ตอนที่ 237 หิว
หลิวชีหมานเค้นสมองขบคิดถึงปัญหาต่างๆ ที่อาจจะตามมาของแต่ละการกระทำ ก่อนจะวางมือลงตรวจสอบชีพจรตามส่วนต่างๆ ของชายคนนี้ดู
จากที่ตรวจสอบ พบว่าการลงมือของเธอเมื่อครู่น่าจะทำให้ชายคนนี้หมดสติ และตกอยู่ในอาการหลับลึก อย่างน้อยก็ไม่น่าจะฟื้นขึ้นมาในช่วงหนึ่งถึงสองวันนี้
หลิวชีหมานหันมาสำรวจภายในตัวรถ และพบว่ามันกว้างขวางมาก มีทั้งโซนคนขับ โซนโซฟาที่มีโต๊ะเล็กๆ ติดตั้งเอาไว้อยู่ น่าจะเอาไว้ใช้พักผ่อนและดื่มกิน และโซนสุดท้ายที่อยู่ถัดไปคือโซนเก็บของ
จ้องมองไปยังโซนสุดท้าย หลิวชีหมานก็ยกร่างเจ้าของรถขึ้น และจับเขาโยนลงไปในโซนเก็บของแถวๆ กระโปรงหลังรถ
ก่อนที่เธอจะเดินกลับมานั่งลงภายในที่นั่งคนขับ และเริ่มสตาร์ตเครื่อง
‘เอาเจ้าหมอนี่ไปด้วยก่อนก็แล้วกัน รอจนกระทั่งขับไปได้ไกลพอสมควรค่อยตัดมือข้างที่เชื่อมต่อกับสร้อยทางการแพทย์ของมันแล้วโยนออกไป’
ชิ้นส่วนมือจะเอาไปโยนลงที่ไหนก็ได้ แต่ส่วนร่างกายคงจะเป็นปัญหานิดหน่อย อาจจะต้องนำไปทิ้งแยกอีกที่หนึ่ง
เสียงคำรามของเครื่องยนต์ดังขึ้นจากนั้นรถเหินเวหาคันใหญ่ก็ลอยออกไป
หลิวชีหมานเปิดแผนที่ และพบว่าปลายทางเดิมที่ตั้งพิกัดเอาไว้ก็คือโรงพยาบาลกลาง
แถมเท่าที่ฟังจากที่เขาคุยโทรศัพท์เมื่อครู่ ชายคนนี้ดูเหมือนว่ากำลังจะไปโรงพยาบาลจริงๆ นี่พอจะพิจารณาได้ว่าชายคนนี้ไม่น่าใช่ใครที่ถูกส่งตัวมาเล่นละครตบตาใดๆ แก่เธอ
ถ้าฉันเปลี่ยนเส้นทางการบินมันจะเป็นปัญหารึเปล่านะ?
ขณะที่เธอกำลังขบคิด เสียงตามสายก็ดังออกมาจากภายในรถ
“ข่าวด่วน ข่าวด่วน เนื่องจากผู้คนกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของเกมแห่งชีวิตนิรันดร์ ทำให้ปริมาณของรถเหินเวหาภายในเมืองเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ”
“ในปัจจุบันนี้ เส้นทางการบินทั้งขาเข้าและขาออกเมืองไม่สามารถใช้เดินทางได้ ปัจจุบันเส้นทางหมายเลขหนึ่งถึงเจ็ด การจราจรแออัด ส่วนเส้นทางหมายเลขแปดถึงสิบการจราจรค่อนข้างช้า เหลือเพียงเส้นทางสิบเอ็ดที่ยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ โปรดทำการเปลี่ยนเส้นทางการบินตามความเหมาะสม”
“วู้ ลำบากลำบนจริงๆ”
หลิวชีหมานเปิดแผนที่และเลือกเส้นทางที่ไร้สิ่งกีดขวางหมายเลขสิบเอ็ด
เธอลองครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกครั้ง ว่านี่มันจะใช่แผนการอะไรหรือเปล่า สายตาจ้องค้างลงไปยังแผนที่อิเล็กทรอนิกส์ และในที่สุดก็ตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางการบินเป็นชายแดนภูเขา
ระบบนำทางเริ่มวางแผนการบินทันที
หลิวชีหมานถอนหายใจ บรรเทาความตึงเครียดเล็กน้อย
ตรงตำแหน่งนั้น คือสถานที่ตั้งของเซฟเฮาส์ที่เธอสร้างไว้เมื่อนานมาแล้ว
มันตั้งอยู่ในสถานที่ปลอดภัย และเหมาะสมแก่การหลบซ่อนตัวได้อย่างสมบูรณ์แบบ ตัวบ้านอยู่ลึกเข้าไปในภูเขาใหญ่ใกล้กับชายแดน และมีการจัดเตรียมเสบียงที่เพียงพอสำหรับคนห้าคนให้สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้เป็นเวลานานกว่าเจ็ดปี
อาหารและอุปกรณ์จำเป็นในชีวิตประจำวันภายในเซฟเฮาส์ ล้วนถูกคัดสรรมาเป็นอย่างดี เพื่อความสะดวกสบายในการดำเนินชีวิต
สถานที่แห่งนั้นตั้งอยู่กลางหน้าผา ปากทางเข้าถ้ำอยู่ในจุดที่แสงไม่ตกกระทบ ทำให้มองเห็นได้ยาก นี่เป็นหนึ่งในวิธีการพรางตัวโดยธรรมชาติ หากมิได้เตรียมเครื่องมือสำหรับการค้นหามาแล้วล่ะก็ การที่จะพบมัน แน่นอนว่าย่อไม่มีทางเป็นไปได้
ยามเมื่ออสูรแห่งท้องทะเลและผีดิบนักฆ่าได้ปรากฏตัวขึ้น เธอก็เริ่มจัดเตรียมสถานที่หลบภัยดังกล่าวแล้ว
ครั้งก่อนๆ ที่ถูกส่งตัวกลับมาแบบสุ่ม เธอไม่มีเงิน เลยไม่รู้ว่าจะเดินทางไปยังเซฟเฮาส์ได้อย่างไร ทว่าตอนนี้ ตนบังเอิญฉกรถเหินเวหามาได้โดยที่ไม่มีใครสงสัย เลยตัดสินใจที่จะใช้มันในการเดินทาง
นับว่าเป็นโชคดีอย่างแท้จริง
ด้วยรถเหินเวหาคันนี้ ก็น่าจะเพียงพอแล้วสำหรับการเดินทางกลับไปยังเซฟเฮาส์
และพอฉันไปถึงใกล้ๆ เซฟเฮาส์ ฉันก็จะตั้งค่าเปลี่ยนทิศทางให้รถเหินเวหาให้เปิดโหมดออโต้ไพล็อต โดยกำหนดจุดหมายปลายทางเป็นมหาสมุทร
จากนั้นก็จะกระโดดลงมาจากรถ
ด้วยวิธีนี้ ก็จะไม่มีใครสามารถค้นหาตัวฉันพบได้ไปอีกนาน
พอหลิวชีหมานคิดถึงจุดนี้ ในหัวใจของเธอก็เริ่มบังเกิดความสุขขึ้นหลายส่วน แต่เหตุผลที่มันยังไม่ครบทุกส่วนนั่นก็เพราะ
เพชฌฆาตตัวตลกยังไม่ปรากฏตัวขึ้น และนั่นเป็นเพียงสิ่งเดียวที่เธอกังวล
แชมป์เปี้ยนคนก่อนหน้านี้ แม้ว่าเขาจะได้รับการปกป้องโดยเหล่ามืออาชีพจากทั่วทั้งหอยุทธ สุดท้ายก็ยังต้องตกตายลงด้วยน้ำมือของเพชฌฆาตตัวตลกอยู่ดี
ช่วงเวลานั้น ผลพวงที่ตามมาทำให้ผู้คนจำนวนมากตกอยู่ในความวุ่นวาย
แต่คราวนี้ เธอมีแหวนเคลื่อนย้ายอยู่ในครอบครอง ตราบใดที่ถูกเพชฌฆาตตัวตลกค้นพบ เธอก็สามารถเปิดใช้งานแหวน วาร์ปหนีได้ทันที
และต่อให้เพชฌฆาตตัวตลกจะไม่ค้นพบเธอ ก็ย่อมต้องมีคนอีกมากมายกำลังตามหาตัวเธออยู่อย่างแน่นอน
มันจะเป็นการดีที่สุด ที่จะซ่อนตัวในเซฟเฮาส์สักพักหนึ่ง แล้วค่อยออกมาอีกครั้ง
รถเหินเวหาปรับทิศทางและบินไปตามเส้นทางใหม่บนแผนที่อย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงต่อมา
เสียงสังเคราะห์อิเล็กทรอนิกส์บนรถก็แจ้งเตือนขึ้นอีกครั้ง
“ขณะนี้เป็นเวลาสิบสี่นาฬิกาสามสิบเจ็ดนาที ระบบได้ทำการตรวจพบว่าคุณอยู่ในสภาวะเหนื่อยล้าเล็กน้อย ต้องการให้ระบบออโต้ไพล็อตเข้ามาควบคุมการบินแทนหรือไม่?”
หลิวชีหมานยืดตัวขึ้น ปากอ้ากว้างหาวยาวเหยียด
ในสังเวียนแห่งชีวิตนิรันดร์ เธอได้ทำการต่อสู้อย่างต่อเนื่องจิตวิญญาณของเธอตึงเครียดจนถึงขีดจำกัด แต่ก็สามารถคว้าชัยชนะมาได้ในที่สุด
แม้ว่าโลงศพในเกมจะช่วยรักษาบาดแผลตามร่างกายของเธอได้ก็ตามที แต่ดูท่าว่ามันจะหาได้ฟื้นฟูจิตวิญญาณด้วยไม่
พอกลับมาสู่โลกจริง ก็ต้องปลอมตัว ดักปล้นคน จากนั้นก็ปล้นรถเหินเวหา แถมยังต้องมุ่งสมาธิไปกับการระมัดระวังตัวจากเพชฌฆาตตัวตลกอีก เวลานี้จิตใจของเธอจึงได้มาถึงขีดจำกัดแล้ว
หลิวชีหมานไตร่ตรองสั้นๆ สุดท้ายแล้วเธอก็ยังเลือกระวังตัวเองอยู่ดี เพราะรถเหินเวหาคันนี้อาจถูกชักใยโดยการควบคุมระยะไกลอยู่ก็ได้ เมื่อคิดเช่นนี้ เธอจึงเอ่ยปากออกมา “ไม่ล่ะ ฉันจะขับต่อไปเอง”
“รับทราบแล้ว”
เสียงสังเคราะห์อิเล็กทรอนิกส์ตอบรับ จากนั้นก็เงียบหายไป
ผ่านไปอีกหนึ่งชั่วโมงต่อมา
ท้องของหลิวชีหมานก็ส่งเสียงโครกคราก เธอหิวจนทนต่อไปไม่ไหวแล้ว
สองคิ้วของเธอขมวดมุ่นแต่สองมือยังคงพยายามควบคุมรถเหินเวหาอย่างต่อเนื่อง
อีกสองสามชั่วโมงต่อมาและนี่มันก็ถึงเวลาช่วงเย็นแล้ว
“ลองค้นข้อมูลให้ฉันหน่อยซิ ว่าพอจะร้านอาหารตั้งอยู่แถวๆ นี้บ้างไหม” ในที่สุดหลิวชีหมานก็เอ่ยปากสั่ง
เธอพบว่าตนเองทนหิวอีกต่อไปไม่ไหวแล้ว เวลานี้ไม่ต้องกล่าวถึงการต่อสู้ แม้กระทั่งการควบคุมรถเหินเวหาก็ยังไม่อาจทำได้
เสียงสังเคราะห์ดังขึ้น “เบื้องหน้าห่างออกไปอีกสามสิบกิโลเมตรคือเมืองฉางหยวน โรงแรมสามอันดับแรกยอดนิยมในพื้นที่ก็คือ”
หลิวชีหมานเอ่ยขัด “ไม่เอาเป็นเมืองใหญ่ ขอเป็นเมืองเล็กหรือหมู่บ้านก็ได้”
“รับทราบแล้ว เมืองเล็กที่อยู่ใกล้ที่สุด อยู่ห่างออกไปหนึ่งร้อยสิบเจ็ดกิโลเมตร”
“อย่างนั้นเอาเป็นที่นั่นแหละ” หลิวชีหมานเอ่ยยืนยัน
“เร็วๆ หน่อยก็ดีนะ” เธอเอ่ยเสริม
“ทราบแล้ว”
หลังจากนั้นไม่นาน ในที่สุดรถเหินเวหาก็มาถึงที่หมาย
“เมืองแห่งนี้ มีร้านอาหารแนะนำอยู่สองแห่ง” เสียงสังเคราะห์กล่าว
หลิวชีหมานกวาดสายตาดูแผนที่วูบหนึ่ง และพบว่าที่แห่งนี้เป็นเมืองเล็กๆ ที่แยกตัวออกมาตั้งอยู่ห่างไกล
ในตัวเมืองมีร้านอาหารแนะนำอยู่สองแห่ง ร้านแรกตั้งอยู่ใจกลางเมือง อีกร้านหนึ่งตั้งอยู่ข้างถนนนอกเมือง
เห็นได้ชัดว่าร้านแรก เจ้าของมีความเชี่ยวชาญในด้านธุรกิจสูง เขาเน้นขายอาหารให้แก่ผู้ที่พักอาศัยอยู่ในเมืองเล็กๆ แถมรีวิวก็ยังอยู่ในระดับสูงเช่นกัน ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องกังวลว่านี่มันจะเป็นร้านเก๊ตั้งมาเพื่อหลอกเธอ
ส่วนร้านที่สอง ตั้งอยู่ริมถนนเห็นได้ชัดว่าเจ้าของมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจเช่นกัน เขาเลือกที่จะขายอาหารให้แก่ผู้โดยสารหรือนักท่องเที่ยวที่กำลังเดินทาง เป็นร้านอาหารที่เน้นขายอาหารของท้องถิ่น
ร้านที่สอง จำต้องมีการโฆษณาสะสมชื่อเสียงกันแบบปากต่อปาก มิฉะนั้นลูกค้าคงไม่คิดจะจอดกินร้านอาหารริมถนนแบบนี้แน่ๆ…ถ้ามันเด้งขึ้นมาว่าเป็นร้านแนะนำ แปลว่าอันนี้ก็ไม่น่าจะใช่เรื่องโกหกเช่นกัน
ถ้าตัดเรื่องความกังวลต่างๆ ในจิตใจของเธอออกไป มองในแง่คุณภาพ อาหารของทั้งสองร้านนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคงมีรสชาติดีมากอย่างแน่นอน
“แต่ดันมีคนอยู่เยอะเกินไป…” หลิวชีหมานมองไปยังคอมเมนต์รีวิวนับร้อยๆ หน้าของลูกค้า มีหลายสิบคอมเมนต์พึ่งถ่ายรูปลงได้ไม่นาน นี่พอจะทำให้เธอประเมินสภาพของร้านในตอนนี้ได้
เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยว่า “แล้วมีร้านอาหารร้านอื่นอีกไหมในเมือง”
สัญลักษณ์ร้านอาหารเจ็ดแห่งปรากฏขึ้นบนแผนที่
หลิวชีหมานมองดูแผนที่และเลือกร้านอาหารที่อยู่ห่างไกลมากที่สุด ปากเอ่ยสั่ง “อย่างนั้นเอาเป็นที่นี่ก็แล้วกัน”
“รับทราบแล้ว เริ่มทำการวางแผนเส้นทางการบิน” เสียงสังเคราะห์เอ่ย
ไม่นานนัก รถเหินเวหาก็ลงจอดอย่างรวดเร็ว และหยุดอยู่หน้าร้านอาหารร้านหนึ่งในเมืองเล็ก
หลิวชีหมานขมวดคิ้ว
เพราะบนลานจอดที่นี่ มีรถเหินเวหาจอดอยู่ถึงราวๆ เจ็ดถึงแปดคัน
เอาเถอะ อย่างน้อยก็ดีกว่าร้านแนะนำสองร้านก่อนหน้า มันไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ส่วนหนึ่งที่ทำให้วางใจเช่นนั้น เป็นเพราะร้านนี้มันเป็นร้านอาหารที่ไม่เป็นที่นิยม แล้วอีกอย่างเธอก็เป็นคนจิ้มเลือกมันด้วยตัวเอง
ก็นี่มันช่วงเย็น การที่พอจะมีรถเหินเวหามาจอดรับประทานอาหารอยู่บ้างมันก็คงจะเป็นเรื่องปกตินั่นแหละ ไม่อย่างนั้นร้านนี้ก็คงต้องปิดตัวลงไปแล้วเนื่องจากขายไม่ได้
พวกที่มากินก็คงจะเป็นชาวเมืองที่อาศัยอยู่ที่นี่
เมื่อคิดถึงจุดนี้ หลิวชีหมานก็มองเข้าไปภายในร้านอาหาร
ภายในมีคนอยู่ไม่มากนัก เท่าที่ดูก็นับได้ด้วยนิ้วมือ แทบจะร้างแล้วด้วยซ้ำ
แต่ละคนต่างก็นั่งกินอาหารของตัวเองอย่างเป็นเรื่องเป็นราว จะมีบ้างที่เงยหน้าขึ้นมากล่าวทักทายกัน แต่มันก็แค่เพียงคำสองคำเท่านั้น
หลิวชีหมานพยักหน้าเล็กน้อย
นี่นับว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้ว
ทันใดนั้นเองมอเตอร์ไซค์เหินเวหาขนาดเล็กก็ร่อนลงมาจอดหน้าร้านอาหาร
วัยรุ่นคนหนึ่งถือกล่องขนาดใหญ่ลงมาจากมอเตอร์ไซค์เหินเวหาที่อยู่ในสภาพทรุดโทรม ก่อนจะแบกมันขึ้นหลังและเดินหายเข้าไปในร้าน
เห็นได้ชัดว่าเขาพึ่งจะออกไปส่งอาหารมา
นี่พอจะอนุมานได้ว่าร้านอาหารร้านนี้มิใช่ร้านที่ถูกตั้งขึ้นมาหลอกๆ เพราะร้านอาหารส่วนใหญ่ก็มีบริการส่งถึงบ้านกันทั้งนั้น ร้านนี้ก็คงเหมือนกัน
หลิวชีหมานจ้องมองดูชายหนุ่มที่เดินเข้าไปในร้านด้วยความลังเล
แล้วในเวลานี้ รถเหินเวหาอีกคันก็ได้ร่อนลงมาจอด และประตูห้องโดยสารก็เปิดออกพร้อมกับคนจำนวนหนึ่งที่ลงมาจากรถ
ขณะเดียวกันก็มีกลุ่มคนเดินสวนออกจากร้านอาหารเช่นกัน และเตรียมตัวที่จะขึ้นรถของตัวเอง
หลิวชีหมานมองคนเหล่านั้นจากภายในรถเหินเวหาของตน
กลุ่มแรกเป็นครอบครัวห้าคนที่พึ่งเดินออกมาจากร้าน อีกกลุ่มเป็นครอบครัวสามคนที่พึ่งเดินลงจากรถ และกลุ่มที่สามเป็นคู่รักสองคู่และเพื่อนๆ วัยรุ่นอีกสองสามคนที่เดินตามกลุ่มแรกออกมา
เพียงแค่รถเหินเวหาของเธอลงจอดได้ไม่นาน จู่ๆ ผู้คนก็เริ่มเพิ่มมากขึ้นอย่างกะทันหัน
สีหน้าของหลิวชีหมานเปลี่ยนไปเล็กน้อย
คราวนี้เธอไม่กล้าที่จะเคลื่อนไหวใดๆ ในสมองหยุดคิดที่จะเปิดประตูห้องโดยสาร ที่ทำก็เพียงแค่นั่งอยู่เงียบๆ ภายในรถเหินเวหา และเฝ้าสังเกตสถานการณ์อันน่าสงสัยนี้จากภายนอกอย่างเงียบๆ
แหวนทองบนนิ้วถูกลูบโดยมืออีกข้างของเธออย่างแผ่วเบา…
.....................................................