webnovel

บทที่ 2 โลกนอกหนังสือ

ทุกทีพวกคนรับใช้จะไม่เพ่นพ่านไปทั่วคฤหาสน์ ยิ่งปรากฏตัวโผล่มารบกวนในระยะสายตาของเจ้านายโดยไม่ได้ทำงานอยู่หรือถูกเรียกหายิ่งไม่ควร เต็มที่ก็ต้องสงบเงียบเรียบร้อย ทว่าเด็กชายผู้มาใหม่นั้นหักดิบกฏพื้นฐานเหล่านั้นไปสิ้น ไวโอเล็ตเรียนวิชาประวัติศาสตร์ของจักรวรรดิกับอาจารย์อยู่ที่ห้องชั้นล่างก็เห็นเจ้าตัววิ่งเผ่นหนีอะไรสักอย่างแวบๆ

"เลดี้ไวโอเล็ตคะ"

"ขออภัยค่ะ"

เธอเบี่ยงหน้ากลับมาที่หนังสือเรียน แม้ความจริงจะสนใจเหตุการณ์ด้านนอกมากกว่าก็ตาม ไม่ทันขาดคำก็รู้สึกราวกับมีสัตว์ชนิดหนึ่งวิ่งผ่านไป ขนาดอาจารย์ยังเริ่มสงสัยแล้ว

"อาจารย์คะ"

"ข-ขออภัยค่ะ" เจ้าหล่อนกระแอมซึ่งบุตรีดยุกก็ยิ้มหวาน "วันนี้ที่คฤหาสน์ดูจะค่อนข้างวุ่นวายนะคะ"

ต้องบอกว่านับตั้งแต่ที่เฟลิกซ์เข้ามาที่นี่ ทุกอย่างก็เอะอะขึ้นมา กระนั้นไวโอเล็ตก็กล้าพูดได้ว่าคนงานทุกคนต่างชอบเขา เด็กชายอาสาช่วยงานทุกตำแหน่งไม่มีเกี่ยง หากลอร์ดแดเนียลต้องฝึกดาบ ฝึกขี่ม้า เขาก็จะคอยตามรับใช้หรือเป็นคู่ซ้อมให้ เวลาว่างก็จะทบทวนส่วนของตัวเองที่สวนด้านหลัง

เดิมทีท่านพ่อไม่อนุญาตให้เธอไปแถวบริเวณคอกม้าของบ้าน ไวโอเล็ตจึงเคยแค่เดินชมสวนดอกไม้รอบๆ กระนั้นหากถามว่าสนใจเจ้าม้าที่ไล่หลังเฟลิกซ์เมื่อสักครู่ไหม เธอก็คงต้องยอมรับว่ามาก ดังนั้นหลังจบคาบเรียนก็ตรงดิ่งไปควานหาเป้าหมายทันที

"?"

น่าเสียดายที่เจ้าม้าตัวน้อยหายไปแล้ว สาวใช้อาจคิดว่าเธอชมสวนเลยไม่เอ่ยอะไร เด็กหญิงยังแต้มยิ้มไว้บนใบหน้าด้วยความเคยชิน กระทั่งขากลับที่เจอลูกม้าตัวหนึ่งเดินก้มกินหญ้าก็ตาลุกวาว

"เลดี้คะ กลับเข้าไปด้านในคฤหาสน์ไหมคะ?"

"ไม่เป็นไรค่ะ"

เหล่าสาวใช้ต่างกังวลเรื่องความปลอดภัย เธอเองก็กลัวนิดๆ แต่อยากจะลองสัมผัสเจ้าสิ่งมีชีวิตดังกล่าวมากกว่าจึงเดินเข้าไปใกล้ขึ้น ที่ผ่านมาเคยเห็นม้าตัวโตคอยเทียมรถม้าที่ต้องนั่งเสมอ เธอมองอยู่ตลอดแล้วคิดว่าน่ารักดี เด็กหญิงอิจฉาพี่ชายที่ได้ฝึกขี่ม้าหรือให้อาหารพวกมัน

"!"

เสียงพ่นลมหายใจแรงๆ ทำให้ไวโอเล็ตตกใจสะดุ้ง แม้เธอจะเก็บท่าทางได้ดีแต่อีกคนที่ยืนอยู่ข้างเจ้าม้าตัวเล็กสังเกตเห็นชัดเจนเต็มตา เด็กชายที่กำลังทำสีหน้ายุ่งยากพลันเปลี่ยนเป็นหัวเราะร่วน

หากเขาเป็นสุภาพบุรุษสักนิดก็ควรจะเคารพสุภาพสตรีสักหน่อย ไม่ใช่ทำให้อับอายกว่าเก่า เธออยากจะตำหนิเขาจริงๆ

"ทำไมลูกม้ามาอยู่ตรงนี้คะ?"

"ฮ่ะๆ ก็มันหลุดจากคอกน่ะ" เขาพยายามกลั้นหัวเราะแล้วตอบ "กำลังจะพากลับแต่มันน่าจะหิวเลยไม่ยอมไปสักที"

ดวงตาสีม่วงจับจ้องเฟลิกซ์ที่แตะมือลูบแผงคอม้า เขาจับสายจูงเรียกมันให้ขยับเสียที ในที่สุดลูกม้าก็ยอมก้าวเท้าเดินตาม เด็กชายจะพามันกลับก็มองคุณหนูดยุกที่ยืนนิ่ง

"เจ้าอยากลองจับมันไหม?"

"ไม่ค่ะ ข้าแค่มาเดินชมสวน"

"ถ้าอย่างนั้นข้าพามันกลับแล้วนะ"

"ค่ะ เชิญค่ะ"

เฟลิกซ์ผงกศีรษะแล้วกระตุกสายจูง ลูกม้าเดินตามเขาไปอีกหน่อย ซึ่งเขาก็ให้มันหยุดในระยะใกล้เด็กหญิงกว่าเดิม ปากปฏิเสธกระนั้นเธอก็มองเจ้าสี่ขาไม่วางตา เขาแน่ใจว่าเธออยากสัมผัสมัน พอเจ้าม้าเงยมองหันศีรษะไปทางเธอ ไวโอเล็ตก็ยื่นมือออกมาแบบลังเล

"ล-เลดี้ไวโอเล็ตคะ ไม่ได้นะคะ อันตรายนะ"

"อยากจับก็จับสิ"

สาวใช้สองคนด้านหลังดูตกใจที่เขาจับข้อมือคุณหนูให้นำมือแตะที่สันจมูกลูกม้า เธอแค่ยิ้มสวยๆ เหมือนทุกทีประหนึ่งไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น แต่เมื่อม้าตัวนี้ดูสงบปล่อยให้จับ รอยยิ้มน่ารักที่ดูเป็นธรรมชาติกว่าก็ผุดบนริมฝีปากแทนที่

วันต่อมาไวโอเล็ตเลยขอให้พี่ชายของเธอพาไปที่คอกม้า แดเนียลไม่มั่นใจว่าจะถูกท่านดยุกดุภายหลังไหม ปัญหาคือเขาพ่ายแพ้ต่อสายตาออดอ้อนของน้องสาวโดยสิ้นเชิง

"ลอร์ดแดเนียล ล-เลดี้ไวโอเล็ต มาทำไมหรือครับ?"

"พวกข้ามาชมคอกม้าน่ะ" แดเนียลเข้าใจที่ทุกคนกังวล "ทำงานต่อเถอะ พวกข้าไม่รบกวน"

พวกคนงานโค้งศีรษะเคารพทั้งคู่ แต่ละคนแปลกใจที่คุณหนูมาที่นี่ ใครๆ ต่างรู้กันว่าดยุกเมอร์ริแกนเป็นห่วงบุตรีคอยถนอมยิ่งกว่าไข่ในหิน หากเธอสะดุดล้มหรือถูกแมลงกัดคงได้ถูกลงโทษทั้งแถบ การจะห้ามขวางก็ทำได้ยากจึงช่วยกันกวาดเก็บเส้นทาง

พี่น้องตระกูลแบล็คเดินเข้าไปด้านใน เด็กหญิงก็เหลือบมองหาเจ้าลูกม้าตัวเมื่อวาน ติดตรงในคอกมีม้ามากเกินกว่าที่คิดไว้

"เฟลิกซ์"

"ลอร์ดแดเนียล?"

เจ้าตัวถือคราดพาดไว้ที่ไหล่กับถังสังกะสีอีกใบ สภาพมอมแมมสุดๆ ไวโอเล็ตระบายยิ้มทักทายทันใด เขาต้องรู้แน่ว่าลูกม้าตัวนั้นอยู่ไหน

"ไปคลุกดินที่ไหนมาคะ?"

"ไม่ได้คลุกดินที่ไหนหรอกครับ" เขาคิ้วกระตุกกวนกลับ "คุณหนูน้อยเองก็เถอะ กระโปรงแบบนั้นจะไม่เป็นไรเหรอครับ?"

คำถามของเขาทำให้เธอสงสัย ตอนนี้เด็กหญิงอายุแปดขวบความยาวกระโปรงจึงยาวกว่าเข่าแต่ไม่ถึงครึ่งแข้ง มันไม่น่าจะสกปรกได้ง่ายๆ ทว่าหลังก้มมองก็เห็นว่าผ้าชายกระโปรงนั้นเปื้อนรอยดิน

"สบายมากค่ะ"

วันนี้ไม่มีเรียนหรือพบแขกที่ไหน เธอไม่คิดว่าจะต้องระมัดระวัง หากจำเป็นก็แค่เปลี่ยนชุดใหม่ให้ดูดีก็เพียงพอ ไวโอเล็ตคิดอย่างนี้แต่พี่ชายกับพวกคนงานรอบๆ ดูจะไม่คิดแบบนั้น พวกเขาหน้าซีดกันหมดซึ่งเธอรู้สาเหตุดี เฟลิกซ์เองคงคิดว่าเธอน่าจะกลับคฤหาสน์แล้วเลยหันเดินไปทำงานของตัวเองต่อ

"ไม่ต้องห่วงนะคะ ข้าจัดการได้"

บอกอย่างมั่นใจแล้วก็ก้าวเท้าเหยียบเศษกองฟางเร่งเดินตาม เธออยากเจอลูกม้าแล้ว

"เฟลิกซ์ ลูกม้าตัวเมื่อวานล่ะคะ?"

น่าจะเป็นครั้งแรกที่เธอเรียกชื่อเขา อีกฝ่ายประหลาดใจนิดหน่อยก่อนจะพยักพเยิดไปยังทิศทางที่เจ้าลูกม้าตัวนั้นอยู่

"ลูกม้า?"

"เมื่อวานมันหลุดจากคอกน่ะครับ" เขาตอบแดเนียลที่เดินมา "คุณหนูน้อยดูจะสนใจมัน"

เด็กหญิงตรงเข้าไปหาก็เอื้อมมือจับทันทีทันใดผ่านรั้วกั้น ทางเฟลิกซ์ก็ตั้งถังที่มีแปรงไว้ที่พื้นและเอาคราดสางฟางลงมา เธอเห็นพวกม้ากินก็หยิบมาลองป้อนเจ้าตัวเล็ก

"ท่านพี่ดูลูกม้าสิคะ"

"อืม มันน่ารักดี"

ท่านลอร์ดน้อยเผยยิ้มตามน้องสาว เขานั่งยองๆ ลงด้านข้างลูบคอลูกม้าบ้าง สองคนดูจะสนุกจนมีกลิ่นเหม็นมาเตะจมูกก็หยุดชะงัก นายน้อยกับคุณหนูของคฤหาสน์พากันตกตะลึงต่อภาพแสนสวยงามที่เด็กชายเพจใช้เสียมตักกองอุจจาระม้ากองใหญ่ใส่ถังเปล่า

"มันขี้น่ะ"

"ถ่ายท้อง" แดเนียลพยายามแก้คำของเฟลิกซ์ "กลิ่นมันชัดจนเจ้าไม่ต้องบอกก็ได้"

"ฮ่ะๆ จริงครับ ท่านลอร์ด"

อย่างน้อยเด็กชายก็ยังใช้คำสุภาพต่อบุตรดยุก พวกเขาอายุเท่ากันเทียบแล้วมากกว่าไวโอเล็ตอยู่สามปี

"ทำไมเจ้าถึงพยายามฝึกดาบล่ะคะ?"

คาใจมานานไวโอเล็ตก็เลยถามให้รู้เสียที่นี่ เธอกับพี่ชายหาที่นั่งตรงเก้าอี้ไม้ของคนงาน ส่วนเฟลิกซ์วิ่งไปวิ่งมาจัดการเรื่องอาหารของพวกม้าในคอก

"ครอบครัวคลาร์กสืบทอดตำแหน่งผู้จัดการดูแลที่ดินให้ตระกูลแบล็คมาหลายรุ่น ไม่ใช่ว่าเจ้าควรจะมุ่งมั่นเรียนรู้ทักษะที่มีประโยชน์อย่างอื่นเหรอคะ?"

แดเนียลสงสัยเช่นกันก็รอฟัง เด็กรับใช้จะได้รับการสอนสั่งจากพวกสไควร์ทั้งทักษะภาษา มารยาทสังคม ศาสตร์วิชาต่างๆ ทว่าก็ไม่ได้เจาะจงว่าในภายภาคหน้าต้องกลายเป็นอัศวิน หนำซ้ำโอกาสที่จะได้เข้ามาทำงานคฤหาสน์ดยุกก็หาได้ยาก

"อืม ข้าไม่มีหัวด้านนั้นน่ะ แถมมีพี่ๆ ช่วยงานพ่ออยู่แล้วด้วย"

"อย่างนั้นเอง"

"ไอ้สีหน้านั่นมันอะไรน่ะ หา?"

เธอยกมือปิดปากทำหน้าแบบว่าด้านดาบก็ดูไม่ค่อยคืบเท่าไหร่เลยนี่อะไรแบบนั้น ถูกจับได้ไวโอเล็ตก็ปั้นยิ้มสดใสกลบเกลื่อน

"แล้วอัศวินเท่จะตายไป ถ้าต้องอยู่แต่ในที่ดิน ข้าอยากขี่ม้าไปลุยมากกว่า"

"ข้าเข้าใจความรู้สึกนั้น"

"ใช่ไหมท่านลอร์ด?" อยู่ๆ พวกผู้ชายก็ดูจะสามัคคีตาเป็นประกายเห็นพ้องต้องกัน "ขี่ม้า เหวี่ยงอาวุธ เซอร์แบรนดอนก็สุดยอด"

เด็กหญิงปรบมือแปะๆ เห็นด้วยว่าท่านเซอร์ดูเท่ เขาเป็นถึงวีรบุรุษในสงครามร้อยปีเคียงข้างดยุกเมอร์ริแกน ทว่าก็ต้องเอ่ยความเป็นจริงให้เฟลิกซ์ได้รับทราบเพิ่มเติม

"แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ต้องเรียนนะคะ อัศวินต้องศึกษาวิชาขั้นพื้นฐานต่างๆ แน่นอนว่ารวมถึงการคำนวณก็ด้วย"

"...โกหก?"

"ข้าพูดจริงสิคะ" เธอเกือบหลุดหัวเราะต่อสีหน้าเบี้ยวๆ ของเขา "ไม่ต้องกังวลอะไรหรอกค่ะ ถึงจะไม่มีหัวด้านนั้น อย่างน้อยก็อ่านออกเขียนคำนวณได้อยู่แล้ว ใช่ไหมคะ?"

ไวโอเล็ตเอียงศีรษะเล็กน้อยแทนการปิดคำถาม แม้จะชัดเจนสุดๆ ว่าฝ่ายตรงข้ามอึ้งค้างไปแล้ว พี่ชายของเธอที่ยืนฟังก็มองหาเศษไม้มาเขียนตัวเลขตั้งโจทย์คำนวณที่พื้นดิน แดเนียลชี้ให้ลองหาคำตอบ

"...ส-สบายมาก ของแค่นี้" เฟลิกซ์หยิบไม้มาเตรียมเขียน เขาจ้องมันด้วยสีหน้ากดดัน "เอ่อ.."

"ง่ายใช่ไหมล่ะ?"

"เอ่อ ใช่"

ผ่านไปห้านาทีก็ไร้การเคลื่อนไหว ดูจะยากเกินไปสำหรับเขาแม้เป็นแค่ระดับต้น บุตรีน้อยแกล้งอุทานเบาๆ ไม่นานจากนั้นพ่อบ้านก็โผล่มากระแอมขัดจังหวะ เชิญให้คุณหนูนายน้อยกลับคฤหาสน์

ทว่าเธอกับพี่ชายใจดีมากพออยู่แล้ว จึงตกลงกันว่าจะแบ่งเวลามาอ่านหนังสือพร้อมกันกับเฟลิกซ์นับตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป โดยพวกเธอสองคนจะผลัดกันสอนเลขให้

.

"ให้ข้าเข้าไปในคฤหาสน์?"

"อืม ไวโอเล็ตบอกอย่างนั้น คงอยากอวดห้องหนังสือน่ะ"

แดเนียลเป็นแกนนำพาเข้าไป ซึ่งเฟลิกซ์ถูกให้ทำความสะอาดรองเท้าก่อนเหยียบขึ้นชั้นสอง เขาตามท่านลอร์ดเดินขึ้นบันไดทีละขั้น ผ่านโถงทางเดินไปเรื่อยๆ จนมาถึงห้อง หลังเคาะประตูก็มีเสียงเด็กหญิงเอ่ยเรียกให้เข้ามา

"ยินดีต้อนรับนะคะ"

ไวโอเล็ตยิ้มหวานสดใสประกอบการฝากเนื้อฝากตัว ค่อนข้างภูมิใจที่ได้นำเสนอห้องหนังสือโปรดของเธอเองที่ดยุกให้คนจัดการไว้ให้บุตรีโดยเฉพาะ

ในห้องที่ห้อมล้อมไปด้วยชั้นหนังสือปูพื้นพรมทอลายสีเรียบอย่างดี มีโซฟา โต๊ะเล็กสำหรับวางชาหรือขนม และโต๊ะไม้สีเข้มขัดเงาตัวใหญ่อยู่ตรงกลาง ที่ตอนท่านพ่อให้คนยกเข้ามาเธอมองแล้วอดคิดไม่ได้ ว่าถ้าขึ้นไปลองนอนแผ่ดูจะเป็นยังไง แต่เธอคงไม่ทำอะไรพิเรนทร์แบบนั้นจริงๆ

"ก่อนอื่นมาลองทดสอบกัน" ไวโอเล็ตเปิดหนังสือที่วางอยู่ตรงหน้า "ข้าจะตั้งโจทย์ให้นะคะ"

"เจ้ากำลังมองข้าเป็นของเล่นสนุกๆ อยู่ใช่ไหมเนี่ย?"

"เปล่าสักหน่อยค่ะ"

คุณหนูขุนนางมอบรอยยิ้มแห่งความปรารถนาดี ส่วนพี่ชายของเธอเลือกหยิบหนังสือที่น้องวางทิ้งไว้มานั่งเปิดอ่านไปเรียบร้อย

ใช้เวลาวันละเล็กละน้อยแต่ละสัปดาห์เฟลิกซ์ก็คิดว่าตัวเองเข้าใจไอ้สิ่งที่เรียกว่าวิชาคณิตศาสตร์ได้ดีขึ้นบ้าง กระทั่งลอร์ดแดเนียลเอาเครื่องมือที่ชื่อว่าลูกคิดมาแนะนำแบบจริงจังเขาก็เรียกมันว่าของวิเศษในตำนาน

"ไอ้นี่มันมีประโยชน์สุดๆ ข้าเคยเห็นพ่อดีดมันอยู่ เพิ่งรู้ว่าใช้แบบนี้"

"ตอนข้าหัดใช้เป็นก็คิดว่ามันสะดวกขึ้นมากเหมือนกัน"

เฟลิกซ์ทดสอบดูใหม่อีกหนคิดคำตอบของโจทย์บนกระดาษ สาวใช้มาเคาะประตูแจ้งแดเนียลว่าอาจารย์มาถึงแล้วลอร์ดน้อยก็ขอตัวไปเรียน ตอนนี้จึงเหลือเพียงไวโอเล็ตกับเขาในห้องหนังสือ ซึ่งมันเงียบประหลาดทำอึดอัด เด็กหญิงเปิดหน้ากระดาษอ่านเพลินๆ เขาเลยลองชวนสนทนา

"เจ้าอ่านอะไรน่ะ?"

"หนังสือเกี่ยวกับเมืองท่าต่างๆ ค่ะ"

ไวโอเล็ตบอกด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร เธอเขยิบดึงเก้าอี้มานั่งใกล้กว่าเดิมเลื่อนหนังสือให้ดูว่ามันมีภาพวาดประกอบ ดูคุณหนูน้อยจะสนใจเรื่องต่างๆ ในหนังสือทุกเล่ม เฟลิกซ์สรุปได้ว่าสิ่งที่เธอหลงใหลคงเป็นโลกกว้างภายนอก

"ข้าเคยไปที่เมืองการค้าเมอชานซ์"

"จริงเหรอคะ?" ไวโอเล็ตถามเพิ่ม "ได้ยินว่าท่าเรือกว้างมาก แล้วยังมีทางน้ำให้เรือค้าขายผ่านเข้าใจกลางเมืองได้ด้วย เป็นอย่างนั้นไหมคะ?"

"ใช่ ตรงท่าเรือจะเป็นตลาดใหญ่ พวกพ่อค้าแม่ค้าตั้งขายของกันเต็มไปหมดจนแทบเดินไม่ได้เลย"

"มีของแปลกๆ เยอะไหมคะ? เขาขายสินค้าอะไรกันบ้าง?"

เด็กชายเริ่มถอยเล็กน้อย เพราะแม่คุณหนูตื่นเต้นมากเกินไป พฤติกรรมในตอนนี้เหมือนเด็กหญิงทั่วไป ทั้งๆ ที่ปกติไวโอเล็ตชอบฉาบสีหน้าด้วยรอยยิ้มที่คล้ายหน้ากากพร้อมกับทำท่าทางราวกับพวกคุณหนูขุนนางในภาพวาด

"แล้วเจ้าเคยไปที่นี่ไหม?" เธอเปิดไปหน้าอื่น "เมืองเซเรน หนังสือบอกว่าที่นั่นมีหอดูดาวสวยมาก"

"รู้สึกข้าจะเคยไปเมืองนั้นตอนห้าขวบกับลุง แต่ก็ไม่ได้ไปที่หอดูดาวหรอก"

"เคยไปสินะคะ แล้วที่เมืองเป็นแบบไหน เหมือนในภาพไหม?"

เฟลิกซ์ถอนหายใจแล้วเล่าสถานที่ต่างๆ ให้ไวโอเล็ตฟัง กลายเป็นนั่งคุยกันอยู่ที่ห้องหนังสือกว่าชั่วโมง

แต่ละวันพวกเขาก็มักจะนั่งคุยกัน ช่วงที่เธอแสดงสีหน้าอยากรู้อยากเห็นจะมีเฉพาะตอนที่เขาเอาเรื่องด้านนอกมาเล่า กับกรณีที่ไวโอเล็ตได้หนังสือบันทึกการเดินทางกับนิทานพื้นบ้านมาก็จะคะยั้นคะยอให้เฟลิกซ์อ่านด้วย เธอหัวเราะยิ้มล้อเลียนที่เฟลิกซ์อ่านศัพท์ยากๆ ผิดความหมาย เถียงกันเรื่องที่เขาทำหนังสือที่ให้ยืมไปเปื้อน หาเรื่องแกล้งเขาสารพัดวิธี นอกนั้นเวลาเดินผ่านเห็นเขาที่สวนก็จะส่งยิ้มให้แทนการทักทาย

"..." เขาเงยมองคนที่ผล็อยหลับตรงโซฟาในท่านั่งอ่านหนังสือ "หลับ?"

"คงจะเพลียน่ะ วันนี้เรียนหลายชั่วโมง"

"อ้อครับ"

คนเป็นพี่ชายขอผ้าห่มสักผืนจากสาวใช้มาจัดการคลุมให้ แล้วพวกเขาก็ต่างนั่งอ่านหนังสือกันต่อ

กรณีลอร์ดแดเนียล เฟลิกซ์เข้าใจที่อีกฝ่ายต้องศึกษาเรียนรู้มากขนาดนั้น ท่านลอร์ดน้อยต้องเป็นดยุกคนต่อไปของเมอร์ริแกน แต่เด็กหญิงกลับมีบทเรียนมากไม่ต่างกัน เขาเห็นเธอเรียนทุกวัน ฝึกมารยาททุกอย่าง กว่าจะมีเวลาส่วนตัวก็ช่วงที่มาป่วนเขาหรือนั่งอ่านหนังสือเงียบๆ