webnovel

ระบบตกหนอนหนังสือไปเปิดไฟท์ที่ต่างโลก

ตอนนี่ 3

ไม่ว่านายเป็นใครอยู่ตรงไหน ฉันสาบานว่าจะฟาดด้วยท่อนเหล็กให้จำไม่ได้เลยว่าเป็นใครมาก่อน

"ใครมันช่างขับรถโง่ได้โล่ขนาดนี้วะ" จินตกชกัดฟันกรอก มือข้างหนึ่งกำหมัดแน่นอีกมือบีบท่อนเหล็กสั่นระริก ต่อให้ระบบให้ระดับเทพขนาดไหนมา ท่ามกลางซอมบี้ความเร็วสูงเป็นพันตนก็ไม่ได้ช่วยไม่ให้คุณเปลี่ยนสายพันธุ์ใหม่แน่นอน

"บ้าเอ๊ย ทำไมต้องชนพนังตรงนี้ด้วย ทางให้ไปมีกว้างขวางนะเว้ย!" คริสเตนเคี้ยวฟันตามมา

"เงียบ แล้วขยับเข้าไปด้านใน ทำตัวเงียบๆ ไว้" ในเมื่อหลบไปจากตรงนี้ไม่ได้ก็ทำตัวเงียบๆ อยู่ในเงาห้องใต้ดินแทนก็ได้

เพิ่งดันสามหนุ่มเข้าไปติดผนังได้วินาทีเดียวจินตกชก็แทบยื่นหนังสือขอเป็นพันธมิตรกับซอมบี้ไล่ตีพวกตีนผีขับยานพาหนะเสียเต็มประดา ยานพาหนะมีกี่คันพ่อพุ่งชนผนังเหนือห้องใต้ดินมันทุกคัน จากที่เหลือกำบังสักเล็กน้อยยามนี้เปิดโล่งแบบซอมบี้วิ่งไม่ดูทางย่อมตกหลุมดักตรงนี้แน่นอน ไม่ทันขาดคำ ซอมบี้สิบกว่าตนร่วงลงมาให้ทั้งสี่ทัศนาระยะประชิด

ความเร็วของซอมบี้ที่ยังไม่ทันตั้งตัวกับคนที่ดักรอย่อมเทียบกันไม่ได้ จินตกชคว้าซอมบี้ตนหนึ่งมาเป็นกำบังแล้วตวัดแท่งเหล็กตัดคอทุกตนจากนั้นรีบดึงลำตัวที่ไร้การเคลื่อนไหวเข้ามาใช้กำบังมีเป็นสิบนับว่าพอใช้

"ช่วยกันจับไว้ให้ดีอย่าให้พวกข้างบนเห็นว่ามีคนเป็นอยู่ตรงนี้เด็ดขาด" ความรู้จากหนังสือเรื่องไหนหนังเรื่องใดที่น่าเอามาใช้พรางตัวได้ขุดค้นออกมาใช้อย่างไว "เงียบด้วย" สำทับอีกครั้งเมื่อเห็นว่าซอยล์อยากพูดอะไรสักอย่างซึ่งอ่านจากสีหน้าคงไม่ไหวกับกลิ่นอโรมาเธอรพีของพวกร่างเฟะนั่นแหละ

สามหนุ่มผู้ไม่เคยเจอการพรางตัวแบบนี้มาก่อนหน้าเขียวหน้าดำแต่ก็ยอมมุดอยู่ใต้ร่างเฟะที่จินตกชโยนใส่เป็นสิบร่าง เจ้าตัวเองก็นั่งพิงร่างเฟะสองร่างที่ดึงมาใช้อยู่เช่นกัน อาศัยหน้าตาขี้ริ้วเนียนเป็นซอมบี้เฝ้าสังเกตพวกที่พุ่งข้ามหลุมตรงนี้ไป

ด้วยความเร็วอันน่าทึ่งของยานพาหนะกับกองทัพซอมบี้การผ่านบริเวณนี้ไปจึงใช้เวลาไม่กี่นาที มันควรเป็นแบบนั้นถ้าไม่มีรถคันหนึ่งดิ่งลงมาในหลุมเสียอย่างนั้น หัวรถปักโครมลงมาถ้าไม่มีร่างซอมบี้กันให้คาดว่าหนุ่มทั้งสี่คงมีบางคนแบนติดพื้นห้องใต้ดิน

"นายบังคับยังไงวะ ไอ้โง่นี่!" คนในรถโวยเสียงดัง

"เว้ย ใครมันจะไปรู้ได้ว่ามีหลุมใหญ่ขนาดนี้อยู่กลางทาง"

"ถึงได้บอกไงให้ฉันขับเอง เป็นไงล่ะทีนี้!"

คงได้มีเถียงกันอีกหลายคำถ้าไม่มีเสียงโอดครวญอย่างน่าสงสารดังแทรกเสียก่อน "เจ็บจังเลยค่ะ หัวฉันกระแทกเบาะจนปูดเลยเนี่ย"

"ไหนครับคุณโรซ ปูดจริงด้วย เจ็บมากไหมครับ?"

"ขอโทษครับคุณโรซ ผมมันแย่จริงๆ เลย"

แล้วยังมีเสียงใครบ้างอีกไม่รู้ละ ท่าทางในรถคันนี้มีผู้โดยสารหลายคนแน่นอน ทว่าเจ้ารถคันใหญ่นี้ รูปร่างเหมือนรถตู้สิบเอ็ดที่นั่งที่จินตกชใช้บริการบ่อยฉะนั้นในรถมีหลายคนไม่แปลก แต่ที่แปลกคือฟังเสียงพวกเขาแล้วดูไม่กังวลกับสภาพติดหลุมท่ามกลางวงล้อมซอมบี้มากไปกว่าหัวปูดของคนที่ชื่อโรซ นั่นทำให้จินตกชขยับไปหาสามหนุ่มที่เกือบทำตัวเป็นเนื้อเดียวกับพนังห้อง

"ถ้าขอติดรถพวกเขาออกไปจากที่นี่ คิดว่าพวกเขาจะยอมไหม?" จินตกชถามเสียงเบาให้ได้ยินกันแค่สี่คน และขยับตัวให้น้อยที่สุดเพื่อไม่เป็นจุดสังเกต

"หัวรถทิ่มลงมาแบบนี้ยังคิดว่ากลับขึ้นไปวิ่งได้อีกหรือไง" ไอแลนด์ไม่ช่วยยกขึ้นแน่นอน ตอนนี้ซอมบี้มากมายกำลังพยายามชำแหละรถ ทว่ายานพาหนะคันนี้แข็งมาก กระแทกอย่างไรก็ไม่มีรอยบุบ

"มันปิดกั้นให้แบบนี้ก็ดีนะครับ" คริสเตนนึกขอบคุณเพราะรถคันนี้ทำให้พวกซอมบี้ลงมาในหลุมไม่ได้

"รถคันนั้นถอยหลังกลับขึ้นไปได้ ตัวถังแข็งขนาดแรงระเบิดยังทำให้เกิดรอยไม่ได้" ซอยล์จ้องกระจกด้านคนขับเขม็ง แม้รู้ว่าทางนั้นไม่รู้ว่าตรงนี้มีคนเป็นอยู่สี่คนก็ตาม "เราไม่รู้ว่าคนเหล่านี้เป็นยังไงอย่าเข้าไปยุ่งด้วยดีกว่า"

"แต่คนพวกนี้ให้เกียรติผู้หญิงนะ พวกนายก็ได้ยินที่คนพวกนั้นพูดกันนี่นา ไม่น่าแย่เท่าไหร่มั้ง" โลกในสภาพนี้ยังมีคนไม่เห็นผู้หญิงเป็นแค่สิ่งของ จินตกชคิดว่ามีค่าพอให้เจรจาด้วย

"นายแน่ใจได้หรือว่าผู้หญิงจริงๆ" ซอยล์ถามเสียงนิ่ง

จินตกชอึ้งไปชั่วขณะ "จริงด้วยแฮะ แค่ใช้เสียงหลบก็ได้แล้วนี่หว่า"

แค่ช่วงที่ทั้งสี่ปรึกษากันซอมบี้ตนหนึ่งก็แทรกตัวลงมาในห้องนี้ได้สำเร็จ มันคำรามเสียงก้องแล้วพุ่งเข้าจู่โจมตัวรถ แรงของมันน่ากลัวแบบไม่เคยเจอมาก่อน กระแทกโครมเดียวตัวรถที่หัวปักหลุดกระเด็นขึ้นด้านบนไปเลยแล้วยังสร้างรอยบุบที่ตัวถังหนึ่งรอยด้วย

คนในรถเลิกปลอบขวัญกันเป็นหวีดร้องอย่างขวัญเสียแทน ทางสี่หนุ่มก็ดันหลุดเสียงออกไปนิดหนึ่งเช่นกัน ไอแลนด์รีบปิดปากคริสเตนแล้วแต่ไม่ทัน ซอมบี้ตนนั้นหันขวับมาแค่เสี้ยววินาทีมันก็มาอ้าปากโชว์เขี้ยวให้นับในระยะประชิด ทว่าคนโดนชิดไว้ตัวนะเว้ย หวดแท่งเหล็กเข้าปากกะให้หัวขาดไปแล้วทว่านอกจากหัวไม่ขาดมันยังงับแท่งเหล็กติดปากดึงออกจากมือจินตกชยามกระเด็นออกไปนอกห้องใต้ดินเสียอย่างนั้น

"ฉิบเป๋ง หรือนี่คือระดับราชา!?" แม้ไม่อยากให้รู้ว่าอยู่ตรงนี้แต่ฟาดผีกระเด็นไปแบบนี้ใครก็เห็นทั้งนั้นแล้ว แต่จินตกชยังยกมือห้ามทั้งสามใต้ซากซอมบี้ไม่ให้ขยับตัวออกมาได้ทัน

"เฮ้ย นั่นคนเป็นหรือซอมบี้กันแน่น่ะ?" หนึ่งคนในรถตู้มองเห็นคนหน้าขี้ริ้วแล้ว

จินตกชจำเป็นต้องกระโดดขึ้นมาด้านบน กวาดตามองแล้วแทบกรี๊ดแตกขี้ขึ้นไปอยู่บนหัวสมอง

ถึงเป็นธีมซอมบี้แต่ไม่ต้องส่งมาทีทั้งเมืองแบบนี้ก็ได้ไม่ใช่หรือ คุณคนเขียนเมตตาตัวละครบ้างมันจะเสื่อมหรือไง!

หนอนหนังสือขี้ริ้วจะน้ำตาแตกแล้ว ยิ่งพวกมันพุ่งเข้าใส่อย่างต้องการชิมสักคำให้ได้จินตกชก็คว้าทุกอย่างใกล้มือฟาด ตี ทุบ ฟัน เท่าที่สติยังคิดออกตอบโต้ไป

"นักรบระดับ S นี่หว่า ฝีมือสุดยอดเลย"

"ช่วยเขา ดึงเขาขึ้นรถมาแล้วรีบออกไปจากตรงนี้กันเถอะค่ะ" โรซบอกให้คนขับเลื่อนกระจกลงเรียกเขา

"เขาโดนล้อมอยู่แบบนั้นวิ่งมาหาเรายากนะครับ"

"ทอมคะ ฉันเชื่อว่าคุณทำได้ค่ะ" เธอช้อนสายตาออดอ้อน ทำคนอื่นในรถอิจฉาตาลุก

ทอมยังไม่ทันลงไปอีกคนลงไปก่อนแล้ว จากนั้นก็โยนมีดเลเซอร์ไปให้จินตกช

"เฮ้ย รับ" จากนั้นก็เดินอาดๆ ใช้พลังจิตฟาดฟันทำลายทุกอย่างที่เข้ามาใกล้ได้แบบง่ายดาย

จินตกชรับมีดมาแล้วตวัดฟันซอมบี้ที่พุ่งเข้าใส่มากมาย พอมีอาวุธการตอบโต้จึงไม่ยากนัก แต่ก็ทำเอาหอบหายใจแทบไม่ทันกับจำนวนมากเกินไปไม่มีแม้แต่เวลาตื่นตาตื่นใจกับมีดเลเซอร์ที่เพิ่งเคยจับครั้งแรก

"ไปขึ้นรถเร็วเข้า คุณโรซต้องการให้นายไปด้วย" ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ราวทหารที่ฝึกฝนมาอย่างดี ท่าทางองอาจกล้าหาญ ซึ่งมีฝีมือน่ากลัวแบบไอแลนด์กับคริสเตนเทียบไม่ติดกรุยทางมาถึงจินต์ได้ไม่ยาก

"ต้องการให้ฉันไปด้วยทำไม?" ปากถามมือยังคงตวัดเคลื่อนไหวฟาดฟันไม่ให้ซอมบี้ตนไหนถึงเนื้อถึงตัวได้ เด็ดขาด

"ยังต้องถามอีกหรือ เห็นฝีมือฉันแล้วไม่ใช่หรือไง คิดว่าตัวคนเดียวสามารถรอดได้อีกกี่วัน" ทางนี้ก็ใช่ว่ายืนพูดเฉยๆ มือหนึ่งปัดป้องอีกมือต่อยออกไป พลังจิตที่หุ้มหมัดอยู่พุ่งออกไปป่นซอมบี้ได้ครั้งละไม่ต่ำกว่าสามสิบตน

นี่สิระดับ S ของจริงไม่ต้องมองก็สับพวกซอมบี้เป็นชิ้นๆ ได้

จินตกชปรายตาไปทางรถตู้แวบหนึ่ง "ทั้งที่โดนล้อมอยู่แต่นายลงมาแค่คนเดียวไม่มีเกรงกลัวแสดงว่าพวกในรถเองก็คงระดับเดียวกับนาย ยังอยากได้คนระดับต่ำกว่าอย่างฉันไปทำไม ลูกกระจ๊อกหรือไง" มีดที่ยืมมาใช้นี่ถนัดมือมากเลย ตวัดฟันแต่ละครั้งกำจัดได้สิบกว่าตนเลยทีเดียว

"มีเยอะเข้าไว้ช่วยให้รอดได้นานยิ่งขึ้น ไม่คิดเช่นนั้นหรือไง" ชายคนนี้ยังลงมือได้แบบสีหน้าไม่เปลี่ยนน้ำเสียงเรียบนิ่ง

"ยานพาหนะคันนั้นอัดคนได้อีกกี่คนล่ะ ฉันยังมีพวกอีกสามคนนะ" ไหนๆ เขาเสนอมาแล้วทั้งทีจินตกชขอแค่อาศัยนั่งไปบนหลังคารถก็ได้ แต่ซอยล์กับอีกสองคนนั่นคงปล่อยมานั่งรับลมบนหลังคาด้วยไม่ได้แน่นอน

"มีพวกด้วยหรือ?" เขาเหลียวมองหาว่าน่าจะซ่อนตัวอยู่ตรงไหน ทว่ากวาดตาไปทั่วยังไม่เห็นอยู่ตรงไหนทั้งนั้น "โดนเจ้าพวกนี้หิ้วไปกินแล้วหรือเปล่า"

"ยังอยู่ดีเว้ย" มีดในมือข้างหนึ่งฟาดฟันแล้วโยนไปอีกมือตวัดฟันต่อเนื่องได้อย่างน่าทึ่ง จากนั้นกระโดดขึ้นไปยังตึกร้างสามชั้นที่เวลานี้พังทรุดลงมาสูงจากพื้นไม่กี่เมตร แต่ยังพอให้ใช้พักหายใจได้สักเฮือก ชายคนนั้นกระโดดตามขึ้นมา แค่เท้าแตะพื้นพวกซอมบี้ก็พุ่งตามขึ้นมาแล้วโดนฟาดฟันร่วงลงไปกองทับกันกองใหญ่

"ไหนล่ะไม่เห็นมี" ท่าทางชายคนนี้ไม่ติดใจกับหนาตาขี้ริ้วของจินตกช ดูเขาสนใจฝีมือการต่อสู้มากกว่า

จินตกชชี้กลับหลังไปทางห้องใต้ดิน สายตาประสานกับซอมบี้ที่เขาฟาดกระเด็นไปพร้อมแท่งเหล็ก "ไง เอาอาวุธมาคืนฉันหรือไง" ทั้งที่ไม่ทักคงดีกว่าแต่จินตกชอดไม่ได้ ขอกวนเท้าสักนิด ไหนๆ อีกฝ่ายอุตส่าห์ตรงเข้ามาแบบมีเป้าหมายราวมันมีความคิดทักนิดหน่อยไม่เสียหายหรอกน่า

"ไม่มีอาวุธมา...คืน... จะฆ่าแก..." น้ำเสียงเย็นยะเยือกเสียดแทงประสาทดังออกมาจากปาก ซอมบี้ดวงตาขีดสีแดง

จินตกชผงะมีชายอีกคนผงะตามมาด้วย จากนั้นก็กระโดดไปคนละทางอย่างไว ฝ่ามือซอมบี้ตนนั้นฟาดโครมลงมาตึกพังทั้งหลัง แถมพวกซอมบี้ที่ล้อมทั้งสองอยู่อีกเกือบร้อยแหลกละเอียดไปด้วย

"ระดับราชา!" ชายคนนั้นมีสีหน้าเคร่งเครียดแล้วดึงมีดที่เหน็บอยู่ข้างเอวออกมา ใบมีดเป็นสีดำเงาวาวดูท่าทางคมไร้ที่ติ "ว่าแล้วมีซอมบี้รวมกันมากขนาดนี้ไม่มีใครบงการได้อย่างไร เฮ้ย ของดีเว้ย" รอยยิ้มอย่างชอบใจประดับพราวขึ้นมา

ประตูรถตู้เปิดออกชายหนุ่มสองคน หญิงสาวหนึ่งคนลงมา ในมือมีอาวุธมีคมท่าทางอันตรายไม่น้อยไปกว่าชายที่ลงมาก่อน และพริบตาทั้งสี่คนก็ตรงเข้าไล่ต้อนราชาซอมบี้โดยไม่สนว่าซอมบี้ตนอื่นเข้ามาเล่นงาน แต่คงไม่ต้องสนใจจริงนั่นแหละ พลังจิตกับฝีมือต่อสู้ของพวกนั้นส่งลูกหลงไปทั่วบริเวณจนไม่มีสิ่งใดเข้าใกล้ได้

เทพตีกัน หนอนอย่างฉันเผ่นสิรออะไร

จินตกชกำลังจะเนียนไถลตัวกลับลงไปซ่อนที่ห้องใต้ดินทว่าราชาซอมบี้ไม่ปล่อยเสียนี่ ทั้งที่รับมือนักรบระดับสูงถึงสี่คนยังมีช่องขว้างเศษปูนมีเหลี่ยมแหลมมาให้คนขี้ริ้วหงายหลังหลบเลียนแบบชายสวมโอเวอร์โค้ตจากหนังไตรภาคเรื่องหนึ่ง

"เล็งฉันทำไม ฉันไม่อร่อยหรอกเว้ย!"

ก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเคลื่อนไหวอย่างไรถึงลอดออกมาจากการล้อมกรอบของทั้งสี่คนตรงนั้นแล้วมาส่งกรงเล็บยาวสักสิบนิ้วแทงใส่กลางตัวคนขี้ริ้ว แน่นอนว่ายืนหงายหลังแบบพร้อมล้มลงพื้นไร้ทางหลบพ้นได้ ฉะนั้นจินตกชจึงใช้การหมุนตัวเข้าวงใน ฟาดโครมเข้ากลางตัวราชาซอมบี้ จากนั้นกระเด็นไปทางเดียวกันเสียอย่างนั้น

ว้าก!! เจ็บเว้ย! ยังกับกระแทกใส่ผนังปูนเลย เจ็บแทบอยากแหกปากดังๆ เลยเนี่ย ถ้ามีเวลาละก็นะ

ครั้นตั้งตัวได้รีบสปิงตัวขึ้นก็ต้องหลบหัวซุกหัวซุนแม้ราชายังมึนอยู่แต่ลูกน้องไม่ติดมึนนี่นา ซอมบี้มากมายรุมเข้ามา จินตกชอาศัยกระโดดไปตามหลังซอมบี้ให้ไวยิ่งกว่าออกจากวงล้อมพอลงพื้นได้ หันกลับมาฟันกวาดขนานพื้นตัดขาขาดได้หลายสิบตน แล้วเป็นฝ่ายบุกเข้าไปฟาดฟันแบบมั่วเข้าว่าอะไรอยู่ใกล้โดนหมด ทว่าในสายตาคนอื่นนั่นคือฝีมือต่อสู้อันน่าทึ่ง ไม่มีใครบ้าระห่ำเข้าชนกับซอมบี้ได้แบบนั้นด้วยตัวคนเดียว

การปะทะด้านบนเรียกความสนใจได้ทั้งจากคนเป็นและซอมบี้ นั่นจึงเป็นโอกาสให้ไอแลนด์ส่งสัญญาณให้คริสเตนกับซอยล์ออกมาจากที่ซ่อนแล้วขยับเข้าไปหารถตู้อย่างเงียบที่สุด

แม่จ๋า! ใครก็ได้เอาฉันออกไปจากตรงนี้ที จะร้องไห้แล้วนะเว้ย!

นั่นคือเสียงแหกปากสนั่นโลกของหนอนหนังสือจินตกชในใจ ทำไมเขาไม่แหกปากออกไปนะหรือ มันก็แค่กลัวจนร้องไม่ออกแล้วนั่นแหละ แต่ที่ซัดเละอยู่ในตอนนี้ได้ก็เพราะทักษะที่ระบบให้มานะสิ ให้มาแต่คันเร่งแล้วดันตัดสายเบรกออกเสียอย่างนั้น ฉะนั้นที่กำลังทำอยู่ในตอนนี้คือสติแตกไปแล้วนั่นเอง

จินตกชเริ่มหอบเพราะหน้าตาเหี้ยมอยู่แล้วเลยไม่มีใครรู้ว่าเขาต้องการความช่วยเหลือเหมือนกันนะ ทว่าสีหน้าที่แสดงออกมามันดูไม่ออกเลยไม่มีใครเข้าไปช่วย คอยกำจัดเฉพาะพวกที่พุ่งเข้ามาเล่นงานแค่ตนเองเท่านั้น

"ไอแลนด์ คริสเตน ไปช่วยจินต์สิ หมอนั่นจะหมดแรงแล้ว" แม้ค่อยๆ เข้าใกล้รถตู้แต่ซอลย์ยังคอยสังเกตคนหน้าขี้ริ้วไม่คาดสายตาจึงดูออกว่าทางนั้นเหนื่อยจนแทบหายใจไม่ทันแล้ว

"หมอนั่นซัดเละขนาดนั้นใครกล้าเข้าใกล้ได้ล่ะครับ ได้โดนลูกหลงตายไปด้วยพอดี" คริสเตนส่ายหน้าดิก มีดเลเซอร์ในมือคนขี้ริ้วตวัดฟันออกไปแต่ละครั้งทำชิ้นส่วนซอมบี้ขาดกระจายที่เป็นสิบๆ ตน เรี่ยวแรงแบบนั้นให้ตัดเหล็กยังได้เลยกระมัง

"ผมไปเอง" ไอแลนด์กระชับปืนพกเข้ามือ หนึ่งยิงเปิดทางออกไปทำให้คนทั้งสี่ที่มากับรถตู้สะดุ้งหันไปมอง อีกหนึ่งฝังลูกจ๊อกที่เกะกะทาง ไอแลนด์ยิงกันราชาซอมบี้ซึ่งกระโจนเข้าไปใกล้จินตกชให้ถอยห่างออกมา มันสามารถเอี้ยวตัวหลบกระสุน แล้วยังคว้าเศษหินเศษอิฐขว้างใส่ไอแลนด์เป็นการตอบโต้จากนั้นตรงเข้าเล่นงานจินตกชแบบกัดไม่ปล่อย

แทนที่จะใช้กรงเล็บเข้าฟาดใส่แบบครั้งแรกมันเตะใส่อย่างรวดเร็ว จินตกชกระโดดขึ้นจากพื้นแล้วพลิกตัวเตะสวนใส่ช่วงไหล่ราชาซอมบี้ทำมันเซไปด้านหน้าแต่มันก็ใช้จังหวะนั้นถีบกลับหลัง จินตกชลงพื้นได้หนึ่งขาแล้วใช้อีกขาเหวี่ยงเพิ่มแรงเอี้ยวตัวหลบลูกถีบนั้น แรงที่เกิดจากการถีบเกิดเป็นลมคมกริบพัดไปด้านหลังตัดพวกซอมบี้ตัวอื่นขาดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยมากมาย

จินตกชอาศัยจังหวะนี้วิ่งอ้อมไปด้านข้าง ราชาซอมบี้วกตัวกลับเตะใส่อีกครั้งทำให้จินตกชรีบไถลตัวหมอบไปกลับพื้นก่อนกลิ้งตัวถีบใส่ขาราชาซอมบี้ อีกฝ่ายกระโดดห่างออกไปด้านข้างหลบพ้นการจู่โจมจากนั้นทิ้งตัวลงสองขากระแทกโครมตรงที่จินตกชนอนอยู่ แน่นอนว่าใครรอรับบาทาผีกันเล่า เจ้าตัวกลิ้งหลบออกไปแล้วสปิงตัวขึ้นจากพื้นถอยห่างออกมาจนได้

"นอกจากพลังล้นเหลือยังมีฝีมือต่อสู้มือเปล่าด้วยแบบนี้ โกงไม่มีเกรงใจเลยเว้ยเฮ้ย" อยากโวยดังๆ หรอกนะ แต่ตอนนี้หอบจนเสียงขาดแล้ว

ดวงตาราชาหรี่ลงอย่างมุ่งร้ายเพิ่มระดับ กรงเล็บในสองมือมีไอสีดำหมุนวน

"เฮ้ย! มีพลังจิตอีกต่างหากเหรอ ผิดกติกาที่สุดในโลกเลย!!" จินตกชมือหนึ่งยกขึ้นฟ้าอีกมือดันใช้มีดชี้หน้าเสียนี่ กิริยาแบบนี้ไม่ใช่ท้าให้ชนกันตรงๆ ก็คือบอกว่าเข้ามาละก็พ่อฟันดับในดาบเดียวเลยนะเว้ย แน่จริงก็เข้ามา ทั้งที่ในความจริงจินตกชยกมีดให้สูงเท่ามืออีกข้างไม่ไหวแล้วต่างหาก

อีกสามสิบวินาทีฉันจะลงกองพื้นให้ดู ภารกิจแรกแววล้มเหลวก็มากวักมือเรียกเสียแล้ว โธ่ สิทธิ์หนังสือฟรีของฉัน

คิดอย่างสุดเสียดายแล้วก็ต้องรีบวกมือมาจับมีดให้มั่นคงแล้วดันออกไปตรงๆ เมื่อราชาซอมบี้ตวัดกรงเล็บสองมือส่งไอดำที่ดูด้วยตาเปล่าก็รู้ว่าเป็นพิษร้ายแรงส่งพลังทำลายเข้าใส่คนขี้ริ้ว

"จินต์!" ซอยล์ยื่นมือออกไปด้านหน้าในจังหวะเดียวกับจินตกชดันคมมีดออกไป บาเรียบางเบาเกาะติดอยู่ที่ตัวมีดส่งให้มีความแข็งและคมมากขึ้นอีกหลายเท่า

พริบตาคมมีดตัดผ่านไอพิษไปถึงตัวราชาซอมบี้สร้างรอยแผลขนาดใหญ่ให้แบบเกือบขาดครึ่งตัวถ้าราชาซอมบี้ชักเท้ากลับไม่ทัน

เลือดเน่าไหลโกรกทั้งที่ร่างนั้นไม่น่ามีของเหลวใดไหลออกมาได้แล้วแท้ๆ พื้นโดนเลือดพิษกัดกร่อนไอพิษฟุ้งกระจาย คนเป็นทั้งหมดเผ่นหน้าตั้ง ไอแลนด์ใช้ช่องว่างนี้พุ่งเข้าไปคว้าตัวจินตกชออกมาแล้วพาวิ่งหน้าตั้งห่างไอพิษที่ระเบิดออกมา ซอมบี้เกือบทั้งหมดโดนพิษร่วงเป็นใบไม้ร่วง คนเป็นทั้งหมดรวบรวมแรงทั้งหมดวิ่งหนี แต่คริสเตนกับซอยล์ไม่ได้ว่องไวปานนั้น ทว่าก็ได้รับความช่วยเหลือจากชายที่ส่งมีดให้จินตกชคว้าตัวเผ่นห่างออกมาได้ไกลลิบ

ไอพิษระเบิดออกมาอึดใจเดียวสลายหายไปทั้งหมด พร้อมราชาซอมบี้หายตัวไปด้วย ทุกคนต่างรู้ว่าราชาซอมบี้ไม่ตายแค่หนีไปเท่านั้น และยังได้รู้ว่าคนขี้ริ้วฝีมือสูงขนาดไหน

"คุณโรซตาแหลมจริงๆ เจ้านี่หน้าตายังกับผีแต่ฝีมือเทพชะมัด"

ตอนนี้พวกในรถเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงให้ชวนมาเข้าพวก ฝีมือระดับนี้ปล่อยผ่านไปเสียดายแย่

"นายสามคนคือพวกที่เขาบอก..." ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ผู้ให้มีดเลเซอร์กับจินตกชวางคนที่คว้าติดมาลงพื้น ครั้นดูหน้าให้ชัดแล้วสมองหยุดทำงานไปชั่วขณะไปเลยเมื่อเห็นใบหน้าคนที่ตนคว้าติดมือมา

ดวงตาสีเหล้าองุ่นคมกริบทรงอำนาจลึกลับที่ไม่อาจใช้ความรู้ของผู้คนทั้งหลายบรรยายได้ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบางเฉียบเม้นเล็กน้อย ความงามของบุรุษคนนี้ราวพระเจ้าบรรจงสร้างมาให้ประณีตที่สุด นั่นทำให้พวกในรถเปิดประตูลงมาตาค้างไปตามๆ กัน

"นี่คนจริงเหรอ"

"ในโลกแบบนี้ยังมีเทวทูตสถิตอยู่อีกหรือ"

"ใครบอกฉันทีว่านี่ไม่ใช่ภาพลวงตา"

คนทั้งรถขยี้ตาแล้วมองใหม่ราวไม่เชื่อสายตาตนเองว่าที่เห็นอยู่มีตัวตนอยู่จริง ก่อนจะค่อยเดินเข้าไปใกล้ โดยมีหญิงสาวเส้นผมสีทองอร่ามหน้าตางดงาม ดวงตากลมโตสีน้ำเงินหวานฉ่ำ ริมฝีปากอิ่มสีแดงดั่งลูกเชอร์รี่เดินนำหน้ามา

"สวัสดีค่ะ ฉันโรซ คุณเป็นใครกันคะ? เหตุใดมาอยู่แถวนี้?" น้ำเสียงหวานหูจากริมฝีปากสาวงามทำ ไอแลนด์กับคริสเตนใจเต้น ต่างจากจินตกชที่ยามนี้นอนหายใจหอบที่พื้นอย่างไม่เหลืออะไรอายทั้งนั้น

ซอยล์มองสบดวงตาสีน้ำเงินตรงๆ แรงดึงดูดอันแปลกประหลาดทำเขาตกอยู่ในภวังค์ไปครู่หนึ่ง ครั้นโดนจินตกชถีบขาเบาๆ เสียครั้งสติเขาจึงกลับมา ซอยล์ก้มมองคนขี้ริ้วที่นอนหมดสภาพบนพื้นแล้วยังอุตส่าห์เค้นแรงมาประทุษร้ายเขาแวบหนึ่งแล้วตอบโรซโดยไม่บอกว่าตนเป็นใคร

"ยานพาหนะของพวกฉันพังระหว่างออกมาเก็บทรัพยากร นี่ก็กำลังจะหาทางกลับโคลเทค แต่ก็มาเจอกองทัพซอมบี้ที่มาพร้อมพวกคุณนี่แหละ"

"พวกคุณเป็นคนของโคลเทคหรือคะ?" โรซมองซอยล์ ดวงตาทอประกายระยิบระยับให้ดูมีแรงดึงดูดมากขึ้นไปอีก ทว่าในสายตาจินตกชเจ้าหล่อนกำลังจ้องพ่อถั่วเหลืองเสียน้ำลายแทบหก

เก็บอาการบ้างก็ได้นะหล่อน

ซอยล์พยักหน้า การตอบรับแบบนี้ทำทุกคนที่อยู่ข้างกายโรซตาเป็นประกายมากขึ้น พอดีกับยานพาหนะอีกหลายคันที่ผ่านไปไกลวิ่งกลับมา

"เป็นอย่างไรบ้างครับคุณโรซ?!" ยานพาหนะยังไม่ทันจอดนิ่งคนในนั้นรีบพุ่งตัวออกมาตรงเข้ามาหาสาวน้อยผมทองผู้ดูอย่างไรก็เป็นศูนย์กลางของคนเหล่านี้

พอยานพาหนะทุกคันจอดเรียบร้อยคนทั้งหมดลงมาแล้ววิ่งมาห้อมล้อมโรซราวเธอเป็นคนสำคัญที่พวกเขาขาดไม่ได้

"ชายยี่สิบเอ็ด หญิงแปดคน แต่ละคนเป็นนักรบระดับ A-S เลยแฮะ เจ้าหล่อนเป็นคนสำคัญของที่ไหนล่ะ" จินต์ลุกขึ้นนั่ง มองคนกลุ่มใหญ่ที่กำลังถามไถ่พลางสำรวจว่าสาวเจ้ามีตรงไหนบาดเจ็บบ้างหรือเปล่าด้วยความเป็นห่วงอย่างแรง

[คุณพบผู้เข้ามาเดินเล่น โรซ ทักษะติดตัวโฉมงามอ่อนแอ]

'นั่นคือผู้เข้ามาเดินเล่นในนิยายเรื่องนี้เหมือนกับโฮสต์นั่นแหละ เพียงแต่ทางนั้นเลือกโฉมงามอ่อนแอ นี่แหละพลังแห่งทักษะโฉมงามที่สามารถดึงดูดได้ทุกเพศทุกวัย คุณมานึกเสียใจตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วล่ะ'

นั่นๆ น้ำเสียงสะใจมากขนาดนั้น ฉันจดเข้าบัญชีไว้แล้ว เจอเมื่อไหร่บอกลาหน้าเก่าได้เลยนะอินจัน

ขยับมือแบบพร้อมต่อยให้ลืมไปเลยว่าเคยเป็นระบบอะไรมาก่อน ระบบเงียบกริบในเสี้ยววินาที

โฮสต์ผู้โหดเหี้ยมเพิ่มแต้มอาฆาตเข้าบัญชีเรียบร้อยแล้ว