webnovel

Chapter 2

.....19 ปีต่อมา.....

กริ๊งง!!

"ยินดีต้อนรับครับ" เสียงทุ้มปนหวานของชายหนุ่มหลังเคาน์เตอร์ดังต้อนรับลูกค้า หลังจากทำงานในสำนักงานมือปราบมาร 2-3 ปี แฮร์รี่ก็ได้เปิดร้านกาแฟกึ่งห้องสมุดที่ชานเมืองลอนดอน ผู้มาใช้บริการมีทั้งพ่อมด แม่มด รวมถึงมักเกิ้ลธรรมดา ส่วนใหญ่พ่อมดแม่มดจะมีรหัสเพื่อขออ่านหนังสือของโลกเวทมนตร์ หนังสือส่วนนี้พวกมักเกิ้ลไม่มีทางรู้ว่ามันมีอยู่ กิจวัตรประจำวันของแฮร์รี่คือต้อนรับลูกค้า ชงกาแฟ ดูแลหนังสือ ในช่วงที่งานประจำของมือปราบมารไม่มีอะไรต้องทำ เขาก็จะว่างมากจนอ่านหนังสือทุกเล่มที่มีในร้านหมดแล้ว

"เอสเปรสโซร้อน..." เสียงทุ้มต่ำมีเสน่ห์ดังมาจากร่างของลูกค้าที่เข้ามาใหม่ เขาสวมเสื้อฮู้ด ยืนนิ่งด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย นัยน์ตาสีเขียวเข้มยิ่งกว่าของแฮร์รี่คู่นั้นจดจ้องไปยังร่างบางหลังเคาน์เตอร์ที่ยิ้มรับ และหันไปชงกาแฟให้เขา

"จะรับขนมทานเล่นไหมครับ เอาไว้ตอนอ่านหนังสือ"

"ไม่..."

"คุณนั่งโซนด้านโน้นได้ตามสบายเลยครับ เลือกอ่านเล่มไหนก็ได้ไม่คิดเงิน เว้นแต่ว่าคุณจะยืมกลับ ต้องเสียค่าเช่า 1 เหรียญ" แฮร์รี่ยิ้มบอก

"อืม..." เขารับแก้วกาแฟพร้อมกับหยิบหนังสือเล่มหนึ่งติดมือไปแล้วนั่งลงตรงที่แฮร์รี่ชี้ให้

'ประวัติศาสตร์โลก'

นั่นคือหนังสือที่เจ้าของดวงตาสีเขียวหยิบมาอ่าน ชายผู้นี้รู้สึกชิงชังกับความอ่อนแอของมนุษย์ เขาต้องการครอบครองดาวดวงนี้ อย่างน้อยที่สุดก็เพื่อให้พี่ชายต่างสายเลือดเป็นทุกข์กับเรื่องของหญิงผู้เป็นที่รัก มนุษย์ผู้หญิงที่ช่างสอดรู้นัก หึ! ความรักน่ะหรือ? มันคือจุดอ่อน....

"ขอโทษนะครับ พอดีผมเห็นคุณอ่านเล่มนั้นอยู่ เลยเอานี่มาให้ เนื้อหามันค่อนข้างสมบูรณ์กว่า เกี่ยวกับวิวัฒนาการต่าง ๆ ของมัก.... เอ่อ...มนุษย์น่ะครับ" อ้า บ้าจริง! เกือบยี่สิบปีแล้ว เขายังติดเรียกมักเกิ้ลอยู่เลย

"ขอบคุณ" อีกฝ่ายตอบเสียงเบา แฮร์รี่ยิ้มรับก่อนกลับไปยืนหลังเคาน์เตอร์ ใบหน้าหวานมีเสน่ห์มากขึ้นกว่าตอนเรียนจบนั้นดูเปล่งประกายชวนให้หลงใหลอย่างน่าประหลาดในสายตาของชายหนุ่มอีกคน

หลังจบสงคราม แฮร์รี่เป็นเจ้าของเครื่องรางยมทูตครบทั้งสามชิ้น ทำให้เงื่อนไขการเป็นนายแห่งยมทูตบรรลุโดยที่เขาไม่ได้ตั้งใจ ปกติพ่อมดแม่มดมีอายุยืนยาวได้เป็นร้อยสองร้อยปี ถ้าไม่นับนิโคลัส แฟลมเมล เจ้าของศิลาอาถรรพ์ แต่ผู้เป็นนายแห่งยมทูต ซึ่งมีอำนาจเหนือความเป็นและความตาย ผู้ที่ยมทูตไม่อาจพรากดวงวิญญาณไปได้ และมันจึงทำให้เขาไม่แก่ขึ้นเลยนับตั้งแต่ที่เงื่อนไขนั่นสัมฤทธิ์ผล นอกจากนี้แฮร์รี่ยังคงเป็นที่รักของเหล่าพ่อมดแม่มดเสมอมาไม่เคยเปลี่ยนแปลง

"มองหน้าผมก็ไม่มีตัวหนังสือลอยออกมาหรอกนะครับ" เสียงทุ้มหวานบอกพลางหัวเราะเบา ๆ ทำเอาอีกฝ่ายสะดุ้ง กระแอมเล็กน้อยแก้เขินแล้วหันกลับไปสนใจหนังสือในมือต่อ

ให้ตายเถอะ โอดิน! รอยยิ้มกับเสียงหัวเราะนั่นมันน่าหลงใหลเกินไปแล้ว.... ไม่ได้! เขาจะหลงมนุษย์ไม่ได้ แต่ทำไมเด็กคนนั้นช่างดูแตกต่างจากมนุษย์คนอื่น บางทีเขาอาจจะต้องทำความรู้จักเจ้าหน้าหวานนี่ให้มากขึ้น

เคราเมอร์ลิน! แฮร์รี่เพิ่งจะสังเกตเดี๋ยวนี้แหละว่าผู้ชายคนนี้มีใบหน้าทรงเสน่ห์ขนาดไหน ถ้าเป็นโลกเวทมนตร์ก็บอกได้คำเดียวว่าชายผู้นี้ช่างมีพลังล้นเหลือ เขากับเดรโกเองก็เป็นอย่างนั้น ยิ่งพลังเวทมนตร์มีมากเพียงใด ก็จะยิ่งเปล่งประกายงดงามเท่านั้น เดรโกนั้นหล่อคมตามแบบพ่อมดหนุ่ม แต่เขานี่สิ ทำไมกัน ถึงได้มีหน้าตาล่อเพศเดียวกันขนาดนี้ คิดแล้วก็อยากร้องไห้ ถึงจะบอกให้ไปตายแล้วเกิดใหม่ เขาก็ทำไม่ได้ด้วยซ้ำ ฮือ ๆ ๆ

"นี่..." เสียงทุ้มเรียกร่างบางที่กำลังเหม่อตีหน้าเศร้าให้หลุดจากภวังค์

"หะ? ครับ มีอะไรให้ช่วยครับ"

"คุยด้วย... ได้ไหม?" เขาถามเรียบ ๆ

"อ่า ได้สิครับ"

"เธอ..."

"ผมชื่อแฮร์รี่ครับ แฮร์รี่ เจมส์ พอตเตอร์"

"แฮร์รี่.. เหรอ"

"ครับ แล้วคุณ"

"โลกิ..."

"ชื่อแปลกดีนะครับ ฮ่า ๆ ๆ" โลกิเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ มนุษย์ส่วนใหญ่รู้จักเขาจากข่าวต่าง ๆ หรือไม่ก็จากนิทานเทพเจ้าอะไรนั่น แต่เด็กคนนี้กลับ... จะว่าไปร้านนี้เองก็แปลก เต็มไปด้วยหนังสือประหลาด ๆ เหมือนไม่ใช่ภาษาของพวกมนุษย์ หนังสือที่อ่านได้จริง ๆ มีเพียงส่วนเดียวเท่านั้นเอง

"ว่าแต่ คุณมีอะไรหรือครับ"

"เธอเป็นใครกัน..." เขาชะงักเมื่อเผลอหลุดสิ่งที่คิดอยู่ออกไป

"เอ๋ ก็บอกไปแล้วนี่ครับ"

"ไม่ใช่ เธอดูเหมือนไม่ใช่มนุษย์...ธรรมดา" แฮร์รี่ชะงักเล็กน้อยก่อนจะยิ้มบาง ๆ

"ถ้าเป็นอย่างนั้น คุณเองก็เหมือนกัน" ร่างบางตอบเสียงเรียบ ยกยิ้มอย่างท้าทาย แต่มันช่างดูยั่วยวนในสายตาอีกฝ่าย

"หึ งั้นข้าจะตอบคำถามที่เจ้าอยากรู้ หนึ่งเรื่องต่อหนึ่งคำตอบของเจ้า ตกลงไหม?" โลกิยิ้มเจ้าเล่ห์

"ดีครับ คุณเริ่มก่อนเลย"

"เจ้าเป็นใคร ข้าหมายถึง เป็นอะไร"

"ผมเป็นพ่อมด"

"พ่อมด?"

"คุณคงไม่รู้ โลกนี้น่ะมีคนแบบผมอยู่อีกมาก แต่พวกเขาไม่ชอบความเป็นอยู่ของพวกมักเกิ้ล หมายถึงคนอื่น ๆ ที่คุณเคยเจอ พวกมักเกิ้ลไม่มีเวทมนตร์ และถูกมองว่าไร้อารยธรรม ทั้งที่ก็ไม่ใช่ และความจริงพ่อมดแม่มดที่เกิดมาไม่มีเวทมนตร์ก็มี เราเรียกพวกเขาว่าสควิบ"

"งั้นเหรอ"

"ตาผมนะครับ ผมขอคำตอบของคำถามเดียวกับคุณ"

"ข้ามาจากดาวแอสการ์ด เป็นลูกบุญธรรมของโอดิน มีพี่ชายต่างสายเลือดชื่อ ธอร์ มนุษย์บนโลกเรียกพวกข้าว่าเทพเจ้า"

"เทพเจ้าหรือครับ พวกมักเกิ้ลมีเรื่องราวเยอะเหมือนกันนะเนี่ย สงสัยผมต้องหาหนังสือของมักเกิ้ลมาเพิ่มซะแล้ว"

"หนังสือ?"

"ครับ ส่วนใหญ่ลูกค้าของผมจะเป็นพ่อมดแม่มดที่ผ่านมาหรือมาทำงานในโลกมักเกิ้ล บางส่วนก็เป็นมักเกิ้ลธรรมดา ถึงจะมีหนังสือธรรมดาให้ก็ไม่เยอะเท่าหนังสือจากโลกเวทมนตร์"

"อืม..." โลกิพยักหน้าเข้าใจ

"แล้วทำไมเจ้ามาอยู่นี่ล่ะ"

"ผมเป็นมือปราบมารประจำโลกมักเกิ้ล หน้าที่ผมคือจับนักโทษที่หนีมาจากอัซคาบัน อ่า คุกในโลกของผมน่ะครับ แล้วก็จับพ่อมดแม่มดที่ใช้เวทมนตร์อย่างผิด ๆ แต่เพราะเพิ่งผ่านสงครามมา ผมก็เลยว่างมาก ๆ"

"สงคราม?"

"อย่างที่บอก พ่อมดแม่มดชั่วร้ายก็มี พวกเขาใช้ศาสตร์มืดทำสิ่งที่เลวร้ายอย่างมาก สองในนั้นถูกเรียกว่าดาร์กลอร์ด ยุครุ่งเรืองของพวกเขาคือยุคมืดของโลกเวทมนตร์ สงครามระหว่างเรากับดาร์กลอร์ดรุ่นสองเพิ่งจบไปเมื่อเกือบยี่สิบปีก่อน"

"ยี่สิบปี? เธออายุเท่าไหร่กัน"

"ฮ่า ๆ ๆ ผมอายุ 36 แล้วครับ"

"....." โลกิเงียบไปทันที เด็กคนนี้ต่างจากมนุษย์คนอื่นมากจริง ๆ

"ผมถามบ้าง คุณมาทำอะไรที่นี่"

"ข้าสูญเสียทุกอย่างเพราะพี่ชายโง่ ๆ ที่ดันตกหลุมรักมนุษย์ผู้หญิง ข้าต้องการอำนาจ"

"คุณจะมายึดโลกหรือ" แฮร์รี่เลิกคิ้วถามแต่ท่าทางไม่ทุกข์ไม่ร้อน

"ดูเจ้าไม่ตกใจ"

"ผมไม่สนหรอกว่าคุณจะเป็นคนไม่ดี หรือคิดจะทำอะไร ผมเบื่อการเป็นฮีโร่เต็มที นั่นไม่ใช่ชีวิตที่ผมต้องการ โชคดีที่คนของผมเข้าใจ ไม่งั้นผมอาจจะกลายเป็นดาร์กลอร์ดรุ่นสามที่ต่อกรยากที่สุดก็ได้ หึ" แฮร์รี่เหยียดยิ้มแบบสลิธีรินออกมา เป็นรอยยิ้มที่ดูมีเสน่ห์ยิ่งขึ้นในสายตาโลกิ

"เจ้าช่าง.... หึ"

"ว่าไปแล้ว คุณเนี่ยดูบ้าคลั่งกว่าดาร์กลอร์ดคนนั้นเสียอีก" แฮร์รี่บอกยิ้ม ๆ ไม่ยินดียินร้าย โลกิมองแฮร์รี่อย่างนิ่งงัน นี่เป็นความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ราวกับวิญญาณในร่างเรียกหาอีกคนตรงหน้า

เขาซึ่งถูกคนที่ไว้ใจหลอกลวงจนต้องหันหลังให้กับด้านสว่าง การมาที่โลกครั้งนี้ก็เพื่อยึดครองเพื่อใช้เป็นฐานอำนาจเท่านั้น แม้จะได้รับการเชื่อใจจากมารดาของธอร์ และตัวธอร์เองว่าหากเขาอยู่ที่นี่สักพักคงจะเปลี่ยนไปได้เหมือนพี่ชาย

หึ! โง่เง่านัก ตลอดเวลาที่อยู่ที่โลก เขาคิดถึงแต่การสร้างอำนาจ สร้างความหวาดกลัวให้กับมนุษย์ นี่คงเป็นครั้งแรกที่เขาสนใจเรื่องอื่น นั่นก็คือร่างบางตรงหน้าเขานี่เอง

เกือบยี่สิบปีที่ผ่านมา แฮร์รี่ใช้ทุกเวลานาทีทำงานทุกอย่างที่ทำได้ เพื่อจะลืมความเจ็บปวด ความสูญเสียจากสงครามครั้งนั้น แม้เขาจะยังนึกถึงมันเสมอ แต่การทำงานหนักก็ช่วยให้ชีวิตเขาไม่แย่นัก เป็นแบบนี้ก็คงดีกว่า เพราะเขายังต้องทนอยู่กับความทรงจำเหล่านี้ไปอีกแสนนาน.... นานจนไม่รู้จะสิ้นสุดเมื่อไร

อย่างไรก็ตามยังมีสิ่งหนึ่งที่ทำให้เขารู้สึกสนุกและผ่อนคลายได้บ้าง นั่นคือ ทุกครั้งที่ได้จับไม้กายสิทธิ์ร่ายคาถา ไม่ว่าจะตอนประลองกับคนอื่น หรือตอนทำงาน มันคงจะดีถ้าเขาได้ลองประมืออย่างจริงจังอีกสักครั้ง เหมือนสมัยโดนดาร์กลอร์ดไล่ล่า แต่.. แน่นอนว่าต้องไม่ใช่ในสงครามที่ไหน และไม่ใช่กับพ่อมดเสียสติแบบนั้นด้วย..

"เอาเถอะ ไว้ข้าจะมาใหม่ เด็กน้อยผู้น่าสนใจ" เสียงทุ้มเอ่ยกับร่างบางก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไป

"อ่า แล้วพบกันครับ" แฮร์รี่หลุดจากภวังค์ เกาหัวแก้เก้อ

…ขณะเดียวกันทางด้านทีมอเวนเจอร์สก็กำลังเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น...