เฮ่อซินหมิงหันไปมองชายหนุ่มตาแป๋วด้วยสายตาคาดเดา ผู้ชายคนนี้ให้เธอเล่นก่อนทำไมนะ หรือว่าเป็นเซียนทอยเต๋าที่จะมาจับไต๋เธอ...…
แต่เขาคงจับไม่ได้หรอก…เพราะเธอไม่ได้ขี้โกงนี่นา…
สาวน้อยหัวเราะเสียงใสออกมาไม่ดังมากแต่ก็เรียกสายตางงงวยของผู้คนให้หันมามอง หัวเราะอะไร? อีกฝ่ายยังมิทันได้ทอยเต๋าเลย
เขาตวัดสายตามองแม่นางน้อยตรงหน้าด้วยแววตาดุดันก่อนจะหยิบลูกเต๋าขึ้นมาแล้วโยนลงไปในถ้วยอย่างไม่ใส่ใจ
แกร๊ง!
เขายังไม่ทันได้ชะโงกหน้าไปดูผลก็มีหัวคนผู้หนึ่งพุ่งเข้ามาก่อนพร้อมกับหัวผู้คนมากมายที่พยายามยื่นเข้ามาดูด้วย ชายหนุ่มมองสาวน้อยผมสองจุกตรงหน้าด้วยสายตาเอือมระอา
"ฮ้า!…ได้สี่เท่่ากันเลยแฮะ ท่านคงต้องทอยใหม่แล้วล่ะ" รอยยิ้มเบิกบานไร้ความเสแสร้งของนางทำให้เขาลดความอำมหิตในดวงตาลงไปโดยไม่รู้ตัว
มือหนาเรียวหยิบลูกเต๋าขึ้นมาอีกครั้ง เขาลองเขย่ามือไปมาบ้างเช่นที่นางทำ แต่ก็ไม่รู้สึกอันใดนอกจากลูกเต๋าที่กลิ้งไปมาอยู่ในมือ
เฮ่อซินหมิงมองมือนั้นด้วยสายตาครุ่นคิด ถ้ามือใหญ่ลูกเต๋าก็จะกลิ้งได้ใช่รึเปล่านะ? เธอมองมือของตัวเองแล้วพยายามทำความเข้าใจ มือนี่เล็กกว่าก็เลยกำลูกเต๋าได้ไม่มิดสินะ?
เขาเห็นนางมองมือตนเองทั้งสองข้างอย่างตั้งอกตั้งใจราวกับลืมเรื่องที่กำลังดูเขาทอยเต๋าไปเสียแล้ว ชายหนุ่มสงสัยขึ้นมา
หรือมือของนางจะมีอันใดซ่อนอยู่?
เขาแบ่งสมาธิไปทั้งเรื่องที่กำลังทอยเต๋าและเรื่องมือของนางจนเผลอโยนลูกเต๋าลงไปในถ้วยอย่างไม่ตั้งใจ ปรากฏว่ามีลูกเต๋าหนึ่งลูกกระเด็นออกจากถ้วยไปตกอยู่ในถ้วยของอีกฝ่าย
แกร๊ง!...แกร๊ก!
ชายหนุ่มหน้าคล้ำมองมือตนเองด้วยความโมโห ทุกคนที่กำลังรอลุ้นด้วยความระทึกต่างใจดิ่งวูบลง ถ้ามีลูกเต๋ากระเด็นออกจากถ้วยก็จะถือว่าแพ้ในทันที
เฮ่อซินหมิงยิ้มพราวหัวเราะด้วยเสียงประหลาด ก่อนจะยื่นมือหยิบก้อนตำลึงทองนั้นมาโยนไว้กับกองของเดิมพันที่ได้มา
"เอาอีกตา" นี่ไม่ใช่คำพูดของสาวน้อยที่นั่งยิ้มหน้าบานอยู่ แต่มาจากปากของคนที่ยามนี้ใบหน้าเหี้ยมเกรียมดำมืดราวกับปีศาจร้าย
เขานั้นได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่ใครพบเห็นก็ต้องตัวสั่นไปตาม ๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นชาวบ้านธรรมดาไปจนถึงบัณฑิตผู้รอบรู้และจอมยุทธ์ผู้เก่งกล้าทว่าเมื่อมาเจอกับเขาโชควาสนาก็ต้องดับวูบ ส่วนใหญ่นั่นเป็นเพราะความโหดเหี้ยมอำมหิตไม่เห็นใครอยู่ในสายตาของเขา เพียงเห็นหน้าเขาทุกคนก็หวาดกลัวจนความสามารถที่มีหดหายไปหมด ชื่อเสียงของเขานั้นเกรียงไกรไปทั่วทั้งสี่แคว้นใหญ่ หากเอ่ยนามใต้หล้านี้ไม่มีใครไม่รู้จัก
แต่สตรีผู้นี้ตาบอดหรืออย่างไร?!? ถึงยังทำกริยาเช่นนี้ได้อยู่!?!
เขาแค่นหัวเราะอย่างไม่สบอารมณ์แต่มุมปากถูกยกขึ้นน้อย ๆ ด้วยความรู้สึกสนใจคนตรงหน้าขึ้นมา ทว่าเมื่อผู้อื่นเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าหล่อเหลาคมคายนั้นกลับเหงื่อตกกันถ้วนหน้า
"ได้เลย! มา…ไหนดูซิ จะเอาอะไรเป็นของเดิมพันดีน้าาาา…" มือบางกวาดหาของไปทั่วกองนั้นก่อนจะหยิบได้ตั๋วเงินมากำหนึ่ง เฮ่อซินหมิงวางตั๋วเงินลงระหว่างถ้วยทอยเต๋าของเธอกับเขาแล้วส่งยิ้มเจิดจ้าให้ฝ่ายตรงข้าม
ชายหนุ่มอาภรณ์ดำวางก้อนตำลึงทองก้อนเดียวข้างตั๋วเงินของนาง เห็นมือเล็ก ๆ ยื่นมาตรงหน้าเขาในมือนั้นมีลูกเต๋าที่เขาทำตกลงไปในถ้วยของนางอยู่
มือขาวนวลนิ้วเรียวเล็กที่อยู่ตรงหน้าเขาช่างบอบบางราวกับว่าถ้าหากเขาจับมือนั้นคงจะแหลกได้ในพริบตา ดวงตาคมเข้มจ้องฝ่ามือนั้นอย่างครุ่นคิด เขาไม่อยากเชื่อว่ามือเพียงแค่นี้จะสามารถทอยเต๋าได้ชัยชนะทุกครา ในมือนี่มีสิ่งใดซ่อนอยู่หรือไม่?
"นี่ลูกเต๋าที่ท่านทำตกลงมาในถ้วยของฉันไง" แปลกแฮะ…ตัวเองโยนกระเด็นมาเองแท้ ๆ ลืมไปแล้วหรอเนี่ย?
เขาชะงักงันมองแม่นางตรงหน้าด้วยสายตาดุดันแล้วเอื้อมมือไปหยิบลูกเต๋าในมือของนางมารวมกับลูกเต๋าอีกสองลูกที่อยู่ในถ้วยของเขา
"เจ้าก่อน" เขาเอ่ยเสียงทุ้มต่ำ
เฮ่อซินหมิงเบ้ปากหยิบลูกเต๋ามาแต่โดยดี เธอเขย่าลูกเต๋าไปมาเช่นเดิมทั้งที่ลูกเต๋าสี่เหลี่ยมทั้งสามลูกแทบจะทะลักออกจากนิ้วอยู่แล้ว
แกร๊ง!
"อ๊ากกกกก!! ชนะแล้วววว สี่ ห้า หก ชนะแล้วววว!!!"
ทุกคนโห่ร้องด้วยความตื่นเต้นและไม่อยากเชื่ออีกเช่นเคย นางทอยได้อีกแล้วหรือนี่!!
มุมปากของชายหนุ่มกระตุกวาบ เขายังไม่ทันได้ทอย ก็แพ้แล้วรึ!!
ฝ่ามือหนากำเข้าหากันแน่นจนได้ยินเสียงกระดูกลั่น ชายหนุ่มอาภรณ์ขาวที่ยืนดูอยู่ใกล้ ๆ ยิ้มกับอาการยามนี้ของนายตน แต่ก็แอบเป็นห่วงแม่นางที่กำลังชูสองแขนขึ้นสูงอ้าปากกว้างแหกปากร้องอย่างสะใจเกินหน้าเกินตาผู้นั้น
นางรู้ตัวหรือไม่ว่าตัวเองอาจจะโดนเชือดคออยู่แล้ว…
เฮ่อซินหมิงกอบของเดิมพันตรงหน้ามาวางไว้กับพวกพ้องของมัน แล้วหันไปยิ้มสดใสให้กับชายหนุ่มที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
"ท่านจะเล่นต่อหรือเปล่า"
ปั่ก! ตำลึงทองสามก้อนถูกกระแทกลงกับพื้นเบื้องหน้าคนทั้งสอง เฮ่อซินหมิงยิ้มกว้างหยิบก้อนตำลึงทองฝ่ายตนไปวางไว้สี่ก้อน มองกลับไปยังชายหนุ่มอย่างท้าทายแต่ไร้ความโอ้อวด เขามองนางด้วยสายตาคมกล้าทว่าไร้แววอำมหิต
เธอกำลังจะหยิบลูกเต๋าก็ได้ยินเสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้น "ข้าเริ่มก่อน" หญิงสาวพยักหน้าให้อย่างยินดี
ชายหนุ่มกำลูกเต๋าแน่นก่อนจะโยนลงไปในถ้วยด้วยแรงที่พอเหมาะ ลูกเต๋าหมุนกลิ้งไปรอบถ้วยอย่างน่าใจหาย ทุกคนกลั้นหายใจด้วยความลุ้นระทึก
เมื่อลูกเต๋าหยุดความเคลื่อนไหวก็ปรากฏผลแต้ม เขาทอยได้ห้าแต้ม! ไหนดูว่าแม่นางคนนี้จะยังชนะได้อยู่หรือไม่
เฮ่อซินหมิงทำตาโต มือหยิบลูกเต๋าขึ้นมาเขย่าแล้วโยนลงไปในถ้วย แกร๊ง! นางได้หกแต้ม ชนะอีกแล้ว!
"เย่!!!" เสียงนางร้องแข่งกับชาวบ้านที่อยู่รอบศาลา ชายหนุ่มสีหน้าแข็งกร้าวเมื่อมองไปยังลูกเต๋าทั้งสองถ้วย
เขาไม่ยอมแพ้แข่งเล่นกับนางไปหลายตา แต่...
"วะฮู้!! ฉันชนะ!!"
........
"โอ้เย่!!! เซียนทอยเต๋าถือกำเนิดแล้วววว!"
........
"อ๊ากกกก!! ฉันนี่มันอัจฉริยะจริง ๆ !! "
เสียงแหกปากตะโกนของนางที่ไม่สมกับเป็นกุลสตรีและเสียงโห่ของชาวบ้านดังก้องสนั่นทั้งศาลาหลังเล็ก เขาที่อยู่ในวงล้อมคนเหล่านั้นแก้วหูจะแตกก็ครานี้
โดยเฉพาะเสียงร้องอย่างสาแก่ใจยิ่งของสตรีตรงหน้า
ชายหนุ่มอาภรณ์ขาวขบขันในท่าทางของสาวน้อยยิ่งนัก เมื่อนางชนะก็ยกสองมือขึ้นสูงผุดลุกผุดนั่งแหกปากตะโกนด้วยคำพูดแปลกประหลาด ท่าทางเช่นนั้นเขาไม่เคยเห็นผู้ใดแสดงออกมาก่อนแม้แต่บุรุษชาวบ้านธรรมดา
สายตาพลันเหลือบไปเห็นมือของนายตนเอื้อมไปแตะกระบี่ที่เอว เขาหางตากระตุกวาบ นายท่านไม่เคยถูกผู้ใดทำกริยาเช่นนั้นใส่มาก่อน แม่นางผู้นั้นวาสนาคงสิ้นสุดแต่เพียงเท่านี้แล้วเป็นแน่...…
Like it ? Add to library!
Have some idea about my story? Comment it and let me know.