ตอนที่ 1001 ไล่ตาม!
ลอร่าหยิบกล้องส่องทางไกลทองเหลืองออกมาจากกระเป๋าแล้วกล่าวว่า “กล้องส่องทางไกลเอ๋ย โปรดแสดงให้ข้าเห็นด้วยว่าใครกำลังไล่ตามพวกเรา”
นางยกกล้องส่องทางไกลขึ้นมองไปทางหนึ่ง
เย่เฟยหลีถามอย่างไม่เข้าใจว่า “นายท่าน ทางที่ท่านมองมัน”
“ชู่วว์!”
ลอร่าส่งสัญญาณให้เขาสงบสติ
นางถือกล้องส่องทางไกลแล้วมองสักพักแล้วกล่าวอย่างรวดเร็วว่า “ประธานของสมาคมยานอวกาศโลกเก้าร้อยล้านชั้นเป็นคนที่สามารถควบคุมยานได้ เขาเป็นที่ยอมรับว่ามียานที่เร็วที่สุด”
“มีลูกเรือมือดีหลายสิบคนอยู่บนยาน พวกมันเริ่มใช้ความสามารถเพื่อผลัดกันเร่งความเร็วยานอวกาศ”
“หากพวกเรายังร่องด้วยความเร็วปกติแบบนี้ต่อ เกรงว่าแค่ครึ่งวันก็โดนไล่ตามทันแล้ว”
หลังจากพูดจบ ลอร่าเก็บกล้องส่องทางไกลก่อนมองกู่ฉิงซาน
กู่ฉิงซานพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ข้ารู้ พวกเรามียานที่เคลื่อนที่ได้ไวหรือเปล่า”
ลอร่าอธิบายว่า “เพราะข้าคือราชินี ยานอวกาศของข้าจึงมักงดงามและปลอดภัยมาก แต่น่าเสียดาย ต่อหน้าสัตว์ประหลาดนั่น มาตรการความปลอดภัยเหล่านี้คล้ายกับไม่มีตัวตน”
“เพราะความปลอดภัย ความเร็วของยานอวกาศราชินีหนามจึงไม่เร็วงั้นหรือ” กู่ฉิงซานหัวเราะ
ลอร่ายิ้มเยาะก่อนวางมือบนกระเป๋า
“ยานอวกาศที่ถูกซื้อโดยราชวงศ์ของอาณาจักรย่อมต้องเน้นความปลอดภัยก่อน แต่ข้าเป็นคนที่ซื้อมันด้วยตัวเอง”
นางหยิบกระดาษผนึกมิติออกมาก่อนโยนออกไปในท้องนภา
กระดาษผนึกเปิดออก
ยานอวกาศหัวกระสุนสีแดงคล่องตัวปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคน
จางหยิงห่าวผิวปาก
ยานอวกาศลำนี้ดูงดงามมาก
ลอร่ากล่าวว่า “ไม่มีอุปกรณ์ป้องกันใด ๆ เน้นความเร็ว ใช้เวลาหนึ่งปีจึงจะสร้างสำเร็จด้วยความพยายามร่วมกันกับประธานสมาคมยานอวกาศโลกเก้าร้อยล้านชั้น”
จางหยิงห่าวถามว่า “ความเร็วมันขนาดไหนหรือ”
ลอร่ายักไหล่แล้วตอบว่า “เร็วกว่ายานพวกเราเท่าตัว เคยลองเอาไปแข่งกับเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันมาบ้าง แน่นอนว่าข้าชนะ”
“ถ้าแบบนี้ ทุกครั้งที่เจ้าใช้แข่ง มันก็ไม่มีหลักประกันเรื่องความปลอดภัยน่ะสิ” กู่ฉิงซานพึมพำ
ลอร่ากล่าวอย่างเป็นธรรมชาติว่า “ในตอนนั้น ไม่มีสัตว์ประหลาดอย่างวิญญาณกรีดร้องอยู่ในโลกเก้าร้อยล้านชั้น ข้าสามารถเรียกต้นไม้หนามออกมาได้ทุกเมื่อ ดังนั้นจึงไม่มีอะไรมาทำอันตรายกับข้าได้”
“เจ้าชอบเกี่ยวกับยานอวกาศหรือ” จางหยิงห่าวถาม
“ใช่ จะสะสมหรือแข่งบินก็สามารถบรรเทาความเครียดได้ดี”
เมื่อพูดถึงการแข่งบิน ลอร่านับนิ้วอย่างมีความสุขแล้วกล่าวว่า “ข้ารู้ว่าทันทีที่จะต้องสร้างยานอวกาศขึ้นมา ข้าจะต้องเรียกผู้สร้างยานอวกาศฝีมือดีหลายคนมาสร้างยานอวกาศให้”
“ข้าคือราชินีหนาม ดังนั้นข้าจะไม่ยอมให้คนอื่นมาชนะข้าตอนแข่งบินได้”
“มียานอวกาศห้าลำที่เร็วกว่าลำนี้อยู่ในการครอบครองของข้า แต่ละลำสามารถซื้อโลกมีราคาได้หลายใบ”
สีหน้าของลอร่าเป็นธรรมชาติ น้ำเสียงของนางเหมือนกับกำลังพูดถึงของเล่นชิ้นโปรด
ไม่เห็นท่าทีการโอ้อวดแม้แต่นิดเดียว
สำหรับนาง นี่เป็นเพียงงานอดิเรก เป็นวิธีหาความสนุกให้ตัวนางเอง
ไม่จำเป็นต้องโอ้อวดหรือเปรียบเทียบแต่อย่างใด
เพราะไม่มีใครสามารถเทียบเรื่องนี้กับนางได้
กู่ฉิงซานกล่าวว่า “เอาเถอะ สิ่งที่พวกเราต้องกังวลตอนนี้คือพวกมันมีหลายคนที่สามารถเร่งความเร็วยานอวกาศได้ นี่คือภัยคุกคามเพียงอย่างเดียวเท่านั้น”
เย่เฟยหลีตบอกแล้วกล่าวว่า “อย่าห่วงไปเลย เรื่องนี้ให้พวกข้าจัดการเอง”
“อืม รีบไปกันเถอะ” จางหยิงห่าวกล่าวเช่นกัน
ตอนนี้ เหล่าต้าฟื้นตัวมาเล็กน้อยจนพอจะเดินได้บ้าง พวกเขาทั้งสี่ขึ้นยานอวกาศลำใหม่
พื้นที่ข้างในของยานอวกาศไม่ใหญ่มาก มีขนาดเพียงไม่กี่สิบตารางเมตรเพื่อให้ทุกคนเคลื่อนไหวไปมา ถือว่าห่างชั้นจากยานอวกาศราชินีหนามมากนัก
เห็นได้ชัดว่ายานอวกาศลำนี้ตัดหน้าที่หลายอย่างทิ้งเพื่อเน้นความเร็วเพียงอย่างเดียว
ลอร่านั่งตรงที่นั่งคนขับขณะควบคุมยานอวกาศอย่างชำนาญ
ยานอวกาศคำรามก่อนทะยานขึ้นสู่ท้องนภาจากยานอวกาศราชินีหนามที่พังทลาย กระโจนเข้าสู่วังวนความว่างเปล่าด้วยความเร็วสูงยิ่งก่อนค่อยๆ ถอยห่างออกไป
เวลาผ่านไป
ลอร่าหยิบกล้องส่องทางไกลทองเหลืองออกมาอีกครั้งเพื่อมองย้อนกลับไปแล้วกล่าวว่า “ในหมู่พวกมันมีมือดีสองคน ทุกครั้งที่ถึงตาพวกมันขับยานอวกาศก็จะเข้าใกล้พวกเรามากขึ้น”
จางหยิงห่าวเปิดปากพูดก่อนว่า “ถ้างั้นพวกเราควรทำอะไรบางอย่าง”
เขายื่นมือออกไปแล้วเริ่มจั่วไพ่ในความว่างเปล่า
ไม่ช้า ไพ่ห้าใบมาอยู่ในมือของเขา
“หืม…ไหนดูซิ ใบนี้ละกัน”
เขาหยิบไพ่ใบหนึ่งออกมาก่อนวางลงบนพื้น
ไพ่ใบนี้มีอักขระสีดำที่ดูขัดกับภาพปีกหนึ่งคู่ที่ลอยอยู่
เย่เฟยหลีถามอย่างสงสัยว่า “เจ้าจะใช้ไพ่เพื่อเพิ่มความเร็วของยานอวกาศหรือ”
จางหยิงห่าวตอบว่า “นี่คือปีกของสำรับนักฆ่า สามารถช่วยให้พาหนะเคลื่อนที่ได้เร็วขึ้น”
เขากดฝ่ามือบนไพ่ก่อนถ่ายพละกำลังเข้าไปมหาศาล
ไพ่พลันหายไปจากพื้น
ยานอวกาศเริ่มเร่งความเร็วทันที!
ลอร่าควบคุมยานอวกาศขณะชำเลืองมองมาตรวัดความเร็ว
“เพิ่มขึ้นมาห้าสิบส่วน น่าทึ่งมากเลย!”
นางอุทานด้วยความตื่นเต้น
“แต่ใช้ได้ไม่นาน ผลของไพ่ใบนี้สามารถอยู่ได้ราวสิบนาที จากนั้นมันต้องการเวลาพัก” จางหยิงห่าวกล่าว
“สิบนาทีหรือ ไม่เลว เจ้าสามารถช่วยให้พวกเราทิ้งระยะห่างได้เลยล่ะ” ลอร่ากล่าว
เย่เฟยหลีกอดอกแล้วกล่าวว่า “ไม่เลวจริง ๆ ข้าหลงคิดไปว่าจะมีแค่ข้าที่สามารถช่วยได้จริง ๆ ”
กู่ฉิงซานยิ้มแล้วกล่าวว่า “ไพ่มักเต็มไปด้วยการผสมผสานของกฎเกณฑ์อันแสนวิเศษ เฟยหลี เจ้าจะได้เห็นสิ่งแปลกประหลาดมากมายในโลกเก้าร้อยล้านชั้น อย่าได้ใช้มุมมองเก่ามาวัดสิ่งเหล่านี้เลย”
“ได้รับการชี้แนะเสียแล้ว” เย่เฟยหลีพยักหน้า
สิบนาทีผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ยานอวกาศค่อย ๆ กลับมาสู่ความเร็วเดิม
เย่เฟยหลีกล่าวว่า “เดี๋ยวข้ารับช่วงต่อเอง”
เขาหยิบตะขอลืมเลือนวิญญาณออกมาก่อนกระซิบว่า “เหล่าผู้ติดตามเอ๋ย ข้าต้องการพละกำลังของพวกเจ้า”
แสงหมองหม่นปรากฏขึ้นบนตะขอยาว แสงเหล่านี้ค่อย ๆ กระจายจากตะขอยาวก่อนหลอมรวมเป็นรูปทรงโปร่งแสงขึ้นมา
“นี่คือ…ภูตผีหรือ” กู่ฉิงซานถามด้วยความประหลาดใจ
“ใช่ พวกมันล้วนเป็นคนที่เพิ่งตาย ด้วยพลังของข้าจะช่วยให้พวกมันบรรลุความหวังในชีวิตได้สำเร็จ แต่พวกมันไม่อยากกลับชาติมาเกิดเพื่อลืมเลือนทุกสิ่ง กลับกัน พวกมันเต็มใจที่จะติดตามข้า” เย่เฟยหลีตอบ
เงาของภูตผีหลายสิบร่างค่อยๆ เด่นชัดขึ้น
พวกมันคำนับเย่เฟยหลีพร้อมกัน
“เพราะภูตผีเหล่านี้พิเศษมาก จึงครอบครองความสามารถพิเศษไม่มากก็น้อย ดังนั้นข้าจึงเต็มใจให้พวกมันมาเป็นผู้ช่วย” เย่เฟยหลีกล่าว
เย่เฟยหลียื่นมือออกไปก่อนชี้ไปที่ภูตผีตนหนึ่ง
“จิม ข้าจำได้ว่าความสามารถของเจ้าคือความเบาบางของทุกสรรพสิ่ง เจ้ารับหน้าที่ลดน้ำหนักของยานอวกาศลำนี้”
“ส่วนที่เหลือออกไปนอกยานอวกาศ พยายามช่วยให้ยานอวกาศลำนี้เร็วขึ้น”
หลังจากเย่เฟยหลีพูดจบ ภูตผีหายไปก่อนเริ่มทำตามคำสั่งของเย่เฟยหลี
ยานอวกาศเริ่มเร่งความเร็วอีกครั้ง
ลอร่ามองมาตรวัดความเร็วก่อนกล่าวว่า “ความเร็วเพิ่มขึ้นยี่สิบส่วน ท่านเอิร์ลของข้า ความสามารถของเจ้าคงอยู่ได้นานแค่ไหน”
เย่เฟยหลีตอบว่า “ครึ่งชั่วโมง”
“ไม่เลว ถึงแม้ไม่เร็วเท่าจางหยิงห่าว แต่ครึ่งชั่วโมงนานพอจะทำให้แน่ใจว่าระยะห่างระหว่างพวกเรากับวิญญาณกรีดร้องจะไม่สั้นลง”
ตอนนี้ หนังสือของเหล่าต้าลอยขึ้น ทำให้ดึงดูดความสนใจของทุกคน
หนังสือเปิดออก แถวตัวอักษรปรากฏขึ้น
“กู่ฉิงซาน เจ้าต้องจำเอาไว้ด้วยว่า ระยะห่างระหว่างพวกเรากับจากวิญญาณกรีดร้องคือระยะเวลาที่พวกเราจะสามารถตามหาไพ่ได้หลังจากไปถึงจุดหมาย”
“พวกเราต้องเร่งความเร็วให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อให้สามารถทิ้งระยะห่างจากวิญญาณกรีดร้องได้มากขึ้น ทำให้มีเวลามากพอที่จะค้นหาไพ่”
หลังจากอ่านคำพูดเหล่านั้น กู่ฉิงซานพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ข้าก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน ดังนั้นครั้งต่อไป ข้าจะเร่งความเร็วให้ยานอวกาศเอง”
หลังจากพูดจบ เขาเดินไปตรงทางเข้าออกจากยานอวกาศ เปิดประตูแล้วออกไปตรง ๆ
ประตูปิดลง
จางหยิงห่าวและเย่เฟยหลีมองหน้ากัน
“เขาจะทำอะไรน่ะ” จางหยิงห่าวถาม
“ข้าจะไปรู้หรือ” เย่เฟยหลีถามกลับ
ลอร่าเปิดจอภาพนอกยานอวกาศ สายตาจับจ้องก่อนพูดแทรกขึ้นว่า “สิ่งที่พี่ฉิงซานทำ ปกติแล้วก็ไม่มีใครรู้จนกว่าจะถึงท้ายที่สุด”
จางหยิงห่าวและเย่เฟยหลีพยักหน้าพร้อมกัน
นอกยานอวกาศ
กู่ฉิงซานปล่อยจิตเทพเพื่อมองรอบข้าง
เขาพบสองจุดที่เหมาะจะสนับสนุนก่อนยื่นมือออกไปแล้วจับไว้มั่น
ความเร็วของยานอวกาศเร็วขึ้นมาก เพราะมันได้รับการปกป้องจากพลังวิญญาณ ทำให้ไม่ได้รับผลจากพายุในความว่างเปล่า
กู่ฉิงซานย่อตัวลง สายตาจ้องมองหน้าต่างระบบเทพสงครามก่อนเรียกคำอธิบายสกิลออกมา
“เคลื่อนย้าย: สกิลเทพ สกิลชั่วพริบตา ท่านสามารถสลับตำแหน่งกับทุกตัวตนที่อยู่ภายในระยะจิตเทพได้”
“คำอธิบาย: สกิลนี้คือสกิลวิเศษระดับกฎเกณฑ์ ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดสามารถขัดขืนได้ ทุกเขตอาคมของค่ายกลเวทมนตร์หรือแม้กระทั่งวิชาต้องห้ามลับก็ไม่สามารถขัดขืนได้”
ขณะมองคำอธิบายนี้ กู่ฉิงซานนึกถึงการต่อสู้ก่อนหน้านี้อย่างละเอียด
ในการต่อสู้ที่เซินหวู่เมื่ออดีต เขาใช้การเคลื่อนย้ายนี้พาฉิงโหรวและหวั่นเอ๋อร์สลับตำแหน่งกับฉีเยี่ยน
หรือก็คือ สกิลวิเศษนี้ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องใช้กับตัวเองเท่านั้น ขอแค่มีบางสิ่งมาเกาะติดก็สามารถเคลื่อนย้ายไปพร้อมกันได้
จากนั้น…
กู่ฉิงซานปล่อยจิตเทพเต็มที่
ด้วยการฝึกฝนถึงระดับสี่เสาศักดิ์สิทธิ์ ระยะของจิตเทพสามารถกวาดมองได้เกือบหนึ่งหมื่นกิโลเมตร
“นั่นแหละ!”
กู่ฉิงซานกระซิบ
ที่เก้าพันกิโลเมตรตรงหน้ายานอวกาศ ซากปรักหักพังลอยอยู่ในความว่างเปล่าอย่างเงียบงัน บางครั้งก็ขยับเล็กน้อยตามแรงลมในความว่างเปล่า
จิตเทพของกู่ฉิงซานเข้าไปสัมผัส ทันใดนั้นก็เริ่มเปลี่ยนรูปลักษณ์
ฟรึ่บ!
ซากปรักหักพังปรากฏขึ้นในตำแหน่งเดิมของเขา
ไกลออกไปเก้าพันกิโลเมตร กู่ฉิงซานพลันปรากฏตัวพร้อมกับยานอวกาศ!
………………………………….