webnovel

ตอนที่ 51 ต่อรอง

คาลิก้า เนฮิว

จีเซ็นเบิกตากว้างกับคำตอบของเลจจี้ พร้อมกับยิ้มให้อย่างมีเลศนัย

"ถ้าที่นี่ถึงกับประเมินแรงค์ไม่ได้ แสดงว่าต้องสูงกว่า [แรงค์ B] น่ะสิ"

จีเซ็นรีบลุกขึ้นแล้วตะโกนสั่งทหารส่วนตัวที่รออยู่ข้างนอก

"เตรียมรถม้า!"

ก่อนจะยื่นมือมาให้ฉันจับ แล้วพูดด้วยเสียงนุ่มนวลขึ้น ไม่แข็งกระด้างเหมือนที่ผ่านมา

"ผมจะพาไปที่สาขาหลักเอง"

ฉันแทบอยากทึ้งหัวตัวเอง ไม่สิ ฉันอยาก...

อยากต่อยหน้ามันสักหมัด

ฉันอยากจะไปช่วยน้อง ไม่ใช่มานั่งเสียเวลาประเมินแรงค์บ้าบอนี่

ระหว่างที่กำลังชั่งผลได้ผลเสีย เลจจี้ก็รีบโบกมือปฏิเสธ

"ไม่ใช่เลยค่ะ ประเมินไม่ได้ที่ว่า คือ พลังของเธอต่ำจนแม้แต่ [แรงค์ F] ก็วัดไม่ได้ค่ะ เลยจัดให้อยู่ [แรงค์ F] เหมือนกัน"

"?"

ฉันแปลกใจกับผลประเมิน ทั้งที่ตอนนี้ฉันแข็งแกร่งขึ้นกว่าแต่ก่อนแล้ว

แต่ก็ดีเหมือนกันฉันจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปประเมินแรงค์ที่สาขาหลัก

"..."

ส่วนจีเซ็นนั่งลงพร้อมกับพลิกเอกสารดูและคำพูดต่อไปของมันก็ทำให้ฉันแทบนั่งไม่ติด

"อาณาจักรนี้มีคนชื่อดาเนียแค่สองคน คนนึงเป็นขุนนาง อีกคนเป็นนักผจญภัย"

พูดจบมันก็มองฉันแล้วเอ่ยคำที่ฉันรู้ดีแก่ใจออกมา

"แต่นักผจญภัยคนนั้นมีผมสีดำและเสียชีวิตไปตั้งนานแล้ว งั้นดาเนียที่นั่งอยู่ตรงนี้ เป็นใครกัน"

"คือ... เอ่อ... คือ..."

ชื่อดาเนียที่ฉันเอามาอ้าง มาจากเด็กรุ่นเดียวกันคนนึง เจอกันตอนอพยพมาถึงที่นี่ใหม่ๆ

เธอมีรูปร่างกับผมสีดำคล้ายฉัน ส่วนหน้าก็ตาธรรมดาทั่วไป ถ้ามองจากด้านหลังจะดูเหมือนฉันราวกับแกะ แต่ถ้าเอาหน้ามาเทียบกันจะแยกออกทันที และดาเนียมีไฝสีแดงที่แก้มซ้ายอย่างที่ฉันไม่มี

ที่ฉันรู้ชื่อเธอเพราะก่อนโดนต้อนเข้าสลัมทุกคนต้องแจ้งชื่อกับตระกูล เพื่อทำการคัดคน

ตระกูลไหนมีชื่อเสียง คนไหนมีประโยชน์ก็จะได้เข้าเมืองไปเป็นประชาชน ใครไร้ประโยชน์ก็ไล่เข้าสลัม

พวกเราต่อแถวอยู่ด้านหลังดาเนียประมาณสองครอบครัว ฉันจึงรู้ชื่อเธอจากการขานเรียก

ถึงจะเข้าสลัมเหมือนกัน แต่พวกเราไม่ได้เจอกันเลยแม้แต่ครั้งเดียว

ประมาณเดือนกว่าๆ ในคืนที่ฉันแอบย่องไปตักน้ำคลองมาทำอาหาร ฉันก็ได้ยินกลุ่มคนเล่าถึงเรื่องดาเนีย

ดาเนียประเมินได้ [แรงค์ D] เลยไปเป็นนักผจญภัยเหมือนพี่เทียร่า แต่ทั้งคู่ทำงานกันคนละปาร์ตี้จึงไม่ได้เจอกัน

พวกเขาเล่าว่าปาร์ตี้ของดาเนียรับงานขุดสมุนไพรในป่า แต่กลับโดนอสูรลอบโจมตี คนที่รอดชีวิตกลับมาได้คนเดียวเล่าให้ฟังว่าที่เหลือเสียชีวิตหมดแล้ว

เวลาเจอคนไม่น่าไว้ใจถามชื่อ ฉันจึงมักใช้ชื่อของดาเนีย เพราะจะได้ตามตัวฉันกับครอบครัวไม่เจอ

แต่ก็พลาดบอกชื่อจริงกับกิลด์ [เขี้ยวประกายแสง] ไป ตอนนั้นมันหมดทางเลือก ถ้าไม่ได้เงินอีกพวกเราไม่รอดชีวิตแน่

เลยกลัวว่าจะไม่ได้งานหากเอาชื่อไปค้นแล้วจับได้ว่าโกหก เลยยอมบอกไปตามตรง

ไม่คิดเลยว่าการบอกชื่อจริงครั้งนั้นจะนำหายนะเข้าบ้านตัวเอง

พอเห็นท่าทางตะกุกตะกักตอบคำถามไม่ได้ของฉัน จีเซ็นก็วางเอกสารลงแล้วหันไปสั่งเลจจี้

"เธอออกไปก่อน"

หลังเลจจี้ออกไปสักพัก จีเซ็นจึงหันมาพูดกับฉัน

"โทษสวมรอยเป็นคนอื่น โทษแอบอ้างชื่อคนอื่น โทษหลอกลวงขุนนาง โทษหลอกลวงอัศวิน โทษทำให้อัศวินปฏิบัติภารกิจหลักล่าช้าอันเป็นเหตุให้ภารกิจล้มเหลว โทษทำให้อัศวินเข้าใจผิด โทษทำให้อัศวินกระทบกระเทือนทางจิตใจ หากเธอไม่ใช่คนของอาณาจักรนี้ ยังมีโทษลักลอบเข้าเมืองอีกคดี หรือจะให้ยัดโทษก่อการร้ายเลยก็ได้"

"อะ... คือ... ฉัน..."

"ถ้าเธอเป็นขุนนางจากอาณาจักรอื่นก็ว่าไปอย่าง แต่เธอมันก็แค่พวกคนสลัม ถ้าแรงค์สูงกว่า B ก็ว่าจะพาไปชุบเลี้ยงเป็นทหารส่วนตัวสักหน่อย แต่แล้วเธอมันก็แค่พวกแรงค์ขยะ ก็ไม่รู้ว่าเก่งขนาดกระโดดข้ามหัวทหารได้ยังไง แต่คงพึ่งไอเทมอะไรสักอย่างสินะ ส่วนชุดที่เธอใส่ ถ้าให้เดาคงใช้หน้าตาแบบนั้นไปยั่วให้ผู้ชายซื้อมาล่ะสิ"

"ไม่ใช่ค่ะ"

"ฟังขึ้นตายล่ะ จะบอกอะไรให้ ตอนนี้เธอโดนโทษสูงสุดก็คือประหาร รองลงมาคือกลายเป็นทาส อยากโดนแบบไหนล่ะ"

ฉันกำหมัดแน่นและมองไปที่ประตู

"อย่าแม้แต่จะคิด ทหารสาวส่วนตัวของผมมีแต่ [แรงค์ C] เพราะงั้นต่อให้พึ่งไอเทมไป เธอก็ไม่มีทางฝ่าทหารส่วนตัวของผมออกไปได้แน่ และถ้าคิดจะจับผมเป็นตัวประกัน เธอจะโดนโทษทำร้ายอัศวิน มีโทษประหารทั้งครอบครัว ถึงความจริงเธอจะไม่มีวันชนะผมได้อยู่แล้วก็ตาม ฮึ"

"..."

"แต่เรื่องพวกนี้ต่อรองกันได้"

"...เอ๊ะ?!!"

"เข้ามา"

ทหารส่วนตัวของจีเซ็นคนนึงที่เหมือนรออยู่แล้ว เธอเดินเข้ามาพร้อมกับปลอกคอทาสและหนังสือสัญญาทาส

"ถ้ายอมเป็นทาส เดี๋ยวจะช่วยให้พ้นผิดให้ เตือนไว้ก่อนนะ ถ้าคิดหนีผมก็จะบังคับให้เธอเป็นทาส พอเล่นจนพอใจแล้วจะจับส่งขายไปในโรงประมูล หน้าตาอย่างเธอ ถ้าคนที่ซื้อเป็นพวกโรคจิต รับรองเลยว่าเธอโดนเล่นจนพังแน่ เพราะงั้นอย่าทำให้ผมขัดใจ เธอจะได้เป็นของเล่นโปรดของผมได้นานหน่อย"

"...เข้าใจแล้วค่ะ"

"เลือกได้ดี รีบสวมแล้วก็เซ็นซะ เดี๋ยวเราต้องไปร้านค้าทาสกันอีก อ้อใช่ น้องเธอ ไม่สิ ครอบครัวเธอทุกคนก็ต้องเป็นทาสผมด้วย หวังว่าน้องเธอจะเป็นหญิงแล้วก็สวยเหมือนเธอนะ จะได้เอามาเล่นคู่กัน หึหึหึ"

เข้าใจแล้ว เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งเลย

ว่าการยอมคนอื่นไปเรื่อยๆ สุดท้ายผลลัพธ์ก็ยังเป็นการถูกเอาเปรียบเหมือนเดิม

ไอ้พวกนี้ไม่เคยคิดจะปล่อยฉันกับครอบครัวไปตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

ทั้งที่ตั้งใจว่าจะใช้พลังนี้กับแค่พวกมอนสเตอร์เพื่อหาเลี้ยงชีพหรือใช้กับพวกที่มาหาเรื่อง โดยแค่แสดงพลังขู่ให้มันกลัว

ไม่เคยคิดจะใช้พลังนี้ทำร้ายใคร

แต่พอกันที จะอัศวิน ขุนนางหรือไอ้หน้าไหนฉันก็ไม่สนแล้ว

ผิดกฎอัยการศึกเหรอ โทษประหารเหรอ ก็ช่างหัวมันสิ!!!

"เสียเวลามาพอแล้ว ช่วย..."

ฉันพูดไม่ทันจบจีเซ็นก็รีบพูดแทรก

"อยากให้ผมช่วยใส่ให้สินะ งั้นก็ถอดหน้ากากออก แล้วคล..."

จีเซ็นก็พูดไม่ทันจบฉันก็ยืนขึ้นแล้วพูดแทรกมันเหมือนกัน

"เปล่า ช่วยที่ว่า คือ ช่วยหุบปากเน่าๆ ของแกสักที"

จีเซ็นถึงกับหน้ากระตุก ส่วนทหารสาวที่ได้ยินก็เข้ามาบีบไหล่ฉันเพื่อกดลงให้คุกเข่า

"หืม?!!"

มันแปลกใจที่กดฉันลงกับพื้นไม่ได้ ไม่ว่าจะออกแรงสักแค่ไหนหรือร่ายเวทลมช่วยกด ตัวฉันก็ไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย

"อีนังนี่! รีบคุกเข่าขอโทษท่านอัศ..."

ไม่ต้องรอให้มันพูดจบ ฉันหมุนตัวปัดมือที่จับไหล่ออก แต่แค่การปัดถึงกับทำแขนมันหักงออย่างน่ากลัว

"กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!"

พอเสียงกรีดร้องดังออกไป พวกที่เหลือจึงวิ่งกันเข้ามาในห้อง

ฉันออมแรงลงแล้วต่อยเข้าที่ท้อง

กร๊อบ!

ขนาดออมแรงแล้วชุดเกราะยังบุบ แถมยังทำกระดูกซี่โครงเธอหัก

โครมมมม!

ร่างของมันปลิวชนเพื่อนทั้งกลุ่ม แม้คนที่เหลือจะพยายามช่วยกันหยุด แต่ก็ถูกอัดติดผนังห้องจนพังทะลุไปนอนกองกันหน้าห้อง

"ฮึ ก็พอมีฝีมือ แต่เธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของ..."

ปึง!

ฉันจิกหัวจีเซ็นกระแทกกับพื้นโต๊ะ

"อีนังไพ..."

ฉันจิกหัวมันขึ้นมาอีกครั้งแล้วออกแรงกระแทกหนักกว่าเดิม

โครมมม!

โต๊ะไม้แยกออกเป็นสองส่วน หน้าของมันจูบไปกับพื้นห้อง ฟันหักหลายซี่ เลือดกบปาก แถมยังโดนน้ำชาร้อนๆ ราดใส่หัวมัน

"อ้ากกกกก! ร้อนนนนนนนนนน!"

มือฉันก็โดนราดไปด้วยแต่กลับไม่รู้สึกถึงความร้อนแม้แต่น้อย

จีเซ็นพยายามตะเกียกตะกายลุกขึ้น แต่ก็ดึงมือฉันไม่ออก

ด้านนอก นอกจากคนที่โดนฉันต่อยจนสาหัส พวกทหารสาวที่เหลือรีบลุกขึ้นแล้วเข้ามาช่วยมัน

"หยุดการกระทำเดรัจฉานซะ!"

"พวกแรงค์ขยะนี่มันนิสัยขยะจริงๆ!"

"ปล่อยมือโสโครกของแกออกจากตัวท่านอัศวินเดี๋ยวนี้!"

"แกกับน้องได้ชดใช้อย่างสาสมแน่!"

"รีบกราบขอโทษท่านซะ!"

พวกลูกน้องก็ปากเน่าพอกันสินะหรือเพราะได้รับการสอนจากไอ้นี่

"อีนังไพร่! อย่าคิดว่าสวยแล้วจะไม่กล้าทำร้ายนะ!"

"เอาที่แกสบายใจ เพราะฉันก็จะเอาอย่างที่ฉันสบายใจแล้วเหมือนกัน"

ฉันยกเท้าขึ้นแล้วกระทืบหัวมันซ้ำลงไป ก่อนที่พวกทหารสาวจะเข้าถึงตัว

ตูมมมมมมมมมมมม!

พื้นไม้ของชั้นสองรับแรงปะทะของฉันไม่ไหว พังร่วงลงไปทั้งห้อง

"เหวออออออออออออ!"

"กรี๊ดดดดดดดดดดดด!"

"อ๊าาาาาาาาาาาาาาา!"

จีเซ็นกับพวกทหารสาวที่กรีดร้องหวาดกลัวร่วงลงไปกระแทกพื้นเบื้องล่าง ส่วนฉันใช้ร่างของจีเซ็นเป็นเบาะมันจึงบาดเจ็บหนักกว่าเดิม

นี่ขนาดค่าพละกำลังไม่เต็มสิบ ความเสียหายก็ไม่ได้อัพเลยสักแต้ม แรงที่ใช้กระทืบมันก็ไม่ได้ใช้พลังเต็มที่

เสียงโอดครวญกับเสียงกระดูกหักของพวกทหารสาวดังระงมท่ามกลางความตื่นตะลึงและเสียงกรีดร้องของพนักงาน

ส่วนจีเซ็นนอนแน่นิ่งไม่ขยับ

ฉันลงจากตัวมัน ออกจากสำนักงานโดยที่ไม่มีใครกล้าขวางแล้ววิ่งเต็มกำลังไปที่สลัม