ชายหนุ่มอาภรณ์ขาวขบขันในท่าทางของสาวน้อยยิ่งนัก เมื่อนางชนะก็ยกสองมือขึ้นสูงผุดลุกผุดนั่งแหกปากตะโกนด้วยคำพูดแปลกประหลาด ท่าทางเช่นนั้นเขาไม่เคยเห็นผู้ใดแสดงออกมาก่อนแม้แต่บุรุษชาวบ้านธรรมดา
สายตาพลันเหลือบไปเห็นมือของนายตนเอื้อมไปแตะกระบี่ที่เอว เขาหางตากระตุกวาบ นายท่านไม่เคยถูกผู้ใดทำกริยาเช่นนั้นใส่มาก่อน แม่นางผู้นั้นเผลอกระตุกหนวดเสือเข้าวาสนาคงสิ้นสุดแต่เพียงเท่านี้แล้วเป็นแน่...…
ปั่ก! กระบี่เล่มยาวถูกวางลงระหว่างคนทั้งสองพร้อมกับเสียงต่ำของชายหนุ่ม "ข้าขอตาสุดท้าย"
เมื่อคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเห็นนายของตนจะใช้กระบี่เป็นเดิมพันเช่นนั้นก็รีบเข้ามาห้ามปราม "นายท่าน…" คำพูดยังไม่ทันออกจากปากก็เห็นสายตาคมกริบตวัดมาพร้อมกับพยักหน้าน้อย ๆ เขาจึงได้แต่อึกอักแล้วถอยห่างออกไป
นายท่านไม่มีทางทำสิ่งใดโดยไร้เหตุผล…
"ไม่มีปัญหา…จัดไป!!" เฮ่อซินหมิงเอ่ยอย่างกระตือรือร้น เมื่อเห็นสิ่งที่วางอยู่ตรงหน้าก็ขมวดคิ้ว
"นี่อะไรน่ะ?"
คิ้วหนาเข้มข้างหนึ่งเลิกขึ้นสูง "กระบี่ของข้า"
"เอาไปทำอะไรได้เนี่ย?…" นางยื่นหน้าเข้าไปดูของสิ่งนั้นใกล้เสียจนแทบจะชนกับจมูก ถ้ารูปร่างแบบนี้จะเป็นอะไรได้หว่า? แล้วเอาไปใช้ทำอะไรด้วยสิ หืม?…นี่มันทองรึเปล่าติดอยู่กับไม้ใช่ไหมนะ?
เขากัดฟันแน่นดวงตาฉายแววโหดเหี้ยม นี่นางหมายความกระบี่เขาเช่นไร!?!
ไม่มีใครคาดคิดมือบางหยิบของสิ่งนั้นขึ้นมาถือไว้ในมือด้วยความสนใจ "เอ๋! หรือว่ามันคือไม้เท้าใช่ไหม? เหมือนที่คุณตาทำไม้เท้าให้ฉันใช้รึเปล่าน้าาา…" เธอสัมผัสไปทั่วกระบี่ไปจนถึงด้ามจับ
"อุ๊ย! มันถอดออกได้ด้วย!?!"
แชร๊ง! แสงสะท้อนวาบพร้อมกับกระบี่คมกริบถูกดึงออกมา ทุกคนต่างอุทานด้วยความตื่นตะลึงเมื่อเห็นกระบี่ที่ดูวิเศษเช่นนั้น
ดวงตาชายหนุ่มเข้มขึ้นรีบคว้ากระบี่และฝักกลับคืนมาทันที ในใจพร่ำด่าผู้หญิงบ้าตรงหน้าไปพร้อมกับเสียบกระบี่เข้าฝักแล้วเอ่ยเสียงเข้ม "ข้าเลิกเล่นแล้ว"
"อ้าว! อะไรเนี่ย ยังไม่ทันได้เล่นเลย ท่านจะเอาไม้เท้านั่นมาวางเดิมพันไม่ใช่หรอ? มันดูเท่ดีนะทำไมไม่เอามาเล่นก่อนล่ะ!"
นังผู้หญิงบ้าคนนี้! บอกกระบี่เขาว่าเป็นไม้เท้าเช่นนั้นรึ! ประเดี๋ยวเถิดหากนางพูดคำว่าไม้เท้าหรือให้นำกระบี่เขาไปเล่นอีกคำเดียวได้หัวหลุดจากบ่าแน่!
ชายหนุ่มรีบสาวเท้าออกจากศาลาไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับเงาสีดำที่พุ่งผ่านตามไป ชายหนุ่มอาภรณ์ขาวหัวเราะด้วยความขบขันกับท่าทางของนายตนยิ่ง
นี่นายท่านของเขารู้จักกลัวด้วยรึ? ฮ่า ๆ ๆ น่าสนใจยิ่งนัก
เขาผิวปากเดินเอื่อยเฉื่อยตามร่างนั้นไปอย่างอารมณ์ดี วันนี้ช่างเป็นวันที่ดีจริง ๆ
"ว้า! น่าเสียดาย ไม่มีใครอยากเล่นด้วยแล้วแฮะ" เห็นคุณหนูอารมณ์แจ่มใสเช่นนี้จินหมิงก็พลอยยิ้มตามไปด้วย
"ข้าไม่รู้มาก่อนว่าคุณหนูเล่นทอยเต๋าเก่งถึงเพียงนี้ เหตุใดคุณหนูไม่บอกข้าก่อนล่ะเจ้าคะ ตอนแรกก็ตกอกตกใจหมด"
"แหม…ฉันก็เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าตัวเองเป็นอัจฉริยะ ถ้ารู้แบบนี้คงไปนั่งเล่นพนันกับลุงแถวบ้านไปนานละ ฮ่า ๆ ๆ "
จินหมิงชะงักพยายามทำความเข้าใจกับคำพูดของคุณหนู แต่ไม่ทันได้คิดสิ่งใดก็ได้ยินเสียงหวานสดใสเอ่ยขึ้นก่อน
"เราเอาของพวกนี้ไปแจกให้ชาวบ้านกันดีกว่า" อาหมิงค้างไปชั่วขณะก่อนจะเอ่ยถามอย่างไม่แน่ใจ "ว่าอย่างไรนะเจ้าคะ?"
"ฉันบอกว่าเราเอาของพวกนี้ไปแจกให้ชาวบ้านกันเถอะ" อาหมิงทั้งงุนงงและปลื้มปีติในตัวคุณหนูผู้มีจิตใจเมตตาของตนยิ่ง
"ได้เจ้าค่ะ" นางเอ่ยด้วยรอยยิ้มสุขใจ
"หยี่เฉิง…ที่ศาลาเขาทำสิ่งใดกัน" เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามคนที่เพิ่งเดินเอื่อยเฉื่อยลอยมา จิ้นหยี่เฉิงขมวดคิ้วคลายแขนที่กอดอกไว้แล้วเอียงคอหันกลับไปมองด้านหลัง "ข้าก็ไม่ทราบขอรับ นายท่าน"
เมื่อหันกลับมาก็พบกับสายตาเข้มคมกริบจึงรีบเอ่ยต่อ "ข้าจะไปสืบดูขอรับ"
เขาพ่นหายใจแรงด้วยความขัดใจ ยังต้องให้เขาบอกให้อีกรึ! นับวันจะยิ่งเป็นนายแทนเขาขึ้นทุกที!
"ซิ่วถง"
ลมพัดผ่านวูบหนึ่งปรากฏเงาร่างในชุดดำทะมึน ใบหน้านั้นเย็นชาไร้ความรู้สึกทว่าเมื่อมาหยุดอยู่ด้านหลังของชายหนุ่มผู้นี้ก็ก้มหัวอย่างเคารพยิ่ง
"สตรีผู้นั้น…" เสียงทุ่มต่ำเอ่ยพลางครุ่นคิดไปถึงคนที่กำลังกล่าวถึง ชายด้านหลังเมื่อไม่ได้ยินนายของตนพูดอะไรต่อก็กระชับกระบี่ในมือกำลังจะถอยกายออกไป
"เดี๋ยว" ร่างกายเขาหยุดกึก เงยหน้ามองผู้เป็นนายที่หมุนกายมา "เจ้าจะทำอันใด?"
"สังหารสตรีผู้นั้นขอรับ" เมื่อเขาพูดจบก็ก้มหัวนิ่งความเงียบเข้ามาเยือนโดยพลัน นานนักกว่าคนตรงหน้าจะเอ่ยปาก
"ไปสืบตัวตนของสตรีผู้นั้น" สืบตัวตน? ปกติเมื่อนายท่านเอ่ยถึงใครคนผู้นั้นก็จะไร้วิญญานอยู่ในใต้หล้านี้ทันที
ซิ่วถงได้แต่เก็บความสงสัยนี้ไว้ก่อนจะก้มหัวแล้วหายลับไปอย่างไร้ร่องรอย
ผ่านไปหนึ่งถ้วยชาก็เห็นร่างในชุดสีขาวเดินใกล้เข้ามา เขาก้มหัวคราหนึ่งก่อนจะเอ่ย "แม่นางคนเมื่อครู่กำลังแจกของที่เดิมพันได้ให้กับชาวบ้านขอรับ"
หืม?…แจกของเดิมพันให้ชาวบ้าน?
"ทุกอย่างเลยรึ?"
"น่าจะใช่ขอรับ"
สตรีผู้นั้นช่างน่าประหลาดเสียจริง ตอนที่เล่นลูกเต๋าชนะก็ทำท่าทางสะใจราวกับลิงค่าง พอได้ของเดิมพันมาเกิดหน้ามืดหรือไรจึงนำมาแจกทานเช่นนี้
เขาต้องไปดูให้เห็นกับตา...…