป็นครอบครัวค่ะ ได้โปรดให้ฉันไปเองเถอะนะคะ"

อัศวินคนนั้นยืนครุ่นคิดอยู่สักพัก ก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธ

"ภายใต้กฎอัยการศึกคำสั่งอัศวินถือเป็นเด็ดขาด ข้าจะให้คนไปตามหาให้แทน ส่วนเธอต้องไปที่สำนักงานกับข้าเพื่อยืนยันตัวตนให้ได้เสียก่อน"

ตอนนั้นเองที่ทหารน้ำแข็งตามมาทัน แต่พวกที่เข้ามาได้คือพวกที่ใช้มีด พวกเขากระโดดกำแพงข้ามมาแบบเดียวกับที่ฉันทำ

ส่วนทหารน้ำแข็งที่เหลือติดทัพทหารอยู่ด้านนอกประตูเมือง

"หืม?!! ทหารน้ำแข็ง ไม่ใช่ว่าเลร่าเสียไปแล้วรึ"

ฉันตกใจกับคำที่อัศวินคนนั้นพูด

"หมายความว่ายังไงคะ!"

"ก็หมายความตามที่พูด"

พอเห็นฉันยังทำหน้าไม่เข้าใจ อัศวินคนนั้นจึงอธิบายให้ฟัง

ฉันจึงได้รู้ว่าท่านเลร่าเสียชีวิตแล้ว

ฉันแทบไม่เชื่อในสิ่งที่พูด ท่านเลร่าที่ยังดูแข็งแรงแบบนั้นจะเสียชีวิตทันทีหลังกลับไปถึงกิลด์ได้ยังไง

แต่เรื่องนี้กิลด์ [เวทกังวาน] เป็นคนแจ้งมาเอง มันจึงเป็นความจริง

หรือเป็นเพราะฉัน หรือเปล่านะ...

ฉันรีบส่ายหัวเรียกสติ ถ้าสาเหตุมาจากการที่ท่านเลร่าช่วยฉันจริง งั้นฉันก็ต้องช่วยเอลด้าออกมาให้ได้เพื่อไม่ให้การเสียสละของท่านเลร่าสูญเปล่า

"เอ่อ... ทหารน้ำแข็งสามารถผ่านเข้าไปได้มั้ยคะ"

ฉันพูดพร้อมกับเหล่มองไปที่สลัม อัศวินคนนั้นมองตาฉันสักพักก็พยักหน้าให้

"เปิดทางให้ทหารน้ำแข็งเข้ามา"

ทหารสองแถวหยุดเดินทันทีเพื่อเว้นช่องว่างให้พวกทหารน้ำแข็ง

เมื่อทหารน้ำแข็งมารวมกันครบฉันก็สั่งให้เข้าไปหาเอลด้าทันที

โชคดีที่ฉันบอกลักษณะของเอลด้ากับพวกเขาไปหมดแล้วในตอนที่ไล่กินแกนดันเจี้ยน จึงไม่ต้องพูดชื่อเอลด้าให้พวกอัศวินได้ยิน

แต่อัศวินก็ยังสั่งให้ทหารส่วนตัวครึ่งนึงติดตามไปด้วย

"ไปกันได้แล้ว"

ฉันมองไปที่สลัมอีกครั้ง เอลด้ารอพี่ก่อนนะ พี่สัญญาว่าจะรีบไปรับเธอทันทีเมื่อพวกมันหมดธุระกับพี่แล้ว

ฉันสวมหน้ากากไม้อีกครั้งแล้วตามมันไปด้วยความกังวลสองทาง

ทางนึงคือห่วงความปลอดภัยของเอลด้า อีกทางคือถ้าไปที่สำนักงานพวกมันต้องรู้แน่ว่าฉันโกหกเรื่องชื่อ ถึงตอนนั้นจะทำยังไงดี

*****

เพราะใช้การเดินไม่ใช่วิ่ง มันถึงโคตรเสียเวลา เหมือนมันพยายามถ่วงเวลาเพื่อให้คุยกับฉันได้นานขึ้น

ระหว่างทางก็ต้องตอบคำถามเกี่ยวกับตัวฉันกับครอบครัว ฉันโกหกไปว่ามีแค่น้องเพราะอีกเดี๋ยวก็โดนจับได้อยู่แล้ว

ระหว่างนั้นก็มองหาทางหนีตลอดเวลา

ตอนแรกมันก็ถามเพื่อตรวจสอบ แต่คำถามหลังๆ กลับโคตรไร้สาระ อย่างชอบทานอาหารแบบไหน มีงานอดิเรกอะไร

พอตอบว่าเห็ดที่งอกตามบ้านต้มกับน้ำคลอง กับ ไม่มี มันกับทหารส่วนตัวก็อึ้งไปพักใหญ่ๆ ก่อนจะหัวเราะเพราะคิดว่าฉันเล่นมุกตลก

แค่นั้นยังไม่จบ มันยังไล่แนะนำร้านค้าแถวนี้ สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองชั้นใน ของขึ้นชื่อ ร้านโปรดของมัน ให้ฉันฟังเพื่ออะไรก็ไม่รู้

ทำตัวเหมือนไกด์พาฉันเที่ยวหน้าตาเฉย ทั้งที่ฉันร้อนใจจะแย่

ตลอดทางทหารส่วนตัวพยายามบีบให้ฉันอยู่ตรงกลางและเดินตามหลังอัศวินตลอดเวลา ฉันจึงไม่มีโอกาสหนีเลย

ไม่รู้ว่าเสียเวลาไปเท่าไหร่ กว่าจะมาถึงสำนักงานสาขาย่อยที่ใกล้ที่สุด

ฉันเจอกับพนักงานคนเดิมที่ชื่อ เลจจี้ ที่มาช่วยงานอีกสาขานึง

เธอกับพนักงานทั้งหมดต่างรีบเข้ามาต้อนรับอัศวินอย่างนอบน้อม หลังคุยกันไม่กี่ประโยค

ฉันจึงได้ทราบว่าอัศวินคนนี้มีชื่อว่า จีเซ็น กลูอาร์ต

หลังคุยเสร็จเลจจี้ก็เข้ามาเชิญฉันไปที่ห้องประเมินแรงค์อย่างนอบน้อม

ผิดกับที่เคยไล่ฉันเหมือนหมูหมาในตอนนั้น แต่เดี๋ยวนิสัยก็คงออกหลังประเมินฉันได้ [แรงค์ F] เองแหละ

ตอนไปห้องประเมินแรงค์ จีเซ็นส่งทหารส่วนตัวทั้งหมดมาเฝ้าฉันไม่ให้แอบหนี ส่วนตัวมันล่วงหน้าไปที่ห้องรับรองชั้นสองของสำนักงาน

ฉันวางสองมือทาบกับคริสทัลประเมินก่อนเลจจี้จะทันได้อธิบาย

"เคยประเมินมาก่อนสินะคะ แสดงว่าเป็นนักผจญภัยจริง"

"ค่ะ ช่วยรีบทำให้หน่อยได้ไหมคะ"

"ได้เดี๋ยวนี้เลยค่ะ คุณดาเนีย"

เลจจี้รีบหยิบแร่ที่หาได้จากในดันเจี้ยนเสียบลงไปในช่องเพื่อเติมพลังเวทให้คริสทัล

คริสทัลที่ควรส่องแสงเล็กๆ เหมือนครั้งที่ฉันเคยมาประเมินกลับไร้ซึ่งแสงใดในคราวนี้

"...แร่อาจจะเสื่อมหรือพลังงานหมดค่ะ ขอลองอีกรอบนะคะ"

เลจจี้หยิบแร่เดิมออกแล้วใส่แร่อันใหม่ลงไปแทน

แต่ผลลัพธ์ก็ยังเหมือนเดิม และไม่ว่าจะลองอีกสักกี่ครั้งผลลัพธ์ก็ยังเหมือนเดิม

เลจจี้จึงสรุปผลแล้วพาพวกเราไปยังห้องรับรองที่อยู่บนชั้นสอง

ห้องที่ชั่วชีวิตของ [แรงค์ F] คงไม่มีวันได้เห็น แต่ฉันแปลกใจตรงที่เลจจี้ยังนอบน้อมกับฉันเหมือนเดิม

ที่ห้องรับรอง ทหารส่วนตัวของจีเซ็นไม่ได้ตามเข้าไปด้วย เพียงแต่ยืนเฝ้าอยู่หน้าห้อง

คนที่อยู่ในห้องจึงมีแค่ฉัน เลจจี้แล้วก็จีเซ็นที่นั่งอ่านเอกสารพร้อมกับจิบชาอย่างสบายใจ

ภายในห้องตกแต่งสบายตา ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย กลางห้องมีโซฟารับแขกกับโต๊ะหนึ่งชุด พร้อมชุดน้ำชาสุดหรูที่พนักงานยกมาต้อนรับจีเซ็น

ห้องนี้ไม่มีหน้าต่าง ทางเข้าออกจึงมีแค่ประตู

พอเห็นฉันเข้ามา จีเซ็นก็ขยับไปนั่งชิดขวา ส่วนเลจจี้เดินไปนั่งฝั่งตรงข้าม

พอเห็นว่าฉันยืนนิ่งไม่ยอมนั่ง จีเซ็นก็หยุดอ่านเอกสาร

"นั่งสิ มัวยืนทำอะไร"

จีเซ็นพูดพร้อมกับส่งสายตาไปตรงที่ว่างข้างตัวเอง

"..."

ฉันจึงนั่งลงฝั่งซ้ายของจีเซ็น ถึงจะเป็นครั้งแรกที่ได้นั่งโซฟานุ่มๆ แต่ตอนนี้ไม่มีความสนใจมันสักนิด

"ผลประเมินว่ายังไง"

เลจจี้ยิ้มแห้งให้ก่อนตอบคำถามจีเซ็น

"ผลประเมินแรงค์ของคุณดาเนีย คือ... ประเมินแรงค์ไม่ได้ค่ะ"